ข่าว
โรส ฉัตรวดี โพล่สหรัฐฯ ร่วมวงหนุนภาคี-เสรีไทย

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 มีข่าวจากสังคมออนไลน์ เปิดเผยความเคลื่อนไหวล่าสุดของ น.ส. ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส เสื้อแดง ผู้ต้องหาหมายจับ คดีหมิ่นเบื้องสูง และคดียุยง ปลุกปั่นด้วยสื่อเพื่อให้ประชาชนในชาติกระด้างกระเดื่องต่อกฎหมายในรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาเคลื่อนไหวอยู่ในสหรัฐอเมริกาที่ร้านอาหาร King of Thai Noodle ในซานฟรานซิสโก

ล่าสุดได้เข้าร่วมกับศูนย์ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน (Thai Alliance for Human Right) ซึ่งมี มนูญ ชัยชนะ หรือ อเนก ซานฟรานฯ นั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และมี ดร.เพียงดิน รักไทย (เสน่ห์ ถิ่นแสน) เป็นประธาน

ทั้งนี้นายมนูญ ชัยชนะ ยังใช้องค์กรภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ "องค์กรเสรีไทย" ซึ่งเป็นของนายจักรภพ เพ็ญแข ทางด้าน น.ส.โรส ฉัตรวดี เผยว่า กลุ่มเสรีไทย แนะให้ปรับเปลี่ยนแนวทางเคลื่อนไหว โดยจะหยุดทำคลิปวิดีโอและใช้การเผยแพร่ผ่านบทความแทน โดยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บนเฟสบุ๊คของ น.ส.ฉัตรวดี ระบุว่า "หยุดทำคลิปวิดีโอที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงแล้ว โดยเปลี่ยนมาเป็นเขียนบทความส่งต่อให้กับสถานทูตประเทศต่างๆ ในประเทศไทย และสื่อมวลชนทั่วประเทศแทน

น.ส.ฉัตรวดี ระบุว่า ระหว่างที่ไปคุยงานกับกลุ่มเสรีไทย ได้รับคำแนะนำ ให้เปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ เพื่อเป้าหมายในการขยายฐานมวลชนให้มากขึ้นในเรื่องการเมืองการปกครอง "ดิฉันจะเน้นการเขียนบทความให้ต่างชาติได้รับรู้กระจายข่าวสารไปทั่วโลกจะขอต่อสู้อย่างมีเหตุผลมีหลักการเป็นแบบสากลมากขึ้น"

รถไฟเหาะสวนแมจิกเมาน์เทน ชนกิ่งไม้ตกรางบาดเจ็บ 4 คน

เกิดอุบัติเหตุรถไฟเหาะตีลังกา ชนกิ่งไม้ตกราง แขวนอยู่กลางอากาศ ที่สวนสนุกในลอสแอนเจลีส มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน และอีกกว่า 20 คนติดค้างอยู่กลางอากาศนานเกือบ 3 ชั่วโมง

ซานตา แคลริตารัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่าเกิดอุบัติเหตุรถไฟเหาะตีลังกาที่เรียกว่า นินจา ชนกับกิ่งไม้ที่สวนสนุกซิกซ์ แฟล็กส์เมจิก เมาท์เทน ในลอสแอนเจลีสรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นทำให้โบกี้หน้าหลุดออกจากรางห้อยอยู่กลางอากาศและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คนและนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆอีกกว่า 20 คนติดค้างอยู่ด้านบนสูงจากพื้น 6 เมตรนานหลายชั่วโมง

สถานีโทรทัศน์ถ่ายภาพให้เห็น โบกี้โดยสารอย่างน้อย 1 โบกี้ซึ่งปกติจะแขวนติดอยู่ด้านล่างของรางห้อยโตงเตงอยู่กลางอากาศบริเวณมุมเลี้ยวเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงของสวนสนุกที่เข้าช่วยเหลือสามารถเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวออกจากรถไฟเหาะไปได้ทีละคนส่วนคนที่เหลือก็ต้องรออย่างอดทนอย่างไรก็ตามก็มีอยู่หลายคนที่ต้องนั่งรออยู่ในโบกี้โดยสารเกือบ3 ชั่วโมงหลังเกิดอุบัติเหตุซึ่งมีนักท่องเที่ยวเล่นรถไฟเหาะอยู่ถึง 22 คน

รถไฟเหาะตีลังกานินจาสามารถรองรับผู้เล่นได้ 28 ที่นั่ง ส่วนสวนสนุกซิกซ์แฟล็กส์ เมจิก เมาท์เทน อยู่ในเขตวาเลนเซีย ของเมืองซานตาแคลริตา ห่างจากลอสแอนเจลิสไปทางตอนเหนือประมาณ 25 ไมล์


ระวังซัมเมอร์แคมป์ เตือนเหยื่อสูญเงิน

โครงการนำเยาวชนไทยไปหาประสบการณ์ต่างประเทศ สร้างปัญหาอีกครั้ง ล่าสุดมีผู้ปกครองเตือนให้ระวัง ซัมเมอร์แคมป์ หลอกโอนเงิน

จากข่าวที่นักศึกษาไทยถูกหลอกมาศึกษาดูงานระยะสั้นในช่วงปิดเทอม ในสหรัฐฯ ทั้งเรื่องงานที่ไม่เหมาะสม ไม่ได้เรียน ที่อยู่ไม่ปลอดภัย ฯลฯ ทำให้นักศึกษาหลายคนต้องถูกลอยแพ ซึ่งปรากฎให้เห็นเสมอๆ ในนครลอสแอนเจลิส

แม้กระทั้ง อดีตกงสุลใหญ่ในนครลอสแอนเจลิส บางท่านได้หาโอกาสไปให้ความรู้แก่นักศึกษาในมหาวิทยาลัย หลายๆ แห่ง เพื่อให้นักศึกษา ได้รับรู้ปัญหา เพื่อความรอบคอบในการตัดสินใจ ล่าสุดมีข่าวลักษณะที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้ง

นพดล ศรีทวีกาศ นักสื่อสารมวลชน ได้นำเสนอบทความเพื่อออกมาตักเตือน ระบุว่า ระยะนี้ผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานไปเรียนต่างประเทศในช่วงระยะสั้นๆ หรือเรียกว่า "ซัมเมอร์แคมป์" ต้องระมัดระวัง เนื่องจากมีผู้ตกเป็นเหยื่อต้องสูญเสียเงินไปแบบฟรีๆ ให้บุคคลที่กล่าวอ้างว่าสามารถนำบุตรหลานไปเรียนในต่างประเทศได้ แต่เมื่อโอนเงินไปให้แล้วเรื่องกลับหายเข้ากลีบเมฆ

ล่าสุดทีมข่าวสายตรวจระวังภัย ได้รับการร้องเรียนจาก นางเนตรทราย วงศ์อุปราช เจ้าของธุรกิจอีเวนท์ชื่อดัง พร้อมด้วยผู้เสียหายกว่า 20 ราย ถูกบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.นครปฐม ชื่อ ดร.ชัยพร สกุลพนารักษ์ หลอกให้โอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการนำบุตรหลานไปศึกษาหลักสูตรภาคฤดูร้อนที่ประเทศอังกฤษ แต่เมื่อถึงกำหนดเดินทาง กลับไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ และไม่สามารถติดต่อบุคคลดังกล่าวได้อีก ทำให้เกิดความเสียหายรวมกันนับล้านบาท ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้ได้นัดหมายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในข้อหาฉ้อโกง เพื่อให้ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เร่งติดตามจับกุมแล้ว

โดยทีมงานสายตรวจระวังภัยได้ติดตามความคืบหน้าของคดีจาก พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบก.ภ. จ.นนทบุรี รักษาการ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ทราบว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนายชัยพร ผู้ต้องหารายนี้แล้วในคดีฉ้อโกงทรัพย์ และจากการประสานงานกับสถานีตำรวจอื่นๆ ทราบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกบุคคลดังกล่าวหลอกอีกหลายราย ซึ่งอยากจะเตือนไปยังผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานไปเรียนต่อต่างประเทศควระมัดระวัง ควรศึกษารายละเอียดในเรื่องเอกสาร ค้นคว้าหาความรู้ทางอินเตอร์เน็ต หาข้อมูลจากสถาบันที่มีมาตรฐาน เช่นสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ตลอดจนกงสุลต่างประเทศเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิฉาชีพ


หลากปัญหานวดไทย ไม่ผ่านระเบียบสหรัฐฯ

เมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2557 ทีมเจ้าหน้าที่ข้าราชการไทย นำโดย น.ต.น.พ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข น.พ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีฯ และคณะ ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการไทยและเอกชนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี ศรัญยู อัมพาตระการ กงสุลฝ่ายเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย แห่งสถานกงสุลใหญ่ ประจำนครลอสแอนเจลิส และพลเทพ อินทุรัตน์ ประธานหอการค้าไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนีย พร้อมด้วยคณะกรรมการ และตัวแทนผู้ประกอบการนวด/สปาไทย ในนามของกลุ่มเพื่อนสปาแอล.เอ. ร่วมหารือถึงทิศทางการให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพของประชาชน และยกระดับกิจการนวดและสปาไทยในต่างแดน

จากการศึกษาระเบียบของหน่วยงาน CAMTC ซึ่งดูแลการออกเอกสารทำงานนวดอย่างถูกกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย ได้กำหนดให้ผู้ที่จะขอไลเซ่นส์นวดจะต้องเรียนตามหลักสูตรของที่นี่กำหนดให้ครบ 500 ชั่วโมง ขณะที่หลักสูตรเมืองไทยกำหนดอยู่ที่ 150 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบหลักสูตรทั้งสองแห่ง พบว่าในภาคปฏิบัติเป็นหลักสูตรเดียวกัน แต่ภาคทฤษฎี คือ กายวิภาคนั้น ประเทศไทยกำหนดชั่วโมงเรียนน้อยกว่า เนื่องจากทางไทยมองว่าพนักงานนวดไทย เรียนเพื่อใช้ในเรื่องของสุขภาพ แต่หลักสูตรของสหรัฐฯ เน้นการเรียนเพื่อเป็นนักบำบัดรักษา

ดังนั้น ในเรื่องของการโอนหน่วยกิตจากเมืองไทยมายังสหรัฐ ยังมีข้อแตกต่าง ซึ่งทางประเทศไทยกำลังหาช่องทางในการพูดคุยกับ CAMTC เพื่อให้รองรับหลักสูตรไทย หรืออย่างน้อยให้กำหนดหลักสูตรใหม่ร่วมกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานนวดไทยที่ต้องการขอใบอนุญาตทำงานในสหรัฐฯ เข้าสู่กระบวนการได้ง่ายและถูกต้องมากขึ้น ซึ่ง CAMTC ไม่มีส่วนเกี่ยวกับการนำแรงงานเข้ามาทำงานในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในจุดนี้ยังคงต้องหาทางกันต่อไป

โดยกระทรวงสาธารณสุขไทย มีแนวคิดที่จะนำครูสอนนวดไทยที่ผ่านการรับรองของกระทรวงสาธารณสุข มาฝึกอบรมให้กับผู้ที่ต้องการเรียนนวดไทยในแอล.เอ. โดยได้รับความร่วมมือจากหอการค้าไทยฯ ในการจัดดำเนินงานเรื่อง สถานที่ และการเปิดรับสมัคร โดยคาดว่าจะกำหนดหลักสูตรนี้ขึ้นได้ในเดือน ตุลาคมปีนี้

โดยจะแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร 80 ชั่วโมง ใช้เวลาเรียน 2 สัปดาห์ และ 150 ชั่วโมง ใช้เวลาเรียน 4 สัปดาห์ โดยคาดว่ารอบแรกจะรับสมัครได้ประมาณ 30 ราย และจะมอบประกาศนียบัตรจากกระทรวงสาธารณสุขหลังจากอบรมสำเร็จ โปรแกรมที่จัดขึ้นนี้เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพของพนักงานนวดแผนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรของทางสหรัฐฯ แต่อย่างใด

นอกจากนี้การประชุม สรุปจะให้มีการออกแบบตรารับรองมาตราฐานนวดไทยในแคลิฟอร์เนีย ให้กับร้านนวดที่ได้มาตราฐานตามที่กำหนด

"ธัญญ่า" จากสาวขี้อาย มุ่งสู่เวที Miss Asian

หลายคนคงไม่คุ้น และอาจสงสัยว่า Miss Asian Global / America กับ Miss Asia USA & Mrs. Asia USA เป็นเวทีเดียวกันหรือเปล่า คำตอบคือไม่ แต่สำหรับเวที Miss Asian Global / America นี้ไม่ใช่เป็นเวทีเกิดใหม่แต่อย่างใด เพราะมีการประกวดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งนี้สาวไทยอายุ 17 ปี ธัญญ่า ตันตริยานนท์ เตรียมความอลังการของชุดไทย เพื่อโชว์ถึงคุณค่าของเอกลักษณ์ไทยอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคมนี้

เนื่องจากเป็นเด็กหญิงที่มีนิสัยขี้อาย คุณแม่เยาวลักษณ์ ตันตริยานนท์ จึงส่งเสริมให้ลูกสาว "ธัญญ่า" เริ่มเข้าประกวดในเวทีต่างๆ ของชุมชนไทยตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยคุณแม่เยาวลักษณ์ ได้ส่งเสริมให้ลูกสาวได้เรียนร้องเพลงกับ "ครูหนึ่ง" ศิรินันท์ ปลอดเปลี่ยว ซึ่งเป็นครูสอนร้องเพลงที่การสอนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยธัญญ่าเริ่มเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยคุณแม่หวังว่า การฝึกฝนร้องเพลงจะทำให้ลูกสาว กล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น

โดยในช่วงวัยเด็ก ธัญญ่าได้มีโอกาสได้เรียน บัลเล่ย์ ไอซ์สเก็ต และติดตามคุณพ่อนพดล ไปเล่นกอล์ฟ จนในที่สุดเธอได้ตัดสินใจเล่นกอล์ฟตามคุณพ่อ โดยมี มิเชล วี สาวเลือดผสมเกาหลี เป็นไอดอล

ความฝันของ ธัญญ่า อยากเป็น แฟชั่นดีไซน์เนอร์ เพราะว่าชอบการแต่งตัว และ อยากออกแบบเสื้อผ้าสวยๆ ไว้ให้พี่ป้าน้าอา ด้วยค่ะโดยเฉพาะ ผ้าไหมไทย ที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ เธอจึงเลือกที่จะเรียน FIDM

ด้วยความที่เธอชื่นชอบในเอกลักษณ์ของผ้าไทย และเครื่องแต่งกายแบบไทยนี่เอง ประกอบกับการที่เธอเป็นคนที่ชอบแต่งตัว ทำให้สาวน้อยคนนี้เริ่มสนใจชุดไทยและรู้สึกภาคภูมิใจในชุดไทยตั้งแต่อายุ 13 ปี การได้ไปประกวดตามที่ต่างๆ นั้นยังทำให้เธอได้เพื่อนใหม่ๆ และได้ประสบการณ์ที่ดีกลับมาทุกครั้ง

ปัจจุบัน ธัญญ่า อายุ 17 ปี โดยมีแผนที่จะประกวด Miss Asian Global / America ในวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคมนี้ เวลา 6 โมงเย็น ที่ซานฟรานซิสโก Palace of Fine Arts 3301 Lyon St. San Francisco CA 94123 ซึ่งอยากจะให้พี่น้องชาวไทยในซานฟรานฯ ไปให้กำลังใจเธอที่ขอบเวที และการประกวดจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเป็นสปอนเซอร์ให้กับสาวน้อยเลือดไทย 100 เปอร์เซ็นต์คนนี้ สามารถติดต่อได้ที่ 562-396-2395 หรือที่อีเมล์ yawvalux@gmail.com


ศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ห่วงปัญหาสุขภาพโรบินฮูด

ศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ออกสำรวจจำนวนคนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพ โดยเฉพาะ “โรบินฮูด” ที่ไม่สามารถขอซื้อประกันโอบาม่าแคร์ได้ พร้อมเร่งสร้างเครือข่ายสุขภาพ

โดยทางศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน ได้พยายามช่วยเหลือติอต่อสถานที่ที่จะรับคนกลุ่มนี้เวลาเจ็บป่วย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กงสุลใหญ่เจษฎา กตเวทิน ด้านงบประมาณของศูนย์ฯ นำไปใช้ประสานงานสร้างเครือข่ายองค์กรต่างๆ ให้มาร่วมกัน เพื่อทำการสำรวจประชากรที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพในรัฐแคลิฟอร์เนียภาคใต้ และรัฐใกล้เคียง โดยที่จะรวบรวมจำนวนคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพและต้องการรักษา รวมถึงการสร้างเครือข่ายกระจายตามจุด เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ เช่น การประสานงานกับทางคลินิค โรงพยาบาล สถานีอนามัย ซึ่งอยู่ใกล้เคียงและรัฐต่างๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ โครงการสำรวจจำนวนประชากรได้เริ่มดำเนินการแล้ว คาดว่าจะสำรวจเสร็จสิ้นภายในเดือน พฤศจิกายนนี้ โดยทางศูนย์ฯ ต้องการให้ความรู้ที่ถูกต้องให้กับคนกลุ่มนี้เพื่อป้องกันการถูกปรับ

“คนที่ไม่สามารถจ่ายค่าประกันสุขภาพของโอบาม่าแคร์ แล้วหลีกเลี่ยงไม่ซื้อ ยอมเสียค่าปรับ คนกลุ่มนี้ซึ่งเราจะต้องให้การศึกษาเขา ให้เขารู้และเตรียมพร้อมก่อนที่เขาจะถูกแจ้งล้มละลายหรือถูกยึดทรัพย์ทุกอย่าง เพื่อจะต้องมาจ่ายค่าอาการเจ็บป่วยของเขาเอง”

นอกจากนี้ทางศูนย์ฯ จัดให้มีรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้บริการสุขภาพท้องถิ่น รวมถึงจัดบริการตรวจสุขภาพใหญ่ในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายนของทุกปี ในแต่ละปีจะมีผู้มาใช้บริการอย่างน้อย 700-800 คน โดยทางศูนย์ฯ ได้จัดแพทย์อาสาที่เป็นคนไทยประมาณ 30 ท่านมาให้บริการ อย่างไรก็ตามในอนาคตจะเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับเมืองไทย โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระจายการตรวจสุขภาพจากปีละครั้ง เป็นการตรวจสุขภาพย่อยหลายครั้งมากขึ้น รวมถึงความร่วมมือการส่งเจ้าหน้าที่แพทย์ เวชภัณฑ์ และยาจากเมืองไทย มาให้บริการคนไทยที่นี่ด้วย