ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



มาร อุปสรรคกั้นความดี

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้นำสรรพสัตว์ข้ามพ้นอาสวะ เข้าสู่แดนเกษมคือพระนิพพาน อันเป็นแดนบรมสุขด้วยเศียรเกล้า ท่านพุทธบริษัทสาธุชนทุกท่าน ผจญมาร หรือ มารผจญ อาจหมายถึงบุคคลนั้นกำลังลำบาก กำลังมีปัญหา กำลังมีเรื่องทุกข์ร้อน หรือกำลังมืดมน มืดแปดด้าน สิบด้าน อยู่ก็ได้นะ


อำนาจแห่งมาร

มาร คือ สิ่ง กีดกั้นความดีงาม กีดกั้นบุญกุศล มาร คือพลังด้านลบที่ล้างผลาญหรือทำลายคุณงามความดี ของบุคคล ชักนำให้คนกระทำสิ่งที่ไม่งาม เป็นอุปสรรคปิดหูปิดตาไม่ให้เห็นความดีที่ถูกที่ควร ทำให้คนดีๆ กลายเป็นคนเสียคน มาร อำนาจอิทธิพลดลจิตดลใจไม่ให้จริงตามความเป็นจริง ได้แก่

1. ขันธมาร มารคือเบญจขันธ์ ได้แก่ ขันธ์ 5 คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ บางคนมารเข้าสิ่ง ทำให้หลงรูปหลงนามว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา หลงรัก หลงชัง หลงแบกหามขันธ์ 5 อยู่ ไม่เป็นอิสระแก่ตน ความหลงทำให้ไม่ยอมรับความจริงเมื่อมีคนมาบอกว่า นี่เธอดูแก่ชราไปมากเลยนะ โกรธเขาคนที่มาบอกว่าแก่เป็นฟืนเป็นไฟ ยึดมั่นถือมั่น ไม่ปลดปลงปล่อยวาง เป็นต้น

2. กิเลสมาร มารคือกิเลส กิเลส คือ สิ่งที่เกิดขึ้นภายในใจ แล้วทำใจของคนให้เศร้าหมอง เร่าร้อนขุ่นเคืองไปตามอำนาจของใจ กิเลสคือต้นเค้า ทำให้เกิดความโลภ ความโกรธ และความหลง กิเลสเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ย่อมบังคับ กาย วาจา ให้ทำ พูด คิด ไปตามอำนาจที่ใจปรารถนา ย่อมนำมาซึ่งความทุกข์ความเดือดร้อน กิเลสมีอำนาจสกดจิตให้ตกต่ำทั้งในปัจจุบันและภายภาคหน้า พลาดโอกาสที่จะทำดี มีความสุข

3. อภิสังขารมาร มารคืออภิสังขาร ความเอาจิตไปปรุงไปแต่ง ว่าสิ่งนี้ใช่ สิ่งนี้ชอบ หรือสิ่งนี้ไม่ใช่ สิ่งนี้ไม่ชอบ มารคือบุญ มารคือบาป ยคดติดจนหลงในภพ เวียนวนอยู่ในวัฏฏะ ปิดกั้นมิให้บรรลุคุณธรรม ปิดกั้นไม่ให้คนเข้าถึงกระแสพระนิพพาน พระอรหันต์ท่านจึงต้องละทั้งบุญบาปเสียก่อนจึงจะบรรลุนิพพานได้ จึงเรียกว่า "ผู้มีบุญและบาปอันละได้แล้ว " อภิสังขาร ท่านแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ

- ปุญญาภิสังขาร อภิสังขารคือบุญ

- อปุญญาภิสังขาร อภิสังขารคือ บาป

- อเนญชาภิสังขาร อภิสังขารคือ อเนญชา ความไม่หวั่นไหว

4. มัจจุมาร มารคือความตาย หมายถึงการแตกทำลายแห่งชีวิตอินทรีย์ อันเกิดขึ้นแก่คนสัตว์ทั่วไป ความตายถึงแม้ว่าจะเป็นธรรมดาของชีวิต แต่บางคนกำลังทำความดี กำลังทำงานรุ่งเรืองก้าวหน้า กำลังร่ำรวยเงินทอง อันจะอำนวยผลให้เกิดขึ้นแก่ตน และคนอื่นอยู่ จู่ๆ ก็ถูกความตายมาทำลายชีวิตเขาให้จบลง ย่อมทำให้เขาหมดโอกาสที่จะทำความดี ดังนั้นท่านจึงเรียกอุปสรรคความตายนี้ว่าเป็น "มัจจุมาร หรือ มัจจุราชมาร"

5. เทวปุตตมาร มารคือเทวบุตร ก็คำว่าเทวบุตร โดยทั่วไปท่านหมายถึงเทวดาที่เป็นเพศชาย คู่กับเทพธิดา แต่เมื่อดูจากหลักฐานในที่อื่นด้วยจะพบว่า เทวปุตตมารอาจแบ่งออกเป็น สองประเภทคือ

- บุคคลผู้เป็นพาล ไม่เป็นมิตร โดยเฉพาะท่านที่เป็นใหญ่ ผู้มีจิตใจถูกความริษยาพยาบาทครอบงำ รังแก กีดกันผู้น้อยไม่ให้ก้าวไปในทางชีวิตอย่างราบรื่น รวมถึงคนพาลผู้หักรานประโยชน์ทั่วไปด้วย

- เทวบุตร เทพธิดา อมนุษย์ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นพาล คอยล้างผลาญ ขัดขวางคน ไม่ให้ทำความดี แนะนำให้ทำความชั่ว อันเป็นการตัดโอกาสแห่งการทำความดีของบุคคล

จากเรื่องมารทั้ง 5 ประเภทนี้ เป็นการชี้ให้เห็นว่า มารนั้นหามีได้เฉพาะกิเลสเพียงอย่างเดียวไม่ มารที่มาผจญพระพุทธเจ้าตอนก่อนตรัสรู้อาจจะมีทั้งขันธมาร กิเลสมาร และเทวปุตตมาร และถ้าพวกเราเข้าใจเรื่องมาร เข้าใจความทุกข์ เข้าใจอุปสรรค ก็ยังตนของตนนั้นมิให้ตั้งอยู่ในความประมาท ความไม่ประมาทจักนำเราทั้งหลายก้าวไปสู่เป้าหมาย ก้าวไปสู่ความสำเร็จยิ่งใหญ่ สมปรารถนาทุกประการ

ขอคุณพระคุ้มครองท่าน ขอบุญปกป้องรักษาท่าน ขอความปรารถนาของท่าน จงสัมฤทธิ์ผล และขอให้ทุกท่านทุกคนเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร ธรรมะสารสมบัติทุกประการด้วย เทอญ ธรรมะเมตตา : โดยหลวงพ่อไสว ชมไกร เจ้าวาสวัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี รูปขอจำเริญพร