ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



จะไปสู่ฝัน อย่าหวั่นไหวด้วยแรงลม

ขอความนอบน้อมจงมีในพระรัตนตรัย จำเริญพรสาธุชนท่านผู้เจริญทั้งหลาย คนยุคปู่ตา - ย่ายาย เทียบบุคคลกับวัตถุไว้น่าขบคิด เป็นคำพูดธรรมดาๆ นะ หากแต่ซ่อนแฝงความลึกซึ้งไว้ในธรรมระดับปรมัตถ์เลยที่เดียว เป็นเรื่องชั่วยั้วอารมณ์ความรู้สึก เรื่องความถือมั่นความมีความเป็น ถึงกับโกรธแค้น จนกลายเป็นความผูกใจเจ็บ อาฆาตมาดร้าย พยาบาทจองเวร ก็ได้ หรืออีกหลายอารมณ์ นั้นหมายถึงต่างสัมผัส ต่างความรู้สึก ต่างอารมณ์ เพราะกรรมและวาระนั้นต่างกัน หรือเรียกว่าต่างกรรมต่างวาระ คำที่กล่าวนั้น เช่น

- อย่ามายั่วโมโห นะ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน

- อย่าให้เหลืออด นะ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน

- อย่ามาแทะโรมเชิงเกี้ยวพาราสี นะ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน

คำเหล่านี้ จริงๆ มีกล่าวไว้หลายที่ในพระพุทธศาสนา ซึ่งหมายถึงเป็นวัฒนธรรมรากเหง้ามาแต่ครั้งพุทธกาลมาเลยที่เดียว ยกตัวอย่างเรื่องพระละกุณฏกภัททิยะเถระ มีข้อความแสดงว้าว่า

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระละกุณฏกภัททิยะเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "เสโล ยถา" เป็นต้น ว่า พระเถระถูกล้อเลียนเพราะเป็นคนร่างเล็กบ้าง อันโน้นเล็กอันนี้เล็ก พระเถระถูกล้อเลียนต่างๆ นานา

บางทีสหธรรมิกไม่ว่าจะเป็นสามเณร เป็นพระนวกะพระใหม่พระหนุ่ม เป็นต้น ซึ่งเป็นปุถุชน เห็นพระเถระแล้ว จี้เอวบ้าง จับศีรษะ จับหู จมูก ล้อเลียนยั่วอารมณ์ พลางกล่าวว่า "หากมีสีกามานุ่งน้อยห่มน้อย ท่านพระเถระจะกระสันไหม ยังยินดีแน่นแฟ้น ในพระศาสนาหรืออย่างไร ?

พระเถระไม่โกรธ ไม่ประทุษร้ายในสหธรรมิกเหล่านั้นเลย.

ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า "ผู้มีอายุทั้งหลาย พวกท่านจงดูเถิด สหธรรมมิกมีสามเณรเป็นต้น เห็นพระละกุณฏกภัททิยะเถระแล้ว พากันไปรังแกอย่างนั้นอย่างนี้, ท่านไม่โกรธ ไม่ประทุษร้ายในสหธรรมิกเหล่านั้นเลย."

พระขีณาสพเป็นดังศิลา จะเป็นไปได้ไหมว่าวัฒนธรรมทางความคิดของคนยุคปูตา - ย่ายายนั้น เข้าใจธรรมชาติของจิตแห่งพระอรหันต์ได้อย่างลึกซึ้ง อีกคำนั้นที่เคยได้ยินคำห้ามลูกห้ามหลานที่เป็นเพศหญิงว่า "อย่าไปใกล้พระนะลูกเดี๋ยวบาป" โดยมิได้ให้เหตุผลอย่างอื่นเลย จนบางครั้งพอหลานถามว่าทำไมถึงบาปละยาย ยายก็ปรามว่าอย่ามาถามนะ บอกว่าบาปก็คือบาป ความลับก็ยังเป็นความลับที่ไม่ถูกเปิดเผยตลอดมา ต่อมาปัจจุบันการศึกษาทำให้เข้าถึงเหตุผลทั้งหมด เรียกว่าไม่มีความลับกับลูกหลานอีกต่อไป

เรื่องในพระละกุณฏกภัททิยะเถระ พระศาสดาตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพูดอะไรกัน?" ซึ่งพอทราบปัญหาแล้วพระองค์จึงตรัสว่า "อย่างนั้น ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาพระขีณาสพ ย่อมไม่โกรธ ไม่ประทุษร้ายเลย เพราะท่านเหล่านั้นไม่หวั่นไหว ไม่สะเทือน เช่นกับศิลาแท่งทึบ"

ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม ตรัสพระคาถานี้ว่า :-

เสโล ยถา เอกฆโน วาเตน น สมีรติ

เอวํ นินฺทาปสํสาสุ น สมฺมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา.

ภูเขาศิลาล้วน เป็นแท่งเดียว ย่อมไม่สะเทือนด้วยลม

ฉันใด, บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมไม่เอนเอียงในเพราะ

นินทาและสรรเสริญฉันนั้น.

ล้มแล้วลุก ก้าวเดิน ไปข้างหน้า
ดีกว่ามา โศกเศร้า ไม่เอาไหน
หากก้าวเดิน มีโอกาส ก้าวหน้าไกล
หากล้มแล้ว หมดใจ ไร้อนาคต ฯ

โลกธรรม 8 ธรรมดาของโลก เป็นธรรมชาติที่ครอบงำสัตว์โลกและสัตว์โลกต้องเป็นไปตามธรรมดานี้ 8 ประการ โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ พอใจของมนุษย์ เป็นที่รักเป็นที่ปรารถนา

- ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ ความไม่พอใจของมนุษย์ ไม่เป็นที่ปรารถนา

- เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทาว่าร้าย ทุกข์ทรมานใจ "จิตของบัณฑิต เหมือนภูเขา"

สรุปจิตของพระอรหันต์ ในพุทธภาษิตนี้กล่าวไว้แปลใจความได้ว่า "ภูเขาแท่งทึบ ไม่สั่นสะเทือนเพราะลมฉันใด บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวในนินทาและสรรเสริญ ฉันนั้น" ดังนั้นจะไปสู่ฝัน อย่าหวั่นไหวด้วยแรงลม ใครจะยั่วยุ่ กล่าวหาว่าร้าย ชั่งได้ให้ชั่ง ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ดูแลคนในครอบครัว ดูแลพ่อแม่ตลอดถึงกตัญญูปุพการี ฯ

ล้มแล้วลุกเร่งให้ เร็วไว ท่านเอย
ไปต่อโอกาสไกล ยิ่งแท้
ล้มแล้วไม่ใส่ใจ หยุดนิ่ง ตรอมตรม
จมอยู่มิอาจแก้ พลิกฟื้นคืนฝัน ฯ


ฝากข่าวประชาสัมพันธ์

บุญสงกรานต์ จะมาถึง ขอฝากบุญฝากงานผ่านประชาสัมพันธ์เพจนี้ ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี "สะสมบุญปลดหนี้ที่ดิน" วัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี เมืองแลนแคสเตอร์ แคลิฟอร์เนีย กองบุญละ $10 กำหนดการ วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2566

อีกประการหนึ่ง ขอเชิญชวนมวลชนศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าถวายบำรุงค่าน้ำ - ค่าไฟ ตลอดปีนักนักษัตร 2566 กองละ $10 เหรียญ หรือตามกำลังอันจะพึงกระทำได้ ส่งเช็คร่วมทำบุญได้ที่ 6763 E AVENUE H., LANCASTER, CA 93535-7849 Donation check payable to "Buddhist Meditation Society" ส่วนท่านที่ต้องการทำบุญ Sand money with Zelle To: 562 249 3789 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร : 562 249 3789 รูปขอจำเริญพร