ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ฉลอง ‘Thailand’s Pride Celebration 2024’ ทั่วประเทศ จัดใหญ่ต่อเนื่องตลอดเดือนมิถุนายน

ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ เตรียมพบปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ธงสีรุ้งสะบัดทั่วประเทศ เมื่อเซ็นทรัลพัฒนา ผนึกกำลังภาครัฐ และเอกชนชั้นนำ ร่วมสร้างปรากฏการณ์ PRIDE CELEBRATION 2024 ดันประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 เดสติเนชั่นของการฉลองเทศกาล Pride Month ระดับโลก

จากความสำเร็จงาน Thailand’s Pride Celebration 2023 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่กลายเป็น Viral ได้รับความสนใจจากสื่อและสังคมออนไลน์ทั่วโลก เมื่อกลุ่ม LGBTQIAN+ ได้มาร่วมแสดงพลัง แสดงออกถึงจุดยืน ส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียมในขบวนพาเหรดสุดปัง และร่วมเดินบน Runway สีรุ้งกันอย่างคับคั่ง ปีนี้เซ็นทรัลพัฒนา จะสร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ ปลุกกระแสไปทั่วโลกอีกครั้ง เนรมิตทุกพื้นของศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ให้กลายเป็น Top of Pride Destination ของคนทั่วโลก ให้ตลอดทั้งมิถุนายนเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจ ของ LGBTQIAN+ ตอกย้ำบทบาทองค์กรแห่งความหลากหลาย ให้พื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็นพื้นที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อทุกคนในสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all เตรียมพบกับขบวนพาเหรดสุดอลังการทั่วประเทศ, กิจกรรมที่มีการผสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น ชูไพรด์ไทยสู่สายตาคนทั่วโลก รวมไปถึงการทำ Brand Collaboration สุดเอ็กซ์คลูซีฟอีกมากมาย

เริ่มต้นสร้างปรากฏการณ์ประเทศ ฉลองพร้อม LQBTQIAN+ ทั่วโลก ขอชวน “All Pride” สะบัดธงสีรุ้งให้แรงกว่าเดิม ร่วมกันยืนหนึ่งบนแลนด์มาร์กสีรุ้งสุดยิ่งใหญ่ สร้าง GLOBAL IMPACT ให้เทศกาลไพรด์ของไทย เป็น Pride Celebration Landmark ของ LGBTQIAN+ ทั่วโลก กับงาน THAILAND’S PRIDE CELEBRATION 2024 “PRIDE FOR ALL” PRIDE CEREMONY พบกับการจับมือร่วมกันเป็นปีที่ 4 ระหว่าง centralwOrld + UNDP + Muse by Metinee และ Galderma นำโดย คุณ ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม นางแบบชื่อดัง ณ ลาน Square A-B ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันที่ 31 มิถุนายน 2567 และ วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป พบ PRIDE PARADE CELEBRATION OF LOVE การปักหมุดจุดแลนด์มาร์กที่เซ็นทรัลเวิลด์ของขบวนพาเหรด Bangkok Pride นำโดย นายก เศรษฐา ทวีสิน ที่จะร่วมอยู่ในขบวนครั้งนี้ด้วย และในวันที่ 1 – 30 มิถุนายน 67 พบกับ Pride ไฮไลต์ตอบโจทย์ทุก GEN ที่เซ็นทรัลทั่วประเทศ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั่วประเทศ


'โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊ก' รีด 'ค่าโดยสาร' นนท.ญี่ปุ่น '6,000บาท' ไม่รอด

วันที่14พ.ค.2567 จากกรณี นนท. ญี่ปุ่น โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน x ว่าได้ใช้บริการรถสามล้อรับจ้าง ( ตุ๊กตุ๊ก ) โดยเรียกรถจากสุขุมวิท ซอย 18 ไปยังห้างธนิยะ พลาซ่า (สีลม) โดยเรียกเก็บ ค่าโดยสาร 4 คน จำนวน 6,000บาท โดยอ้างว่าฝนตก จึงเรียกราคาดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ค.2567 เวลา 19.00 น. นั้น

ต่อมา กรมการขนส่งทางบก ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่ารถที่ถูกร้องเรียนเป็นรถสามล้อรับจ้าง มีสหกรณ์แห่งหนึ่ง เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ มีนายภูมิมเรศ เป็น คนขับรถในวันเกิดเหตุ

ล่าสุด วันนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้เรียกตัวคนขับรถ ให้มารายงานตัว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง โดยคนขับรถให้การยอมรับว่า ได้กระทำการตามที่ปรากฏตามสื่อจริง

กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแล้ว เห็นว่า การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 จึงลงโทษ ดังนี้

ความผิดเกี่ยวกับการเก็บ ค่าโดยสาร เปรียบเทียบปรับ 2,000บาท

ความผิดเกี่ยวกับการแต่งกาย เปรียบเทียบปรับ 500บาท

พักใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน

ส่งตัวเข้ารับการอบรมจิตสำนึกการให้บริการที่ดีแก่ผู้โดยสาร 3 ชั่วโมง


คดีพลิก? 'ศิลาแกะสลัก'รูปสตรี จ.บุรีรัมย์ กรมศิลป์ฯ ออกโรง หลังทำแตกตื่น

มาตามกันต่อหลังมีข่าวเกี่ยวกับการค้นพบรูปแกะสลักสตรีบนศิลา ซึ่งพบบนภูเขา จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีหญ้าปกหลุมอยู่ โดยลักษณะรูปสลักดังกล่าวที่มีความชัดเจน และค่อยข้างจะสมบูรณ์ แถมถูกพบเจอในแถบจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เป็นบริเวณเขตพื้นที่อาณาจักรโบราณยุคขอม นั่นจึงทำให้การพบเห็นครั้งแรกมีการคาดการณ์ว่า น่าจะเป็นศิลปะโบราณ อายุกว่า 100 - 1000 ปี

หลังจากเป็นข่าวนั้น ก็มีการเคลียร์พื้นที่เพื่อลงไปสำรวจบริเวณดังกล่าวและยังมีการตั้งข้อสงสัยและคำถามว่า "ภาพสลักศิลาโบราณ ที่เชื่อกันน่าจะเป็นยักษินี หรือไม่ก็ น่าจะเป็นพระนางสิริมหามายา เหนี่ยวกิ่งไม้" แต่ก็เป็นเพียงการสันนิษฐาน และรอที่จะให้ทางหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญอย่างกรมศิลปากร เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง

ในเวลาต่อมา ผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก "ครูต้าร์ ครูเสน่ห์ ครูอภิญญา" ได้ออกมารีโพสต์ของ เพจข่าวท้องถิ่น โนนดินแดง report และเขียนบรรยาย พร้อมเฉลยว่า

"พระอาจารย์จะแกะเป็นรูปพระแม่ธรณีแต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง จึงแกะไม่เสร็จผ่านมา 20 กว่าปีเป็นข่าวเฉย เป็นของโบราณกลายเป็นพระนางสิริมหามายาไปซะแล้ว (ไม่ขอให้ข้อมูลใดๆอีก)

*เพิ่มเติมให้อีกนิด* มีพระอาจารย์รูปหนึ่งท่านมาแกะไว้*พระอาจารย์ที่ว่าไม่ใช่ข้าพเจ้านะตอนนั้นข้าพเจ้ายังเป็นสามเณรน้อยอยู่* รีบแชร์แล้วโพสต์ไปใช้ภาษาไม่ถูกต้องมันเลยอ่านเหมือนเจ้าของเฟสเป็นคนไปแกะไว้เอง จริงๆเจ้าของเฟสไม่ใช่คนแกะครับ มีพระอาจารย์รูปนึงท่านจะแกะเป็นพระแม่ธรณี จริงๆต้องใช้คำนี้ถึงจะถูกต้อง

* แค่นี้ละกันน๊อ* social ก็ไวจัง"


ทอมทะเลาะแฟนสาว ลงมือทำร้ายร่างกาย ก่อนประชดโยนแมวจากชั้น21ตกดับอนาถ

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2567 เพจเฟซบุ๊ก "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT" ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า "ทอมใจเหี้ยมโยนแมวประชดแฟนจากชั้น21ตกลงมาตายอนาถ เป็นเรื่องราวสุดสลดของคนสองคนที่ทะเลาะกัน ทอมบี_คอสาว จนสาวผลักทอมออกไปนอกห้อง ไม่ทันคิดว่า มินจูแมวน้อยอยู่นอกห้องระเบียงด้วย มินจู จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ต้องสังเวยด้วยชีวิต จากการขู่ว่าถ้าไม่เปิดประตูให้เข้าไปจะฆ่_ามินจู_แล้วก็จับมินจูโยนลงไปจากชั้น 21 ตอนนี้ สาวพามินจูไปวัด และจะกลับมาแจ้งความ และถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น #WDTจะเป็นคนแจ้งความเองครับ ! "

โดยล่าสุด ทางเพจเฟซบุ๊ก "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT" ได้โพสต์อัพเดทการดำเนินการแจ้งความแล้ว โดยระบุว่า "จับทอมใจเหี้ยมโยนแมวมินจูตกจากชั้น21เมืองพัทยา เจ้าของแมวแจ้งความแล้ว WDT จัดสามข้อหาหนัก ทำร้ายร่างกายโดยมีอาวุธมีด ทารุณกรรมสัตว์ และทำให้เสียทรัพย์ แจ้งบุกรุกไม่ได้ เพราะ สองคนอาศัยอยู่ด้วยกัน ทะเลาะกัน สาววิ่งหนีเข้าห้องด้วยความกลัว เพราะทอมมีอาวุธมีด มินจูแมวน้อยอยู่ข้างนอก จึงต้องสังเวยด้วยชีวิต ถูกจับโยนลงไปจากคอนโดชั้น21 สิ้นใจตายอย่างน่าเวทนา ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจสอบห้องพัก ติดตามตัวทอมใจโหดมารับทราบข้อกล่าวหา

WDT ประสาน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมือง พัทยา จัดสามข้อหาหนักให้ทอมใจเหี้ยม ประกอบด้วย ทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรมสัตว์ และทำให้เสียทรัพย์อาญา หญิงสาวเจ้าของแมว พามินจูไปทำบุญที่วัด ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ มีเพื่อนๆคอยดูแลจิตใจระหว่างนี้ รอผลการส่งฟ้อง และ ผลการดำเนินคดีกันครับ"

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT", She Oim


อันตรายมาก! 'หมอแล็บ' เตือนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ขนาดแมลงวันยังตายแหง่กๆ

เพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ได้แชร์ภาพและโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jusmine OnlyYou โพสตสอบถามเกี่ยวกับการตากหัวปลา แต่ที่ต้องผงะคือแมลงวันที่มาเกาะเนื้อปลาตาย โดยเจ้าของโพสต์ระบุว่า "ขออนุญาติสอบถามค่ะ!! พอดีซื้อกระดูกปลาแห้งมาจากตลาดสด ขายตอนเย็นแถวๆนาเคียน ใครพอจะรู้มั่ยค่ะว่า เค้าใส่อะไรไป ทำไมพอ #แมงวัน มาเกาะแล้วดิ้นตายมากขนาดนี้ ถ้ากินไปจะอันตรายมั้ย?? บ้านนี้กลัวตาย..ไม่กล้ากินเลย ใครอยากรู้เจ้าไหน ถามได้เลย สงสารคนกินค่ะ!!"

ขณะที่เพจหมอเล็บแพ้นด้าระบุข้อความว่า "ดูแมลงวันสิ แค่มาเกาะก็ดิ้นตายแหง่กๆแล้ว! มันจะมีพ่อค้าแม่ค้าบางคน ชอบฉีดยาฆ่าแมลงใส่อาหารแห้ง ป้องกันแมลงวันมาตอมและวางไข่ เคยมีการสุ่มตรวจเจอ ออร์กาโนฟอสเฟต และคาร์บาเมตในอาหารบ่อยมากๆ แสดงว่ายังใช้กันตลอด ซึ่งมันคือยาฆ่าแมลงนั่นเอง บางคนกินเข้าไป เกิดอาการแพ้รุนแรง ใจสั่น เป็นลม หายใจลำบาก หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ก็มีครับ"


ครูสาวร้องสื่อ จนท.ยิงยาสลบหมาจร ปล่อยนอนตายกลางป่า

14 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.บุษบา ชานนท์ อายุ 40 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง และ น.ส.อุบล โฮมจูงจัง อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางละมุง หลังสุนัขเร่ร่อนที่เอ็นดูให้อาหารเลี้ยงดูอยู่ตลอด แต่มีชาวบ้านแจ้งไปว่า สร้างความเดือดร้อนรำคาญ จึงแจ้งให้หน่วยงานเทศบาลลงพื้นที่ตรวจสอบ

โดยครูสาวเล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ของเทศบาลมาตรวจสอบแล้วนั้น โดยใช้วิธีการยิงยาสลบสุนัข แต่มีหนึ่งตัวตกใจวิ่งเข้าไปในป่าจนกระทั่งไปพบว่า นอนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนา นอกจากนี้ยังพบว่า สุนัขบางตัว ที่ทางเทศบาลจับไปแล้วนั้น นำไปปล่อยทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยมีผู้คน

ขณะที่ น.ส.อุบล กล่าวว่า สุนัขเร่ร่อนพวกนี้ไม่เคยสร้างปัญหาให้ใคร โดยตนใช้เงินส่วนตัวในการทำหมันให้สุนัขเหล่านี้ แต่กลับถูกจับไปทำหมันซ้ำ ทำให้สุนัขได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีการดูแลในภายหลัง ซึ่งตนและครูอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดูแลสุนัขเหล่านี้ หลังจากจับแล้วช่วยหาที่อยู่ให้ดีกว่านี้ อย่าเห็นเป็นเพียงสุนัขแล้วปล่อยให้ต้องนอนตายอย่างน่าเวทนา ทั้งนี้ ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.บางละมุง ให้ดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง