ท่านสาธุชนผู้สนใจใฝ่ธรรม ทั้งหลาย สภาพอากาศโลกเรากำลังแปรปรวน หรือธรรมชาติทั้งหมดที่ผ่านมานั้นเป็นเช่นนี้ ตลอดมาโลกเราเปลี่ยนแปลงแปรปรวนเช่นนี้ใช่หรือไม่ ความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ก็ดี เรื่องภูมิศาสตร์ก็ดี หรือเรื่องใดๆ ที่มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคน เรื่องเศรษฐศาสตร์สังคม ส่วนใหญ่ทำให้จิตใจของเราฟุ้งซ่านแปรปรวนเป็นเบื้องต้นทั้งสิ้น ยิ่งถ้าเราไม่มีหลักพิจารณาดูใจก็จะทำให้จิตใจฟุ้งซ่านไปใหญ่ วันนี้มีข้อแนะนำให้ลองมา "ปิดวาจา ภาวนาดูใจ" ดูใจ ขึ้นไปให้ถึงปัญญา คือเห็นความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือการเห็นกฎพระไตรลักษณ์กันเลย
การปิดวาจา
ในขณะที่ใจกำหนดรู้อยู่ สติก็ทำงานอยู่หรือเจริญอยู่นั้น จิตตานุปัสสนา หนึ่งในสติปัฏฐาน 4 เป็นองค์ธรรมที่ก่อให้เกิดคุณประโยชย์มากมาย คือถ้าปิดวาจาได้เบื้องต้น ผลประโยชน์ก็จะได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย คือได้ภาวนาดูใจอย่างเต็มที่ อย่างน้อยๆ ให้มีข้อตกลง มีกำหนดเวลา และบอกเจตนาที่จะปฏิบัติกับคนรอบข้างไว้ให้เป็นที่เข้าใจร่วมกัน เพราะมิฉะนั้นจะเกิดปัญหาไม่ทราบเจตนาอันเป็นกุศล
สติปัฏฐานนั้น 4 อย่าง
กายานุปัสสนา เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา ธัมมานุปัสสนา สิ่งที่ควรทำความเข้าใจในวันนี้คือ "ปิดวาจา ดูใจ" ซึ่งจัดเข้ากับหลักกัมมัฏฐานคือยกจิตขึ้นพิจารณานั่นเอง
ดังนั้นเมื่อปิดวาจา ศีลสิกขา สมาธิสิกขา ปัญญาสิกขา กระบวนการเรียนรู้จะเกิดขึ้นทั้งด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ แล้วกระบวนการเช่นนี้จำเป็นต้องมีครูบาอาจารย์คอยแนะนำสั่งสอนหรือไม่ ตอบว่าขึ้นอยู่ในภูมิรู้ ภูมิธรรม ภูมิปัญญา ของแต่คน ถ้าใครได้อ่านบทความนี้แล้วให้ลองนำไปปฏิบัติดู ถ้าไม่เข้าใจอย่างไรนั้นให้เข้าไปหาปรึกษาท่านผู้รู้ได้ ทั้งที่เป็นฝ่ายฆราวาสหรือฝ่ายพระสงฆ์ได้ทั้งนั้น
ประโยชน์เบื้องต้นของการปิดวาจา
การปิดวาจาเพื่อพัฒนาจิต และได้ประโยชน์สูงสุดนั้น จำเป็นต้องตัดสิ่งอันเป็นปลิโพธต่างๆ ออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น
- ตัดการดูหนังดูละคร ข่าวสารการบ้านการเมือง ฯ
- ตัดการใช้โทรศัพท์ การติดต่อสื่อสาร ฯ
- ตัดการดู ยูทูป การเล่นเฟาบุ๊ค การส่งไลน์ ฯลฯ
ตอนนี้ให้กลับมาดูจิตของเราแทนว่า กระทบสัมผัสอะไร พิจารณาไปว่าตากระทบรูป หูฟังเสียง ลิ้นลิ้มรส กายต้องสัมผัส เหล่านี้คืออยู่ในกระบวนการดูใจทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งที่กล่ามานั้นล้วนรวมลงที่ใจเป็นผู้รู้ และทุกสิ่งที่ถูกรู้นั้นตกอยู่ในกฎพระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั่นเอง
ทีนี้ ถ้าดูจิตดูใจและลงมือปฏิบัติแล้ว อานิสงส์ที่เกิดนั้นผู้ปฏิบัติย่อมรู้ได้เข้าใจชัด ก็ทำความตั้งใจในการปฏิบัติ ฝึกหัดพัฒนาดูก็รู้ได้ว่า สภาวะหรือสถานะทางใจนั้นรู้สึกอย่างไร เช่น
- รู้ชัดแล้วว่าจิตเป็นกุศลพ้นจากความฟุ้งซ่าน
- รู้ชัดแล้วว่าจิตโล่ง โปร่ง เบา บรรเทาความคิด
- รู้ชัดแล้วว่าจิตมีปีติเป็นอาหาร เกิดความเอิบอิ่มปราโมทย์
ยิ่งกว่านั้น กรรมกิเลสอันเป็นสิ่งเศร้าหมอง ไม่ผ่องใส ก็เสื่อมไปจากการปฏิบัติปิดวาจาภาวนาดูใจ รู้บาป รู้บุญ รู้คุณ รู้โทษ รู้ประโยชน์ไม่ใช่ประโยชน์ รู้กาละเทศะ ตลอดรู้ความจริงแจ้งชัด รู้ขัดเกลา นี้คืออาสงส์จากการดูจิตดูใจในขณะปฏิบัติ นั่นแล
เพื่อให้ความรู้ได้ต่อยอดก็ลองนำไปปฏิบัติกันนะ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความเข้มแข็ง ความเข้มแข็งเริ่มที่จิต เมื่อจิตปรารภความเพียร ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล อยู่ภายใต้การปฏิบัติของเรานั่นเทียว รูปขอจำเริญพร
ขอเชิญร่วมทำบุญเทพื้นหินคลุกยางมะตอย พอดีมีบริษัทมาเสนอให้ free 200 square feet พอเทแล้วดูเข้าท่าดี เลยให้เขาเทเต็มพื้นที่หน้าศาลาซุ้มเสมาเศรษฐีเลย แต่ว่าส่วนต่างต้องจ่ายเพิ่ม รวมเป็นปัจจัย $1,500 ดอลล่าร์ เครดิตได้ 2 เดือน
จึงขอบอกบุญผู้มีใจกุศลศรัทธาเป็นเจ้าภาพร่วมกัน (พูดให้งาม ตารางฟุตละ $9.99) โดยพร้อมเพรียงกัน กรุณา Donation check payable to "Buddhist Meditation Society" หรือ อีกบัญชีหนึ่งชื่อ Wat Phrathat Thongsethi ส่งไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้นี้ 6763 East Avenue H. Lancaster CA 93535 ส่วนท่านที่สะดวก Transfer money with Zelle ก็โอนด้วยเบอร์ (562) 249 - 3789 พร้อมนี้ขออนุโมทนาบุญ มา ณ โอกาสนี้ด้วย เทอญ
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012