ข่าว
"กวาง" โต้ข่าวลือกิ๊ก "ดู๋-สัญญา" ยันทุกวันนี้มีแฟนตัวจริงอยู่แล้ว

จากกรณีมีสื่อบันเทิงบางสำนัก เขียนข่าวอ้างว่ามีพิธีกรน้ำดี ชื่อย่อ "ส." หย่าร้างกับภรรยา เพื่อไปอยู่กับนางงามคนหนึ่ง ต่อมามีกระแสข่าวลือว่า พิธีกรคนดังกล่าวคือ ดู๋ สัญญา คุณากร ส่วนฝ่ายนางงาม คือ กวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ดู๋ สัญญา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า พิธีกร ส. ไม่ใช่ตนเองอย่างแน่นอน และคนชื่อ ส. ที่ทำงานพิธีกรนี้ก็อาจหมายถึงใครก็ได้ เพราะมีหลายคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ส่วนกางเคยเจอกันสมัยทำรายการนานแล้ว และไม่ได้เจอกันอีกเลย

ล่าสุด กวาง ฟ้ารุ่ง ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงข่าวดังกล่าว ว่า "งงมากกับข่าว ไม่รู้มาได้ยังไงจะบอกว่าหลังจากไปเป็นพิธีกรรับ เชิญให้กับพี่ดู๋ นานมากแล้วและก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอกับพี่ดู๋เลย ฟ้าเป็นคนเปิดเผยนะคบใครก็จะบอกตอนนี้ฟ้ามีแฟนตัวจริงอยู่แล้ว เรื่องดังกล่าวมันผิดศีลธรรม ซึ่งตัวกวางเองไม่สนับสนุน ผลกระทบของข่าวมีบ้างนะ คือเราไม่อยากให้มีชื่อเสียงที่ไม่ดีค่ะ กวางกับพี่ดู๋ไม่เคยไปไหนมาไหนสองคนเลย ไม่มีการคุยหลังงานใด ๆ ทั้งสิ้น ข่าวไม่มีความจริงเลยเป็นศูนย์เปอร์เซนต์"

ก่อนหน้านี้ ดู๋ สัญญา คุณากร ให้สัมภาษณ์นักข่าวหลังจากอัดรายการ “ที่นี่หมอชิต” ที่ ลานอีเว้นต์ ชั้นจี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ว่า “เพิ่งทราบข่าวจากนักข่าววันนี้เลย งงและตกใจ ส่วนข่าวจะมายังไงไม่ทราบต้องไปถามสำนักข่าวที่ลง ยืนยันว่าครอบครัวผมปกติดี รักกันดีอยู่ ไม่ได้มีการหย่าร้างตามข่าวเลย ภรรยา(อุ๋ย-อาทิตยา)ผมก็ทราบแล้วได้ถามว่าแอบไปมีนางงามจริงเหรอสวยไหม อยากจะบอกว่าทำงานมา 22 ปี ไม่ได้คิดว่าตัวเองหน้าตาดีหรือไม่ดี แต่ยังไม่เคยมีนางงามหรืออดีตนามงามท่านใดแสดงออกถึงการนึกชอบผมเลย ฟังข่าวแล้วก็ขอบคุณที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในช้อยส์ฟังดูตัวเองมีเสน่ห์มาก แต่ในชีวิตจริงไม่เคยมี ไม่มี และไม่เคยคิดอยากจะมีด้วย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เครียดกับข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่ ‘ดู๋’ กล่าวว่า “ไม่เครียดเลยครับ ผมมาอัดรายการได้ตามปกติ ถ้ามันมีส่วนจริงก็คงจะแบบว่านักข่าวรู้ได้ไงวะ อันนั้นคงเครียด แต่อันนี้ไม่เครียดเพียงแต่แอบคิดนิดนึงว่าตัวเราคงยังหน้าตาดีอยู่แม้จะแก่แล้วนิดนึง”

รู้สึกยังไงที่ข่าวระบุว่าพิธีกรน้ำดีอักษรย่อ“ส.เสือ”หย่ากับภรรยาหนีไปอยู่กับนางงามแล้วคนจ้องว่าเป็น‘ดู๋-สัญญา’ เจ้าตัวตอบว่า “คนไม่จ้องว่าเป็นผมนะ คนที่รู้จักกับผมก็รู้ว่าไม่น่าจะเป็นผมได้ ส่วนนางงามที่ถูกอ้างถึงคือ ‘กวาง-ฟ้ารุ่ง’ ใช่ไหม น้องกวางเคยเป็นแขกรับเชิญในรายการผมซึ่งตอนนั้นไปถ่ายที่ จ.เพชรบูรณ์ ผ่านมาหลายเดือนแล้วหลังจากนั้นไม่ได้เจอจนทุกวันนี้ เลยไม่รู้ว่าจะไปเป็นอะไรยังไงกันด้วยตอนไหน ถ้าจะเอาอดีตนางงามที่เคยเป็นแขกในรายการก็มีเยอะมาก เกือบทุกคนที่ได้เป็นนักแสดงก็จะได้เป็นแขกรับเชิญในที่นี่หมอชิต น้องกวางก็คนหนึ่ง แล้วก็มีน้องปุ๊กลุก(ฝนทิพย์) ที่ไปสวิตเซอร์แลนด์ด้วยกัน แล้วก็อีกเยอะเลย ไม่เห็นมีใครบอกว่าชอบผมสักคนเลย ถามว่าเป็นเพราะเห็นผมเป็นพิธีกรการประกวดนามงามอยู่บ่อยๆ หรือเปล่า ไม่เกี่ยวมั้ง ไม่ได้มีความคิดไปในเชิงชู้สาวเลย”

ต่อข้อถามว่า คิดจะฟ้องร้องไหมเพราะข่าวทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย พิธีกรหนุ่มกล่าวอารมณ์ดีว่า “ข่าวไม่ได้บอกว่าเป็นผม แต่บอกว่าเป็นพิธีกร ‘ส.เสือ’ ท่านหนึ่งแล้วก็มีช้อยส์ว่าเป็นคุณสรยุทธ(สุทัศนะจินดา) กับผม ขอบคุณที่ให้เกียรติผม แต่อยากจะบอกว่าพิธีกร ‘ส.เสือ’ มีหลายคน อย่าง ‘ลิง’สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ ก็ถามว่าทำไมเขาไม่ติดโผบ้าง

ฉะนั้นผมคงไม่ฟ้องเพราะไม่ได้บอกว่าเป็นผม แล้วผมก็ไม่ได้มีกิ๊ก ไม่ได้มีนางงามแต่อย่างใด ข่าวนี้ไม่มีผลกระทบกับครอบครัว คุยกับภรรยาได้สบายใจมาก ถ้าไม่มีจะคุยยังไงก็ได้ แต่ถ้ามีก็คงจะแบบเธอรู้แล้วเหรอ ฉันขอโทษนะ บังเอิญฉันหล่อมาก(หัวเราะ)”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวเคยรู้สึกชอบนางงามไหม “ชอบมากครับ แต่ไม่ได้คิดไปทางนั้น คำว่าชอบมนุษย์ชอบกันได้หลายฐานะ ผมไม่ได้ชอบในทางชู้สาว ผมแก่แล้ว มีลูกและภรรยาแล้ว”

ศาลสหรัฐฯ จำคุก 'ชายไทย' 6 ปี นำ 'ดีวีดีหนังโป๊เด็ก' เข้าประเทศ

ศาลแขวงลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา พิพากษาจำคุกชายไทยเจ้าของร้านอาหารไทยในรัฐยูทาห์ มีกำหนด 78 เดือน (6ปี) และคุมความประพฤติตลอดชีวิต จากความผิดนำดีซีดีหนังโป๊เด็ก จำนวน 36 แผ่นจากประเทศไทยเข้าสหรัฐอเมริกา...

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ผู้พิพากษา นายเจมส์ มาฮาน ผู้พิพากษาศาลแขวงลาสเวกัส รัฐเนวาดา ขึ้นบันลังก์อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ลงโทษจำคุกนายมนู ปนาทกูล วัย 52 อดีตอาจารย์วิชาชีววิทยาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย มีกำหนด 78 เดือน (6 ปี) และยังถูกศาลสั่งควบคุมความประพฤติตลอดชีวิต (lifetime of supervised release) หลังจากรับโทษจำคุกครบถ้วนแล้วอีกด้วย จากความผิดฐานขนส่งวัตถุลามกเกี่ยวกับเด็ก (child pornography) เข้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี นายเจมส์ มาฮาน ผู้พิพากษากล่าวกับนายมนูว่า ตนเชื่อว่านายมนูจะถูกเนรเทศกลับประเทศไทยทันที หลังจากรับโทษจำคุกครบกำหนดแล้ว

นายมนู ปนาทกูล ซึ่งสำเร็จปริญญาโททางด้านการศึกษา ได้เดินทางจากประเทศไทยไปยังสนามบินแม็คคาร์เรน เมืองลาสเวกัส โดยสายการบินเกาหลี เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2554 เพื่อจะเดินทางต่อไปยังเมืองเซ็นต์จอร์จ รัฐยูทาห์ มีกิจการเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารร่วมกับญาติ แต่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาจับกุมเสียก่อน หลังตรวจพบว่านำแผ่นดีวีดีหนังโป๊ที่เขาซื้อมาจากเมืองไทยจำนวน 36 แผ่น ส่วนหนึ่งเข้าข่ายสื่อลามกเกี่ยวกับเด็ก

ข่าวระบุว่านายมนูได้ยอมรับผิดตามข้อหาอาญาว่าด้วยขนส่งวัตถุลามกเกี่ยวกับเด็ก โดยหวังว่าจะได้รับความปราณีลดหย่อนโทษจากศาล และระหว่างอยู่ในศาลได้ขอความกรุณาผู้พิพากษาโดยกล่าวผ่านล่ามนานกว่า 20 นาที ว่าขอให้ส่งตนกลับไปประเทศไทยแทนการจำคุกในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสัญญาว่าจะบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เพื่อปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ พร้อมกับขอความเมตตาจากผู้พิพากษาว่ามีภรรยาและบุตร 2 คนรอการดูแลอยู่ที่ประเทศไทย ปรากฏว่าผู้พิพากษาได้ปฏิเสธคำขอร้องของนายมนู แต่ได้สั่งลงโทษจำคุกนายมนูตามจำนวนปีที่ทนายของนายมนูร้องขอ คือ 78 เดือน

นายโรเบิร์ต ดราสโกวิช ทนายความของนายมนู ปนาทกูล กล่าวว่า ตนและลูกความพึงพอใจมากกับคำพิพากษาของศาล และยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง เพราะโทษเดิมที่มีการพูดถึงคือการจำคุกนานถึง 20 ปี นอกจากนี้ อัยการเจ้าของคดียังพยายามร้องขอต่อศาลให้พิพากษาตัดสินจำคุกนายมนูนานถึง 121 เดือน (12 ปี) ด้วย

กรณีที่คนไทยถูกจับกุมตัวระหว่างเดินทางเข้าประเทศอเมริกา เพราะมีแผ่นดีวีดี หรือวีซีดีลามกเกี่ยวกับเด็กนั้น ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง เมื่อเดือนธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ได้มีคนไทยถูกจับข้อหามีวัตถุลามกเกี่ยวกับเด็กในสหรัฐอเมริกา 6 คน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา และรัฐอื่นๆ ทั้งๆ ที่ ทางสถานกงสุลไทย และกรมสารนิเทศ ได้เคยออกข่าวเตือนชาวไทยให้ระวังเรื่องการนำดีวีดี วีซีดี และไฟล์หนังลามกเกี่ยวกับติดอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าประเทศสหรัฐอเมริกา

การถูกจับได้จะกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาเอาจริงกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำทารุณกรรม ทางเพศกับเด็กทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการเอาผิดทั้งผู้ผลิต จำหน่าย เผยแพร่ และมีไว้ในครอบครัวอย่างรุนแรง อีกทั้งมีกฎหมายว่าด้วยการเอาผิดชาวอเมริกันที่เดินทางไปกระทำผิดทางเพศกับ เด็กในต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของหน่วยงานอิมมิเกรชั่น หรือ ICE (Immigration and Customs Enforcement) และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ มีการสร้างปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า Operation Predator ขึ้นมาเมื่อปี 2003 เพื่อการการกระทำความผิดเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานรักษากฎหมายทุกระดับในประเทศและนานาชาติด้วย.

"โอ๊ค" เฟซบุ๊กถาม "มาร์ค" เป็นอีแอบหรือเปล่า

วันที่ 5 ก.ค. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตร์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวครั้งล่าสุด พาดพิงไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านประชาธิปัตย์ มีเนื้อหาระบุว่า "ผมเนี่ย รอคันปากอยู่แล้วครับที่จะตอบคำถามว่า ′ผมโพสต์เฟสบุ๊คเองหรือไม่′ ผมกะว่าจะรอจนสุดซอยก่อน โดยให้หัวหน้าพรรคปชป.เป็นผู้ถามแล้วผมจะตอบ เพราะปกติท่านจะต้องออกมา "พ่อโอ๊ค"หรือ"พ่อพานทองแท้"แล้ว แต่ครั้งนี้ท่านไม่ออก ก็ไม่เป็นไรครับ ไหนๆลูกน้องท่านก็ออกมาโจมตีผมจนน่าจะครบทีมโฆษกพรรคฯแล้ว ผมเริ่มเลยแล้วกัน

นายพานทองแท้ ระบุว่า "ประเด็นนี้เริ่มต้นด้วยการที่ทีมโฆษกฝ่ายค้านตั้งคำถามว่าผมโพสต์เฟสบุ๊คเองหรือไม่ ผมต้องขอตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุใด หัวหน้าพรรคปชป.จึงไม่กล้าออกมาถามผมเองครับ เป็นเพราะท่านเกรงว่าผมจะถามท่านกลับบ้างใช่หรือไม่ ′ผมขอเรียนว่าผมยินดีที่จะตอบ หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาเปิดเผยความจริงกับสังคมก่อนว่า เขาเป็นผู้โพสต์ ทวิตเตอร์และเฟสบุ๊คของเขาเองหรือไม่′ หัวหน้าพรรคปชป.เป็น สส. เป็นคนของประชาชนครับ ส่วนผมเป็นประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ต้นทุนทางสังคมท่านมากกว่าผมเยอะ กรณีแบบนี้ผมคิดว่าหากจะเฉไฉด้วยการไม่ตอบ หรือพูดโกหกแฟนเพจของตัวเอง จะเป็นการได้ไม่คุ้มเสียครับ

นายพานทองแท้ โพสต์ต่อไปว่า "แต่หากว่าท่านพูดความจริงต่อสังคม ผมเชื่อว่ากรณีนี้จะกลายเป็นลักษณะ ว่าแต่เขาอีเหนาเป็นเองอีกครั้งซึ่งจะเป็นกรณีที่3 เช่นเดียวกับการเปลี่ยนเสื้อผ้า กับการตำส้มตำของนายกฯปู ที่พึ่งเกิดขึ้นไป2ครั้ง แต่ครั้งนี้คู่กรณีไม่ใช่นายกฯปู แต่เป็นผม ′เพราะผมเชื่อว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์และเฟสบุ๊คด้วยตัวเองครับ′ ประเด็นนี้ลูกน้องท่านเป็นคนเปิดครับ หลายคนด้วย เขาอาจจะอ่อนประสบการณ์ทางการเมืองจนลืมถามนายตัวเองว่า ′พี่มาร์คโพสต์เองหรือปล่าวครับ′ จึงเที่ยวไประรานคนอื่นว่าถ้าไม่โพสต์เองจะเป็นอีแอบ แต่เมื่อมันเดินมาถึงตรงนี้แล้ว ผมคิดว่ายังไงๆ ท่านอภิสิทธิ์ฯก็ต้องตอบสังคมครับ ท่านช่วยรีบๆตอบหน่อย ท่านตอบปุ๊บผมตอบปั๊บเลย แฟนเพจทั้งของท่าน และของผม ตลอดจนพี่ๆสื่อมวลชน เขาอยากทราบกันเต็มทีแล้วว่า ใครโพสต์จริงและใครให้อีแอบโพสต์ให้กันแน่ครับ

"ผมบอกใบ้ให้ก็ได้ครับว่าในส่วนของผม ผมใช้คำว่า"พี่ๆสื่อมวลชน" ได้เต็มปากเพราะแถวนี้ มีแต่วัยรุ่นทั้งนั้น ไม่มีหรอกครับนักข่าวแก่ๆตกงานมาช่วยผมเขียน แบบที่เขาพยายามโกหกกันอยู่ เลอะเทอะ ไร้สาระกันไปใหญ่แล้วครับ 55555" นายพานทองแท้ ระบุ นอกจากจะเขียนข้อความต้ั้งคำถามถึงนายอภิสิทธิ์เรื่องการโพสต์เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์แล้ว นายพานทองแท้ยังโพสต์ภาพประกอบด้วยเป็นภาพขณะนายอภิสิทธิ์กำลังระเบิดอารมณ์หัวเราะอย่างเต็มที่