ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ต้องรออีกนานเท่าใด กรรมถึงจะไม่ส่งผล

กรรม ใดใครก่อไว้ บาปนำ
ชั่ว ด้วยเหตุแห่งกรรม ส่งให้
ร้าย กาจขาดคุณธรรม ยังสู่ อบาย
นัก เลงยากแก้ได้ เสพด้วยคุ้นชิน ฯ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นสัพพัญญู ผู้เป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ขอความเจริญในธรรมจงปรากฏแด่สาธุชน ญาติโยม ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ทุกคนทุกท่าน

หลักแห่งเหตุและผลนี้ ญาติโยมต่างรู้และยอมรับถึงความจริงเสมอมา เหตุต้น ผลกรรม ในทางพระพุทธศาสนานั้นเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเชื่อว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องหลักกรรม และไม่ว่าใครจะทำอะไร ทำดี ทำเลว กรรมดำ กรรมขาว คนผู้นั้นต้องรับกรรมที่ตนกระทำเป็นผลสนองตอบแทนแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว แล้วกรรมที่ไม่มีผล ไม่ส่งผลมีอยู่จริงหรือไม่ ?

1. กัมมสัทธา กรรมมีอยู่จริง

2. วิปากสัทธา ผลของกรรมมีจริง

3. กัมมัสสกตาสัทธา สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของๆ ตนจริง


กรรมให้ผลต่างกัน มี 4 ลักษณะ

1) ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม กรรมให้ผลทันที ที่นี่ เดี๋ยวนี้ วันนี้ พรุ่งนี้ เดือนนี้ ปีนี้ หรือชาตินี้ เช่น ประพฤติชั่วผิดศีล ผิดธรรม อย่างโหดร้ายทารุน ไม่เคารพยำเกรง ต่อบาป บุญ คุณ โทษ

- ทางกาย พาตนเอง พาพรรคพวกเพื่อนพ้องไปปล้นฆ่า ไล่ยิงไล่ฟัน เบียดเบียนชีวิต เบียดบังเอาทรัพย์สินของเขามาเป็นของๆ ตน ฉุดพล่าบุคคลที่เป็นที่รักผู้อื่น ผิดลูก ผิดผัว ผิดเมีย ด้วยข่มขืนใจ ผลกรรมให้ผลวันนี้ พรุ่งนี้ หรือชาตินี้แน่นอน

-ทางวาจา กล่าวคำสัปดี้สีปะดน อนาจาร, ลามก, หยาบคาย, หลอกล่วงไร้สัจจะ โกหกพกลม ต่อบุคคลอื่นด้วยคำดูถูก เหยียดหยาม ดูหมิ่น เช่นเดียวกัน ผลกรรมให้ผลวันนี้ พรุ่งนี้ หรือชาตินี้แน่นอน ข้อนี้เข้าตำรา ตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ยังไรก็โดนเอาคืน

2) อุปัชชเวทนียกรรม กรรมบางอย่างไม่ได้ให้ผลทันทีทันใด แต่คิวต่อไปอย่างไรก็ต้องเจอ เรียกว่า กรรมให้ผลชาติหน้า ภพหน้า แต่ก็ไม่นานนักหรอก เพราะว่าชาจิหน้านั้น มันก็คือ พรุ่งนี้ เดือนหน้า หรือไม่ก็ปีหน้า เพียงแต่ว่ามันจะช้ากว่าข้อแรก เพราะคดีมันเยอะจึงต้องรอคิวต่อไป

ยกตัวอย่าง : เช่น ไปทำธุระกรรมรอฟังคำตัดสินพิพากษาคดีในวันที่ศาลนัด เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกไปตามลำดับคิว ไม่นานเดี๋ยวก็มาถึงนักเลงคนเก่ง อย่างที่ไม่มีข้อสงสัยเป็นอย่างอื่นได้เลย เป็นต้น

3) อปราปรเวทนียกรรม เรียกว่ากรรมให้ผลในภพต่อๆ ไป ก็เหมือนคดีบางคดี ได้รับการพิพากษาในศาลชั้นต้น แล้วยังต้องมีชั้นอุทร ปีหน้า ชาติหน้าก็แล้ว ก็ต้องรอชาติหน้าภพหน้าอีกต่อๆ ไป ช้าไปบ้าง แต่อย่างไรก็ต้องถึง เพราะคิวมันยาวใจเย็นๆ ข้อนี้เรียกว่ารอคิวถึงชั้นฏีกาว่าอย่างนั้น

4) อโหสิกรรม กรรมที่มีอยู่จริง แต่เป็นกรรมที่หมดโอกาสให้ผล เพราะว่ารอเท่าไรๆ ก็ไม่มีโอกาสที่กรรมนั้นๆ จะสนองผลเสียที ข้อนี้ทำความเข้าใจดีๆ นะ

"รอคอยเห็นกรรม สนองกรรม /

แต่กรรมไม่สนองกรรม /

คอยถ้าเห็นกรรมสนองกรรมอยู่นานแสนนาน /

แต่ไม่เห็นกรรมสนองกรรม /

เลยเบื่อหน่ายที่จะคอยเห็นกรรมสนองกรรม /

สุดเซ็ง เลยปล่อยผ่านไปแล้วแต่เวรแต่กรรม /

กรรมนั้นเลยหมดโอกาสที่จะให้ผล ก็เลยเป็นอโหสิกรรม"

เอาหละ..ข้อนี้ ไม่ไหวจะเครียร์ นี่ก็เริ่มจะงงๆ ตัวเองแล้ว แต่ก็เข้าใจและทราบถึงอารมณ์แห่งการบรรยาย เพราะบางทีมันก็เป็นศิลปะในการถ่ายทอดความคิด อธิบายเหตุผลข้อนี้ว่า ทำไมกรรมถึงเป็นอโหสิกรรม หรือ ทำไมกรรมถึงไม่ให้ผล

ยกตัวอย่าง : เช่น บุคคลผู้กระทำกรรม ได้สร้างกรรมใหม่ที่มีผลแรงกว่าอยู่เรื่อยๆ ทำให้ไปลบล้างกรรมเก่าที่ทำมา เช่นเมื่อก่อน ทำแต่เรื่องเลวร้ายต่ำทราม เดินบนถนนธุระกิจสีเทา แต่ภายหลังทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ จนเป็นที่ลบล้าง กรรมจึงหมดโอกาสให้ผล เหมือนได้รับนิรโทษกรรมไปโดยอัตโนมัติ อย่างครูบาอาจารย์ท่านได้ยกตัวอย่างกรณีพระองคุลีมาล ทำกรรมชั่วมามากมาย แต่ได้พบพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรม และได้บรรลุธรรมเสียก่อน กรรมชั่วเลยไม่ทันส่งผล เรียกว่ากรรมหมดกำลัง วิถีกรรมกับเป้าหมายอยู่ไกลกันคนละฝั่ง อย่างนี้ก็เป็นอโหสิกรรม

กรรม หรือการกระทำ กรรมสำเร็จแล้ว แก้ไม่ได้ เช่น ชีวิตที่ถูกประหาญแล้ว ตายแล้ว ไม่สามารถทำให้ฟื้นขึ้นมาได้ เวลา สายน้ำ เวลา นาที ไหลไป หมุนไป ไม่กลับย้อนคืนฉันใด แม้กรรมที่ไม่มีผล ไม่ส่งผลมีอยู่จริง ก็อย่าหาทำ

ไม่มี กรรมใด ไม่ส่งผล
รวยจน ผลกรรม ย้ำเทียมเท่า
ทุกข์เกิด ทุกข์ดับ นับเรื่องราว
ทุกคราว เกิดก่อ ที่พอใจ ฯ


บุญประชาสัมพันธ์

วันมาฆบูชา วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันที่พระภิกษุ 1,250 รูป มาประชุมพร้อมองค์ 4 โดยมิได้นัดหมาย เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต มาฆบูชาปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ขอเชิญพุทธศาสนิกชน ร่วมกิจกรรมทำบุญบนลานธรรม Griffith Park ณ นครลอสแองเจลิส

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขอเชิญพร้อมกันที่วัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี เมืองแลงแคสเตอร์ กิจกรรมแห่งบุญกุศลยิ่งใหญ่ เวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา สมาทานศีล เจริญภาวนา ฟังพระธรรมเทศนา สั่งสมอบรมพัฒนาจิตใจให้แจ่มใสเบิกบาน

ขอทุกท่านเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยคือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร ธรรมะสารสมบัติทุกประการด้วย เทอญ รูปขอจำเริญพร