ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ครบเครื่อง ญ.อมตะ 26 ธันวาคม 2563

รวมสถานที่สวดมนต์ข้ามปี 2564 เสริมดวงรับสิ่งดีๆ ช่วงปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี คือกิจกรรมที่กระทรวงวัฒนธรรมเป็นศูนย์กลางจัดเตรียมความพร้อม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสริมสิริมงคลให้กับประเทศและคนไทย เริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยสิ่งที่ดีงาม เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2564 กิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 - 1 มกราคม 2564

สวดมนต์ข้ามปี กรุงเทพมหานคร

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เข้ารับไฟพระฤกษ์ประทาน จากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกที่พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่ออัญเชิญไปประกอบกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ประจำปี พ.ศ. 2564

ส่วนการจัดจะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระเถรานุเถระ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพระบรมหาราชวัง ไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ร่วมกับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญ 4 ภูมิภาค จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติให้ประชาชนสักการะ ส่วนภูมิภาคจัดพิธีสวดมนต์ ณ วัดทั่วประเทศ

• ท้องสนามหลวง

• วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

• วัดอรุณราชวราราม

• วัดราชโอรสาราม

• วัดบวรนิเวศวิหาร

• วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

• วัดสุทัศนเทพวราราม

• วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

• วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก

• วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

• วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร

นอกจากนี้ ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ จะมีการจัดกิจกรรมตามหลักของแต่ละศาสนา และในวันที่ 5 มกราคม 2564 เวลา 14.00 น. จะมีการจัดงานมหามงคล 5 ศาสนา ณ โรงละครแห่งชาติอีกด้วย

เนื่องจากปีใหม่ 2564 ทั่วโลกยังคงต้องเฝ้าระวังการระบาดโควิด-19 ผู้สนใจเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีต้องติดตามและสอบถามจากวัดต่างๆ ในประเทศไทย และทั่วโลก ที่สามารถดำเนินการสวดมนต์ข้ามปีได้ รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรมยังมีการจัดทำการสวดมนต์ข้ามปีออนไลน์ ตั้งศูนย์ประสานงานอำนวยการความสะดวกและจัดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยจะมีการเสนอให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคมและคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

สวดมนต์ข้ามปีที่ไหนดี กราบพระธาตุประจำปีราศีเกิด

นอกจากกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่วัดใกล้บ้านแล้ว กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการเดินทางไปกราบพระธาตุประจำราศีปีเกิด เพื่อเป็นสิริมงคล ก็เป็นที่นิยม ได้แก่

• ปีชวด (หนู) วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่

• ปีฉลู (วัว) วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง

• ปีขาล (เสือ) วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่

• ปีเถาะ (กระต่าย) วัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน

• ปีมะโรง (งูใหญ่) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่

• ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เจดีย์ศรีมหาโพธิ์พุทธคยา จังหวัดอุบลราชธานี

• ปีมะเมีย (ม้า) วัดพระบรมธาตุ จังหวัดตาก

• ปีมะแม (แพะ) วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่

• ปีวอก (ลิง) วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม

• ปีระกา (ไก่) วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน

• ปีจอ (สุนัข) วัดพระธาตุวัดเกตการาม จังหวัดเชียงใหม่

• ปีกุน (หมู) วัดพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย

กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมวางแผนการสวดมนต์ข้ามปีออนไลน์ เนื่องจากเงื่อนไขเฝ้าระวังโควิด-19 ของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ใช้บทสวดมนต์ข้ามปีได้ที่บ้านเรือนของท่าน

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์, กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม


7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "วันคริสต์มาส" ทำไมตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

เสียงเพลง Jingle Bells และ Last Christmas ถูกเปิดในห้างสรรพสินค้าและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นสัญญาณว่า "วันคริสต์มาส" ใกล้เข้ามาถึงแล้ว แม้เทศกาลนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมตะวันตก แต่ก็มีอิทธิพลด้านการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทั่วโลก กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ผู้คนต่างออกมาเฉลิมฉลอง เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเทศกาลนี้มีที่มาอย่างไร ไขข้อสงสัยได้จาก 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันคริสต์มาสกันเลย!

1. ความหมายของคำว่า "คริสต์มาส"

วันคริสต์มาส (Christmas) คือ วันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นศาสดาสูงสุดของศาสนาคริสต์ ถือเป็นวันหยุดประจำปีที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญมาก ทั้งนี้ "Christmas" แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" โดยมีรากศัพท์มาจากคำว่า Christes Maesse เนื่องจากวันคริสต์มาสเป็นวันที่คริสต์ศาสนิกชนนิยมทำพิธีมิสซา

2. ประวัติความเป็นมาของวันคริสต์มาส

แม้วันคริสต์มาสจะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู แต่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลก็ไม่ได้มีการบันทึกว่าตรงกับวันที่เท่าไร โดยชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูประสูติ ณ เมืองเบธเลเฮม แคว้นจูเดีย ในสมัยจักรพรรดิออกัสตัสแห่งกรุงโรม ต่อมาใน ค.ศ.274 จักรพรรดิออเรเลียน (Emperor Aurelian) ทรงกำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมฉลองเหล่าสุริยเทพของชาวโรมัน แต่ชาวคริสต์ในอาณาจักรโรมันถือว่าพระเยซูคือผู้ทรงอยู่เหนือความตาย และเป็นศาสดาสูงสุดที่พวกเขานับถือ จึงเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซูในวันดังกล่าวแทน การบันทึกว่า วันคริสต์มาสที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการมีขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.336 นับจากนั้นเป็นต้นมา วันคริสต์มาส จึงตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

3. วันคริสต์มาสอีฟ คือวันอะไร?

วันคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) ตรงกับวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี หรือก่อนวันคริสต์มาสเพียง 1 วัน เนื่องจากในธรรมเนียมชาวคริสต์ วันคริสต์มาสจะเริ่มต้นขึ้นในตอนเย็นของวันคริสต์มาสอีฟ เด็กๆ จะนำถุงเท้ามาแขวนไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอส ส่วนในรุ่งเช้าซึ่งเป็นวันคริสต์มาสที่สมาชิกครอบครัวจะอยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ทำกิจกรรมและรับประทานอาหารค่ำมื้อพิเศษร่วมกัน ซึ่งเมนูอาหารที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ไก่งวง และเครื่องดื่มประเภทต่างๆ

4. ประวัติซานตาคลอส ชายแก่ใจดีที่เด็กทั่วโลกรอคอย

ภาพชายแก่ร่างอ้วน สวมชุดสีแดง หนวดเคราสีขาว มาพร้อมรถลากเลื่อนและกวางเรนเดียร์จมูกแดง หรือที่เรียกกันว่า "ซานตาคลอส" กลายเป็นอีกหนึ่งภาพจำของวันคริสต์มาส ซึ่งจริงๆ แล้วซานตาคลอสได้ต้นแบบมาจาก "นักบุญนิโคลัส" บาทหลวงชาวตุรกี ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นชายที่มีจิตใจดี ต่อมาชาวฮอลแลนด์เรียกนักบุญผู้นี้ว่า "ซินเตอร์คลาส" และชาวอเมริกันเรียกเพี้ยนเป็น "ซานตาคลอส" ซึ่งนิยมเรียกกันทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยที่นักบุญนิโคลัสยังมีชีวิต เขาเคยปีนปล่องไฟเพื่อมอบเหรียญเงินเป็นของขวัญให้แก่บ้านเด็กหญิงที่ยากจน ทว่าเหรียญเงินนั้นกลับตกลงไปในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิง จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กๆ ต่างพากันแขวนถุงเท้าไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอสในวันคริสต์มาส กลายเป็นตำนานที่มาของซานตาคลอส และการแขวนถุงเท้านั่นเอง

รู้หรือไม่ว่า เดิมทีภาพของ "ซานตาคลอส" ไม่ได้เป็นชายสวมชุดสีแดงอย่างที่เข้าใจกัน แต่ในราว ค.ศ.1930 บริษัท Coca-Cola ได้วาดภาพโฆษณาเกี่ยวกับซานตาคลอสและวันคริสต์มาส โดยให้สวมชุดสีแดงเหมือนสีของแบรนด์ จึงกลายเป็นที่มาของภาพจำว่าซานตาคลอสคือชายแก่ที่สวมชุดสีแดง

5. ต้นคริสต์มาส คือต้นอะไรกันแน่?

สัญลักษณ์ที่จะขาดไม่ได้เลยในวันที่ 25 ธันวาคม ก็คือ "ต้นคริสต์มาส" ซึ่งทำมาจากต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาได้ง่ายในทวีปยุโรปและอเมริกา นิยมประดับประดาด้วยกล่องของขวัญและถุงเท้า พร้อมทั้งติดไฟสีสันสวยงาม ทว่าจริงๆ แล้วชาวคริสต์ในสมัยโบราณต่างเชื่อว่าต้นคริสต์มาสคือ ต้นไม้ในสวนสวรรค์ที่อดัมและเอวาหยิบผลไปกิน

ปัจจุบันมีการนำต้นไม้ประเภทต่างๆ มาตกแต่งเป็นต้นคริสต์มาส เช่น ต้นฮอลลี ซึ่งมีใบสีเขียวลักษณะคล้ายหนามและมีผลสีแดงสด สื่อความหมายถึง มงกุฎหนามและหยดเลือดของพระเยซู นอกจากนี้ยังมีต้น Poinsettia ที่หลายคนเรียกว่าต้นคริสต์มาส มีใบสีแดงสดสวยงาม โดยมีประวัติความเป็นมาว่า เด็กหญิงฐานะยากจนคนหนึ่งอยากจะมอบของขวัญให้พระแม่มารี แต่ไม่มีเงินซื้อของขวัญ นางฟ้าจึงปรากฏกายขึ้นและมอบเมล็ดพืชให้เธอ เมื่อนำไปปลูกก็กลายเป็นต้น Poinsettia ทำให้ถูกเรียกว่า ต้นคริสต์มาส นั่นเอง 6. กิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส 2563

เทศกาลคริสต์มาสถือเป็นเทศกาลที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข มีการจัดงานเฉลิมฉลอง ประดับต้นคริสต์มาสตามสถานที่ต่างๆ และจัดแสดงแสง สี เสียง อย่างสวยงาม สมัยก่อนชาวโรมันนิยมมอบของขวัญที่มีค่าให้แก่กัน เช่น อาหาร ขนม และทองคำ ในขณะที่ชาวยุโรปมักบริจาคทาน มอบของขวัญ และของใช้ให้แก่คนไร้บ้าน ในปัจจุบันถือเป็นวันที่ครอบครัวจะได้กลับมาฉลองร่วมกัน มีการมอบของขวัญ ส่งการ์ดอวยพร ทำขนมอบ และรับประทานอาหารมื้อค่ำ ส่วนเด็กๆ จะรวมตัวกันร้องเพลงตามบ้านและโบสถ์ อีกทั้งนิยมนำถุงเท้ามาแขวนไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอส (ซึ่งก็คือพ่อแม่ของพวกเขา)

7. คำอวยพรยอดนิยมในวันคริสต์มาส

คำอวยพรที่เรามักได้ยินกันคือ "Merry Christmas" แปลว่า "สันติสุข" บางครั้งก็นิยมพูดว่า "Merry Xmas" เนื่องจากตัวอักษร X ในภาษากรีก เป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า "Χριστός" ที่หมายถึง "คริสต์" นอกจากนี้ก็ยังมีคำอวยพรอื่นๆ ที่นิยมมอบให้แก่กันในวันคริสต์มาส เช่น

• Happy Christmas - สุขสันต์วันคริสต์มาส

• Merry Christmas and a Happy New Year - สุขสันต์วันคริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่

• Wishing you a prosperous New Year - ขอให้เป็นปีใหม่ที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง

• May Santa Claus bring everything you wished for. Merry Christmas - ขอให้ซานตาคลอสนำทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณปรารถนามามอบให้ สุขสันต์วันคริสต์มาส

o Praying you have a wonderful Christmas filled with moments you’ll always remember. – ขอให้วัน คริสต์มาสที่ยอดเยี่ยมนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยช่วงเวลาดีๆ ที่คุณจะจดจำตลอดไป

จะเห็นได้ว่าทุกเทศกาลสำคัญมักมีที่มาและความสำคัญที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวิถีชีวิต "วันคริสต์มาส" ก็เป็นอีกเทศกาลที่มีความเป็นมาที่น่าสนใจ และผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ...สุขสันต์วันคริสต์มาส! ที่มา : www.history.com


ปฏิทิน 2564/2021 รวมวันสําคัญ พร้อมวันหยุดนักขัตฤกษ์ตลอดปี

บรรยากาศปีใหม่ ผู้คนต่างพากันซื้อหา ปฏิทิน 2564/2021 เพื่อเตรียมพร้อมวางแผนการเรียน การงาน รวมถึงผู้ที่ต้องการออกรถ ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการ ก็ต้องเฟ้นหาวันฤกษ์ดี วันนี้ไทยรัฐออนไลน์พาคุณมาอ่านสิ่งที่อยู่บนปฏิทิน ซึ่งสามารถบอกอะไรได้มากกว่าวันที่และวันหยุด

ปฏิทิน 2564/2021 มีวันสำคัญอะไรบ้าง

ปฏิทิน เกิดจากการสังเกตดวงจันทร์กับดวงดาวต่างๆ ในจักรราศีเป็นศาสตร์ที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมของมนุษย์ทั่วโลก ชนชาติในทวีปจะมีจำนวนวันในแต่ละเดือนไม่เท่ากัน แต่เมื่อเทียบกับการปรากฏของดวงจันทร์ ก็สามารถกำหนดช่วงเวลาสำคัญแต่ละปีได้ ในประเทศไทยยึดการดูปฏิทินแบบจันทรคติ และปฏิทินสากลเป็นหลัก โดยในปี 2564 มีวันที่และวันสำคัญต่างๆ ดังนี้

วันหยุดราชการ 2564 เป็นประกาศที่ให้หน่วยงานราชการได้เตรียมความพร้อมสำหรับปีหน้า ส่วนวันหยุดขององค์กรเอกชนต่างๆ ก็จัดให้มีความเหมาะสมตรงกับกำหนดของกระทรวงแรงงาน อย่างน้อยปีละ 13 วัน โดยวันหยุดราชการไม่รวมวันแรงงาน 1 พฤษภาคม

วันหยุดเดือนมกราคม 2564 (รวม 1 วัน)

- วันขึ้นปีใหม่ ศุกร์ที่ 1 มกราคม

วันหยุดเดือนกุมภาพันธ์ 2564 (รวม 1 วัน)

- วันมาฆบูชา ศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์

วันหยุดเดือนมีนาคม 2564

ไม่มีวันหยุดราชการ/วันหยุดนักขัตฤกษ์

วันหยุดเดือนเมษายน 2564 (รวม 4 วัน)

- วันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ อังคารที่ 6 เมษายน

- วันสงกรานต์ อังคารที่ 13 เมษายน, พุธที่ 14 เมษายน, พฤหัสบดีที่ 15 เมษายน

วันหยุดเดือนพฤษภาคม 2564 (รวม 4 วัน)

- วันแรงงาน เสาร์ที่ 1 พฤษภาคม

- วันฉัตรมงคล อังคารที่ 4 พฤษภาคม

- วันพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จันทร์ที่ 10 พฤษภาคม

- วันวิสาขบูชา พุธที่ 26 พฤษภาคม

วันหยุดเดือนมิถุนายน 2564 (รวม 1 วัน)

- วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน

วันหยุดเดือนกรกฎาคม 2564 (รวม 3 วัน)

- วันอาสาฬหบูชา เสาร์ที่ 24 กรกฎาคม

- วันเข้าพรรษา อาทิตย์ 25 กรกฎาคม

- วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุธที่ 28 กรกฎาคม

วันหยุดเดือนสิงหาคม 2564 (รวม 1 วัน)

- วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บรมราชชนนีพันปีหลวง พฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม

วันหยุดเดือนกันยายน 2564

ไม่มีวันหยุดราชการ/วันหยุดนักขัตฤกษ์

วันหยุดเดือนตุลาคม 2564 (รวม 2 วัน)

- วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พุธที่ 13 ตุลาคม

- วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันปิยมหาราช เสาร์ที่ 23 ตุลาคม

วันหยุดเดือนพฤศจิกายน 2564

ไม่มีวันหยุดราชการ/วันหยุดนักขัตฤกษ์

วันหยุดเดือนธันวาคม 2564 (รวม 3 วัน)

- วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม

- วันรัฐธรรมนูญ ศุกร์ 10 ธันวาคม

- วันสิ้นปี ศุกร์ 31 ธันวาคม