ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



สุเมธดาบส ผู้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่

ท่านสาธุชนผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย "ธรรมมาสน์ทอง ธรรมาสน์ธรรม" ความสำคัญ คือ ทุกคนได้มีส่วนร่วมกัน "ธำรงธรรม อุปถัมภ์เทศน์" แม้จะเป็นวัดเล็ก ๆ แต่หน้าที่ก็สำคัญ พระสงฆ์ร่วมปฏิบัติศาสนกิจอยู่จำนำพรรษา 4 รูป ได้ประจำพำนักจำนำพรรษา ณ วัดทุ่งเศรษฐี อยู่เป็นเนื้อนาบุญ อยู่ให้เป็นกำลังพระศาสนา ฯลฯ

เรื่องเล่าวันนี้คือ สุเมธดาบส บุรุษผู้เป็นต้นกล้าสายพันธุ์แห่งความเป็นพระพุทธเจ้า ก่อนแต่จะไปถึงเรื่องราวของท่านสุเมธพราหมณ์บัณฑิต มาติดตามงานของวัดทุ่งเศรษฐี ที่เมืองแลงแคสเตอร์ กันนิดหนึ่ง เพราะบางท่านยังเข้าใจว่า วัดทุ่งเศรษฐี เมืองเลควูด ได้ย้ายไปแล้วหรืออย่างไร "ตอบว่า ไม่ได้ย้าย ยังอยู่เลควูดเหมือนเดิม" ส่วนวัดทุ่งเศรษฐี ที่แลงแคสเตอร์เป็นการขยายสาขาเพิ่มขึ้น บางท่านติงมาว่าไม่อยากให้ใช้คำว่าสาขา แต่พอใช้ว่าสาขา 2 เมืองแลงแคสเตอร์ มันพูดสั้นเข้าใจง่ายขึ้นนะ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางคณะสงฆ์ได้รับการประสานงานมาจากบริษัทแทรกเตอร์ (ผู้ประสานงานคือคุณแอน) ซึ่งได้ติดต่อไว้นานพอสมควร ว่าพร้อมเข้าไปปรับพื้นที่ให้แล้วเสร็จ งานเสร็จออกมาแล้วอเมซิ่งพื้นที่สวยงามมาก ๆ เป็นพื้นที่ราบเรียบ สี่เหลี่ยมผืนผ้า รายงานความคืบหน้าให้ทราบว่า การเขียน Site Plan เสร็จสมบูรณ์แล้ว

และต้องก้าวต่อไป คือคอยให้ทาง City of Lancaster อนุมัติ เห็นฝ่ายผู้ดำเนินการว่าคงใช้เวลาพอสมควรอยู่ อาจต้องกลับมาแก้บางส่วนซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ หลวงพ่อก็ว่ามันท้าทายดี เหมือนทางไปพระนิพพานเลย ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ กว่าจะเข้าถึงพระนิพพานต้องบำเพ็ญบารมีอย่างมากโข เหมื่อนบางบุคคลที่สร้างบ้านที่อยู่อาศัย บางคนนั้นสร้างหรือแสวงหาทั้งชีวิตก็ไม่อาจสำเร็จ เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ถ้าพระพิพพานไปกันง่าย ๆ ถ้าบ้านเรือนมีกันได้ง่าย ๆ คงสำเร็จกันไปหมดแล้ว นี้เป็นเรื่องธรรมดา

เอาหละ..!!! อย่างน้อยเราได้มีเป้าหมายตั้งไว้เป็นหลัก "อย่าคิดดีให้เสีย ต้องคิดเสียให้ดีว่า..."

"เราสู้ เพื่อสร้างประโยชน์ทางการขยายงานพระพุทธศาสนา"

"เราสู้ เพื่อให้มีหน้าที่ทางจริยธรรม และทางวัตถุธรรมควบคู่กันไป"

"เราสู้ เพื่อให้เป็นสถานอุทยานศึกษาพุทธธรรมไว้เป็นแหล่งหลักแด่..อนุชน"

สุเมธดาบส บุรุษผู้เป็นต้นกล้าแห่งพระพุทธเจ้า

อดีตในภัทกัปป์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอุบัติขึ้นในโลกตามลำดับ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ทีปังกร ณ เมือง อมรวดี สุเมธพราหมณ์อาศัยอยู่ในเมืองนั้น มารดาและบิดาตลอด 7 ชั่วตระกูล ไม่ถูกรังเกียจโดยชาติ มีรูปงาม น่าชม น่าเลื่อมใสถึงพร้อมด้วยผิวพรรณงดงามอย่างยิ่ง สุเมธพราหมณ์มิได้ทำการงานอย่างอื่น เรียนศิลปะของพราหมณ์อย่างเดียว มารดาบิดาได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่เขายังเป็นหนุ่ม

ครั้งนั้นอำมาตย์ของเขา นำบัญชีทรัพย์สินมาให้แล้วเปิดห้องทรัพย์สิน เต็มไปด้วย ทอง เงิน แก้วมณี แก้วมุกดาเป็นต้น แล้วแจ้งทรัพย์สินตั้งแต่ 7 ชั่วตระกูลว่า ข้าแต่กุมาร ทรัพย์ ประมาณเท่านี้เป็นของมารดาของท่าน ประมาณเท่านี้เป็นของบิดาของท่าน ประมาณเท่านี้เป็นของปู่ ย่า ตา ยายและทวดของท่าน แล้วกล่าวว่า ขอท่านจงปกครองทรัพย์สินนี้เถิด

สุเมธบัณฑิต คิดว่า ญาติทั้งหลายมีมารดาบิดาเป็นต้น รวบรวมทรัพย์สินนี้ไว้เป็นอันมากถึงอย่างนี้ ก็ยังไปสู่ปรโลกมิได้ถือเอาไปได้แม้แต่กหาปณะเดียว ดังนั้น เขาจึงทูลแด่พระราชา แล้วให้ตีกลองประกาศไปทั่วเมือง ได้ให้ทานแก่มหาชน แล้วไปยังหิมวันตประเทศบวชเป็นดาบสล่วงไปได้ 7 วัน จึงยังสมาบัติ 8 และอภิญญา 5 ให้เกิดขึ้นอยู่ด้วยสมาบัติวิหารธรรม

ในกาลนั้น พระทศพลพระนามว่า ทีปังกร บรรลุพระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ ยังบวรธรรมจักรให้เป็นไปแวดล้อมด้วยพระขีณาสพหนึ่งแสนรูป เสด็จจาริกไปโดยลำดับ ถึง รัมมวดีนคร ประทับอาศัยอยู่ที่ สุทัศนมหาวิหาร ไม่ไกลเมืองนั้น ชาวเมืองรัมมวดีนครได้ยิน จึงพากันถือของหอม มีดอกไม้เป็นต้น เข้าไปเฝ้าพระศาสดาถวายบังคม แล้วบูชาด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น นั่งอยู่ส่วนข้างหนึ่งฟังพระธรรมเทศนา แล้วนิมนต์เพื่อเสวยภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น

ในกาลนั้น สุเมธดาบส มาทางอากาศเห็นพวกมนุษย์เหล่านั้นรื่นเริงยินดีจึงถามว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย พวกท่านทำความสะอาดทางนี้เพื่อใคร เมื่อพวกมนุษย์บอกว่า พวกเราทำความสะอาดทางเพื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา เพราะค่าที่ตนได้สะสมบารมีมาในพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต พอได้ยินคำว่า พุทฺโธ ก็เกิดปีติโสมนัส ลงจากอากาศในทันใด แล้วกล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงให้โอกาสแก่เราบ้าง แม้เราก็จักทำความสะอาดด้วย

ครั้นพวกมนุษย์ให้โอกาสแล้วจึงคิดว่า ความจริงเราพอจะทำทางนี้ให้วิจิตรด้วยรัตนะ 7 ด้วย ฤทธิ์แล้วตกแต่งได้ แต่วันนี้เราควรทำความขวนขวายทางกาย เราจักถือเอาบุญสมควรแก่กาย แล้วจึง นำหญ้าและหยากเยื่อเป็นต้นออกไป เอาฝุ่นมาเกลี่ยให้เสมอ ทำให้สะอาด เมื่อทำความสะอาดที่นั้นยังไม่สำเร็จ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระทีปังกรแวดล้อมด้วยพระขีณาสพ ผู้ได้อภิญญา 6 ผู้มีมหานุภาพแสนรูป เสด็จมาถึงทางนั้น

สุเมธบัณฑิต คิดว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสาวก จงอย่าเหยียบโคลน จึงคลี่ผ้าป่าน แผ่นหนังและห่อชฎาออก นอนคว่ำหันศีรษะไปทางพระผู้มีพระภาคเจ้า เขาคิดอย่างนี้ว่า หากเราจักปรารถนา เราจักเป็นสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านี้ จักทำลายกิเลสในวันนี้ทีเดียว ประโยชน์อะไรด้วยการออกจากโอฆะใหญ่คือสงสารของเราเพียงผู้เดียวเท่านั้น ถ้ากระไร แม้เราก็พึงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นปานนี้ ยังโลกพร้อมทั้งเทวโลกให้ข้ามจากโอฆะใหญ่ สุเมธบัณฑิตตั้งใจด้วยอภินิหาร

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทีปังกรเสด็จมาประทับยืน ณ เบื้องศีรษะของสุเมธบัณฑิตนั้น ทรงทราบความสำเร็จวารจิตของสุเมธบัณฑิตนั้น ทรงพยากรณ์ความเป็นไปทั้งหมด พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า จากนี้ไปในที่สุด สี่อสงไขยยิ่งด้วยแสนกัป สุเมธบัณฑิตนี้จักเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโคดม ดังนี้แล้วหลีกไป

จากนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแม้อื่นทรงอุบัติขึ้นตามลำดับ มีพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าโกณฑัญญะเป็นต้น ฯ จนถึงพระทศพลพระนามว่า กัสสปะ เป็นที่สุด ทรงพยากรณ์พระมหาสัตว์ว่า จักเป็นพระพุทธเจ้า สุเมธดาบส เมื่อเห็นว่า “บารมี” เหล่านั้น ตั้งอยู่ในหทัยแล้ว จึงอธิษฐานบารมีแม้ทั้งหมดกระทำให้มั่นพิจารณาอยู่ แล้วพิจารณากลับไปกลับมา ยึดเอาบารมี 10 อุปบารมี 10 ปรมัตถบารมี 10 คือการบริจาคสิ่งของภายนอกเป็นทานบารมี การบริจาคอวัยวะเป็นทานอุปบารมี การบริจาคชีวิตเป็นทานปรมัตถ์บารมี ที่ตรงท่ามกลางแล้ว สุเมธดาบส ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าทุกประองค์ นับจากพระทีปังกรเป็นต้นมา จึงได้ชื่อว่าผู้สำเร็จสมความมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ

จึงขอเชิญทุกท่านไปร่วมบุญธำรงธรรมอุปถัมภ์เทศน์ โดยพร้อมเพรียงกัน ณ วัดทุ่งเศรษฐี เมืองเลควูด แคลิฟอร์เนีย 11911 207Th Street Lakewood CA 90715 โทรศัพท์ (562) 382-3767 กำหนดการ ทุก ๆ วันอาทิตย์ถ้วนไตรมาสนี้ ภาคเช้าสวดมนต์ทำวัตรเช้า / ทำบุญตักบาตร / ภาคบ่าย ฟังพระธรรมเทศนา ทศชาติกถา อาทิตย์ละกัณฑ์ รูปขอจำเริญพร