ข่าว
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เปิดตัว หน.ปชป.เป้าหมายคือนายกฯ

ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ยืนยันมีความพร้อมเต็มที่ เปิดตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลัง คสช.ปลดล็อก เชื่อสามารถนำพาพรรคให้ก้าวไปสู่สากล และมีเป้าหมายอยู่ที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี...

เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 59 ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน และอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ จ.นครศรีธรรมราช ถึงอนาคตทางการเมืองของตนว่า หลังจากทาง คสช.ปลดล็อกของพรรคการเมืองแล้ว ตนก็มีความพร้อมที่จะลงชิงตำแหน่ง หน.พรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ เนื่องจากขณะนี้ตนมีความพร้อมแล้ว

ดร.สุรินทร์ กล่าวด้วยว่า มีเสียงเรียกร้องของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเห็นว่าตนมีความเหมาะสมที่จะนั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ และหากตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เป้าหมายต่อไปของตนก็คือตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ขณะนี้ อายุ 66 ปี เป็นอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช 7 สมัย ตั้งแต่ปี 2529 เคยรับตำแหน่งทางการเมืองหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะรมว.ต่างประเทศ และล่าสุดเป็นเลขาธิการอาเซียน ได้สั่งสมประสบการณ์มายาวนาน ซึ่งเจ้าตัวก็ยืน

′บิ๊กตู่′ปลุกคนไทย อาเซียนเปิดแล้ว เปิดโลกทรรศน์-พัฒนาภาษาอังกฤษ

"บิ๊กตู่" ปลุกคนไทยตื่นตัวรับประชาคมอาเซียนพร้อมศักราชใหม่ เน้นพัฒนาภาษาอังกฤษ สร้างคุณภาพแรงงาน และขยายตลาด พร้อมกำชับส่วนราชการใช้อาเซียนสร้างประโยชน์แก่ประชาชน

เมื่อวันที่ 1 มกราคม พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝากให้ประชาชนคนไทยทุกคนตื่นตัวรับการเปลี่ยนแปลงและโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้ามาพร้อมกับปี 2559 ใหม่นี้ ด้วยการเปิดโลกทรรศน์ แสวงความรู้ และพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพของแต่ละคน และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม

"นายกฯ เน้นเรื่องการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษของคนไทยโดยเฉพาะการสื่อสาร เพราะเรายังอ่อนเรื่องภาษา และเรียนรู้ภาษาอื่นเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งรัดพัฒนาฝีมือแรงงานให้แข่งขันได้กับประเทศเพื่อนบ้าน และดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศมากขึ้น โดยอาศัยข้อดีของการมีตลาดใหญ่ด้วยการแสวงหาความร่วมมือกับอาเซียน" พล.ต.สรรเสริญกล่าว

พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ 6 ด้าน เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ครอบคลุมทั้งการสร้างความรู้เกี่ยวกับอาเซียน การพัฒนาการศึกษา แรงงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสร้างเครือข่ายในภูมิภาค เพื่อผลักดันศักยภาพที่มีอยู่ของไทยให้เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ เช่นเดียวกับที่ล่าสุดองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศให้ จ.ภูเก็ต เป็นเมืองวิทยาการด้านอาหาร The City of Gastronomy เมืองแรกของอาเซียน และเป็น 1 ใน 18 เมืองดังกล่าวของโลก ซึ่งจะทำให้ จ.ภูเก็ต มีโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจและต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยวได้อีกหลากหลายประเภท ซึ่งนายกฯมีความยินดีและขอบคุณผู้ที่มีส่วนสร้างความสำเร็จนี้ให้แก่ประเทศชาติ พร้อมทั้งได้กำชับให้ส่วนราชการบูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหวังให้มีการวางแผนที่ชัดเจนในระยะยาว เน้นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม และคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการเป็นประชาคมอาเซียน


'จิตภัสร์' พร้อมเลือกตั้ง ยังอุบ ลงในนาม ปชป.

'จิตภัสร์' พร้อมลงเลือกตั้ง อุบลงในนามประชาธิปัตย์ หรือไม่ ยันไม่ทิ้งงานเพื่อสังคม โต้หาเสียงล่วงหน้า ให้กำลังใจ กรธ.ร่างรธน.ฝาก 'คสช.' ปฏิรูปการศึกษา

วันที่ 26 ธ.ค. น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงอนาคตทางเมืองหลังจากนี้ ว่า พร้อมที่จะกลับไปลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่จะลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งจริงๆ ตนเชื่อว่า การทำงานเพื่อสังคมจะไม่มีปัญหากับงานการเมือง เพราะเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ตนก็จะยังคงขอทำหน้าที่จิตอาสา เพื่อตอบแทนสังคมต่อไป

ส่วนการลงพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมเพื่อสังคมในช่วงที่ผ่านมามีกระแสว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น ตนเห็นว่าหากทุกคนทำได้เหมือนตนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถือเป็นการตอบแทนสังคม

เมื่อถามถึง กรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม จาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพสนใจที่จะลงสมัคร หรือไม่ น.ส.จิตภัสร์ กล่าวยืนยันว่า ในเรื่องดังกล่าวตนยังไม่สนใจ และขอให้กำลังใจ กรธ.ในการร่างรัฐธรรมนูญ อยากเห็นทุกอย่างเดินหน้าไปตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้ ทั้งเรื่องการเลือกตั้งและการสร้างประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้ประชาชนไม่เข้าใจ

พร้อมกันนี้ ตนอยากฝากไปยังรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขอให้กำลังในเรื่องการปฏิรูปประเทศ และขอให้เน้นเรื่องการปฏิรูปการศึกษาเป็นพิเศษ เนื่องจากเห็นว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนการปฏิรูปองค์การตำรวจนั้น ตนขอให้ฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะองค์กรตำรวจ เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครต้องการให้คนนอกมาปฏิรูปองค์กรตนเอง


"โอ๊ค"เหน็บ ของขวัญปีใหม่จาก"ป.ป.ช. "คือไม่สั่งฟ้องประชาธิปัตย์-2มาตรฐาน

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra

ระบุว่า ของขวัญส่งท้ายปีเก่า จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ชุดรักษาการฯ ในขณะที่กำลังรอชุดใหม่เข้ารับตำแหน่ง แด่พี่น้องประชาชนไทย คือการสั่งไม่ฟ้องรัฐบาลประชาธิปัตย์ ในคดีสลายการชุมนุมเมื่อปี 53 ของขวัญชิ้นนี้ คงจะทำให้คนส่วนน้อยของประเทศ ที่นิยมชมชอบในพรรคประชาธิปัตย์ ยินดีปรีดากันถ้วนหน้า

แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่รักความยุติธรรม และไม่เคยเลื่อมใส-ไม่เคยเลือกพรรคฯนี้ ย่อมผิดหวังและไม่พอใจเป็นธรรมดา

"เมื่อเปรียบเทียบกับอีกเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งเป็นการสลายการชุมนุมเช่นกัน แตกต่างกันเพียงเป็นของอีกรัฐบาลหนึ่ง ความรุนแรงน้อยกว่ากันเยอะ แต่พฤติกรรมของป.ป.ช. กลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะสั่งฟ้องตั้งแต่ก่อนไก่โห่ เช่นเดียวกับอีกหลายๆ คดี ที่ฝั่งหนึ่งเร่งรัดดำเนินการ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งปล่อยหมดอายุความบ้าง เอกสารหายบ้าง แล้วแต่จะหาเหตุผลมาแอบอ้างฯ" นายพานทองเเท้ กล่าว

ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระ ที่อยู่ต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม หากมีพฤติกรรม 2 มาตรฐาน แบบไม่อายสายตาประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอยแต่จะตัดตอนเรื่องของฝ่ายหนึ่ง ไม่ให้ขึ้นสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม โดยขัดต่อความรู้สึกของคนส่วนใหญ่อยู่ตลอดเวลา กระบวนการยุติธรรมโดยรวมของไทย ย่อมสั่นคลอนและขาดความน่าเชื่อถือ

นายพานทองเเท้กล่าวต่อว่า "ปีใหม่นี้ พวกที่ชอบเรียกตัวเองว่าคนดี ควรหยุดคิดได้แล้วว่า ถ้าปล่อยประเทศไทยให้เป็นไปไปตามครรลองประชาธิปไตย แบบประเทศอื่นแล้ว ประเทศไทยจะล่มสลาย มีแต่พวกกูตัวกูเท่านั้นที่รักชาติ ไม่โกงชาติ ดังนั้นจะทำอะไรก็ไม่ผิด ส่วนอีกฝ่ายเป็นคนเลว ทำอะไรก็ต้องผิดไปเสียหมด มัวแต่คิดแบบนี้ ความปรองดองของคนในชาติ ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ครับ ปีใหม่ฟ้าใหม่ ทำใจให้สดใส ปรับทัศนคติตัวเองให้ดี ประเทศชาติจะดีขึ้นเองครับ"


Discover Los Angeles ยก Chimney ร้านกาแฟ “ขั้นเทพ”

Discover Los Angeles นิตยสาร และ Website ชื่อดังของอเมริกา ยกย่องให้ร้านกาแฟของคนไทย Chimney เป็นร้านกาแฟ อันดับ 4 ของร้านกาแฟ TOP TEN ของแคลิฟอร์เนียในปีนี้ เป็นร้านกาแฟที่มีคนต่างชาติ เป็นลูกค้ามากที่สุด และเป็นร้านกาแฟร้านเดียวที่มีอาหารเช้าเสิร์ฟด้วย

Discover Los Angeles ฉบับวันที่ 31 ธันวาคม 2015 ลงข่าวร้านกาแฟ TOP TEN ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประจำปี 2015 ได้ยกย่อง Chimney Coffee House ร้านกาแฟของคนไทย ให้อยู่ในอันดับ 4 ของ TOP TEN โดยกล่าวว่า

“ท่านไม่ต้องคิดเลยในการที่จะหาอาหารเช้าทาน พร้อมกาแฟที่แสนอร่อย เพราะที่ Chimney มีพร้อมให้คุณ การที่คุณจะไปหาอาหารเช้าทานในร้านกาแฟนั้นลำบากมาก แค่คุณไปสั่งไข่ดาวเพียง 3 ฟองกับกาแฟ ก็เป็นเรื่องยุ่งยากที่จะต้องเข้าไปปรุงกันในครัว แต่ที่ Chimney Coffee Shop มีอาหารเช้าเตรียมไว้ให้พร้อมในรูปลักษณ์ต่างๆ ที่คุณพร้อมจะสั่งมาทานได้ทันที Breakfast แต่ละจานของ Chimney น่าทานและมีรสชาติอร่อยอย่างที่คุณไม่เคยได้ทานที่ไหนมาก่อน ”

Chimney Coffee Shop เป็นร้านกาแฟที่มหัศจรรย์ ส่วนมากร้านกาแฟหรูๆเช่นนี้ มักจะอยู่ตาม Shopping Mall หรือตาม Plaza ใหญ่ๆ แต่ Chimney กลับอยู่ในอาคารพาณิชย์ข้าง แล็ค-ซี ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นการลำบากในการค้นหาร้านกาแฟดีๆอย่างนี้ แต่ก็มีชาวอเมริกันและชาวต่างชาติเข้ามาอุดหนุนกันแน่นร้านทุกวัน เพราะติดใจในรสชาติของกาแฟ และ อาหารว่าง ที่ทางร้านเตรียมไว้พร้อมทุกวัน Discover Los Angeles อยากจะเชิญชวนให้ท่านไปลองชิมกาแฟที่คุณไม่เคยลิ้มรสแบบนี้มาก่อน ท่านจะต้องเสียดายที่ไม่ได้ชิมกาแฟและอาหารเช้าที่แสนวิเศษเช่นนี้

Chimney Coffee House ตั้งอยู่เลขที่ 1100 North Main St. Los Angeles,CA 90012 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.30 am. - 10.00 pm. วันเสาร์-อาทิตย์ 09.00 am.- 05.00 pm.


น่ารักสุดสุด! ′ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์′วัย48กะรัต โชว์แดนซ์กลางห้างฯ ระหว่างกลับไทย

ช่วงนี้กระเเสนางงามกำลังฟีเวอร์! หลังจากน้องแนท อนิพรณ์ สามารถเข้าสู่รอบ 10 คนสุดท้าย ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2015 ได้ในรอบ 27 ปี!

คราวนี้เรามาชมความงามอมตะของนางงามรุ่นพี่ ′ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน′ เจ้าของตำแหน่งนางสาวไทยพ.ศ.2531 และนางงามจักรวาล พ.ศ.2531 กันบ้าง โดยแฟนเพจ Porntip Nakhirunkanok (Bui Simon) ได้เผยเเพร่คลิปเธอกำลังโชว์สเต็ปแดนซ์กลางซุปเปอร์มาเก็ต ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ระหว่างเดินทางมาพักผ่อนในช่วงเทศกาลปีใหม่ในประเทศไทย

สำหรับปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นั้นปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาเป็นการถาวร หลังจากแต่งงานกับนักธุรกิจชาวอเมริกัน เฮิร์บ ไซมอน เจ้าของบริษัทพัฒนาไซมอน หนึ่งในหุ้นใหญ่ของธุรกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ตอนนี้มีลูกชายและลูกสาวอย่างละ 1 คน อีกทั้งยังรับอุปการะลูกของน้องสาวที่เสียชีวิตอีก 3 คนด้วย

อย่างไรก็ตาม เธอเเละครอบครัวยังคงเดินทางมาประเทศไทยเป็นระยะๆ เนื่องจากกลับมาเยี่ยมครอบครัว พร้อมสานต่อโครงการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนโดย มูลนิธิปีกนางฟ้า ที่เธอเป็นประธาน

′มิสโคลอมเบีย′เปิดใจ รับเป็นเรื่อง′น่าขายหน้า′

น.ส.อาเรียดนา กูเตียร์เรซ มิสโคลอมเบียได้รับการสวมมงกุฏจาก น.ส.เปาลีนา เวกา มิสยูนิเวิร์ส 2014 ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2015 ที่พลาเน็ตฮอลลีวู้ด รีสอร์ตแอนด์กาสิโน ในนครลาสเวกัส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อ 20 ธันวาคม 2558: เมื่อวันที่ 1 มกราคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐอเมริการายงานว่า นางสาวอาเรียดนา กูเตียร์เรซ มิสโคลอมเบีย เปิดเผยว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ไม่ได้ยินเธอออกมาพูดอะไรมากนักเกี่ยวกับประสบการณ์ของเธอในการได้ครอบครอง และสูญเสียมงกุฏนางงามจักรวาล

"ฉันขาดการติดต่อไป ฉันแทบไม่รับโทรศัพท์ใครเลยแม้แต่คนเดียว" กูเตียร์เรซบอกกับสถานีวิทยุดับเบิลยู ของโคลอมเบีย และว่า "นั่นเป็นเพราะว่าฉันรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น"

แต่ถึงตอนนี้ กูเตียร์เรซออกมาพูดเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงสิ่งที่เธอเรียกว่าเป็น "ความไม่ยุติธรรมใหญ่หลวง"

นางงามโคลอมเบียผู้นี้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก หลังจากที่สตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกรบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส ประกาศชื่อว่าเธอเป็นผู้ชนะ ก่อนที่อีกเพียงไม่กี่นาทีต่อมา เขาออกมายอมรับว่าได้ทำผิดพลาดไปและประกาศว่า มิสฟิลิปปินส์เป็นเจ้าของมงกุฏที่แท้จริง โดยคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นกูเตียร์เรซร้องไห้ขณะที่ถูกถอดมงกุฏออกไปถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์

"เป็นเรื่องยากลำบากมากสำหรับฉัน ที่จริงแล้วต้องบอกว่าเป็นเรื่องช็อกอย่างมาก" กูเตียร์เรซบอกและว่า"เนื่องจากสิ่งนี้เป็นความฝันที่ฉันต่อสู้เพื่อจะให้ได้มา... ฉันฝันถึงสิ่งนี้มาตลอด ฝันว่าจะได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส... เป็นเรื่องน่าขายหน้ามากสำหรับฉัน"

เมื่อฮาร์วีย์กลับขึ้นมาบนเวทีเพื่อเปิดเผยว่า เขาได้ทำผิดพลาดไป กูเตียร์เรซบอกว่า เธอหัวเราะ

"ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก" เธอว่า "เขาเคยทำแบบนั้นในการซ้อม"

เธอบอกว่า การที่ต้องยืนต่อหน้ากล้องขณะที่มงกุฏที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบากเพื่อให้ได้มาถูกถอดออกไปเป็นเรื่องที่"ไม่ยุติธรรม"

"มีวิธีการตั้งมากมายที่จะทำเรื่องนี้ พวกเขาไม่ควรทำแบบนั้น ฉันไม่รู้นะ แต่ว่าอาจเป็นในงานแถลงข่าววันต่อมาหรือการออกแถลงการณ์ พวกเขาไม่ได้แก้ไขความผิดพลาดด้วยวิธีที่ถูกต้อง" กูเตียร์เรซกล่าว

แต่ถึงตอนนี้ หลังจากที่เศร้าโศกเสียใจมาพักนึงแล้ว เธอเปิดเผยว่า เธอมองในทางบวกมากขึ้น มีงานเสนอเข้ามามากมาย รวมทั้งโอกาสที่จะได้ทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วย

"ฉันตั้งใจที่จะสร้างประวัติศาสตร์ซึ่งสำคัญกว่าการได้ครองมงกุฏมิสยูนิเวิร์สมาก"