ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



๑๐ คำสอนของในหลวง รัชกาลที่ ๙

เจริญพรคณะศรัทธาทุกท่าน สัปดาห์นี้หลวงพ่อมิอาจให้ถ้อยคำใด ๆ มาแทรกซ้อน ๑๐ คำสอนของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้เลย ทุกคำสอนนั้นสามารถน้อมนำมาใช้ในชีวิตและการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม "เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์" เขาได้รวบรวมพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เป็นคำสอนให้กับประชาชนชาวไทย ได้เดินหน้าในการใช้ชีวิตและการทำงาน พร้อมทั้งร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้


๑. คำสอนของพ่อ : การรู้จักใช้เงิน

"...ถ้าเราสะสมเงินให้มาก เราก็สามารถที่จะใช้ดอกเบี้ย ใช้เงินที่เป็นดอกเบี้ยโดยไม่แตะต้องทุน ถ้าเราใช้มากเกินไปหรือเราไม่ระวัง เรากินเข้าไปเป็นทุน ทุนมันก็น้อยลง ๆ จนหมด..."

(พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอการวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๘)


๒. คำสอนของพ่อ : การรู้จักนับถือความรู้

"...เราเป็นนักเรียนเราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าหากว่าในด้านไหนก็ตาม เวลาไปปฏิบัติให้ถือว่า เราเป็นนักเรียนชาวบ้านเป็นครูหรือ "ธรรมชาติเป็นครู" การที่ท่านทั้งหลายจะออกไปก็จะไปหลาย ๆ ด้าน ก็จะต้องเข้าใจว่าเราอาจจะเอาความรู้ไปให้เขา แต่ก็ต้องนับถือความรู้ของเขาด้วย จึงจะมีความสําเร็จ..."

(พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่บัณฑิตอาสาสมัครพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยขอนแก่น ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดําริอําเภอเมือง จังหวัด สกลนคร เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๐)


๓. คำสอนของพ่อ : การมีเสรีภาพ

"...การมีเสรีภาพนั้นเป็นของดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้จําเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและ ความรับผิดชอบมิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึง สวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย มิฉะนั้น จะทําให้มีความยุ่งยากจะทําสังคมและ ชาติ ประเทศต้องแตกสลายโดยสิ้นเชิง..."

(พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแถลงการณ์สภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติตาม แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สวชพ.) เรื่อง "การใช้เสรีภาพเพื่อการปรองดองสมานฉันท์" เนื่องในวันนักข่าว เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๐)


๔. คำสอนของพ่อ : การคิดก่อนพูด

"...หลักของคุณธรรมคือ การคิดด้วยจิตใจที่เป็นกลาง ก่อนจะพูดจะทําสิ่งไร จําเป็นต้อง หยุดคิดเสียก่อน เพื่อรวบรวมสติให้ตั้งมั่น และจิตสว่างแจ่มใส ซึ่งเมื่อฝึกหัดคุ้นเคยชํานาญแล้ว จะกระทําได้คล่องแคล่วช่วยให้สามารถแสดงความรู้ความคิดในเรื่องต่าง ๆ ให้ผู้ฟังได้เข้าใจได้ง่าย ได้ชัด ไม่ผิด ทั้งหลักวิชา ทั้งหลักคุณธรรม..."

(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๕)


๕. คำสอนของพ่อ : ความเจริญในการทำงาน

"...ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นหลักสําคัญ ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบ และหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ทั้งหลักธรรมทางศาสนา เพราะสิ่งแรกเป็นปัจจัยสําคัญสําหรับใช้กระทําการทํางาน สิ่งหลัง เป็นปัจจัยสําคัญสําหรับส่งเสริมความประพฤติและการปฏิบัติงานให้ชอบคือให้ถูกต้องและเป็นธรรม"

(พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนา อิสลาม ๔ จังหวัดภาคใต้จังหวัดปัตตานีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๙)


๖. คำสอนของพ่อ : ความพอเพียง

"...ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัว จะต้องผลิตอาหารของตัว จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันมากเกินไป แต่ในหมู่บ้านหรือในอําเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการ ก็ขายได้แต่ในที่ไม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง มากนัก มีเงินเดือนเท่าไหร่จะต้องใช้ภายในเงินเดือน กู้เงินนั้น เงินจะต้องให้เกิดประโยชน์มิใช่กู้สําหรับ ไปเล่น ไปทําอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์..."

(พระราชดํารัสในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๐)


๗. คำสอนของพ่อ : ชาติบ้านเมืองคืออวัยวะ

"...ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดํารงอยู่ได้เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทํางานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมือง ก็ดํารงอยู่ได้เพราะสถาบันต่าง ๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น..."

(พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตํารวจและอาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนามในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๔)


๘. คำสอนของพ่อ : คนดี

"...ในบ้านเมืองนี้มีทั้งคนดี และคนไม่ดีไม่มีใครที่จะทําให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทําให้ บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทําให้ทุกคนเป็นคนดีหากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดีให้คนดี ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอํานาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้..."

(พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมชนลูกเสือแห่งชาติค่ายลูกเสือวชิราวุธจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๒)


๙. คำสอนของพ่อ : การทำหน้าที่ของข้าราชการ

"...ข้าราชการไม่ว่าจะอยู่ตําแหน่งใด ระดับไหน มีหน้าที่อย่างไร ล้วนแล้วแต่มีส่วนสําคัญ อยู่ในงานของแผ่นดินทั้งสิ้น ทุกคนจึงต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ โดยเต็มกําลังความสามารถด้วยอุดมคติ ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ และระมัดระวังให้การ ทุกอย่างในหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้องเที่ยงตรงด้วยความระลึกรู้ตัว อยู่เสมอว่าการปฏิบัติตัว ปฏิบัติงานของตนมีผลเกี่ยวเนื่องถึงสุขทุกข์ของประชาชน ตลอดจน ความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงของประเทศชาติ..."

(พระบรมราโชวาทเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗)


๑๐. คำสอนของพ่อ : ความสามัคคี

"...สามัคคีนี้ก็คือการเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิถีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้ เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และทํางานด้วยการซื่อสัตย์สุจริต ต้องส่งเสริมงานของกัน และกัน และไม่ทําลายงานของกันและกัน มีเรื่องอะไรให้ได้พูดปรองดองกัน อย่าเรื่องใครเรื่องมัน และงานก็ทํางานอย่างตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม..."

(พระราชดํารัสที่พระราชทานในพิธีประดับยศนายตํารวจชั้นนายพล เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๙)


สัปดาห์นี้ศิษยานุศิษย์วัดทุ่งเศรษฐี แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้พร้อมใจกันมาวางดอกไม้จันทน์ เบื้องพระพักตร์หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ น้อมเกล้าฯ ส่งเสด็จพ่อหลวงสู่สวรรคาลัย ด้วยสำนึกในพระบารมีล้นเกล้าอันหาที่สุดไม่ได้ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยตราบนิจนิรันดร์ ขอพระองค์คุ้มครองผองข้าพระพุทธเจ้า ให้ปลอดภัยในทุกสถานด้วยเทอญ รูขอจำเริญพร