ข่าว
ชาเลนจ์มรณะ'Boat Jump'เทรนด์ฮิตติ๊กต็อก ทำ'TikToker'คอหักตายแล้ว 4 ศพ

12 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าโลกโซเชียลฮือฮา เมื่อเหล่าวัยรุ่นออกมาทำชาเลนจ์สุดอันตราย "Boat Jump" หรือ การกระโดดจากเรือที่กำลังแล่นอยู่อย่างรวดเร็ว โดยรายงานพบว่าชาเลนจ์ดังกล่าวมีวัยรุ่นสังเวยชีวิตแล้ว 4 ศพ ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน

ด้านกัปตันจิม เดนนิส เจ้าหน้าที่จากหน่วยกู้ภัยชิลเดอร์สเบิร์ก เปิดเผยว่า ระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา Boat Jump ได้คร่าชีวิตมาแล้วกว่า 4 ราย หลังกระโดดน้ำจากท้ายเรือลงจากเรือ ขณะที่กำลังแล่นด้วยอัตราความเร็วสูง แล้วเอนตัวลงไปในน้ำ ส่งผลให้พวกเขาคอหัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ตายได้โดยทันที "พอกล้องถ่ายอยู่ทำให้พวกเขากล้าที่จะทำอะไรโง่ๆ มากกว่า อาจเป็นต้องการอวดต่อหน้าเพื่อนๆ เพื่อเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย"

"ที่ผ่านมาครอบครัวหนึ่งได้เกิดการสูญเสียจากชาเลน์นี้ โดยคนเป็นพ่อเป็นผู้กระโดดลงไปซึ่งผู้เป็นแม่เป็นคนถ่ายคลิปชาเลนจ์มรณะนี้ไว้ นับเป็นการตายต่อหน้าลูกและเมียของเขาเองเลยก็ว่าได้" กัปตันจิม เดนนิส กล่าว

บช.น.รับเตรียมแผนรับการกลับมาของ'ทักษิณ'จริง ยืนยันไม่มีนัยยะทางการเมือง

12 ก.ค.66 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีที่มีเอกสารการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อวางแผนในการปฏิบัติงานหากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับประเทศไทย ที่มีข้อมูลทางการข่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียว่าอดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จึงมีความจำเป็นต้องเตรียมแผนการรับมือหากมีการเดินทางกลับตามแผนที่ระบุไว้จริง และแผนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเตรียมการไว้ แม้ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรีจะชี้แจงว่า เปิดเดาเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทยไปอย่างไม่มีกำหนดก็ตาม

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการประชุมเตรียมแผนงานดังกล่าวไม่ได้มีนัยยะสำคัญทางการเมืองใดๆ แต่เป็นการเตรียมความพร้อมตามข้อมูลการข่าวที่ตำรวจนครบาลได้รับทราบ อีกทั้งหากมีการเดินทางกลับมาจริงกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็จะต้องเป็นหน่วยงานหนึ่งในการรับผิดชอบการนำตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย


เปิดหลักฐานเด็ด! 'โอลาฟ-เพทา'นั่งรถด้วยกัน ในวันที่นักธุรกิจชาวเยอรมันหายตัว

วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าคดี อุ้มฆ่าหั่นศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค ( MR.HANS PETER RALTER MACK ) อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. ตำรวจได้หลักฐานสำคัญ เป็นภาพวงจรปิด บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยเขาน้อย หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากบ้านที่พบศพผู้ตาย ประมาณ 1.80 กม. โดยกล้องวงจรปิด เมื่อเวลา 10.05 น. วันที่ 4 ก.ค.66 สามารถจับภาพ นาง เพทรา คริสเติล กรุนด์กริฟ ( Ms.PETRA CHRISTL GRUNDGREIF ) อายุ 54 ปี ชาวเยอรมัน ผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถ suv โดยไม่ติดทะเบียนหน้ารถ ขับมาจอด แล้วเดินลงจากรถ มาเปิดประตูหลังด้านหลังคนขับ โดยลักษณะการแต่งกายเป็นชุดเดียวกัน ในวันที่ไปนัดพบกับผู้ตาย ที่ร้านกาแฟ-เบเกอรี่ ย่านถนนซอยทุ่งกลมตาลหมั่น

จากนั้น นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ ( Mr.Olaf Thorsten Brinkmann ) อายุ 52 ปี ชาวเยอรมัน ผู้ต้องหาคนที่ 2 ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ลักษณะสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้น สวมรองเท้าแตะ เข้ามาหน้าร้านอาหาร ที่แฟนสาวชาวไทย ( นางสาวจารุณี ขอสงวนนามสกุล ) ทำงานอยู่ ก่อนจะเดินหิ้วรองเท้าผ้าใบ มาเปิดท้ายรถ SUV ของ มาดามเพทรา แล้วนำไปวางไว้ที่ด้านท้ายรถ ก่อนจะเดินย้อนกลับมาที่ร้านอาหาร ประมาณ ไม่ถึง 1 นาที ก็รีบเดินมาขึ้นรถ SUV ซึ่งมาดาม เพทรา จอดคอยท่าอยู่ ก่อนที่ทั้งคู่จะขับรถออกไปด้วยกัน ทันที

โดยกล้องวงจรปิดนี้ ถือเป็นหลักฐานสำคัญ ว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ในวันที่ 4 ก.ค. เวลา 10.05 น. ซึ่งถัดมาอีก 2 ชม. มาดาม เพทรา ได้ออกไปพบ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค ผู้ตาย ที่ร้านกาแฟ-เบเกอร์รี่ ซอยทุ่งกลมตาลหมั่น โดยทำทีจะขอติดต่อซื้อสนามมวย ในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ตายเป็นเจ้าของ โดยที่ทั้งคู่มีการพูดคุยกันรวมถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะพากันออกจากร้าน และนั้นคือภาพสุดท้าย ของ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค นักธุรกิจชาวเยอรมัน ก่อนจะหายตัวไป และพบว่ามาเป็นศพถูกฆาตกรรมหั่นศพ ดังกล่าว

และในช่วงเย็นที่ผ่านมา พนักงานร้านอุปกรณ์เครื่องมือช่าง ย่านพัทยาเหนือ ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกตัวมาสอบสวน หลังสืบทราบว่า นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ ( Mr.Olaf Thorsten Brinkmann ) อายุ 52 ปี และ นาย ชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติ ไทย เชื้อชาติปากีสถาน ที่ถูกออกหมายจับในคดีฆาตกรรม โดนทั้งคู่ได้เดินเข้ามาซื้อเลื่อยไฟฟ้า จำนวน 1 ตัว ในราคา 1 หมื่นกว่าบาท ซึ่งตัวที่ซื้อไปนั้นมีราคาแพง เพราะเสียงมอเตอร์จะทำงานเงียบมาก ในช่วงวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา จึงได้เดินทางมาให้ข้อมูลและให้ปากคำประกอบหลักฐานในคดีนี้


สั่งย้ายด่วน! 'ผอ.เจ้าท่านครพนม' เซ่นคลิปดีลลับเอื้อท่าทราย

วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีมีการแฉคลิปเสียง อ้างเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม หารือนอกรอบกับผู้ประกอบกิจการดูดหินทรายน้ำโขง ประเภทนำเข้าจากประเทศลาว ในเขต อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีเนื้อหาบางช่วงส่อในทางทุจริต เอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการท่าทราย และอ้างจะดูแลเป็นการส่วนตัว

โดยคลิปเสียงดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากนายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อมหน่วยงานความมั่นคง ลงพื้นที่จัดระเบียบท่าทราย กรณีได้รับเรื่องร้องเรียน ว่า มีผู้ประกอบการบางราย ใช้ช่องว่างกฎหมาย หวังเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ และไม่ยอมปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย รวมถึงมีข้อพิพาทเกี่ยวกับน่านน้ำไทยลาว ในการนำเข้าหินทรายน้ำโขงจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายหลายฉบับจากหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

ปรากฏว่าได้มีผู้ประกอบการที่อยู่ในห้อง นำคลิปเสียงดีลลับ ออกมาแฉเพื่อป้องกันปัญหาเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน โดยยืนยันว่าการดูดหินทรายในแม่น้ำโขง กลุ่มผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง เชื่อว่าบุคคลที่อ้างเป็นผู้บริหารในสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม ฉวยโอกาสเรียกรับผลประโยชน์

ต่อมาทางกรมเจ้าท่า ได้สั่งสอบข้อเท็จจริง ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม เกี่ยวกับคลิปเสียงดีลลับกับผู้ประกอบการท่าทราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายหากพบการกระทำผิด โดยเจ้าตัวยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการสอบสวนของกรมเจ้าท่า และไม่ให้รายละเอียดใดๆแก่สื่อมวลชน โดยกรมเจ้าท่าดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเจ้าพนักงานทั้งหน่วยงาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายหากพบการกระทำผิด

ล่าสุดมีหนังสือคำสั่งกรมเจ้าท่า ที่ 546/2566 ให้ข้าราชการไปช่วยปฏิบัติราชการ ที่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ที่ 7 โดยปฏิบัติราชการตามที่ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7จะมอบหมาย มีผลตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ลงนามโดย นายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า

ส่วนการสอบสวนจะมีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นอกจากนี้ยังได้ออกคำสั่ง แต่งตั้ง นายเกียรติศักดิ์ พงษ์พนัศ นักเดินเรือชำนาญการพิเศษสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล รักษาราชการแทนตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม


สื่อสิงคโปร์เผย รมว.ไทยตัวแทนรัฐบาลต่างชาติคนแรก ที่ได้พบ'อองซานซูจี'

12 ก.ค. 2566 เว็บไซต์ นสพ.The Straits Times ของสิงคโปร์ เสนอข่าว Thai foreign minister says he met Myanmar's Suu Kyi in first foreign envoy meeting since 2021 coup อ้างการเปิดเผยของ ดอน ปรมัตถ์วินัย (Don Pramudwinai) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ว่า ตนมีโอกาสได้พบกับ อองซานซูจี (Aung San Suu Kyi) อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมา และเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยเป็นการพบกับตัวแทนรัฐบาลต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับจากกองทัพเมียนมาทำรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2564

สื่อสิงคโปร์ระบุว่า ดอน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวขณะอยู่ที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังมีการจัดประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยกล่าวว่า การพบกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2566 นางซูจี วัย 78 ปี ยังมีสุขภาพดี และการพูดคุยก็เป็นไปด้วยดี ซึ่งเธอได้ เรียกร้องให้มีการหารือครั้งใหม่เพื่อยุติวิกฤติ อีกทั้ง รมว.ต่างประเทศของไทย ยังกล่าวด้วยว่า ตนกำลังเรียกร้อง “ข้อตกลงกับผู้มีอำนาจในกรุงเนปิดอว์ (engagement with the authority in Naypyitaw)” ซึ่งหมายถึงรัฐบาลทหารของเมียนมา

ทั้งนี้ หลังกองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร อองซานซูจี ถูกตัดสินจำคุก 33 ปี ในหลายข้อหารวมกัน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ขณะที่สภาพภายประเทศก็เต็มไปด้วยความโกลาหลและการนองเลือด มีผู้พบเห็นนางซูจีเพียงครั้งเดียวนับตั้งแต่รัฐประหาร ในรูปของสื่อรัฐที่ดูหยาบๆ จากห้องพิจารณาคดีที่โล่งๆ ในเมืองหลวงที่สร้างขึ้นโดยกองทัพ รัฐบาลทหารได้ปฏิเสธคำขอซ้ำแล้วซ้ำเล่าของนักการทูตต่างประเทศที่จะพบกับนางซูจี และตลอดการพิจารณาคดีของเธอ ทนายความของเธอก็ถูกห้ามไม่ให้พูดกับสื่อ กระทั่งในเดือน มิ.ย. 2565 นางซูจีถูกย้ายจากการถูกกักบริเวณในบ้านในกรุงเนปิดอว์ไปยังการคุมขังเดี่ยวในเรือนจำ

พ่นลาวา! ภูเขาไฟไอซ์แลนด์ปะทุ หลังแผ่นดินไหวหลายสัปดาห์

12 ก.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภูเขาไฟ ‘ลิตตริ ฮรูตูร์’ (Litli Hrútur) ทางตอนใต้ของกรุงเรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ปะทุแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา หลังจากมันมีความเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น และเกิดแผ่นดินไหวนับร้อยครั้งตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

นายธอร์วัลดูร์ ธอร์ดาร์สัน ศาสตราจารย์ด้านวิทยาภูเขาไฟ จากมหาวิทยาลัยไอซ์แลนด์ กล่าวว่า มีรอยแยก 3 แห่ง ซึ่งมีความยาวรวมประมาณ 200-300 เมตร และมีลาวาไหลผ่านตามทาง แต่มันเป็นการปะทุที่มีความรุนแรงต่ำ และลาวาไหลไม่รุนแรง

นั่นหมายความว่า การระเบิดครั้งนี้ไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามในวงกว้าง แต่หากการปะทุยังดำเนินต่อไปเป็นเวลานานมากพอ มันอาจเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานได้

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอซ์แลนด์เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กหลายครั้งในจุดเกิดเหตุ ส่งผลให้แมกมาใต้ดินเคลื่อนตัว และเกิดการปะทุในเวลาต่อมา โดยทางการไอซ์แลนด์แนะนำไม่ให้ประชาชนเข้าไปยังบริเวณดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิประเทศทุรกันดาร เนื่องจากไม่มีถนนเชื่อมต่อ ก่อนที่พวกเขาจะประเมินสถานการณ์

นักภูเขาไฟวิทยาหลายคนกล่าวว่า เหตุการณ์ในภูมิภาคนี้ถือเป็นการปะทุครั้งที่ 3 ในรอบ 2 ปี ซึ่งจนถึงขณะนี้ มันยังไม่เป็นอันตรายมากนัก และไม่มีผลกระทบต่อการจราจรทางอากาศแต่อย่างใด ขณะที่ ธอร์ดาร์สัน ระบุเสริมว่า การปะทุดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ไปจนถึงนานกว่าครึ่งปีเหมือนในปี 2564 หรืออาจจะนานกว่านั้นก็เป็นได้

ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ มีระบบภูเขาไฟ 33 ระบบ ที่ถือว่ายังเกิดการระเบิดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในยุโรป และมันเกิดการปะทุโดยเฉลี่ยทุกๆ 5 ปี