ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



พิสูจน์คน พิสูจน์งาน พิสูจน์ใจ

ท่านพุทธบริษัท สาธุชนท่านผู้สนใจศึกษาธรรมทั้งหลาย "ธรรมสำหรับผู้ไม่จน หรือ หลักธรรมสำหรับคนยังไม่รวย" หรืออะไร ๆ ก็ตาม อยู่ที่นิยามความมุ่งหมายที่ทำหรือสร้างความเข้าใจให้เรา มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน อย่างหลวงพ่อจะพูดคำว่า "อย่าให้ความสบายมาทำลายเส้นทางการเงินของเรา" ก็ต้องมาทำความรู้จักว่า หลวงพ่อต้องการให้พวกเราเข้าใจเรื่องอะไร ๆ อย่างไร เช่น


1) ความลำบากสร้างคน

คนเมื่อลำบาก สำนึกของเขาต้องสู้ชีวิต เพื่อครอบครัว เพื่อความมั่นคงอย่างหนึ่งอย่างใดให้เป็นเครื่องประดับตน เช่น ต้องขวานขวายหาความรู้พัฒนาตนให้มีศักยภาพ ตั้งธงให้กับตนคือ เชื่อในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เชื่อ แล้วนำตนเองให้พ้นจากความลำบากทั้งปวงนั้นให้จงได้ คนผู้มีความลำบาก ต้องต่อสู้กับอุปสรรค คือความยากจน การขาดโอกาสในเรื่องต่าง ๆ โบราณภาษิตกล่าวว่า คนจนเป็นคนมีน้ำใจ เช่น "ถึงฉันจะจนเงิน แต่ฉันไม่จนน้ำใจหรอกนะพ่อ"

ท่านที่ไม่เคยจนไม่เคยลำบาก เข้าไม่ถึงปัญหาแน่นอน แต่ถ้าให้แบบทดสอบไปก็ได้ คือ ลองให้อดมื้อกินมื้อ ไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ เอาให้ถึงความไม่มีอะไร คือให้ลองอดข้าวสัก 3 วัน 5 วัน โดยดื่มแต่น้ำเปล่า ท่านนั้นจะทราบถึงความไม่มีอย่างลึกซึ้ง นั่นแหละปัญหาความยากจน ถึงตอนนั้นแล้วคุณธรรมอะไร ๆ จะเกิดขึ้นกับท่านเยอะ (ฝากข้อคิดสำหรับความลำบากว่า "อยู่อย่างคนจน จะไม่จน)


2) ความสบายทำลายคน

คนเมื่อมีทุกสิ่งทุกอย่าง บางตระกูลขาดคุณธรรม ขาดน้ำใจ ลูกบางตระกูลขาดสำนึก (ส่วนน้อย ถึง น้อยมาก นี้มิได้ก้าวล่วงผู้ท่านมีฐานะรวยเงินรวยทรัพย์) ขอกล่าวเฉพาะอุทาหรณ์พอให้เป็นตัวอย่าง คนรวยบางท่านที่เอารัดเอาเปรียบ อย่างในละคลรทีวีบุคลิกมันออกมาอย่างนั้นเลย คนที่มีทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้ เช่น อยากได้รถ อยากได้บ้าน อยากได้คนรับใช้ อยากได้แหวนเพชร แหวนพลอย อยากได้กระเป๋า อยากได้เสื้อผ้าแบรนด์เนม คนรวยเขามีโอกาสได้อะไร ๆ ก็ได้ทั้งหมด

แต่ที่จะบอกว่า "ความสบายทำลายคน อย่างไรต่างหาก" ความรวยอาจทำลายจริยธรรมทางสังคม เช่น ใช้อำนาจทางการเมืองออกกฎหมายเพื่อปกป้องธุระกิจตนและพวกพ้อง, คนรวยมีอำนาจทางการเงินอาจทำลายหรือแซกแซงกระบวนการยุติธรรม, คนรวยอาจไม่คำนึงภึงผลประโยชน์ชาติ แต่กลับให้ความสำคัญเฉพาะของตนเป็นใหญ่ การตัดสวัดดิการของคนจน ทำอะไร ๆ ติดสะดวกติดสบาย และติดสินบนเป็นต้น ฯ (ฝากข้อคิดสำหรับความลำบากว่า "อยู่อย่างคนรวย จะไม่รวย หมายถึงเรานะ ถ้ามัวเพลิดเพลินใช้เงินใช้เวลาอยู่อย่างคนรวยนั้น แล้วเมื่อไหร่เราจะรวย)


หลักธรรมที่ไม่เหมาะกับความจน

ท่านทั้งหลายใครอยากเป็นเศรษฐีเชิญตามมาทางนี้ คำว่าเศรษฐีใคร ๆ ก็อยากเป็น แต่จะเป็นเศรษฐี เป็นมหาเศรษฐีได้อย่างไรนั้น ต้องเริ่มด้วยคุณธรรมในการบำเพ็ญตน ได้แก่ หัวใจเศรษฐี คือ หลักธรรมที่นำไปสู่จุดหมาย จะทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ พนักงานบริษัท หรือแม้แต่นักการเมือง หากนำหัวใจเศรษฐีนี้มาปรับใช้กับชีวิต พระพุทธเจ้ารับประกันได้ถึงความสำเร็จ 4 ประการคือ

1. อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ขยันหา หมายความว่า อย่าเกียจคร้าน คำว่าขยัน คือเดินไปข้างหน้า เมื่อตื่นขึ้นมาให้เดินไปข้างหน้าทันที เงินเป็นของกลาง ใครเดินเข้าไปหาก็ย่อมเป็นของคนนั้น ความขยันสร้างคนให้มั่นคง เพราะไม่กลัวความลำบาก ความลำบากสร้างคน ความสบายทำลายคน หลวงวิจิตรวาทการท่านว่าไว้ว่า "ขยัน" มาจากคำว่า "ขายัน" คนที่ขาไม่ยันคือคนที่ง่อยเปลี้ยเสียขา หรือไม่ก็คนที่ตายแล้ว พระพุทธองค์ได้ตรัสพุทธสุภาษิตเอาไว้ว่า วายเมเถว ปุริโส ยาว อตฺถสฺส นิปฺปทา (อ่านว่า วายะเมเถวะ ปุริโส ยาวะ อัตถัสสะ นิปปะทา) แปลว่า เป็นคนควรพยายามเรื่อยไป จนกว่าผลที่หมายจะสำเร็จ

2. อารักขสัมปทา แปลว่า รักษาดี หมายความว่า เงินเข้ามือซ้าย มือขวาต้องเก็บ เงินเข้ามือขวา มือซ้ายต้องเก็บ ไม่ใช่เงินมาก็ปล่อยให้ไหลไป ๆ ต้องรู้จักเก็บรักษาให้ดี หลักการใช้เงิน ขอให้จำง่าย ๆ ว่า "ให้มุ่งจับจ่ายใช้ (สอย) อย่าเน้นจับจ่ายใช้ (สวย)" คือการใช้ข้าวของปัจจัย 4 โดยคำนึงถึงคุณค่าที่แท้จริงเป็นหลัก

3. กัลยาณมิตตตา แปลว่า มีกัลยาณมิตร คือรู้จักคบคนดีเป็นเพื่อน คนที่ดีจริง ๆ ดีทั้งวิถีชีวิต ดีทั้งชื่อเสียง และดีทั้งสติปัญญาความสามารถ มิตรที่ดีต้อง ใจซื่อมือสะอาด หมายความว่า เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต สุภาษิตโบราณกล่าวว่า "ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน" เพื่อนดี คือ จริงจัง จริงใจ ไม่จริงโจ้ รู้รักสามัคคี (ไม่อคติ) ไม่มีใครในโลกประสบความสำเร็จเพราะเก่งอยู่คนเดียว ความสามัคคีจึงเป็นหัวใจแห่งความสำเร็จ หลักการเป็นเศรษฐี ต้องมีบริวาร การให้ทาน การให้ การแบ่งปัน เป็นการสร้างบริวาร

4. สมชีวิตา แปลว่า ใช้ชีวิตพอเพียง คือการใช้ชีวิตพอเพียง หมายความว่า อย่าแบกหน้ำหนักเกินกำลังของตน ต้องรู้ประมาณตัวเอง เพราะถ้าพลาดแล้วเจ็บปวด บางครั้งนักธุรกิจจะใช้สัญชาต ญาณในการตัดสินใจทำธุรกิจ ถือว่าเสี่ยงจนเกินไป ต้องรู้จักประมาณตัวเรา เราจะลงทุนขนาดไหน อย่าให้เกินตัว และสุดท้ายคือทางสายกลาง พยายามอย่าบีบตัวเองจนตรอก เพราะที่สุดมีเงินมีทองมหาศาลก็ไม่ได้ทันใช้ ผลจากการบีบตัวเองนั้น ทำให้เจ็บป่วย บางครั้งต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองเป็นอันมากเพื่อดูแลสุขภาพร่างกาย ดังนั้นชีวิตต้องรู้จักหลักการความพอเพียง


หลักการสำคัญคือการรู้จักที่จะทำงาน ประสานกับคุณภาพของชีวิต นั่นคือผลสัมฤทธิ์ของทางสายกลาง ต้องฝึกให้เกิดขึ้นเสมอไม่ว่าเมื่อใด การสร้างทางสายกลางระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิต เราต้องฝึกให้เกิดขึ้นเสมอ เพราะหากไม่ฝึกไม่พัฒนา แล้วอย่ามาโหยหาว่า เมื่อไหร่จะรวย ๆ


พิสูจน์คน พิสูจน์งาน พิสูจน์ใจ

"Street Fried Banana"

สัปดาห์ก่อนหลวงพ่อรับนิมนต์ไปฉันเพล ซึ่งตรงตามปฏิทินนั้นเป็นวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2018 ภัตตาคารชื่อ สตรีทไทยเช็ฟ โดยคุณพิสิษฐ์ / คุณชมพู่ ตั้งถาวร ได้นิมนต์ หลวงพ่อไสว ชมไกร เจ้าอาวาสวัดทุ่งเศรษฐี เมืองเลควูด พร้อมคณะพระสงฆ์ มีท่านพระมหาถวิล และท่านพระโจเซฟ รวม 3 รูป เพื่อถวายภัตตาหารเพลในวันมงคลทำบุญเปิดร้านใหม่

หลวงพ่อไสว เมตตาตั้งเมนูชื่อขนมเป็นภาษาอังกฤษ "Street Fried Banana" เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการแนะนำร้าน และเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจรสชาติของขนมไทย แทนคำขอบคุณลูกค้าที่มาแวะอิ่มอร่อย จึงขอให้ทางร้านผู้ค้าขายนั้นมีความเจริญรุ่งเรือง แล้วก็แต่งร้านสวยมาก เมืองไทยย่านเยาวราชอย่างนั้นเลย อาหารก็อร่อยมากขอแสดงความชื่นชม ขอโอกาสบอกที่ตั้งของร้าน STREET THAI CAFE 15887 Gothard St. Hunting ton Beach, CA 92647 อยู่ 15 นาที ไม่ไกลวัดทุ่งเศรษฐี เมืองเลควูด แคลิฟอร์เนีย สาธุ ๆ


ฝากถึงศรัทธาทุกท่าน วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2561 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 เป็นวันมาฆบูชา อย่าลืมชวนกันไปทำบุญใส่บาตร รักษาอุโบสถศีล สวดมนต์เจริญพุทธานุสสติ เวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา ตั้งสัจจาอธิษฐานให้ได้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นแก่ชีวิตของเรานะ รูปขอจำเริญพร