ข่าว
“ณเดชน์-ศุภชัย” เคลียร์ “หน่อง” หวั่นดรามา “แมท” ลากลงหลุม

“ณเดชน์” ไม่รู้ "เอ ศุภชัย" สายตรงหา "เจ๊หน่อง" ห่วงชะตากรรมตนกับละคร "ลิขิตรักข้ามดวงดาว" ยันไม่สนใครจะผิดใครจะถูก แต่วอนให้โอกาสละครและโทมินจุนเวอร์ชั่นไทย เปิดใจช็อตหวาน “ญาญ่า” นั่งซ้อนท้ายปั่นจักรยานรอบอยุธยา หวานเป็นปกติ เฝ้าที่กองถ่ายเพราะรู้ว่าฝ่ายหญิงทำงานหนัก อยากให้กำลังใจ

“ก็วันหยุดพักผ่อนครับ ก็นัดกันได้ ก็เลือกที่จะไปต่างจังหวัดกัน จริงๆ แทบไม่ได้แพลนอะไรขนาดนั้นครับ คือเราก็ไม่เคยไปอยุธยามาก่อน แต่น้องเคยไป ก็จะพาไปวัด แล้ววัดโบราณก็ไปอีกทีหนึ่งครับ”

“จริงๆ แล้วผมอยากจะเที่ยวเมืองไทยในที่ที่คนไทยเที่ยวกันเยอะๆ แต่ว่าบางทีเราก็อาจจะมีข้อจำกัดบ้างบางอย่างที่ไม่สามารถทำให้เราได้เอ็นจอยกับสถานที่นั้นแบบเต็มที่ แต่เราก็โตขึ้น ก็จัดแจงเปลี่ยนระบบความคิด ทำให้เราหันอยากกลับมาที่จะรู้สึกแบบสบายใจที่จะเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกังวลกับคนที่อาจจะเข้ามา หรือคนที่จับตามอง ช่วงนี้อาจจะเห็นว่าเราได้เที่ยวที่เมืองไทยมากขึ้น ประมาณนี้มากกว่า”

“ช่วงนี้น้องค่อนข้างเหนื่อยมาก ละครที่เขาถ่ายก็หนักมากๆ ถ้าได้ออนแอร์ก็คงรู้ ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นอีกระดับที่ญาญ่าก้าวเข้าไป เล่นบทหลายแบบ มีบางครั้งที่เครียดด้วย คือถ้าเราพอมีโอกาสว่างก็แวะไป ไม่เชิงไปส่งข้าวส่งน้ำครับ ไปขอกองเขากินมากกว่า(หัวเราะ) ส่วนก่อนหน้านี้ที่ไปถึงเชียงใหม่ อันนั้นผมมีธุระไปที่เชียงใหม่ด้วยอยู่แล้ว อีกใจก็ตั้งใจไปหาเขาด้วย”

ไม่รู้ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” โทรศัพท์หาผู้จัด “หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์” เรื่องทิศทางลิขิตรักข้ามดวงดาว เหตุกลัวข่าวกระทบตน

“อันนี้ไม่ทราบว่าพี่เอโทร.หาหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกัน พี่เอไม่ได้บอก พี่หน่องไม่ได้บอก ละครปิดกล้องแล้ว เมื่อวาน(31ม.ค.) นี้เอง โล่งเลย ช่วงท้ายๆ เดือนเราทำงานกันถึงตี 4 ตี 5”

“จริงๆ ที่แพลนไว้คือออนแอร์พร้อมกับประเทศจีน ฉะนั้นถ้าเราถ่ายเสร็จเมื่อวาน ก็ต้องเหลือซีจีกับตัดต่ออีกค่อนข้างมาก ตีไปสัก 2-3 เดือน ไม่ เม.ย. ก็อาจจะติดช่วงคนไปสงกรานต์ ก็ไม่น่าจะเหมาะ ฉะนั้นอาจจะปลาย เม.ย. หรือ พ.ค.”

“ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดง ผมเชื่อว่าผมทำหน้าที่ของผมได้ดีที่สุดแล้ว ผมก็อยากจะรอดูละครของผมเหมือนกัน ว่าจะเป็นยังไงเพราะเป็นละครที่ถูกรีเมกจากเกาหลีด้วย และเราก็เอาส่วนที่เราทำได้ดี และอาจจะมีบ้างที่เราภูมิใจว่าเราก็ดีกว่านะ อาจจะเป็นโลเกชั่นหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เราใส่เข้าไป ทีมงานและนักแสดงทุกคนตั้งใจทำงานนี้มากๆ เรารู้ว่ามันมีอะไรค้ำคอเราอยู่เพราะมันเป็นการรีเมกจากของเกาหลี อยากให้ทุกคนดูเรื่องนี้และเชื่อว่าหลายคนน่าจะชอบ เป็นละครที่หลากหลายอารมณ์ มีน่ารัก สนุกสนาน เศร้าๆ เรื่องกระแสที่โจมตีไปถึงละคร ผมไม่ค่อยเก็บมาคิด เรารู้ เราเห็น เราได้ยิน แต่เราไม่ได้เอามาใส่ข้างใน”

ให้กำลังใจ “แมท ภีรนีย์ คงไทย” ไม่รู้ใครผิดใครถูก แต่อยากให้กำลังใจ

“เราทำงานด้วยกัน ให้กำลังใจกันปกติ มันไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งจับเข่าคุยกัน โดยส่วนตัวพี่แมทก็ตั้งใจทำงานมาก อยากให้ดูฝีมือการแสดงของเขามากกว่า เราก็ให้กำลังใจกันอยู่แล้วเพราะเราทำงานด้วยกัน ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก อันนี้ผมไม่รู้ แต่ส่วนตัวผมให้กำลังใจทุกคนครับ”

บิ๊กตู่ สบถแรง! “มึงมาไล่ดูสิ”

“บิ๊กตู่” ลั่นไม่ลาออก ยก “โอบามา-สี จิ้นผิง” ยังไม่ทิ้งเก้าอี้ อ้างรัฐธรรมนูญตั้งแต่ 2475 จนถึงปัจจุบัน ไม่ได้เขียนต้องออก สบถ “มึงมาไล่ดูสิ” สวน “มาร์ค” เลือกตั้ง 54 ยังแพ้ “ปู” คาเก้าอี้นายกฯ สะท้อนมีอำนาจไม่ใช่ได้เปรียบ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวช่วงท้ายของการแถลงผลงานปีที่ 4 ของรัฐบาลว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เดี๋ยวก็ถามอีกเรื่องเลือกตั้งกันอีก ไม่มีที่จะถามเรื่องอื่น ตนจะพูดให้ฟังว่า หลักการที่ตนจะพิจารณาว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกฯหรือไม่ เป็นคนละเรื่องกับการรับหรือไม่รับให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯ

เรื่องการรับหรือไม่รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมือง อยู่ที่นโยบายของพรรคนั้นว่าตนโอเคหรือไม่ ถ้าตนโอเค มีการปรับแก้อะไรบ้างอย่างที่ให้เกิดในวิธีการที่ถูกต้องก็ต้องขอปรับแก้ ถ้าอย่างนี้อยู่กันได้ ถ้ามันแก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องมาแล้ว

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนหลักการที่ต้องพิจารณาว่าต้องลาออกจากตำแหน่งนายกฯหรือไม่ จำคำพูดของตนไว้ ทั่วโลกที่เป็นระบอบประชาธิปไตย สังคมนิยม ผู้นำรัฐบาลไม่เคยมีใครลาออกเพื่อการเลือกตั้ง เช่น นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ลงชิงตำแหน่งครั้งที่สอง หรือประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนมีใครลาออกหรือไม่ ตอบมาสิ อย่าไปเขียนอย่างนี้อีก

หลักการมันเป็นอย่างนี้ นอกจากนี้รัฐธรรมนูญ กฎกติกาและธรรมเนียมปฏิบัติ หรือมารยาทเกี่ยวกับเลือกตั้งทั่วโลก ไม่มีกฎหมายใดบอกว่าผู้สมัครรรับเลือกตั้งเมื่อมีตำแหน่งบริหารอยู่ด้วยต้องลาออก อย่าเอาอย่างอื่นมาบังคับตนมากเลย มันต้องดูประเทศชาติว่าเป็นอย่างไร รวมถึงหลักการว่าอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญไทยตั้งแต่ปี 2475 ถึงปัจจุบัน ไม่มีกำหนดว่าให้นายกฯ ต้องลาออก และในทางปฏิบัติจริงไม่เคยมีผู้ใดลาออกขณะเลือกตั้งเลยใช่หรือไม่ การเลือกตั้งปี 54 ใครเป็นนายกฯ ลาออกหรือไม่ ก็ไม่ออก แล้วไปหาเสียงครม.สัญจรด้วย ตนยังไม่ทำเลย ไม่ได้ไปแบบเขา เพราะตนยังไม่ได้ไปร่วมกับพรรคการเมืองและต้องดูอีกทีว่าทำได้หรือไม่ด้วย

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้งปี 57 นายกฯ อีกคนกับครม.ลาออกหรือไม่ ก็ไม่ออก อย่ามาพูดส่งเดช ใครที่ออกไปเพราะเรื่องปลากระป๋อง มันมีความผิดก็ออกไป ส่วน 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ที่ลาออกไป ไม่ได้มีความผิดอะไรเลย ทำงานเยอะแยะไปหมด แต่เขาขอลาออก เพราะอยากไปทำงานการเมืองเต็มตัว ทั้งที่เขาอยู่ได้ตามกฎหมาย

“อย่าไปไล่ล่ากันมากนัก พอไล่คนนี้แล้วลาออก แล้วเดี๋ยวมาไล่นายกฯออก ก็กฎหมายว่าอย่างนี้ มึงมาไล่ดูสิ ไล่ให้ได้สิ ผมไม่ท้าทาย แต่ไม่ออก การที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แพ้การเลือกตั้งปี 54 ในการแข่งกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำไมแพ้ล่ะ เป็นรัฐบาลหรือเปล่า ทำไมแพ้ แสดงว่าการเป็นรัฐบาลไม่น่าจะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นมาแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับรัฐบาลมีผลงานหรือไม่ หากไม่มีประชาชนก็ไม่เลือกอยู่แล้ว ก็ไปหวังในสิ่งใหม่ๆ ที่เขาพูดออกมาจริงบ้างไม่จริงบ้าง นั่นคือการเมืองไทย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


"บิ๊กตู่" รับคนไม่ดีต้นเหตุให้ของขึ้น ขอโทษสบถกลางเวทีแถลงผลงาน

นายกฯ ขอโทษหลุดปากไม่สุภาพ คาเวทีแถลงผลงาน 4 ปีรัฐบาล รับบางทีอาจเผลอไผลอารมณ์ขึ้นบ้าง ยอมรับคนไม่ดีทำให้อารมณ์ขึ้น

เมื่อวันที่ 1 ก.พ.62 ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวกับสื่อมวลชนก่อนพบอดีต 4 รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่มาเทียบเชิญให้อยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรค ถึงกรณีที่ใช้วาจาไม่สุภาพในการแถลงผลงาน 4 ปีของรัฐบาล ว่า ที่เมื่อเช้าพูดไม่เพราะนั้น ขอโทษด้วยก่อนแล้วกัน เพราะบางทีก็เผลอไผลไปบ้าง เราก็ไม่ได้ว่าทุกคน แต่คนที่ไม่ดีก็มีอยู่ ซึ่งคงหมายความถึงเรื่องนั้นมากกว่า บางทีก็อารมณ์ขึ้นบ้าง แต่เราพูดด้วยเหตุด้วยผล ก็ต้องขอโทษด้วย


'มาร์ค'เดือด!ซัดกลับ'บิ๊กตู่' อย่าโกหกทำให้คนเข้าใจผิด

"มาร์ค"ตอกกลับ"บิ๊กตู่"ไม่มีสปิริตไม่ว่าแต่อย่าบิดเบือนกม.ทำประชาชนสับสน ซัดสมัยเป็นรบ.ไม่เคยใช้อำนาจปลดกกต.-แบ่งเขตลต.ไม่เป็นธรรม

1 ก.พ.62 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ ต่ออำนาจในระหว่างช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง ในระหว่างบรรยายหัวข้อ "พรรคประชาธิปัตย์กับอนาคตประเทศไทย" ให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่เข้ารับการปฐมนิเทศ ว่า

วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าตนทำไมถึงเลือกตั้งแล้วแพ้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตนแปลกใจมากว่ามาพาดพิงพวกเราทำไม เพราะท่านจะลาออกหรือไม่ลาออกก็เป็นสิทธิของท่าน ท่านไม่มีสปิริตเป็นสิทธิของท่าน แต่ท่านไม่มีสิทธิมาโกหกบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจผิด ท่านมาบอกว่าตั้งแต่รัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2475 ก็ไม่ได้บังคับให้ลาออก ตนอยากบอกว่าก็ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนที่ให้อำนาจนายกฯ และมีตำแหน่งหัวหน้า คสช.และมีอำนาจเต็ม ไม่เหมือนกับรัฐบาลในช่วงรักษาการ และมีอำนาจมากกว่ายุคไหน เพราะในปี 2554 ตนไม่มีสิทธิ์ปลดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือสั่งให้แบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไรก็ได้ โดยไม่เป็นไปตามหลักการของกฎหมายอย่างแน่นอน เรื่องนี้จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับประชาชน

ส่วนเรื่องการแพ้เลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยอมรับการตัดสินใจของประชาชน และเป็นความจริงว่าปี 2554 ที่ตนเป็นรัฐบาล ตนก็ไม่ได้เอาเปรียบ แต่ขอถามว่าพฤติกรรมของรัฐบาลที่ทำกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และที่จะทำต่อไป คิดจะเอาเปรียบการเลือกตั้งหรือไม่ การเมืองต้องมีมาตรฐาน ตนแปลกใจที่บอกว่าสร้างมาตรฐานใหม่ที่ 4 รัฐมนตรีลาออก ซึ่งไม่อยากตอบโต้

"ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ถูกต้องว่า เวลาเปรียบเทียบอะไรต้องดูข้อเท็จจริงด้วย ดังนั้น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ยึดธรรมาภิบาล แพ้ชนะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเราชนะจะเป็นรัฐบาลพร้อมรักษาประชาธิปไตยได้ แต่ถ้าเราได้คนที่มาจากการเลือกตั้งที่ไม่มีจิตวิญญาณของประชาธิปไตย เราก็จะสูญเสียประชาธิปไตยไป และคนที่ไม่มีจิตวิญญาณของการเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ต้น เราก็ไม่เชื่อว่าจะแก้ปัญหานำพาบ้านเมืองออกจากปัญหาต่างๆ ได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


'ยงยุทธ'เชื่อ'ทักษิณ'อยากกลับไทย! รอกระบวนการยุติธรรมเป็นสากล

1 ก.พ.62 นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่เคยพูดถึงการนำ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศด้วยการพูดคุย แต่มีกระแสตอบโต้เรื่องการให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน ว่า มันคนละเงื่อนไขกัน นายทักษิณถูกยึดอำนาจ ถูกปฏิวัติ และถูกแจ้งข้อกล่าวหาโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จากคนที่ยึดอำนาจ ที่ไหนถูกกล่าวหาด้วยการยึดอำนาจ ทั่วโลกเขาจะให้ลี้ภัย เพราะเขารู้ว่าไม่มีที่ไหนบอกว่าคุณเป็นคนดีแล้วขอยึดอำนาจ เมื่อคนได้เปรียบทางการเมืองรู้ว่านายทักษิณกลับมาจะเสียเปรียบทางการเมือง ต้องมาติดคุกก่อน เป็นวาทกรรมธรรมดา แต่ในหลักประชาธิปไตยทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าเป็นอาชญากรที่ไม่ได้มาจากความจูงใจทางการเมือง เวลาจับกุมก็ใช้หมายแดง ถ้าเป็นเรื่องการเมืองเขาไม่มี พรรคเพื่อชาติมีนโยบายจะทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นสากล ใช้เป็นการทั่วไป สิ่งที่พวกตนมาร่วมงานอยากเห็นบ้านเมืองไปด้วยดี

"วันนี้กรณีของท่านนายกฯ ทักษิณ คือตัวอย่างของกระบวนการยุติธรรมที่เกิดจากการรัฐประหาร เพราะฉะนั้นสิ่งที่พูดกันตามเวทีการเมือง คนที่ได้ประโยชน์เมื่อกระบวนการยุติธรรมมันกลับคืนมาสู่ระบบประชาธิปไตย ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ระบบเผด็จการ คนที่ได้ประโยชน์คือนายกฯ ทักษิณ เพราะฉะนั้นเวลาคนถามนายกฯ ทักษิณ กลับมาใช่ไหม ถ้าเป็นแนวทางพรรคเพื่อชาติ คือ พูดคุยกันเสียแบบพี่แบบน้อง อย่าไปบอกติดคุกก่อน ปัญหามันก็อยู่อย่างนี้ แต่ถ้าเรากระบวนการสอบสวนใหม่ สืบสวนได้พยานหลักฐานใหม่ แล้วคนตัดสินหรืออะไรต่างๆ ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยึดอำนาจ ผมเชื่อด้วยใจบริสุทธิ์ว่านายกฯ ทักษิณ ก็อยากกลับมา" นายยงยุทธ กล่าว

นศ.แพทย์ หนาวตาย ในมหา’ลัย มะกันสังเวยภัยหนาวพุ่ง 12 ศพ

ชาวอเมริกันประสบภัยหนาวสุดขั้ว จากปรากฏการณ์ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 12 รายแล้ว ขณะที่หนุ่มนักศึกษาแพทย์ ‘หนาวตาย’ ที่ด้านนอกหอประชุมในมหาวิทยาลัยไอโอวา

เมื่อ 31 ม.ค.62 เหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ชาวอเมริกันเผชิญอากาศหนาวจัด จากปรากฏการณ์ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ (ลมวนขั้วโลก) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ราย รวมทั้ง นายเจอรัลด์ เบลซ์ หนุ่มนักศึกษาคณะแพทย์ ที่ถึงกับ‘หนาวตาย’ เสียชีวิตสลด อยู่บริเวณด้านนอกหอประชุมของมหาวิทยาลัยไอโอวา รัฐไอโอวา

ข่าวแจ้งว่า ตำรวจมหาวิทยาลัยได้พบร่างไร้ลมหายใจของนายเบลซ์ เสียชีวิตด้านนอกหอประชุมของมหาวิทยาลัยไอโอวา ก่อนเวลาประมาณ 03.00 น. ของเช้าวันที่ 31 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิ -33 องศาเซลเซียส จากนั้น จึงรีบนำตัวนายเบลซ์ส่งโรงพยาบาล และแพทย์ได้แจ้งว่าเขาเสียชีวิตแล้ว โดยพ่อของนายเบลซ์ เผยว่า บุตรชายของตนกำลังเรียนคณะแพทยศาสตร์ หลังเพิ่งจบการศึกษาระดับมัธยมปลายเมื่อพ.ค.ปีก่อน

ขณะที่มีรายงานด้วยว่า ปรากฏการณ์ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน แล้ว 2 ราย โดยตำรวจพบร่างชายคนหนึ่งเสียชีวิตบนถนน ในสภาพที่สวมหมวก และถุงมือ แต่ไม่ได้สวมเสื้อกันหนาวอย่างเพียงพอสำหรับให้ป้องกันอากาศหนาวจัดขนาดติดลบหลายองศา ขณะที่ยังมีชายสูงอายุวัย 70 เสียชีวิตอยู่ที่ด้านนอกบ้านของเพื่อนบ้านด้วย

รอยเตอร์ เผยภาพถ่ายดาวเทียม แสดงให้เห็นปรากฏการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ กระแสลมหนาวพัดปกคลุมเขตภูมิภาคมิดเวสต์ หรือตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ แจ้งว่า ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ อากาศหนาวจัดขนาด -30 องศาเซลเซียส หนาวหนักกว่าพื้นที่บางส่วนของทวีปแอนตาร์กติกา ใต้สุดของโลกเสียอีก ในขณะที่รัฐนอร์ท ดาโกตา อากาศหนาวจัดระดับ -37 องศาเซลเซียส โดยขณะนี้ มีประชาชนในสหรัฐฯ 250 ล้านคนประสบภัยหนาว และ 90 ล้านคนจะต้องเผชิญสภาพอากาศหนาวจัด ระดับ -17 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิต่ำกว่านี้