ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ข้าวทิพย์ สูตรวัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี

เจริญธรรมท่านพุทธศาสนิกชนผู้ใคร่ศึกษา รายละเอียดเรื่องเกี่ยวกับสูตรอละวีธีกวนข้าวทิพย์นี่มันสุดยอดจริงๆ เลยนะ (สูตรใครก็สูตรใครละงานนี้) หลวงพ่อเข้าไปหาข้อมูลเรื่องวิธีกวนข้าวทิพย์ในอินเตอร์เน็ต มันชั่งแตกต่างกันไปคนละทาง 2 ทางเลย อย่างนี้เองโบราณนานมาถึงได้ว่า เป็นอาหารที่เลิศรส เพราะแต่ละที่ไม่มีใครเหมือนใครเลยจริงๆ

เมื่อปี 2018 มีโอกาสเข้าไปในประเทศเมียนม่า บังเอิญเข้าไปร่วมพิธีกวยข้าวทิพย์ ได้เห็นได้สอบถามถึงสูตรและตำนานที่ชาวบ้านเขากวนข้าวทิพย์กัน เข้าใจได้รวบยอดเลยว่าสืบมาจากสูตรของพระนางสุชาดา สตรีในตำนานเช่นกัน

แต่แหม !!! รสชาติก็ยังไม่ใช่แบบที่หลวงพ่อพาชาวบ้านสืบตำนานมา ดังนั้นปีนี้จะมีการประกอบสูตรปรุงขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองแลงแคสเตอร์ "ข้าวทิพย์ สูตรวัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี" รับรองอร่อย 3 โลก ทว่าจำต้องพึ่งพาญาติโยมพี่น้องเราให้ได้ไปช่วยกันกวน ทางวัดมีกระทะใบบัวอยู่ 2-3 ลูก


ขั้นตอน ตามตำนานกล่าวว่า

สมัยนั้น ท้าวจตุโลกบาลมาถือการอารักขาที่เตาไฟ ท้าวมหาพรหมกั้นฉัตร ท้าวสักกะทรงนำดุ้นฟืนมาใส่ไฟให้ลุกโพลงอยู่ เทวดาทั้งหลายรวบรวมเอาโอชะที่สำเร็จแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายในทวีปใหญ่ทั้ง 4 มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวารมาใส่ลงในข้าวปายาสนั้น ด้วยเทวานุภาพของตนๆ เสมือนคั้นรวงผึ้งซึ่งติดอยู่ที่ท่อนไม้ถือเอาต้นน้ำหวานฉะนั้น

จริงอยู่ ในเวลาอื่นๆ เทวดาทั้งหลายใส่โอชะในทุก ๆ คำข้าว แต่ในวันบรรลุพระสัมโพธิญาณ และวันปรินิพพานใส่ลงในหม้อเลยทีเดียว นางสุชาดาได้เห็นความอัศจรรย์มิใช่น้อย ซึ่งปรากฏแก่ตน ณ ที่นั้น ในวันเดียวเท่านั้น จึงเรียกนางปุณณาทาสีมาพูดว่า "นี่แน่ะแม่ปุณณา วันนี้เทวดาของพวกเราน่าเลื่อมใส่ยิ่งนัก เพราะว่าเราไม่เคยเห็นความอัศจรรย์เห็นปานนี้ ในเวลามีประมาณเท่านี้ เธอจงรีบไปปัดกวาดเทวสถานโดยเร็ว"

นางปุณณาทาสีรับคำของนางแล้วรีบด่วนไปยังโคนไม้ ในตอนกลางคืนวันนั้น แม้พระโพธิสัตว์ก็ได้ทรงเห็นมหาสุบิน 5 ประการ เมื่อทรงใคร่ครวญดู จึงทรงกระทำสันนิษฐานว่า วันนี้ เราจักได้เป็นพระพุทธเจ้าโดยไม่ต้องสงสัย เมื่อราตรีนั้นล่วงไป จึงทรงกระทำการปฏิบัติพระสรีระ ทรงคอยเวลาภิกขาจาร พอเช้าตรู่ จึงเสด็จมาประทับนั่งที่โคนไม้นั้น ยังโคนไม้ทั้งสิ้นให้สว่างไสวด้วยพระรัศมีของพระองค์

ลำดับนั้น นางปุณณาทาสีนั้นมาได้เห็นพระโพธิสัตว์ประทับนั่งที่โคนไม้ มองดูโลกธาตุด้านทิศตะวันออกอยู่ และต้นไม้ทั้งสิ้นมีวรรณดุจทองคำ เพราะพระรัศมีอันซ่านออกจากพระสรีระของพระองค์. นางปุณณาทาสีนั้นได้เห็นแล้วจึงมีความคิดดังนี้ว่า วันนี้ เทวดาของเราเห็นจะลงจากต้นไม้มานั่งเพื่อคอยรับพลีกรรมด้วยมือของตนเอง จึงเป็นผู้มีความตื่นเต้น รีบมาบอกเนื้อความนั้นแก่สุชาดา นางสุชาดาได้ฟังคำของนางปุณณาทาสีนั้นแล้วมีใจยินดีพูดว่า

ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าจงตั้งอยู่ในฐานะเป็นธิดาคนโตของเรา แล้วได้ให้เครื่องอลังการทั้งปวงอันสมควรแก่ธิดา ก็เพราะเหตุที่ในวันจะได้บรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า ควรจะได้ถาดทองใบหนึ่งซึ่งมีราคาหนึ่งแสน ฉะนั้นนางสุชาดานั้นจึงทำความคิดให้เกิดขึ้นว่า เราจักใส่ข้าวปายาสในถาดทองนางมีความประสงค์จะให้นำถาดทองราคาหนึ่งแสนมา เพื่อใส่ข้าวปายาสในถาดทองนั้น จึงรำพึงถึงโภชนะที่สุกแล้ว ข้าวปายาสทั้งหมดได้กลิ้งมาตั้งอยู่เฉพาะในถาด เหมือนน้ำกลิ้งมาจากใบปทุมฉะนั้น

ข้าวปายาสนั้นได้มีปริมาณเต็มถาดหนึ่งพอดี นางจึงเอาถาดใบอื่นครอบถาดใบนั้นแล้วเอาผ้าขาวพันห่อไว้ ส่วนตนประดับประดาร่างกายด้วยเครื่องประดับทุกอย่างเสร็จแล้ว ทูนถาดนั้นบนศีรษะของตนไปยังโคนต้นไทรด้วยอานุภาพใหญ่ เห็นพระโพธิสัตว์แล้วเกิดความโสมนัสเป็นกำลัง สำคัญว่าเป็นรุกขเทวดา จึงโน้มตัวเดินไปตั้งแต่ที่ที่ได้เห็น ปลงถาดลงจากศีรษะแล้วเปิด (ผ้าคลุม) ออก เอาสุวรรณภิงคาร คนโทน้ำทองคำ ตักน้ำที่อบด้วยดอกไม้หอมแล้วได้เข้าไปหาพระโพธิสัตว์ยืนอยู่

ต่อไปสิ่งอัศจรรย์อะไรหรือจะเกิดขึ้นในเหตุการณ์ เรื่องราวของสตรีที่ชื่อสุชาดา สุชาดา ความหมายคือ ธิดาผู้ถือการกำเนิดขึ้นมาด้วยความ ดีงาม การกวนข้าวทิพย์ถวายเป็นพุทธบูชา จะเกิดอานิสงส์อย่างไร

นางสุชาดาได้วางข้าวปายาสพร้อมทั้งถาด ลงบนพระหัตถ์ของพระมหาบุรุษๆ ทรงแลดูนางสุชาดาๆ กำหนดพระอาการได้ทูลว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ดิฉันบริจาคแก่ท่านแล้ว ท่านจงถือเอาถาดนั้นไปกระทำตามความขอบใจเถิด ถวายบังคมแล้วทูลว่า "มโนรถของดิฉันสำเร็จแล้ว ฉันใด แม้มโนรถของท่านก็จงสำเร็จ ฉันนั้น" นางบริจาคถาดทองซึ่งมีราคาตั้งหนึ่งแสน เหมือนบริจาคใบไม้เก่าไม่เสียดายเลย แล้วหลีกไป

พระโพธิสัตว์เสด็จไปยังฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ทรงวางถาดทองไว้ริมฝั่ง ลงสรงสนานแล้วเสด็จขึ้น ทรงปั้นเป็นก้อนได้ 49 ก้อน เสวยข้าวมธุปยาสแล้ว ทรงลอยถาดทองลงในแม่น้ำ เสด็จขึ้นสู่โพธิมัณฑสถานตามลำดับ ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ประทับ ณ โพธิมัณฑสถานล่วงไป 7 สัปดาห์ ทรงประกาศพระธรรมจักรอันประเสริฐโปรดแก่ปัญจวัคคีย์แล้ว ณ ป่าอิสิปตนมิคทายวัน นั่นแล


ข้าวทิพย์รสชาติอัศจรรย์

เรื่องราวของตำนานกวนข้าวทิพย์นี้ชั่งสุดยอดจริงหนอ มหัศจรรย์จริงหนอ เป็นอาหารที่พระพุทธเจ้าทรงเสวยก่อนที่จะได้บรรลุธรรม เรื่องราวเหล่านี้ได้เป็นที่มาของอาหารทิพย์ ยาทิพย์ ที่คงความศักดิ์ดำรงศรัทธาที่เหล่าพุทธศาสนิกชนสืบรักษาไว้ ท่านใดต้องการสอบถามรายละเอียด โทรมาเบอร์หลวงพ่อไสว (562) 249 - 3789 ยังไม่ลงตัวว่าจะกำหนดวันกวนเป็นวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม หรือจะเป็นวันเสาร์ / วันอาทิตย์ ที่ 9/10 กรกฎาคม ต้องคอยฟังเสียงศรัทธาว่าจะสะดวกเข้าไปช่วยกันได้วันไหน ที่อเมริกาไม่สะดวกเหมือนเมืองไทย ๆ คนชาวบ้านมาช่วยกันทั้งหมู่บ้านเลย แต่อย่างไรกวนก่อนเข้าพรรษานี้แน่นอน ปีนี้เข้าพรรษา ตรงกับวันพฤหัสฯ ที่ 14 กรกฎาคม 2565 ฉบับหน้าจะจ้างให้ทราบนะ ขออนุโมทนาบุญทุกท่าน รูปขอจำเริญพร