ข่าว
เยอรมนี เริ่มธุรกิจใหม่ 'ซ่องโสเภณีตุ๊กตายาง'

เยอรมนี เริ่มธุรกิจใหม่ 'ซ่องโสเภณีตุ๊กตายาง' ลูกค้าที่ใช้บริการ ต้องเสียค่าบริการชั่วโมงละ 80 ยูโร หรือ 3,200 บาท ตุ๊กตาแต่ละนาง รับแขกวันละ 12 ครั้ง แปลก!พบภริยาบางราย ยอมนั่งรอสามี เข้าไปใช้บริการ

19 ตุลาคม 2560 หลังจากธุรกิจซ่องโสเภณีตุ๊กตายาง ได้เริ่มต้นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น และขยายตัวมาถึงเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เอเวอลีน ชวาร์ซ สาวเยอรมัน วัย 29 ปี ก็ได้ริเริ่มเปิดธุรกิจซ่องโสเภณีตุ๊กตายางเป็นครั้งแรกในประเทศเยอรมนี

ซ่องโสเภณีตุ๊กตายางนี้ ใช้ชื่อว่า "Bordoll" เป็นสถานที่ที่มีตุ๊กตายางซิลิโคน จำนวน 11 ตัว แต่ละนางจะมีชื่อ และลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง ความสูง และสีผิว เพื่อให้ถูกใจลูกค้าทุกระดับ

ตุ๊กตายางแต่ละตัวนำเข้ามาจากทวีปเอเซีย และมีราคาตัวละ 2,000 ยูโร (80,000 บาท) สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ จะต้องเสียค่าบริการชั่วโมงละ 80 ยูโร (3,200 บาท) ตุ๊กตาแต่ละนาง จะรับแขกวันละ 12 ครั้ง โดยมีลูกค้าทุกวัยและจากทุกสาขาอาชีพ

เจ้าของธุรกิจกล่าวว่า “สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็นความอยากรู้อยากลองมากกว่าความมีรสนิยมแปลกประหลาดทางเพศ นอกจากนั้น ยังมีบรรดาภริยาที่อยากให้สามีไปปลดปล่อยหรือทดลองของแปลก เธอยอมมานั่งคอยอยู่ในรถระหว่างที่สามีเข้าไปหาตุ๊กตายาง เพื่อรับบริการทางเพศรูปแบบใหม่”

ก่อนสิ้นลม”เชฟตุ๋ย”ร้องขอ อัดเทปส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

พ่อครัวมือหนึ่งคนไทยในอเมริกา “เชฟตุ๋ย” ทรุดหนักด้วยโรคมะเร็งที่ปอด ร้องขอบันทึกเทปส่งเสด็จในหลวง ร.9 สู่สวรรคาลัย ก่อนสิ้นลมหายใจอย่างสงบในวันเดียวกัน

18 ตุลาคม 2560 “เชฟตุ๋ย” นายสุทธิพร สังขมี เชพคนไทยชื่อดังและเจ้าของร้านอาหารจิตลดา ในเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ได้รับการยกย่องอย่างมากที่สุดในการปรุงอาหารไทยที่มีรสชาติดีเป็นที่นิยมของคนอเมริกัน ติดอันดับ 1 ใน 99 อาหารยอดนิยมที่ JONATHAN GOLD นักวิจารณ์อาหารรางวัลพูลิตเซอร์ของ LOS ANGELES TIMES บันทึกไว้ว่า “แกงไตปลา” ฝีมือ”เชฟตุ๋ย” เป็นหนึ่งในอาหาร 99 จานในแอลเอ ที่จะต้องชิมก่อนตาย(99 THINGS TO EAT IN LA BEFORE YOU DIE)

“เชฟตุ๋ย”ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดมานานแล้ว แต่เพิ่งมาตรวจพบเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ได้รับการรักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งที่ KAISER PERMANENTE LOS ANGELES MEDICAL CENTER มาตลอด จนในที่สุดอาการทรุดหนักลงต้องกลับเข้าไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

จนกระทั่งวันพุธที่ 18 ต.ค. “เชฟตุ๋ย” ได้ร้องขอให้ทำการบันทึกวิดีโอเพื่อขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ใจความว่า

“ขอน้อมส่งเสด็จพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายสู่สวรรคาลัย ข้าพระพุทธเจ้า นายสุทธิพร สังขมี ชาวอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าของร้านจิตลดา ในนครลอสแอนเจลิส ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้”

เมื่อสิ้นสุดการบันทึกวิดีโอเทป “เชฟตุ๋ย” ได้พูดทักทายและขอบคุณผู้ที่มาเยี่ยมกันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งขอบันทึกเทปขอบคุณผู้ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ

“ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆ พี่น้องทุกคนที่รู้จักผมและให้กำลังใจตลอดเวลาระยะที่ผมป่วย เลยจะฝากขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้กำลังใจผมมาตลอดเวลา ก็อยากจะให้ทุกคนเวลาทำงานหาเวลาพักผ่อนเยอะๆ จะได้ไม่มีโรคเบียดเบียนแทรกแซงเข้ามาเพราะว่าทำงานมากเกินไป ทุกคนที่มาอยู่ในเมืองนางฟ้านี้ ทำแต่งาน ทำมาหากิน จนหาเวลาพักผ่อนไม่ได้ ก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอ อาจจะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ก็ขอให้ทุกคนพักผ่อนให้เยอะๆ ผมขอบคุณท่านกงสุลใหญ่และภรรยาที่มาให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณท่านทูตเจษฎา กตเวทิน ที่ส่งกำลังใจมาให้กระผม และผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่ได้กล่าวนามอีกหลายท่าน ก็ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ หวังว่าเราคงได้เจอกันอีก ก็ขอให้ทุกคนมีความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ขอพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุ้มครองให้ท่านมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ขอบารมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ขอจงทรงพระเจริญ สาธุ”

“เชฟตุ๋ย” สิ้นลมอย่างสงบเมื่อเวลา 23:20น. วันที่ 18 ตุลาคม 2560 รวมสิริอายุ 66 ปี พิธีสวดพระอภิธรรมศพจัดขึ้นที่วัดไทยลอสแองเจลิส ระหว่างวันที่ 20-22 ต.ค.นี้


มหรสพสมโภชงานออกพระเมรุ ธ เทพราชามหาภูมิพล

พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ ๒๖ ต.ค. ๒๕๖๐ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จัดเตรียมการแสดงมหรสพสมโภชยิ่งใหญ่ตระการตา ผสมผสานทั้งศิลปะการแสดงแบบโบราณราชประเพณีอย่างร่วมสมัย มีผู้ร่วมแสดงกว่า ๓,๐๐๐ คน ซึ่งประกอบการแสดงมหรสพสมโภช ดังต่อไปนี้

๑. การแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม (หน้าพระเมรุมาศ) การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร - ยกรบ-รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

๒. การแสดงมหรสพ บริเวณเวทีกลางแจ้ง ด้านทิศเหนือของสนามหลวง ๓ เวที ดังนี้

เวทีที่ ๑ การแสดงหนังใหญ่เบิกหน้าพระและการแสดงเบิกโรงหนังใหญ่ ชุดจับลิงหัวค่ำ การแสดงโขนหน้าจอและโขนชักรอก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร ชุดศึกทศกัณฐ์ครั้งแรก ทัพสิบขุนสิบรถ ชุดท้าวมาลีวราชว่าความ ชุดนางมณโฑหุงน้ำทิพย์ ชุดศึกทศกัณฐ์ขาดเศียรขาดกร และชุดสีดาลุยไฟ พระรามคืนนคร การแสดงโขนพระราชทาน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดรามาวตาร ทศกัณฐ์รบสดายุ หนุมานถวายพล พิเภกสวามิภักดิ์

เวทีที่ ๒ การแสดงละครหุ่นหลวงและหุ่นกระบอก อาทิ หุ่นกระบอกเรื่องพระมหาชนก อิเหนา มโนราห์ หุ่นหลวง ตอนหนุมานเข้าห้องนางวานรินทร์ และหุ่นกระบอก เรื่องพระอภัยมณี

เวทีที่ ๓ การบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า” บรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงเทิดพระเกียรติ บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นเพื่อถวายอาลัย และบทเพลงที่สื่อความหมายสอดคล้องกับการแสดงทั้ง ๗ องก์ อาทิ ดุจหยาดทิพย์ชโลมหล้า, ใต้ฟ้าร่มเย็น เพราะพระบารมี, ทวยราษฎร์น้อมสดุดี, ถวายภักดีองค์ราชัน, สถิตนิรันดร์ในใจราษฎร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ กำหนดการแสดงมหรสพสมโภช เวลาเริ่มแสดง ๑๘.๐๐ น. ของวันที่ ๒๖ ต.ค. ๒๕๖๐ จนถึงเวลา ๐๖.๐๐ น. ของวันรุ่งขึ้น โดยการแสดงของทุกเวทีจะหยุดลงเมื่อมีพระราชพิธีในพระเมรุมาศ เปิดให้ประชาชนสามารถเข้าชมพร้อมกับรับชมการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องต่างๆ ดังนี้

การแสดงดนตรีสากลและบัลเล่ต์ รับชมผ่านทาง ช่อง NB, ช่อง 7, ช่อง 8, ช่องโมโนทีวี, ช่องONE, ช่อง GMM25 และช่องไบร์ททีวี

การแสดงโขนและหนังใหญ่ รับชมผ่านทาง ช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี, ช่อง ททบ.5 เป็นแม่ข่าย สถานีรับสัญญาณประกอบด้วย ช่อง TGN, ช่อง TNN24, ช่องสปริงนิวส์, ช่องวอยซ์ทีวี, ช่องเนชั่นทีวี, ช่องอมรินทร์ทีวี และช่อง PPTV

การแสดงหุ่นและละครใน รับชมผ่านทาง ช่อง 3, ช่องไทยพีบีเอส, ช่องไทยรัฐทีวี, ช่องนิวทีวี, ช่องเวิร์คพอยท์, ช่อง NOW26, ช่อง TRUE4U และช่องสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา


ปชช.แห่ต่อคิว เข้าชมซ้อมใหญ่ งานพระราชพิธีพระบรมศพ ร.9

ปชช.จำนวนมาก แห่ต่อคิวแน่น จุดคัดกรอง 9 จุด ก่อนจนท.จะเปิดให้เข้าไปได้ตั้งแต่เวลา 05.00น .เพื่อเข้าชมการซ้อมใหญ่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ'ในหลวง รัชกาลที่9'

วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา 9 จุด คัดกรอง มีพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก เดินทางมาถึงหน้าจุดคัดกรอง และและต่อคิว เพื่อเฝ้ารอเวลาเข้าชมการซักซ้อมใหญ่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งวันนี้(21 ต.ค.) เป็นการซ้อมใหญ่เสมือนจริง โดยเจ้าหน้าที่ ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปรอชมการซ้อมได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป


'มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก' ผู้ชายที่ 'ลุงตู่' อยากเจอ

เป็นข่าวครึกโครมไปทั้งโซเชียล เมื่อ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศก้องต่อสื่อมวลชนว่ามีนัดพบปะพูดคุยกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายกฯ ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เตรียมเดินทางมาประเทศไทย เพื่อที่จะหารือกับนายกรัฐมนตรีในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ

หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงไอทีคงสงสัยว่า นอกจากการเป็นผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คนนี้เป็นใครมาจากไหน วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จะมาเจาะลึกเบื้องหลังเจ้าพ่อเฟซบุ๊กคนนี้ให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกัน

1. เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1984 ที่เมืองไวต์เพลนส์ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพ่อเป็นทันตแพทย์ และแม่เป็นจิตแพทย์ และมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ทว่าเขานั้นเป็นลูกชายเพียงคนเดียว

2. มาร์ก ฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่เด็ก เนื่องจากในสมัยมัธยมปลาย เขาเคยได้รับรางวัลวิทยาศาสตร์ (คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และฟิสิกส์) และศึกษาด้านศิลปะคลาสสิก

3. เขาเริ่มใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุได้ 10 ปี หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มเรียนการเขียนโปรแกรม และก่อนที่เขาจะเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาเคยเขียนโปรแกรมจนได้รับความสนใจจากไมโครซอฟท์ แต่เขาก็ปฏิเสธบริษัทไอทียักษ์ใหญ่แห่งนี้ไป

4. ในปี 2002 มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

5. ด้วยความเป็นนักเขียนโปรแกรม มาร์กในวัยคึกคะนองจึงเคยเจาะเข้าไปในระบบทะเบียนประวัติของนักศึกษาในฮาร์วาร์ด และดึงรูป+ข้อมูลพวกนั้นมาอยู่ในเว็บฯ Facemash เพื่อชักชวนให้นักศึกษาคนอื่นๆ มาโหวตว่า ใครฮอต หรือ ไม่ฮอต ซึ่งผลตอบรับจากนักศึกษาด้วยกันนั้นดีเกินคาด แต่แน่นอนว่าเหล่าอาจารย์ไม่เห็นด้วย จึงโดนลงโทษด้วยการระงับการใช้อินเทอร์เน็ตไปโดยปริยาย

6. จากนั้นไม่นานเขาก็เกิดไอเดียสร้างเว็บหาคู่ Winklevosses ซึ่งในตอนนี้นี่เองที่เขาได้รับความช่วยเหลือจากรูมเมต “ดัสติน มาสโควิตซ์” ที่ภายหลังกลายมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเฟซบุ๊ก

7. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้พบกับ พริสซิล่า ชาน ในงานปาร์ตี้งานหนึ่งก่อนจะเริ่มออกเดตกัน จนปัจจุบันนี้เขาทั้งสองคนแต่งงานกันแล้ว โดยงานแต่งงานของเขาทั้งสองคนถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ให้แขกที่มาร่วมงานเข้าใจว่านี่คืองานจบการศึกษาของพริสซิล่า (เธอจบการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยเเคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก)

8. ในช่วงที่ก่อตั้งเฟซบุ๊ก มาร์ก พักการเรียนที่ฮาร์วาร์ดเพื่อทุ่มเทให้กับการพัฒนาการเขียนโปรแกรม จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ และทำรายได้มหาศาล และล่าสุดนี้ ในปี 2017 เขาก็ได้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ในสาขา Computer Science Program จากฮาร์วาร์ดเรียบร้อยแล้ว

9. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในวัย 32 ปี เป็นผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 53.8 พันล้านดอลลาร์

10. อย่างไรก็ตาม โฆษกของเฟซบุ๊กออกมาแถลงแล้วว่า "ในช่วงนี้ผู้บริหารระดับสูงของเฟซบุ๊กยังไม่มีแผนจะเดินทางมาประเทศไทย" ซึ่งนั่นก็หมายความว่าข่าวที่ว่าจะมาพบลุงตู่นั้น ยังไม่มีอะไรคอนเฟิร์มจ้า

"คันนาวาโร" บุกไทย สักยันต์กับ "อ.หนู"

ฟาบิโอ คันนาวาโร ตำนานกองหลังทีมชาติอิตาลี ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นแนวรับที่เหนียวที่สุดคนหนึ่งของโลก เดินทางมาที่เมืองไทย ก่อนแวะหา อาจารย์หนู กันภัย มือสักชื่อดังของประเทศ เพื่อสักยันต์บริเวณแผ่นหลัง ก่อนโพสต์ลง อินสตาแกรม ให้เห็นกันบนโลกออนไลน์

อดีตนักเตะผู้พา อิตาลี คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2006 และซิวรางวัล บัลลงดอร์ ปีเดียวกัน เปิดแผ่นหลังให้อาจารย์นักสักชื่อดังของไทย บรรจงใช้เข็มวาดลวดลายเป็นยันต์ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเหล่าคนดังจากต่างประเทศ บินมาใช้บริการของ อ.หนู กันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นดาราฮอลลีวูดหรือนักกีฬา

สำหรับ คันนาวาโร วัย 44 ปี ปัจจุบันแขวนสตั๊ดไปแล้วเรียบร้อย และกำลังทำงานเป็นผู้จัดการทีมให้แก่ เทียนจิน กั๋วอัน ทีมแห่งศึก ไชนีส ซูเปอร์ ลีก ประเทศจีน