ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



เถรธรรม ประสบการณ์ที่ถ่ายทอดโดยคุณลักษณะ

ประสบการณ์ของแต่ละท่านมีเหมือนมีแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา ผู้ผ่านโลกผ่านชีวิตมามาก เชื่อว่าท่านเหล่านั้นเข้าใจโลก เข้าใจกลุ่มความคิดของคนในสังคมที่หลากหลายได้อย่างดี ชีวิตพระที่บวชมาค่อนชีวิต บางรูปหลังจากบวชแล้วนั้นดูท่านไม่เคยลำบากเรื่องปัจจัย 4 เครื่องอุปโภคบริโภคเลย บางรูปก่อนบวชหลังบวชมีแต่เรื่องทุกข์เรื่องปัญหาไม่วางเว้น อาตมาศึกษาสังเกตประสบการณ์ที่ถ่ายทอดโดยคุณลักษณะ ตามในบุคลิกภาพของแต่ละรูป มีให้เห็นทั้งเรื่องหดหู่ใจ และเรื่องชื่นชมใจ ถามว่าเพราะเหตุผลใด ๆ ที่ทำให้ต่างกัน บางท่านถึงกับบอกว่า "บุญบารมีสร้างสั่งสมไว้ต่างกัน" อาตมาได้สืบค้นถึง ภูมิฐาน ภูมิรู้ ภูมิธรรม ภูมิปัญญา พบว่าคุณธรรมที่ทำให้พระเถระอยู่สำราญในที่ทุกสถาน ที่พระเถระท่านบำเพ็ญ 10 อย่าง ในเถรสูตร มีดังนี้


เถรธรรม 10 (ธรรมที่พระเถรบำเพ็ญเพียร)

1. เถโร รัตตัญญู เป็นผู้ใหญ่ บวชนาน รู้เห็นกิจการ ทรงจำเรื่องราวไว้ได้มาก

2. สีลวา มีศีล เคร่งครัดในสิกขาบททั้งหลาย

3. พหุสสุโต เป็นพหูสูตทรงความรู้

4. สวาคตปาฏิโมกโข ทรงปาติโมกข์ รู้หลักแห่งวินัย แคล่วคล่อง ชำนิชำนาญ สามารถวินิจฉัยได้ด้วยดี

5. อธิกรณสมุปปาทวูปสมกุสโล ฉลาดในการระงับอธิกรณ์ที่เกิดขึ้น

6. ธัมมกาโม เป็นผู้ใคร่ธรรม รักความรู้ รักความจริง รู้จักรับฟังและรู้จักพูดทำให้เป็นที่ชื่นชมสนิทสนมสบายใจ น่าเข้าไปปรึกษาสนทนา และชอบศึกษา ยินดีปรีดาในหลักธรรมหลักวินัยที่ยิ่งๆ ขึ้นไป

7. สันตุฏโฐ เป็นผู้สันโดษด้วยปัจจัยสี่ตามมีตามได้

8. ปาสาทิโก จะไปจะมา มีอาการกิริยาน่าเลื่อมใส แม้เข้าไปในละแวกบ้าน ก็สำรวมเป็นอันดี

9. ฌานลาภี ได้แคล่วคล่องในฌาน 4 ที่เป็นเครื่องอยู่สุขสบายในปัจจุบัน

10. อนาสวเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ บรรลุเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ สิ้นอาสวะ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม 10 ประการนี้แล จะอยู่ในทิศใด ๆ ย่อมอยู่สำราญโดยแท้ ฯ

วันนี้ที่จริงแล้วได้ยกเนื้อหาสาระมาจาก "เถรสูตร" เพื่อให้ศรัทธาสาธุชนมีตำราดูพระเถระ ว่า และให้ตั้งใจไว้ในกุศล สำรวมระวังกายวาจาให้เรียบร้อย เจริญอยู่ในศีลสิกขา ตั้งใจไว้ให้มั่นให้หนักแน่นในธรรม อย่าหวั่นไหวคลอนแคลน เจริญอยู่ในสมาธิสิกขา และพยายามค้นหาความรู้ใหม่ ๆ เรียนให้รู้ ดูให้รอบ ความรู้รอบในกองสังขารขันธ์ ชื่อว่าเจริญอยู่ในปัญญาสิกขา คิดดี คิดบวก ทำจิตให้ผ่องใส ทำใจให้ขาวรอบ อยู่เสมอ ๆ เป็นนิจ

และพยายามหลีกเลี่ยงคำที่นำใจให้หดหู่ไม่มีพลัง จงเชื่อมั่นในตนเอง เป็นพลังขับเคลื่อนให้ตนเองก้าวหน้า เมื่อใดที่เราพูดออกมาว่า.......

"พระดี ๆ คนดี ๆ หายาก" เมื่อเราไม่อิ่มเอมในกิริยาบุคคลต่าง ๆ ที่เราคิด นั้นแสดงว่าเราเชื่อ และเชื่อว่า "พระดี ๆ คนดี ๆ หายากจริง ๆ" เราต้องวางกรอบความคิดกันใหม่ และต้องพูดกับตนเองเสมอว่า

"พระดี ๆ คนดี ๆ นั้นหาไม่ยาก" เพราะ ถ้าเราพูดแต่สิ่งดี ๆ คิดแต่สิ่งดี ๆ ทำแต่สิ่งดี ๆ คุณลักษณะที่ดี ๆ จะปรากฏและจะหลั่งไหลเข้ามาหาเรา พลังงานบวกก็จะวิ่งเข้าหากัน เกิดพลังแห่งความดีงาม พลังแห่งความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง

เลิกพูดเสียทีนะว่า "เราเกิดมาวาสนาไม่ดี" อาตมาฟังแล้วหดหู่ไม่มีพลัง พลังเชิงลบมันไหลมาสั่งสมให้เราหดหู่ โรคต่าง ๆ ก็เข้ามารุมเร้า และอื่น ๆ มากมากจะตามมา เช่นอุปสรรค ปัญหา ความขาดแคลน อื่น ๆ เราต้องพูด ต้องคิด ต้องเชื่อ ว่า "วาสนาเราดีแน่นอน" ต้องเชื่อมั่นในตนเอง

"เราโชคไม่ดี ๆ คำเหล่านี้เราจะไม่พูดแล้ว" และอีกคำเช่น......

"เราไม่สามารถทำได้ เราไม่มีความรู้เหมือนผู้อื่น เราไม่มีความสามารถ"

ต่อไปนี้คำเหล่านี้เลิกพูดได้เลยนะ เราอย่าดูถูกตัวเอง อย่าพยายามดูถูกตัวเอง การเปลี่ยนความคิดของเรามันก็ไม่ได้ยากเกินความพยายามนะ ซึ่งหมายความว่าเราต้องการที่จะเปลี่ยนด้วย แต่ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนความคิดคนอื่นให้ได้อย่างที่เราอยากให้เป็น มันทำไม่ได้อย่างที่ใจเราอยากนะ จึงต้องพยายามเดินทางสายกลางอย่างมีเหตุผล สายน้ำเปลี่ยนใจปลา กาลเวลาเปลี่ยนใจคน ภาษิตนี้เหมือนเป็นอุดมคติของการพิสูจน์ใจใครสักคน ซึ่งคงต้องอดทนดูใจกันไปสักระยะหนึ่ง บางครั้งระยะเวลาของแต่ละคนนั้น ไม่สามารถกำหนดได้ว่ามากน้อยแค่ไหน เพียงใด ก็ปล่อยให้เป็นรายบุคคลไป เพราะขึ้นอยู่ที่ต้นทุนทางสภาวะทางจิตใจของแต่ละท่านนั่นเอง


ความเห็นผิดจากคลองธรรม

การจะเปลี่ยนมหาโจรผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ประกอบมิจฉาอาชีวะ ให้เป็นเทพบุตร ให้เป็นเทพธิดา คงมิใช่เรื่องง่ายที่จะให้เขากลับตัวกลับใจ ความเห็นผิดก็ดี - เห็นถูกก็ดี เป็นสมบัติเฉพาะตน การที่โจรจะกลับใจมาเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ ประกอบสัมมาอาชีพ อาตมาเชื่อว่าน่าเป็นได้หากสังคมให้โอกาส

"ดอกบัวเกิดในที่ต่ำ เหม็นกลิ่นโคลนตม หากแต่กลีบบัวช่องามนั้นบริสุทธิ์สะอาด ยังใช้บูชาในที่สูงได้...ฉันใด คนบางคนอาจเกิดมาต้อยต่ำ บางครั้งอาจผิดพลาดพลั้งเผลอ หากสังคมให้โอกาสก็อาจสามารถพัฒนาตนเองให้ดีได้..ฉันนั้น" (เราต้องฝึกตนเองให้มองโลก - มองคนในด้านที่ดี)

"เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย

จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง ฯ

- พุทธทาสภิกขุ -


ความเห็นถูกตามคลองธรรม

ผู้ประพฤติในอริยอัฏฐังคิกมรรค ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ พระสงฆ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ดำรงตนในสมณะธรรม แสวงหาสัจจะเพื่อหลุดพ้นจากบ่วงโลกียรส การจะไปวิงวอนให้ท่านละถอนจากสัมมาทิฏฐิ ฯ ไปประกอบมิจฉาอาชีวะนั้น เช่นเดียวกันคงไม่ใช่เรื่องง่าย "นี้ย้ำว่าทิฏฐิพระนั้นมันหนักแน่นยากจักถอน"

"วันเวลา ผ่านไป สอนให้รู้ ชีวิตอยู่ ต้องสู้ทน จนสมหวัง

สิ่งใดหนอ ในโลก จะจีรัง เท่าความหวัง ของเรา ที่เฝ้าคอย"

วันที่ 9 กรกฎาคม ศกนี้ เป็นวันเข้าพรรษาแล้วนะ ปี ๆ ผ่านไปอย่างไม่หยุดยั้ง ช่างรวดเร็วเสียจริง ๆ อย่าประมาท มีโอกาสทำความดี ทำบุญสร้างกุศลนั้นมีโอกาสทำได้ให้รีบทำ จิตใจของเรามุ่งมั่นในบุญ บุญก็นำพา บารมีก็เสริมส่ง ขอคุณพระหลวงพ่อเพชรมีชัยแห่งวัดทุ่งเศรษฐี จงคุ้มครอง ขอบุญจงปกป้องรักษา ขอสิ่งที่ปรารถนาที่มีในใจ จงสัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผล ทุกคนทุกท่าน เทอญ รูปขอจำเริญพร