ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ประโยชน์ดี ๆ มีไว้เพื่อเรา

ขอความสุขความเจริญจงมีแด่ผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน เริ่มต้นขึ้นปีใหม่มา ดีใจที่ได้เห็นภาพการเริ่มต้นปฏิบัติธรรม ให้นึกถึงคำพูดของบางท่านที่เคยกล่าวคำเสียหายว่า พระพุทธศาสนาเสื่อมไปจากโลกนี้แล้ว ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว ที่มีอยู่ปัจจุบันหาพระอรหันต์ไม่มีแล้ว ที่เหลืออยู่มีแต่อัตตโนมัติ

ก็ชั่งเฮอะ...อาตมาก็ทำดีที่สุดแล้ว และจะไม่สะท้านกับคำพล่อยไม่เพราะหู แต่ก็ขอขอบคุณที่แว๊บนั้นทำให้เป็นทบทวนสติตน จริง ๆ ก็เชื่อนะ ว่าพระสงฆ์ทุกรูปท่านมีจิตวิญญาณในความเป็นเพศภาวะ พระสงฆ์องค์ใด บุรุษบุคคลใด ปฏิบัติดีงามก็เป็นบุญของท่าน ส่วนว่าบุรุษบุคคลใดกระทำกรรมเลวก็เป็นบาปของท่าน ถ้าเรานับถือพระพุทธศาสนา ก็ต้องเชื่อว่าบาปกรรมมีอยู่จริง

อันที่จริงพระพุทธศาสนาจะเจริญหรือเสื่อม ก็อยู่ที่พุทธบริษัททุกหมู่เหล่านี่แหละ ที่จะยังให้รุ่งโรจน์หรือรุ่งริ่ง ประโยชน์จากหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ยังบุคคลให้สำเร็จประโยชน์ทุกด้าน ตามสติและกำลังของบุคคลอันพึงมีพึงเป็น แล้วอะไรเล่า..? เป็นเครื่องตัดสินการมองความเจริญหรือความเสื่อมของพระศาสนา :-

ถ้าจะตัดสินว่าศาสนาเป็นเรื่องของความนับถือ

เมื่อมีผู้นับถือมากคือความเจริญของพระศาสนานั้นมันจะใช่หรือไม่ ?

หรือบางยุคสมัยมีผู้นับถือน้อยคือความเสื่อมของพระศาสนานั้นมันใช่ไหม?

จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เอาปริมาณหรือเปอร์เซ็นต์ของผู้นับถือมาเป็นเตรื่องวัดอย่างเดียวนะ ท่านเคยใส่ใจกับคำนี้กันอยู่ไหม ? เช่น การทำวิจัยหรือการประเมิณ จะมีคำว่า "ผลที่คาดว่าจะได้รับ"

(1) ด้านปริมาณ การนับจำนวนผู้นับถือตามสำเนาทะเบียนบ้านว่ามากขึ้น เป็นมาตรวัดว่าเจริญขึ้น มีวัดเพิ่มมากขึ้นทุกหมู่บ้าน มีพระภิกษุ - สามเณรเพิ่มมากขึ้นเป็นต้น นี้ถือว่าพระพุทธศาสนาเจริญ ท่านคิดเห็นว่าอย่างนี้ใช่หรือไม่ ? แล้วถ้าทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมันกลับตาลบัตร คือผู้นับถือมีจำนวนน้อยลง วัดที่สร้างไว้ในกาลก่อนกลับเป็นวัดร้าง หรือไม่ก็มีพระภิกษุน้อยลง นี้ถือว่าพระพุทธศาสนาเสื่อมด้อยถอยลง ท่านคิดเห็นว่าอย่างนี้ใช่หรือไม่ ?

(2) ด้านคุณภาพ การที่มีผู้ปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา ส่งเสริมให้มีการศึกษาพัฒนาความรู้ทางพระพุทธศาสนามาก ๆ เพื่อความมีคุณธรรมสูงส่งดีงาม มีจริยธรรม มีศีลธรรม มีความผาสุก สงบร่มเย็น มีความสมัครสมานรักใคร่สามัคคีกันดี มีระเบียบแบบแผน รวมถึงความมีเสรีภาพ ภราดรภาพ โครงสร้างด้านคุณภาพนี้ พอจะมองภาพเห็นเป็นประโยชน์ที่ได้จากการนับถือศาสนาบ้างหรือยัง (???) นี้คือความเจริญด้านคุณภาพได้ไหม?

เออ...บางท่านก็มักจะเห็นแย้งว่า ด้านคุณภาพนั้นต้องมีความเจริญสู่ความเป็นอริยะ เช่น พากันอ้างองค์คุณของพระอริยะบุคคล มีพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์นั้นว่า คือด้านคุณภาพ เอาหละไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว การที่บางท่านเที่ยวค้นหาเที่ยวพิสูจน์พุทธศาสนาบริสุทธิ์ (Pure Buddhism) เสร็จแล้วรู้สึกผิดหวังว่าโลกยุกนี้ไม่มีแล้ว นี้คือความเสื่อมด้านคุณภาพใช่หรือไม่ ?

การจะตัดสินความเจริญหรือความเสื่อมของศาสนานั้น โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาเรานี่แหละ ท่านผู้กล่าวคำตัดสินอย่างนั้น ท่านลองมองกลับไปสำรวจตัวเองด้วยนะ ลองดูคำสวดมนต์นี้ดีไหม? คำว่า "สวากขาโต ภควะตา ธัมโม ซึ่งมีคำแปลไว้ว่า พระธรรม คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค ตรัสไว้ดีแล้ว"

อาตมาก็ไม่รู้จะอ้างอะไรมาเป็นข้อทัดทาน เพราะท่านที่พูดว่าศาสนาเสื่อม ๆ เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรที่น่าเชื่อถือได้ ไม่ว่าพระไม่คนเสื่อมไปหมดแล้ว อาตมาว่านะ อันที่จริงศาสนาเสื่อมหรือไม่นั้น น่าจะอยู่ที่ตัวเราเอง มองเห็นและการเข้าถึงกฎแห่งพระไตรลักษณ์ ในความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือการเข้าถึงอริยสัจจ์ แล้วตั้งสติ วางกรอบความคิดและคำกล่าวนั้น ให้เป็นคำพูดที่แสดงออกแบบให้กำลังใจกัน และเป็นที่พอใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้เกิดความเข้มแข็งในการทำงานพระศาสนา แต่มองอีกอย่างก็เป็นสิ่งที่ดี คือเพ่งมองคำพูดที่ทำให้เสียกำลังใจนั้น ให้มีกำลังใจ (สั้น ๆ นะ คือมองเสีย ให้ดี อย่าพยายามมองดี ให้เสีย) ส่วนจะเสื่อมหรือไม่อย่างไร ลองทำความศึกษาเรื่องประโยชน์ 3 ดูก่อน


ประโยชน์ 3 ประการของพุทธศาสตร์

เมื่อพูดแล้วว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน คือ ความจริงที่เป็นประโยชน์ ใช้แก้ทุกข์ได้ นำไปสู่จุดหมาย ก็ควรจะพูดถึงประโยชน์และจุดหมายด้วย ลักษณะทั่วไปของพุทธศาสนาประการหนึ่ง ก็คือเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิต หรือหลักการและวิธีปฏิบัติเพื่อเข้าสู่จุดหมาย ทีนี้ จุดหมายในทางพระพุทธศาสนาเราก็เรียนกันมาว่ามี 3 ประการ ถ้าจะแบ่งตามระดับก็คงจะได้เป็น 3 อย่าง คือ

1. ทิฏฐธัมมิกัตถะ เรียกกันว่า ประโยชน์ปัจจุบัน

2. สัมปรายิกัตถะ แปลกันว่า ประโยชน์เบื้องหน้า

3. ปรมัตถ์ หรือ ปรมัตถะ คือ ประโยชน์อย่างสูงสุด

ทิฏฐธัมมิกัตถะ ก็คือ ประโยชน์ปัจจุบัน หรือถ้าพูดในแง่ของเรื่องราวก็คือเรื่องทั่วๆ ไป เรื่องการดำเนินชีวิต การเป็นอยู่ที่ปรากฏ เรื่องทางวัตถุที่เห็นกันได้ สภาพภายนอก เช่น การมีปัจจัย 4 มีอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย มีฐานะ มีลาภ มีเกียรติ มียศ มีสรรเสริญ เรื่องชีวิตคู่ครอง ความมีมิตรไมตรี อะไรต่าง ๆ ในชีวิตปัจจุบันนี้ ในชีวิตที่มองเห็น ๆ กันอยู่ นี้เป็นประโยชน์ปัจจุบัน ซึ่งพระพุทธศาสนาก็สอน ว่าเป็นจุดหมายประการหนึ่งในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรือการปฏิบัติตามธรรมใน พระพุทธ ศาสนา

สัมปรายิกัตถะ หมายถึงเบื้องหน้า หรือ ภพหน้า ชาติหน้า จะไปเกิดที่ดีนี่เป็นประโยชน์หรือเป็นจุดหมายขั้นสัมปรายะ หรือได้แก่สิ่งที่เป็นหลักประกันชีวิตในเบื้องหน้าหมายถึงสิ่งที่ลึกเข้าไปทางจิตใจ คือ พ้นจากเรื่องทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การมีฐานะ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ชั้นภายนอกแล้วก็มาถึงเรื่องจิตใจ เรื่องคุณธรรมต่าง ๆ มีความเข้าใจรู้จักสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง นี้ก็เป็นจุดหมายประการหนึ่งในทางพุทธศาสนา

ส่วนปรมัตถะ ก็คือ ประโยชน์สูงสุด ถ้าพูดกันง่าย ๆ ก็คือเรื่องนิพพาน หรือความมีใจเป็นอิสระ ความมีจิตหลุดพ้น มีจิตใจปลอดโปร่งผ่องใสเบิกบานอยู่ได้ตลอดเวลา เพราะจิตปราศจากกิเลส ส่วนพระนิพพานคืออย่างไร เป็นอย่างไร ก็ให้ว่ากันไป "อัตตา - อนัตตา"

จุดหมายนี้แบ่งเป็น 3 อย่าง ซึ่งอยู่ในวงหรือขอบเขตของพระพุทธศาสนา เป็นลักษณะทั่วไปอย่างหนึ่ง ซึ่งช่วยให้ได้ระมัดระวังว่า เราจะสอนหรือแสดงหลักการของพระพุทธศาสนานั้น ไม่ใช่ว่าจะต้องจำกัดเอาอย่างเดียว เมื่อใครพูดถึงเรื่องระดับอื่น ประโยชน์ระดับอื่นแล้ว ไม่ยอมรับเลย บอกว่าอันนี้ไม่ใช่พุทธศาสนา มิใช่อย่างนั้น พระพุทธศาสนาครอบคลุมได้ทั้ง 3 ระดับอย่างนี้ อนึ่ง ถ้าหากจะไม่แบ่งในแง่ระดับ จะแบ่งในแง่ประโยชน์ หรือจุดหมายที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เป็นด้าน ๆ ดังกล่าว

พระภิกษุ ผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา คำว่า ปรัตถะ นี้ก็จะขยายออกมาในรูปที่ว่า พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย เพื่อประโยชน์แก่พหูชน เพื่อความสุขแก่พหูชน ซึ่งคติเรื่องประโยชน์สุขแก่พหูชนนี้มากมายเหลือเกินในพระไตรปิฎก เช่นว่า พรหมจรรย์หรือพรหมจริยะนี้มีอยู่ยั่งยืนเพื่ออะไร ก็เพื่อประโยชน์สุขของพหูชน พระพุทธเจ้าส่งสาวกออกประกาศพระศาสนาก็เพื่อประโยชน์สุขแก่พหูชน การกระทำเพื่อประโยชน์สุขของพหูชนนี้ก็คือ เรื่องปรัตถะในระดับสำหรับผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับสังคม หรือประโยชน์ที่กว้างไกลออกไป นี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับจุดหมาย ต่อจากนี้ไปในเนื้อที่จำกัด อาตมาคิดว่าลักษณะอื่น ๆ ก็คงจะได้แต่เพียงยกขึ้นมาเป็นหัวข้อเท่านั้น รูปขอจำเริญพร