ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



บุญเกิดเพราะชวนเชิญ เจริญจิตเพราะคิดดี

เจริญพร ญาติโยมท่านผู้มีจิตเลื่อมใสใจเป็นบุญทุกท่าน ในนครลอสแองเจลีสคงหา ข้าวมุธุปายาส หรือข้าวทิพย์ มารับประทานนั้นคงไม่มีหรอก อาตมาเชื่ออย่างนั้นนะ ถ้าจะมีก็คงเป็นข้าวกระยาสาท ที่พอหาซื้อได้ตามท้องตลาดไทยในฤดูเดือนเก้าเดือนสิบ ขนมที่คนสูงวัยรับประทานไม่ได้ เนื่องจากมันแข็งมากเคี้ยวไม่ไหว อย่าว่าแต่คนสูงวัยเลยคนหนุ่มๆ อย่างอาตมายังยอมแพ้ เพราะบางเจ้าที่ทำขนมนี้ ทั้งแข็งทั้งเหนียวเลยที่เดียว เคี้ยวไม่ไหว กิจกรรมอย่างนี้ ไม่ค่อยพบบ่อยนัก จึงขอชวนเชิญเจริญพรท่านผู้จิตศรัทธาทุกท่านไปร่วมงานวัดทุ่งเศรษฐี โดยพร้อมเพียงกัน


วัตถุประสงค์ บุญกวนข้าวทิพย์

เรื่องบุญกวนข้าวทิพย์ หรือกวนข้ามธุปายาส กิจกรรมของทางวัดทุ่งเศรษฐี จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยจัดทำในวารโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 10 เดือนพฤษภาคม วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา "วันวิสาขะบูชา" นั้นอยากให้ญาติโยมมาสมาทานอุโบสถศีล เจริญไตรสิกขา พัฒนาจิต ถือการบวชเนกขัมมจารินี บวชชีไม่โกนผม เพื่อสร้างโอกาสตนให้มีเวลามาอบรมบ่มเพาะ ศึกษาปฏิบัติถวายเป็นพุทธบูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้มาบวชเนกขัมมจารินี จะเป็นผู้เสียสละเวลาอันมีค่าส่วนตัว เพื่อมารักษามรดกทางศาสนาและวัฒนธรรม ได้สืบค้นรักษา ประเพณีกวนข้าวทิพย์ที่ยังถือปฏิบัติไม่มากนัก จึงขอแจงถึงข้อวัตถุประสงค์ เบื้องต้น ดังนี้

1) เพื่อสืบค้นรักษา ประเพณีกวนข้าวทิพย์ที่ยังถือปฏิบัติไม่มากนัก

2) เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม ประเพณีกวนข้าวทิพย์ให้ดำรงอยู่สืบไป

3) เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีในหมู่คณะศานศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป

4) เพื่อให้ประชาชนเห็นคุณค่า และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม อันถือเป็นมรดกของชนชาติไทย และได้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป


กำหนดการ พิธีกวนข้าวทิพย์
วันเสาร์ ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 (ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 6)

เวลา 8.00 น. นึ่งเผือก - นึ่งมัน เตรียมอุปกรณ์เครื่องกวน

เวลา 9.39 น. ประกอบพิธีกวนข้าวทิพย์ พระสงฆ์เจริญมงคลคาถา

เวลา 11.30 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์

วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 (ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6)

เวลา 10.30 น. ทำวัตรเช้า สมาทานศีล

เวลา 11.00 น. ตักบาตรข้าวทิพย์

เวลา 11.30 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์

เวลา 12.00 - 14.00 น. ร่วมรับประทานอาหาร / แจกข้าวทิพย์ เป็นอันเสร็จพิธี


ประวัติของการกวนข้าวทิพย์

ข้าวทิยพ์ หรือ ข้าวมธุปายาส ครั้งพุทธกาล เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร ได้เสด็จออกทรงผนวช ได้เสวยข้าวทิพย์ของนางสาวสุชาดา บุตรีมหาเศรษฐีแห่งบ้านเสนานิคม ก่อนแต่งงาน นางได้ไปบนกับเทวดาที่ต้นไทรว่า "ขอให้ได้แต่งงานกับชายที่มีสกุลและฐานะเสมอกัน และขอให้ได้บุตรคนแรกเป็นชาย" ต่อมานางก็สมปรารถนา จึงได้จัดแจงรีดน้ำนมจากแม่โค การรีดนมจากแม่โควันนั้นรีดง่ายเกินคาด แม้ว่าลูกโคไม่ได้กินนมในวันนั้น เมื่อนำภาชนะเข้าไปรอง กลับมีน้ำนมไหลออกมาเอง นางสุชาดาจึงจัดแจงปรุงข้าวมธุปายาสไปแก้บนที่ต้นไทร นางสุชาดาได้พบพระมหาบุรษคิดว่าเป็นเทวดา จึงทำพิธีแก้บนถวายภัตตาหารมื้อแรกที่พระองค์เสวยข้าวมธุปยาส (ข้าวทิพย์) แล้วตรัสรู้อนุตตรธรรม (โบราณแสดงไว้ว่าปรุงด้วยข้าวสุกหุงกวนกับน้ำนมโคเจือด้วยน้ำผึ้ง)


ข้าวมธุปายาส

มธุปายาส สมัยรัตนโกสินทร์ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เรียกข้าวกระยาทิพย์ เรียกสั้น ๆ ว่า ข้าวทิพย์ เป็นอาหารโบราณตั้งแต่ครั้งพุทธกาล จากเรื่องราวในพุทธประวัติ โดยมีนางสุชาดา เป็นผู้ปรุงถวายพระสิทธัตถะบรมโพธิสัตว์ หนังสือ "พระปฐมสมโพธิกถา" พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีกล่าวอรรถาธิบาย ขั้นตอนในการหุงข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาไว้เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ถอดความมาได้ดังนี้

ก่อนที่จะถึงวันวิสาขปุรณมี เพ็ญเดือนหกนางสุชาดาก็ใช้ให้ทาสกรรมกรทั้งหลาย เอาฝูงแม่โคจำนวน 1000 ตัวไปเลี้ยงในป่าชะเอมเครือ เพื่อให้แม่โคทั้งหมดได้บริโภคเครือชะเอม อันจะทำให้น้ำนมมีรสหวานหอม แล้วแบ่งโคนมออกเป็น 2 พวก พวกละ 500 ตัว เพื่อรีดเอาน้ำนมจากแม่โค 500 ตัวในกลุ่มแรกมาให้แม่โคอีก 500 ตัวในกลุ่มหลังบริโภค

ครั้นแล้วก็แบ่งแม่โคในกลุ่มหลังจำนวน 500 ตัว ออกเป็น 2 พวก พวกละ 250 ตัว แล้วรีด เอาน้ำนมแม่โค 250 ตัวจากกลุ่มแรกมาให้แม่โคอีก 250 ตัว ในกลุ่มหลังบริโภค กระทำการแบ่งกึ่ง กันเช่นนี้ลงมาทุกชั้นๆ จนเหลือ 16 ตัว แล้วแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกละ 8 ตัว นำน้ำนมของแม่โค 8 ตัวแรกมาให้อีก 8 ตัวสุดท้ายบริโภค ทำเช่นนี้เพื่อจะให้น้ำนมของแม่โค 8 ตัวที่เหลือมีรสหวานอันเลิศจนกระทั่งเหลือแม่โคที่จัดไว้ใช้ 8 ตัว

ข้าวทิพย์นี้ เนื่องมาจากข้าวมธุปายาสของพราหมณ์หุงรับประทานกัน ไม่มีกำหนดแน่นอน เช่น นางสุชาดาหุงไปถวายพระพุทธเจ้า ในวันเพ็ญวิสาขะ เดือน 6 แม้ในอรรถกาธรรมบทก็กล่าวถึงข้าวมธุปายาสไว้หลายเรื่อง เช่น มิคารเศรษฐี พ่อสามีของนางวิสาขา บริโภคข้าวมธุปายาสอันมีน้ำน้อย และในมัคลัตถทีปนีได้กล่าวถึงเศรษฐีขี้เหนียว หุงข้าวมธุปายาสบริโภคเองก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าหุงรับประทานเมื่อไหร่ แต่ข้าวมธุปายาสของพราหมณ์ ไม่มีสิ่งของที่ใช้ในการกวนมากมายเหมือนข้าว ทิพย์ของบ้านเรา


รสอร่อยของข้าวทิพย์ อาหารของเทวดา

อเนกรสปายาส ข้าวทิพย์ ถือกันว่าเป็นอาหารที่มีรสอร่อยคล้ายของทิพย์ (อาหารของเทวดาผู้ทรงศักดิ์) เมื่อกวนเสร็จแล้วก็แจกจ่ายกันบริโภค เพื่อระงับโรคภัยไข้เจ็บในร่างกาย เพราะก่อนรักษาและนำทิพยโอชามาเจือลงในสิ่งของที่จะกวน กับอาราธนาพระสงฆ์ให้ตั้งเมตตาจิต เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อให้เกิดสิริสวัสดิมงคลแก่ผู้รับประทานข้าวทิพย์ จึงถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ด้วยอำนาจพระปริตรและเทวานุภาพ เดิมนั้นกระทำกันในรั่วในวัง ภายหลังก็ได้ขยายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ บางวัดก็ทำพิธีกวนข้าวทิพย์ในฤดูกาลออกพรรษา อย่างไรก็ตาม ต้นเรื่องความสำคัญคือเรื่องขางสุชาดาผู้กวนถวายมหาบุรุษนั้นเอง


คำนี้นิยมที่มักเขียนผิดหลักภาษา

"อเนกรส" หมายถึง รสชาติเป็นหนึ่งที่ไม่เหมือนของกินอื่น ๆ "เอนก" เป็นคำที่มักเขียนผิด เพราะคำว่า "อเนก" คือ อยู่หน้าสระเอ นั้น ก็เพราะคำนี้ เกิดมาจาก "น + เอก" ท่านว่า น. เป็นคำนิบาตในภาษาบาลี แปลว่า "ไม่" และคำว่า "เอก" ก็แปลว่า "หนึ่ง"

เมื่อเอา "น" กับ "เอก" มาสนธิเข้าด้วยกัน ตามหลักไวยากรณ์ ท่านมีหลักไว้ว่า ถ้า "น" อยู่หน้าสระ ท่านให้แปลง "น" เป็น "อน" เสียก่อน แล้วจึงสนธิกันได้ อย่างนี้จึงกลายเป็นว่า "อน" สนธิกับ "เอก" จึงกลายเป็น "อเนก" คือ อยู่ข้างหน้าสระเอ นี่ถือว่าถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ยกเว้นชื่อคนซึ่งเป็น วิสามายนาม

พระราชพิธีการกวนข้าวทิพย์

การกวนข้าวทิพย์นี้ ได้ประกอบพิธีกวนกันมาตั้งแต่ครั้ง "กรุงศรีอยุธยา" ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้มีการกวนข้าวทิพย์ขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ท่าน ครั้งต่อมาในรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 การกวนข้าวทิพย์ละเว้นไป เพิ่งจะมากวนกันใหม่ในรัชกาลที่ 4 และได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งของในการกวน หลายอย่างเท่าที่จะหาได้ในขณะ นั้น มีส่วนผสมต่าง ๆ มากมายหลายอย่าง มากถึง 60 กว่าชนิด เช่น ถั่วงา ลูกเดือย ข้าวฟ่าง ข้าวเม่า เผือก มัน ผลไม้นานาชนิด และนมเนย เป็นต้น การกวนข้าวทิพย์เนื่องในพระราชพิธีนั้น จะกระทำในเดือน 10 เป็นงาน 3 วัน เริ่มแต่แรม 13 ค่ำเป็นต้นไป เวลาบ่ายนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ในโรงพิธี สาวพรหมจารี ที่มาฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ จะต้องนุ่งขาวห่มขาวนั่งในมณฑล มีสายสิญจน์โยงมงคลเหมือนอย่างเจ้านายทำพิธีโสกันต์ (โกนจุก) ทรงจุดรูปเทียน เครื่องนมัสการแล้วอาลักษณ์ อ่านคำประกาศสาระสำคัญในคำประกาศมีใจความว่า

"การกวนข้าวทิพย์เป็นพระราชพิธีเคยทำมาแต่โบราณ ขอให้พระสงฆ์ซึ่งเจริญพระพุทธมนต์มีจิตตั้งมั่นด้วยเมตตา ยึดเอาคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง และด้วยอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยอันเป็นนิรัตสัยบุญเขต ขอให้เกิดสวัสดิมงคล และระงับโรคภัยแก่ผู้ได้รับพระราชทานข้าวทิพย์นี้ ขอให้เทพยดาจงนำสุราอมฤตมาเจือโปรยปราย ให้คุ้มกันสรรพอันตรายทุกประการฯ ต่อไปนี้เป็นคำอธิษฐานว่าด้วยอำนาจพระมหากรุณาธิคุณ และพระราชกุศลที่ทรงบำเพ็ญในเวลานี้ ขอให้ทรงพระเจริญ พระชนมายุยืนนาน เป็นที่เกรงขามแก่เหล่าศัตรู และขอให้ฝนตกเพียงพองามในเวลาที่ข้าวออกรวงผลไม้ต่าง ๆ" เมื่อจบคำประกาศ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ สวดสิบสองตำนาน สวดธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร รุ่งขึ้นถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ เป็นต้น


สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการปรุงข้าวทิพย์

ญาติโยมท่านผู้มีจิตใสใจศรัทธา สนใจไปร่วมงานบุญครั้งนี้ ประสงค์ถวายถั่วงา ลูกเดือย ข้าวฟ่าง ข้าวเม่า เผือก มัน ผลไม้นานาชนิด และนมเนย เป็นต้นนั้น ก็ติดต่อไปทางวัด (562) 865-1716 (562) 382 - 3767 เพื่อมิให้ซ้ำกัน ปีที่แล้วกวนไป 2 กระทะใหญ่ใบบัว เพราะเป็นของแปลกใหม่ในอเมริกาจึงไม่พอแจกจ่าย ปีนี้หลายท่านคอยฟังข่าวกำหนดการ เพื่อไปร่วมบุญร่วมทาน วันเสาร์ วันกวน วันอทิตย์ วันกิน ท่านว่างกันวันไหน ให้กำหนดใจไปร่วมช่วยบุญช่วยงานโดยพร้อมเพียงกัน เทอญ จำเริญพร