ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



น้ำมนต์หยุดไวรัส Covid 19 ได้ไหม?

ขอความเจริญในธรรมมีในทุกคนทุกท่าน อาตมาได้กลับไปทบทวนบทสวดที่มีชื่อว่า "รัตนสูตร" ซึ่งส่วนมากมักนิยมนำมาสวดในโอกาสต่างๆ อย่างแพร่หลาย ท่านใดมีโอกาสก็สามารถไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ ทั้งภาคบาลีและที่แปลเป็นภาษาไทย ขอเล่าถึงตอนที่อาตมาอยู่ปฏิบัติศาสนกิจกับพระอุปัชฌาย์ที่เพชรบูรณ์ ตอนนั้นจำได้ว่ามีชาวบ้านมานิมนต์ไปสวดให้คนเจ็บไข้ฟัง ด้วยความเป็นพระใหม่พื้นฐานเรื่องศาสนาลึกๆ แล้วก็ไม่เข้าใจ ไม่มีความรู้ ไม่มีความเห็นแย้งใดๆ แต่ก็สงสัยอยู่ในใจว่าน้ำมนต์จะรักษาไข้เจ็บได้อย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า พระเดชพระคุณมีอิทธิพลต่อความคิด ความเชื่อ มีบทบาททางสังคมกลุ่มพี่น้องชาวบ้านเอามากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านศรัทธาและเชื่อว่าท่านมีวิชชาอาคม หลายคนเชื่องอย่างนั้น

หลวงพ่อท่านพูดถึงบทสวด เรื่องรัตนสูตร และแนะนำให้สวดในทุกโอกาส วรรคที่หลวงพ่อท่านย้ำนักว่า เวลาเสกน้ำพระพุทธมนต์ให้กำกับลงด้วยพระคาถาวรรคนี้ทุกโอกากาสที่เสกน้ำมนต์ แล้วให้ดับเทียนนั้นโดยการจุ่มลงในขันหรือในบาตรที่ทำน้ำมนต์นั้น จิตต้องส่งพลังระงับดับภัยทุกอย่างลงตรงบทสวดนี้แล้วภัยทุกอย่างจะระงับดับสิ้น พระคาถาวรรนั้นมีใจความว่า

"...ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง, วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง, เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา, นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป, อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง, เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ"


โควิด 19 เป็นโรคระบาดรุนแรง

ในครั้งพุทธกาลย้อนลึกไป 2600 - 2500 ปี เคยเกิดขึ้นในเมืองเวสาลีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กษัตริย์ลิจฉวี จึงให้ประชาชนประชุมพร้อมกันในห้องประชุมใหญ่ เพื่อร่วมกันพิจารณาสอดส่องความประพฤติของบรรดากษัตริย์ทั้งหลายว่า ได้ทำความผิดอันใดไว้จึงทำให้เกิดภัยต่าง ๆ ดังกล่าว

รัตนสูตร มนต์นี้กล่าวไว้ดีมาก เป็นที่ยอมรับของเทวดาและมนุษย์ว่าสามารถขับไล่ ป้องกัน และ

ต้านทานจากภัย 3 ประการได้ ภัย 3 ประการนั้น คือ

1) พยาธิภัย - โรคระบาด ที่เกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ ทั้งสัตว์ คน ต่างเป็นพาหะแพร่เชื่อได้

2) อมนุษย์ภัย - สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น สัตว์ ภูต ผี ปีศาจ หรืออาจหมายถึงคนเลวที่ทดลองทำสงครามชีวภาพเคมี และ

3) ทุพภิกขภัย - ภัยแล้ง ข้าวยากหมากแพง หรือมีผู้ฉวยโอกาสกักตุนสินค้า

ซึ่งพระพุทธเจ้าสวดมนต์บทนี้รอบกำแพง 3 ชั้นของเมืองเวสาลีเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน พระพุทธมนต์บทนี้สามารถขับไล่โรคระบาด ภูต ผี ปีศาจ และภัยแล้ง มาจากการที่เมืองเวสาลีแห้งแล้งไม่สามารถเพาะปลูกได้ มีชาวเมืองอดยากล่มตายเป็นจำนวนมาก อมนุษย์ก็เข้ามากินศพ เกิดอหิตวาตกโรคระบาดในเมือง ชาวเมืองล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นเพราะติดเชื้อโรค

กษัตริย์ลิจฉวีจึงอาราธนาอัญเชิญพระพุทธเจ้าเสด็จมายังเมือง เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จย่างก้าวยังเมืองเวสาลีบังเกิดฝนตกหนัก น้ำฝนได้ชะล้างเมืองให้สะอาด แล้วพัดพาซากศพไปสู่แม่น้ำคงคา เทวดาพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ยังเมืองเวสาลี อมนุษย์ที่ซ่อนเร้นอยู่ก็พากันหนีไป พระพุทธเจ้าทรงเรียกพระอานนท์เข้าเฝ้า

ทรงสอนรัตนสูตร ให้พระอานนท์ท่องบริกรรมพร้อมกับประพรมน้ำจากบาตรของพระพุทธเจ้าไปรอบกำแพงเมือง 3 ชั้น อมนุษย์ที่ซ่อนตัวอยู่เมื่อต้องน้ำพระพุทธมนต์จึงหนีไป พระอานนท์ทำเช่นนี้อยู่ 3 วัน 3 คืน จนเมืองเวสาลีกลับมาสงบสุขอีกครั้ง

รัตนปริตรนอกจากจะมีที่มาและตำนานของมนต์ที่น่าสนใจแล้ว เป็นพระพุทธมนต์สำหรับการขับไล่สิ่งชั่วร้ายอย่างแท้จริง เนื้อหาของรัตนปริตรนี้ กล่าวถึงสิ่งที่มีค่าดุจแก้วมณีของพระพุทธศาสนา ได้แก่ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ น่าสนใจที่บทสวดนี้สรรเสริญพระธรรมที่มีค่าดุจอัญมณีคือ "สมาธิ" พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ทรงสรรเสริญแล้วซึ่งสมาธิอันใดว่า เป็นธรรมอันสะอาด เป็นรัตนะอันประณีตในพระธรรมด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี

ในพระสูตรบทนี้จะเห็นได้ว่า "สมาธิรักษาโรคได้" ดังนั้น อย่าตื่นตระหนก อย่ากลัวให้มากจนเกินไป ต้องรอบคอบดูแลตนเอง ดูแลครอบครัว ศึกษาเรียนรู้ถึงวิธีป้องภัยทั้งหลายที่ได้กล่าวแล้ว รู้รับผิดชอบต่อตนและต่อสังคม ยอมรับฟังความทุกข์ของผู้เดือดร้อน และรู้แนะนำสิ่งที่เป็นทางออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรู้วางใจเป็นกลาง ทั้งฝ่ายที่เป็นปัญหา ทั้งฝ่ายที่หาวิธีแก้ไขร่วมกัน ต้องใจหนักแน่น คือ ใช้สมาธิรักษาโรคตามหลักการที่พระพุทธเจ้ากระทำสำเร็จมาแล้ว


อย่ามุ่งร้ายผู้อื่น

มีหลายคนที่ปรากฏในโลกสื่อสาร สื่อโซเซียลเผยแพร่ว่า ผู้ติดเชื้อโควิดไวรัสพยายามกระทำให้ผู้อื่นได้รับการติดเชื้อเหมือนกับที่ตนกำลังใวยอยู่ คือไม่ยอมจบสิ้นสุดที่ตนเอง เมื่อตนเองรับเชื้อแล้วผู้อื่นก็ต้องรับด้วยเหมือนกัน เมื่อจะตายก็ต้องตายด้วยกันเป็นต้นฯ นี้ถือว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิเยี่ยงพาลชน

มีพุทธศาสนสุภาษิตบทหนึ่งว่า "ทุกฺขโท ทุกฺขฏฺฐานํ" แปลยกศัพท์ตามหลักไวยากรณ์ว่า – ปุคฺคโล อันว่าบุคคล ทุกฺขโท ผู้ให้ซึ่งความทุกข์ ปาปุณาติ ย่อมถึง (หรือ ลภติ ย่อมได้) ทุกฺขฏฺฐานํ ซึ่งฐานะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ ส่วนแปลโดยอรรถว่า "ผู้ให้ทุกข์ย่อมถึงฐานะอันเป็นทุกข์" หรือถ้าจะแปลตามที่พูดกันติดปากว่า "ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว" มีผู้รู้ในสมาคมนักกลอนท่านเขียนกลอนประกอบภาษิตว่า

....จะคิดร้าย กันไป ทำไมเล่า
ให้ทุกข์เขา เราจะกลับ รับทุกข์นั่น
เราจะมี ชีวิตไป เท่าไรกัน
ควรใช้วัน ที่เหลือให้ สุขไปนาน

....มัวโกรธเกลียด ริษยา อาฆาตอยู่
ใจหดหู่ ทำเหมือนบ้า น่าสงสาร
ใครคิดร้าย เราก็ให้ อภัยทาน
ใจเบิกบาน ไม่ตรอมตรม จมทุกข์ทน ฯ


รูปขอจำเริญพร