ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ถูกต้องไหม ที่แม่ยกลูกถวายพระ (?)

ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย การศึกษาการอ่านทำให้มองโลกได้กว้าง เข้าใจรายละเอียดสิ่งต่าง ๆ ได้ถ่องแท้ยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้เกิดเชาว์ปัญญา เกิดความพรั่งพรูในเหตุและผล ความรู้นักปราชญ์ชาติเมธี เป็นความรู้ดีที่สามารถเป็นที่พึ่งทางความคิด แนะนำแนวทางให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างสูงได้ ว่ากันว่า ชาวพุทธเราผูกพันกับวัดกับศาสนามาตั้งแต่วันเกิดถึงวันตายนั้นเป็นความจริง ซึ่งมองจากวัฒนธรรมวิถีชาวพุทธนั้นแล้วหลวงพ่อเชื่อว่ามีอยู่จริง


วิถีชาวพุทธ

การสอนให้ลูกน้อยรู้ธรรมะ ตั้งแต่นั้นเท่ากับเป็นการฉีดวัคซีนทางใจให้เขา มีภูมิคุ้มกับกับโลกภายนอกมากขึ้น ยิ่งหาคุณพ่อคุณแม่ ใส่ใจวางแนวทางให้ลูกน้อยมีความแข็งแรงทางจิตใจมากขึ้น เพราะลูก ถือเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ และเติมเต็มให้ครอบครัวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และพ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม ถึงอย่างน้อยที่สุด ต้องไม่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับตนเองและผู้อื่น


ธรรมะในครอบครัว

"ธรรมะ" จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่จะใช้เป็นเครื่องมือขัดเกลาจิตใจให้ลูกน้อยเป็นคนดีได้ พรหมวิหาร 4 คือธรรมะดี ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรนำมาสอนลูกน้อย

"ครอบครัว" เริ่มต้นด้วยความรัก สมาชิกในครอบครัวจึงควรหมั่นบอกรักกัน เช่น พ่อแม่บอกรักลูก ลูกก็บอกรักพ่อแม่ หรือการแสดงออกอื่น ๆ ที่แสดงถึงความรัก เช่น การพูดคุยหยอกล้อเป็นต้น


ความหมายของพรหมวิหาร 4

- พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ หลักธรรมนี้ได้แก่

เมตตา ความรักใคร่ปรารถนาให้ลูกนั้นได้รับความสุข - กายสุขใจ เติบใหญ่สมบูรณ์

กรุณา ความรักใคร่ปราถนาให้ลูกนั้นได้พ้นจากความทุกข์ยากลำบากตรากตรำ

มุทิตา ความพลอยยินดีเมื่อลูกนั้นได้ดีมีความสุขสำเร็จในประการต่าง ๆ

อุเบกขา ความรู้จักวางเฉย คือการเคารพสิทธิต่อการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น


"การยกลูกให้พระ"

หรือพิธียกลูกให้พระ (หมายถึงพระสงฆ์) หลวงพ่อเข้าใจว่ามีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลแล้วนะ ถ้าจำไม่ผิดคิว่ามีเล่าไว้ในอรรถกถาธรรมบท (ธัมมปทัฏฐกถา) เดี๋ยวจะนำมาเล่าให้ฟัง และโบราณบัณฑิตก็น่าจะผูกโยงมาจากเรื่องนี้กระมัง ตอนที่หลวงพ่ออยู่เมืองไทย ที่เมืองหล่มสัก นังหวัดเพชรบูรณ์ ก็เคยมีญาติโยมนำลูกมาถวาย ทั้งเป็นเด็กชายและทั้งเป็นเด็กหญิง แต่ส่วนมากเป็นเด็กผู้ชาย ที่พูดได้เต็มคำ คือ หลวงพ่อประสบมาด้วยตนเอง (ความจริงคือไม่มีลูกจริง ๆ กับชาวบ้านเขา มีแต่ลูกที่ชาวบ้านเขายกให้ ทำให้หลวงพ่อรักทุกคนเหมือนลูกเหมือนหลานจริง ๆ)

- คือบางที่เด็กน้อยที่เกิดมานั้นมันเลี้ยงยาก เช่น เวลานอนมักจะนอนสดุ้งเดิด คือนอนหลับ ๆ อยู่ดี ๆ ก็ผวาตื่นร้องเสียงดังลั่นบ้านลั่นทุ่ง

- เด็กน้อยบางรายมักจะเจ็บไข้ได้ป๋วย 3 วัน ดี 4 วันไข้ 5 วันเข้าโรงพยาบาล เหลืองโซเป็นตาลขโมย

- ส่วนเด็กน้อยบางรายเป็นความตั้งใจของพ่อแม่ว่าถวายพระเพื่อให้เป็นมิ่งมงคลแก่ลูก เพื่อให้เป็นเด็กดีมีบุญยาวาสนานำ เป็นสิริมงคลให้คุณพระคุณเจ้าช่วยปกป้องคุ้มครอง เชื่อว่าจะได้เป็นคนรู้ผู้ฉลาดทางเชาว์ปัญญา เป็นต้น


ยกลูกให้พระศาสนา

พ่อแม่ผู้มีศรัทธามั่นคงในบวรพระพุทธศาสนา ได้พยายามปลูกฝั่งอบรมเลี้ยงดูลูก เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในสืบต่องานพระศาสนา เพื่อให้ได้ซึมซับวิถีพุทธวิถีธรรมอย่างลึกซึ้ง การปลูกจิตวิญญาณแห่งการตื่นรู้ให้กับลูก เพื่อสืบต่อศาสนาธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าเท่าที่ลูกจะสามารถกระทำได้ โดยการพ่อแม่ถ่ายทอดคำสอนของพระศาสดา ให้ลูกได้ศึกษาเรียนรู้เชิงลึก นี้กล่าวถึงพ่อแม่ผู้มีศรัทธาอย่างมั่นคง คือ แม้อุทิศบุตรสาวบุตรชายเพื่อให้รักษาส่งเสริมพระพุทธศาสนาก็ย่อมทำได้ ปลูกศรัทธาให้ลูก มั่นคงต่อพระพุทธศาสนาอย่างเต็มกำลัง นี้คือ ยกลูกให้พระศาสนา

- ถ้าเป็นลูกชาย ครั้งหนึ่งต้องให้ได้บวช เรียน เขียน อ่าน ให้ได้ปฏิบัติรักษาพระธรรมวินัยของ พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น

- ถ้าเป็นลูกสาว ก็ให้ได้อุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนา ส่งเสริมการศึกษาพระภิกษุ - สามเณร ให้ได้รับโอกาสศึกษาธรรม - บาลี อักขรวิธีที่ทรงไว้แห่ง "นวังคสัตถุสาสน์" เป็นต้น


ภูมิปัญญาอันลึกซึ้ง

ความหมายของการยกลูกตนให้เป็นลูกพระ ภูมิปัญญาอันลึกซึ้งของบรรพชน จะเป็นพิธีที่มีมาในครั้งพุทธกาลหรือไม่ก็ตาม หรือจะเป็นนิยามของปราชญ์ยุคหลังก็ไม่เป็นไร หากได้มองเห็นคุณธรรม และการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ครูอาจารย์ ผู้เป็นปราชญ์เมธี บุพการีผู้ชาญฉลาด หวังเพื่อรักษาและประกาศเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง คงไม่ต้องมีคำถามอีกแล้วว่า "ถูกต้องไหม ? ทำไมพ่อแม่จึงยกลูกหญิงชายถวายพระ" ความหมายปรมัตถ์ คือ ด้วยธรรม โดยธรรม ทำเพื่อลูก นี่คือความรักความเมตตา ที่เป็นคุณธรรมประจำใจของพ่อ-แม่ ทำอย่างไรที่จะปกป้องลูกของแม่ให้ปลอดภัย และเจริญก้าวหน้าอย่างสง่างาม


ลูกพระ แม่พระ พ่อพระ

นิยามความหมายว่า พ่อแม่ถวายลูกให้พระ เพื่อความเป็นมิ่งมงคลแก่ลูก และเมื่อพระสงฆ์รับถวายกุลบุตร - กุลธิดาไว้แล้ว พระท่านก็ฝากกลับคืนให้ไปอบรมเลี้ยงดู ให้เลี้ยงลูกด้วยความรักความเมตตา เอาใจใส่ปกป้องคุ้มครองด้วย "พรหมวิหารธรรม 4 ประการดังกล่าวนั้น" ส่วนของพ่อแม่ก็ต้องประกอบด้วยพรหมวิหารธรรม พร้อมได้ให้เจริญอิทธิบาทธรรม 4 ประการ คือ

1. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น

2. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น

3. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น

4. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น

อย่างนี้จึงเรียก แม่พระ พ่อพระ เพราะพ่อแม่ปลูกความรักใคร่ห่วงใย คือความเมตตากรุณา พร้อมได้กระทำหน้าที่ของความเป็นพ่อแม่ผู้ประกอบคุณธรรมอันงาม ลูกอยู่ดีมีความสุข อยู่อย่างปลอดภัย และมีเกียรติ มีความเจริญรุ่งเรืองทุกสถาน เป็นต้น ฯ


เห็นความรักของพ่อแม่แล้วชื่นใจ หลวงพ่อเลยขอเขียนยาว ๆ ลงหนังสือพิมพ์ เพื่อเป็นประโยชน์ทางสติปัญญาแก่ผู้สนใจใฝ่เรียนรู้ ขอแสดงความชื่นชม ความปีติยินดี กับครอบครัวธรรมะ ผู้เพียรปลูกคุณธรรม ให้กับลูกหลาน ให้เป็นพุทธศาสนทายาท ขอให้บุญรักษา เทวดาคุ้มครอง คุณธรรมปกป้อง ให้เจริญรุ่งเรือง รูปขอจำเริญพร