ข่าว
เซอร์ไพรส์! "ต้น-แต้ว" แจกการ์ดแต่งงานแล้ว

เซอร์ไพร์สสงกรานต์จ้าาาา!! เมื่อล่าสุดสดๆร้อนๆ จากเฟซบุคส์ของเพื่อนสนิท "ต้น อาชว์" แฟนหนุ่มของนางเอกสาว "แต้ว ณฐพร" โพสต์รูปพร้อมข้อความยินดี “งานวันเกิด งานแจกการ์ด ต้นผู้แซงทุกทางโค้ง แต่งก่อนไปเลยจ้า” นั่นแปลว่า หลังจากที่แฟนๆลุ้นกันมานานแสนนาน เราอาจจะได้เห็นเจ้าแม่นาคี เข้าพิธีวิวาห์ปีนี้ก็ได้ ยังไงวันนี้ "แต้ว" แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเทพีสงกรานต์ออกงานพอดี เรามาลุ้นคำตอบกันค่ะ โอ๊ย!! ดีใจแทน เพราะคู่นี้เขาคบกันมา 10 กว่าปี ถ้าได้แต่งจริง นี่! จุดพลุฉลองสงกรานต์เลยครับ

ระส่ำ! 7 ช่องคืนใบอนุญาต'ทีวีดิจิทัล' กสทช.ย้ำได้เงินแล้วเยียวยาพนง.ด้วย

จากกรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2562 เรื่องมาตรการเเก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์เเละกิจการโทรคมนาคม ข้อ 10 ผู้รับใบอนุญำตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลรายใดประสงค์จะคืนใบอนุญาตที่ได้รับตามประกาศ ให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังสำนักงาน กสทช.ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้สำนักงาน กสทช.พิจารณากำหนดค่าชดเชย ให้แก่ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้รับใบอนุญาตได้รับในระหว่างที่ได้มีการประกอบกิจการ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่ได้มีการชำระแล้ว

ล่าสุด ในวันนี้ (10 พ.ค.62) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้มีผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล แจ้งความประสงค์ในการคืนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล แล้วทั้งหมด 7 ราย ประกอบด้วย Voice TV 21 , สปริงนิวส์ (ช่อง 19) , สปริง 26 (Now 26) , MCOT Family (ช่อง 14) , ไบรท์ทีวี (ช่อง 20) , 3 แฟมิลี (ช่อง 13) และ 3 SD (ช่อง 28)

ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด นายกรัฐมนตรีห่วงใยพนักงานต้องตกงาน ดังนั้น เวลาได้เงินกลับไปจากพนักงานแล้ว ขอให้เยียวยากลับคืนพนักงานให้ดีกว่ากฎหมายแรงงาน

ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากนี้ผู้ประกอบกิจการต้องจัดส่งเอกสารมาให้สำนักงาน กสทช.ภายใน 60 วัน จากนั้นจะส่งเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการเยียวยาว่าจะคืนเงินให้แต่ละสถานีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจะได้รับร้อยละ 55 ของจำนวนเงินที่จ่ายไป เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะนำส่งให้ กสทช.พิจารณาการอนุญาตยุติการออกอากาศ จะเป็น 30 วัน หรือ 45 วัน นับแต่ กสทช.มีมติ และสุดท้าย ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ พร้อมคืนเงินให้แก่ผู้ประกอบกิจการในวันรุ่งขึ้นหลังยุติการออกอากาศ


ปชป.เมิน ได้ 6 ตำแหน่ง ยันมีศักดิ์ศรี ไม่โดดงับ

"สาทิตย์" ย้ำคำพูด 2 แคนดิเดตชิงหัวหน้า "อภิรักษ์-พีระพันธุ์" ไม่รับตำแหน่งใดๆ หากร่วมรัฐบาล เมินข่าวปล่อยพลังประชารัฐให้ 6 ตำแหน่ง ยันประชาธิปัตย์ มีศักดิ์ศรี ไม่โดดงับ...

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน ว่า แม้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไม่ได้เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ทางสมาชิกไม่ได้ติดใจอะไร ทั้ง 3 คนได้แสดงวิสัยทัศน์ไปในทิศทางเดียวกันว่าจะนำพาพรรคไปในทิศทางใด ส่วนการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ไม่ใช่เพื่อต้องการตำแหน่ง แต่มองว่าหากเข้าร่วมรัฐบาลแล้วต้องมีเงื่อนไขว่า พรรคจะสามารถนำนโยบายที่หาเสียงมาใช้ประโยชน์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย

ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดตรงกันว่า หากได้เป็นหัวหน้าพรรคและเข้าร่วมรัฐบาล จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ และหากพรรคไม่เข้าร่วมรัฐบาล จะต้องมาดูถึงการฟื้นฟูพรรค โดยคนที่เป็นส.ส.ทำหน้าที่ในสภาไป แต่คนที่ไม่ได้เป็นมาทำงานฟื้นฟูพรรค

"ดังนั้นการที่มีข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะให้ตำแหน่งรัฐมนตรีถึง 6 ตำแหน่งกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น จึงเป็นการสร้างข่าวออกมา มากกว่าข้อเท็จจริง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เขาโยนอะไรมาก็งับ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีศักดิ์ศรี" นายสาทิตย์กล่าว.


ทูลเกล้าฯแล้ว! รายชื่อส.ว.250 คน ยันตามกรอบหลังกกต.รับรองผล

นายกรัฐมนตรี นำรายชื่อ 250 สว.ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ขณะที่ “บิ๊กป้อม”ป้อง “น้องบิ๊กตู่” ชี้เคยนั่ง สนช.มาแล้วจะนั่งตำแหน่งอื่นต่อก็ไม่เห็นเป็นไรด้าน “วิลาศ” ชี้สรรหา สว.อาจเป็นโมฆะส่อขัดรัฐธรรมนูญ หลังรมต.-สนช.เพิ่งแห่ลาออกนับร้อยคน เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ตรวจสอบคุณสมบัติรายชื่อของสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ทั้ง 250 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเข้าสู่ขั้นตอนการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วในวันนี้ ทั้งนี้ เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดในการนำรายชื่อ ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 3 วัน หลังเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้เทนราษฎร(ส.ส.) อย่างเป็นทางการแล้ว

ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกล่าวว่า ขณะนี้ได้นำรายชื่อ ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์รายชื่อ ส.ว.ว่าส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)และถูกหาว่าเป็นร่างทรง คสช. หรือไม่นั้น ตนคิดว่าก็เป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้น คนเขาอยากทำงาน เขาก็เข้ามาทำงานเพื่อช่วยรัฐบาล ซึ่งมีเพียง 10 กว่าคนเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนจากด้านอื่น

เมื่อถามถึงกรณีที่มี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ขอลาออกกว่า 60 คนนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าตนไม่รู้ ส่วนกรณีที่มีชื่อพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็น ส.ว.ด้วยนั้นตนมองว่าเขาเป็น สนช.ก็เป็นมาแล้ว ถ้าจะเป็นต่อก็ไม่เป็นอะไร ส่วนการที่ พล.อ.ปรีชา ถูกวิจารณ์เรื่องการขาดการประชุม สนช.บ่อยครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าไม่ทราบต้องไปถามเจ้าตัวเอง

ด้าน นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การสรรหาเพื่อแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว. ) ว่าอาจดำเนินการไม่เป็นไปตามกฎหมาย ทำให้การได้มา ส.ว. เป็นโมฆะ สืบเนื่องจากกรรมการสรรหา ส.ว. ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ เพื่อให้ตรวจสอบทั้งคุณสมบัติและจำนวนว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และ อีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้การได้มา ส.ว. เป็นโมฆะ กล่าวคือ ในรัฐธรรมนูญ ม.269 (1) (ข) เขียนไว้ว่า “ให้คณะกรรมการสรรหา ส.ว. คัดเลือกบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมในอันจะเป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว. และการปฏิรูปประเทศ มีจำนวนไม่เกินสี่ร้อยคน ตามวิธีการที่คณะกรรมการสรรหา ส.ว. กำหนด แล้วนำรายชื่อเสนอต่อ คสช. ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่ช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดตาม ม. 269 (1) (ก)”

นายวิลาศกล่าวว่าตนขอสรุป เพื่อให้เข้าใจง่ายคือ1.คนที่จะได้รับการคัดเลือกเป็น ส.ว.ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมในอันที่จะเป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ว. และการปฏิรูปประเทศ ซึ่งจะรู้ว่าส.ว.แต่ละคนมีคุณสมบัติตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ ต้องเปิดเผยรายชื่อ 400คนที่ได้รับการสรรหา เพื่อให้มีการตรวจสอบ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อแต่อย่างใด2.รายชื่อ 400คนตาม ม.269 (1) (ข)ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จและส่งรายชื่อให้ คสช.ไม่น้อยกว่า 15วัน ก่อนวันเลือกตั้ง(24 มีนาคม 2562)

“ดังนั้น ผมขอถามผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งท่านนายกฯ ประยุทธ์ ว่า ข่าวตามสื่อมวลชนวันที่ 7–8 พฤษภาคม 2562 มีทั้งรัฐมนตรี และ สนช. ลาออก รวมกันน่าจะถึงร้อยคน ขอถามว่ารายชื่อ 400 คนที่มีกำหนดเวลาให้ส่ง คสช. มีการทำตามกฎหมายจริงหรือไม่ ที่สำคัญถ้าจะมีการวิ่งเต้นก็สามารถทำได้ใช่หรือไม่ สิ่งที่ตนพูดถึงอาจจะเป็นเหตุให้การแต่งตั้ง ส.ว. เป็นโมฆะ”นายวิลาศ ย้ำทิ้งท้าย


ผู้การนครศรีธรรมราช สั่งย้าย ผกก.ทุ่งใหญ่ หลังเกิดดราม่าคลิปผู้พิพากษา

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจ.นครศรีธรรมราชมีคำสั่งให้ย้าย ผู้กำกับการตำรวจอ.ทุ่งใหญ่ ไปช่วยราชการ หลังเกิดกรณีคลิปฉาว อธิบดีศาลอาญาไม่ยอมให้ดูใบขับขี่...

กรณีคลิปฉาวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ค. 2562 ร.ต.อ.วิทยา บุตรพรหม, ร.ต.อ.ไพศาล ใจห้าว รอง สว.จร.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจจราจรออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจบนถนนสายทุ่งใหญ่ หนองดี บริเวณยูเทิรน์ภูตะวัน หมู่ 2 เขตเทศบาล ต.ท่ายาง ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาให้กรวดขันวินัยจราจรจับกุมผู้กระทำความผิด 10 ข้อหาหลักเน้นเรื่องของเมาแล้วขับ ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นมีรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีขาว ทะเบียน กธ 4808 สงขลา ขับผ่านเข้ามามีผู้ชายอายุประมาณ 54-58 ปี เป็นคนขับและมีผู้หญิงนั่งมาด้วยด้านหน้าคนขับ ส.ต.ท.ธีระพงษ์ เพชรจันทร์ทอง ตำรวจจราจรที่ทำหน้าที่อยู่บริเวณนั้นทำความเคารพพร้อมพูดว่าขอตรวจดูใบขับขี่ แต่ผู้ชายที่เป็นคนขับรถทำท่าทางเหมือนจะนิ่งเฉยไม่ยอมให้ตรวจอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่ง ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว ตำรวจจราจรอีกนายหนึ่งเดินมาพร้อมทำความเคารพก่อนจะพูดออกมาว่า"ผมขอตรวจดูใบขับขี่ครับ"

ระหว่างที่พูดคุยันอยู่เริ่มมีรถเข้ามาตรวจบริเวณจุดตรวจมากขึ้น ผู้หญิงที่นั่งมาด้วยจึงพูดกับคนเจ้าหน้าที่ว่าเดี๋ยวขอขับรถชิดข้างทางก่อน แต่หลังจากนั้นมีการพูดคุยกันอยู่นาน ชายคนขับก็ไม่ยอมแสดงใบขับขี่ให้เจ้าหน้าที่ดู ส.ต.ต.เอกพล จึงต้องเรียก ร.ต.อ.ไพศาล รองสว.จร.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้กับที่ตำรวจชั้นผู้น้อยตรวจ พร้อมกับพูดว่าคนขับไม่ยอมให้ตรวจดูใบขับขี่ ร.ต.อ.ไพศาลจึงเข้ามาพูดคุยกับชายคนดั่งกล่าว จากนั้นชายคนขับรถจึงพูดออกมาว่า"ผมเป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 และเป็นเพื่อนกับผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทุ่งใหญ่คนปัจจุบัน ผมไปได้แล้วยัง" ร.ต.อ.ไพศาล จึงพูดว่าเชิญครับ

แต่ก่อนที่ชายคนขับรถจะขับรถออกไปจากจุดตรวจ ได้สอบถามกับตำรวจชั้นผู้น้อยทั้งสองว่าชื่ออะไร ทั้ง 2 คนจึงบอกชื่อยศและตำแหน่งให้ทราบจากนั้นก็ขับรถออกไป จนกระทั่งวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พา ส.ต.ท.ธีระพงษ์ และ ส.ต.ต.เอกพล สองตำรวจจราจรชั้นผู้น้อยที่ขอตรวจรถดูใบขับขี่ในคืนนั้นเดินทางไปพบกับชายคนที่อ้างว่าเป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 ที่ศาลแขวงนครศรีธรรมราช เพื่อให้ตำรวจชั้นผู้น้อยขอโทษในสิ่งที่กระทำลงไป ทำให้ชายคนที่อ้างว่าเป็นอธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 พอใจและยอมให้อภัย หลังจากตำรวจจราจรชั้นผู้น้อยกลับถึงโรงพักทุ่งใหญ่ จึงได้ส่งข้อความในไลน์ว่าให้ทุกคนที่มีคลิปดังกล่าวช่วยลบออกด้วย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นจบลงด้วยดีพร้อมกับไปขอลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานว่าหากมีคลิปไปแพร่กระจายในสื่อโซเซี่ยนไม่ใช่เกิดจากพวกตน

แต่เรื่องไม่จบลงเพียงเท่านั้น ต่อมามีคนนำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล และในไลน์กลุ่มต่างๆจนเป็นคลิปฉาวโฉ่ว่อนเน็ตไปทั่ว ทำให้ทราบว่าชายคนที่อ้างตัวว่าเป็นอธิบดีศาลอาญาภาค 8 ในคืนที่ตำรวจจราจรขอตรวจดูใบขับขี่ก็คือนายไกรรัตน์ วีรพัฒนาสุวรรณ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 จ.นครศรีธรรมราช ตัวจริง ส่วนผู้หญิงที่นั่งมาในคืนนั้นด้วยกันทราบแต่เพียงชื่อเล่นว่าทนายเจี๊ยบ

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเรื่องนี้ขึ้นทางพ.ต.อ.โชคดี ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ มีคำสั่งให้ ส.ต.ท.ธีระพงษ์ และ ส.ต.ต.เอกพล ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ไม่ใช้ตำแหน่งจราจร เพื่อศึกษาเรียนรู้งานใหม่ให้เกิดความชำนาญ แต่หลังคำสั่งออกไปได้ไม่นานก็มีคำสั่งให้ตำรวจจราจรทั้งสองนายคงทำหน้าหน้าที่ตามปกติ และเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 9 พ.ค. ร.ต.อ.วิทยา, ร.ต.อ.ไพศาล รอง สว.จร.พร้อมตำรวจจราจรทุกนายนำกำลังออกตั้งจุดตรวจบนถนนสายทุ่งใหญ่ หนองดี บริเวณยูเทิร์นภูตะวัน หมู่ 2 เขตเทศบาล ต.ท่ายาง มี ส.ต.ท.ธีระพงษ์ และ ส.ต.ต.เอกพล ยังคงทำหน้าตรวจจราจรตามปกติโดยที่ไม่เสียขวัญกำลังใจแม้แต่น้อย

ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่าทาง พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ ย้ายไปช่วยงานที่ศูนย์ ศปก.จ.นครศรีธรรมราช หลังกลับจากลากิจ

คงติดทำเนียบเศรษฐี "ทักษิณ ชินวัตร" รวยอันดับที่ 19 ของไทย

"ฟอร์บส์ ประเทศไทย" เผยโฉม 50 อภิมหาเศรษฐีไทยปี 62 ยังฮือฮาไม่หยุด พบ "ทักษิณ" ซึ่งอยู่ระหว่างหนีคดี รวยอันดับ 19 มีทรัพย์กว่า 6 หมื่นล้าน ส่วน "แม่ของธนาธร" รวยอันดับ 30...

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี "ฟอร์บส์ ประเทศไทย" เผยโฉม 50 อภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2562 โดย "ตระกูลเจียรวนนท์" ยังครองแชมป์รวยอันดับ 1 ของประเทศ มูลค่าทรัพย์สินแตะ 941,000 ล้านบาท ตามด้วยเจ้าสัวเซ็นทรัล เจ้าพ่อกระทิงแดง เจ้าสัวเจริญ ในอันดับ 2-4 เหมือนเดิม

ขณะที่ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ไต่ขึ้นมารวยติดอันดับ 5 ขณะเดียวกัน มีอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่เข้ามา 4 ราย คือ "ชัยวัฒน์-อัยยวัฒน์-ชาติศิริ-ตระกูลมาลีนนท์"

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ ยังปรากฏว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ยังคงร่ำรวยติดอันดับที่ 19 มีมูลค่าทรัพย์สิน 60,600 ล้านบาท

ส่วน "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ" แม่ของ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวยติดอันดับ 30 มีมูลค่าทรัพย์สิน 34,100 ล้านบาท

ขณะที่ "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" หวนขึ้นตำแหน่งมหาเศรษฐีเมืองไทยอีกครั้ง มาอยู่ที่อันดับที่ 54 มีทรัพย์สินที่ 20,480 ล้านบาท หลังจากไม่ติดอันดับมาเป็นเวลา 5 ปี