ข่าว
โลกตะลึง! อสุจิปลาหมึกแตก ทำป้าเกาหลี 'ตั้งท้องในปาก'

หญิงเกาหลีใต้วัย 63 ปี ตั้งครรภ์ในปาก หลังเปิบเมนูปลาหมึก แพทย์พบลูกหมึก 12 ตัว ฝังตามเหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม ชี้ถุงอสุจิของสัตว์น้ำชนิดดังกล่าว แตกระหว่างรับประทานอาหาร...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 16 มิ.ย. ถึงเรื่องราวสุดประหลาดของหญิงสูงอายุวัย 63 ปี จากเกาหลีใต้ ที่เกิดอาการเจ็บแปลบในช่องปากโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังรับประทานเมนูเกี่ยวกับปลาหมึก

ทั้งนี้ เธอบอกกับแพทย์ว่า รู้สึกได้ถึงบางอย่างในปากของเธอ กระทั่งการตรวจพบว่า มีลูกปลาหมึกตัวเล็กอยู่ในปากของเธอมากถึง 12 ตัว ฝังอยู่ตามซอกเหงือก ลิ้น และกระพุ้งแก้ม โดยเอกสารทางวิทยาศาสตร์ จากศูนย์ข้อมูลชีววิทยาแห่งชาติ ในเมืองแมรีแลนด์ สหรัฐฯ ชี้ว่า ถุงน้ำเชื้อของปลาหมึกแตกในปากของเธอระหว่างรับประทานอาหารชนิดดังกล่าว จากนั้นอสุจิจึงฝังตัวตามซอกหลืบต่างๆ และขณะนี้ลูกปลาหมึกตัวจิ๋วทั้ง 12 ตัว และเมือกที่ห่อหุ้มถูกนำออกจากช่องปากของหญิงเคราะห์ร้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อนึ่ง เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว โดยเมื่อธ.ค. ปีที่แล้ว หญิงชาวญี่ปุ่นมีอาการเจ็บในช่องปากเช่นเดียวกัน หลังรับประทานปลาหมึกดิบ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโทเซอิ แล้วพบว่ามีถุงสเปิร์มของปลาหมึกฝังอยู่ในช่องปากของเธอจริง อย่างไรก็ดี การแพร่พันธุ์ของปลาหมึกน้ำลึกยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากยังยากที่จะเข้าใจถึงถิ่นที่อยู่อาศัยและการดำรงชีวิตที่ชัดเจน.

ผู้ประกาศข่าว "อ๊อฟ-กิ๊บ" วิวาทกันจริงในสถานีทีวี

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. ที่ บช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น. ตอบคำถามเหตุผู้ประกาศข่าวชายและหญิง ทำร้ายร่างกายกันที่สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย หรือ ไทยพีบีเอส ว่า สอบถาม พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง และ สว.สส.สน.ทุ่งสองห้องถึงเหตุการณ์ดังกล่าว รายงานให้ทราบว่าเป็นเรื่องของคนที่เขามีความสนิทสนมกัน

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นคดีแล้วหรือยัง รอง ผบช.น.บอกว่า เมื่อสอบถามก็ขอตอบสักนิด ว่าเท่าที่รับรายงานมายังไม่เป็นคดีอะไร แล้วเรื่องที่เกิดเรื่องของการทะเลาะวิวาท เกิดจากการอะไรกันของหญิงชายที่ใกล้ชิดกัน ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งเป็นคดี คู่กรณียังไม่มีความประสงค์จะมาแจ้งความที่ สน.แต่อย่างใด

เมื่อสอบถามถึงอาการบาดเจ็บ รอง ผบช.น.บอกว่า เท่าที่เบื้องต้นได้รับรายงานคงได้รับบาดเจ็บคงไม่มากนัก เพราะหลังได้รับบาดเจ็บก็อยู่พูดคุยกันอีกนานกว่าจะไปหาหมอ คงไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายอะไร

เย็นวันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) หรือ ทีวีไทย ออกแถลงการณ์เรื่องคำชี้แจงกรณีผู้ประกาศข่าว Thai PBS มีเรื่องทะเลาะวิวาท ระบุว่า ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวว่า ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสคือ นายอัครพล ทองธราดล และนางสาวอภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ ทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันนั้น นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ด้านข่าวและรายการ เปิดเผยว่า “กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลทั้งสอง ส.ส.ท.จะไม่เข้าไปก้าวก่ายนอกจากช่วยแก้ปัญหาให้คลี่คลายด้วยการพูดคุยทำความเข้าใจในฐานะที่ทั้งสองคนอยู่ในความดูแลของ ส.ส.ท.

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในที่ทำการของ ส.ส.ท. จึงจำเป็นต้องดำเนินการตามระเบียบของ ส.ส.ท. กรณีที่พนักงานทะเลาะวิวาทจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ให้ทั้งสองคนพักการทำหน้าที่ชั่วคราวเพื่อเยียวยา ปรับความเข้าใจและหาทางออกต่อกรณีดังกล่าวร่วมกัน ลงชื่อ นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ด้านข่าวและรายการ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดกระแสข่าวเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท และทำร้าย ร่างกายผู้ประกาศข่าวชายสถานีโทรทัศน์ไทย พีบีเอส ถึงขั้นเลือดตกยางออก โดยเหตุเกิดภายในสถานี ตั้งอยู่เลขที่ 145 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. เมื่อกลางดึกวันที่ 10 มิ.ย. ต่อเนื่องวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงตรวจสอบไปยังสถานีและบุคคลต่างๆ ที่ทราบเรื่อง พบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง

โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคือ "อ๊อฟ"นายอัครพล ทองธราดล ผู้ประกาศข่าวหนุ่ม อ่านข่าวช่วงข่าวดึกทีวีไทย, ข่าวเช้าสุดสัปดาห์, ทันข่าวไทย พีบีเอส และไทยพีบีเอสสุดสัปดาห์ ถูกทำร้ายด้วยกรรไกรขาเดียว ได้รับบาดเจ็บก่อนเข้ารักษาตัวที่ร.พ. ถึงขั้นต้องเย็บแผลถึง 38 เข็ม

ขณะที่คู่กรณีแหล่งข่าวยืนยันว่าเป็นผู้ประกาศข่าวสาวสวยประจำสถานีเดียวกันคือน.ส.อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ อ่านข่าวช่วงไทยบันเทิง รวมถึงทำหน้าที่พิธีกรรายการศิลป์สโมสร และไทย พีบีเอส ทีน โดยทั้งนายอัครพล และน.ส.อภิยา เป็นที่รับรู้กันในหมู่เพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมงานว่ามีความใกล้ชิดกัน

หลังได้ข้อมูลดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่สน.ทุ่งสองห้องเจ้าของท้องที่เพื่อสอบถามรายละเอียด โดยพ.ต.ท.พิภพ สุขก่ำ รองผกก. สส.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจริง โดยเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ศูนย์วิทยุ สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกาย ภายในสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จึงส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจไปดู พบเป็นเหตุทะเลาะวิวาทของชายหญิงคู่หนึ่งจึงเข้าระงับเหตุ และแนะนำให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้อง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าผู้ที่แจ้งความเป็นรปภ.ของสถานีโทรศัพท์มาที่สน.ทุ่งสองห้อง แจ้งว่าเกิดเหตุผู้ประกาศข่าวชาย-หญิง 2 คน ซึ่งเป็นแฟนกันทำร้ายร่างกายกัน โดยฝ่ายชาย เริ่มลงมือก่อนจนถูกฝ่ายหญิงตอบโต้ และมีการใช้ของมีคมขนาดเล็กจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อสายตรวจเดินทางมาระงับเหตุ ปรากฏว่าทั้งคู่ขึ้นรถเพื่อไปร.พ.ด้วยกัน

ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานีไทยพีบีเอส รับว่าเกิดกรณีทำร้ายกันระหว่างผู้ประกาศข่าวชาย-หญิงจริง โดยผู้ใหญ่ทราบเรื่องราวทั้งหมด และคุยกันภายในองค์กรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะมีแนวทางในการดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้น ต้องปล่อยให้เป็นที่หน้าที่ของผู้ใหญ่ในการพิจารณา ส่วนกระแสข่าวที่ว่านายอัครพล ขอยื่นลาออก ส่วนน.ส.อภิยา ถูกพักงาน 1 เดือนนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่าทุกอย่างอยู่ที่ดุลพินิจของผู้ใหญ่

สำหรับนายอัครพล จบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต่อมาเข้าประกวดจนได้ตำแหน่งหนุ่มแพรวประจำปี 2546 จึงเข้าสู่วงการบันเทิงมีผลงานโฆษณา และแสดงละคร "นายร้อยสอยดาว" ทางช่อง 7 กระทั่งมาเป็นพิธีกรรายการ "ทุกทิศทั่วไทย" รายการเกี่ยวกับข่าวภูมิภาค ก่อนที่จะย้ายมาทำงานที่ไทยพีบีเอส นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้กับสถาบันสอนบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ ด้วย ส่วนน.ส.อภิยา ชื่อเล่น "กิ๊บ" จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จากนั้นเข้ามาทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวประจำไทยพีบีเอส กระทั่งมารู้จักและสนิทสนมกัน

แตกตื่น หญ้ายาผีบอก เชื่อรักษาได้สารพัดโรค

ชาวสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียงหลายร้อยคน แห่เก็บหญ้ายาผีบอกในที่นา อ.เขาฉกรรจ์ เชื่อรักษาได้สารพัดโรค พบราคาสูงลิ่ว ตากแห้ง 2,000 บาท/กก. ...

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. พ.ต.ท.อุดม อินทรประเสริฐ พนักงานสอบสวน (สบ2) สภ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว รับแจ้งว่ามีชาวบ้านที่เดินทางสัญจรไปมาระหว่าง ถนนสายสระแก้ว-จันทบุรี กม.25-26 บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ 9 ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเดินทางไปมาได้ เนื่องจากมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดเต็ม 2 ข้างทางนับร้อยคันบนถนนสองเลน ส่งผลให้การจราจรติดขัด สาเหตุเป็นเพราะมีชาวบ้านเดินทางมาเก็บหญ้ายาผีบอกข้างทางบริเวณดังกล่าว จึงได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่จราจรไปเคลียร์ถนนและจัดลักษณะจอดรถใหม่ให้ชาวบ้าน

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง พบชาวบ้านหลายร้อยคนเดินทางมาเพื่อเก็บหญ้ายาผีบอก นำไปต้มกิน โดยเชื่อว่าจะสามารถรักษาหายจากโรคภัยต่างๆ ได้ ตามคำเล่าลือ ซึ่งนางปาริฉัตร เจริญดง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 589 หมู่ 9 บ้านหนองกระทุ่ม ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เจ้าของที่นาดังกล่าว เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่กำลังเก็บหญ้ายาผีบอกอยู่ เพราะเชื่อว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ และเคยออกรายการมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตนก็เพิ่งรู้วันนี้ว่าที่นาตนเองมีหญ้ายาผีบอก รักษาโรคต่างๆ ได้ วันก่อนมีเพื่อนบ้านมาบอกว่า ชาวบ้านนับสิบคนมาจากภาคอีสาน จ.ศรีษะเกษ จ.ราชบุรี เดินทางมาเก็บหญ้าดังกล่าวในที่นาของตน แต่ตนไม่หวง เพราะเป็นยารักษาคนได้ ซึ่งคนที่มาเก็บหญ้าดังกล่าวบอกว่า คนในครอบครัวกินยานี้มานานแล้ว ป่วยหลายโรค นำมาต้มกินแล้วอาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ ต้มกินทุกวัน วันละ 3 อึก อธิษฐานถึงแม่มา แม่ไหม ที่เป็นผีมาเข้าทรงบอกยาวิเศษนี้ ที่ออกรายการทีวี ก็หายป่วยจากอาการกิน นอน เดินไม่ได้ ได้สั่งให้ญาติซื้อมาจากพื้นที่ต่างๆ ถ้าเป็นหญ้าสดจะตก กก.ละ 200 บาท ถ้าแห้งแล้ว กก.ละ 2,000 บาท ชาวบ้านที่ทราบข่าวก็แห่มาเก็บบ้าง เพราะเชื่อว่าจะทำให้หายจากโรคได้.