ข่าว
"มาร์กาเร็ต สมิธ" ภรรยา "อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์" เสียชีวิตแล้ว

เฟซบุ๊กสถาบันปรีดี พนมยงค์ รายงานว่า นางมาร์กาเร็ต สมิธ (อึ๊งภากรณ์) ภรรยาของนายป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 93 ปี

โดยเขียนข้อความว่า "ขอร่วมไว้อาลัย และร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับการจากไปของคู่ชีวิต ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ สตรีผู้ทำหน้าที่เคียงข้างด้วยความเข้าใจ และเต็มไปด้วยความรักต่อครอบครัวถึงที่สุด"


แม่น้องเกด ถาม "สนธิ" จะปรองดองเพื่ออะไร?

นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด (น้องเกด) พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม และญาติๆ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ได้เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฏร ผ่านนายพินิจ จันทรสมบูรณ์ โดยขอให้ไปสอบถาม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมปรองดองแห่งชาติ ว่าจะปรองดองไปเพื่ออะไร ในเมื่อยังหาคนที่มายิงประชาชนเสียชีวิตมากมายไม่ได้ ณ ห้องโถงรัฐสภา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม

รณรงค์คนไทยรักในหลวง

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่รัฐสภา นายมงคล สิมะโรจน์ ประธาน ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ผู้ริเริ่มกลุ่ม เรารักในหลวง พร้อมด้วย พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธาน ที่ปรึกษาโครงการ และ พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ สว.อ่างทอง ในฐานะหนึ่งในผู้ริเริ่มโครงการร่วมกันแถลงข่าวที่รัฐสภา เชิญชวนประชาชนคนไทย

แสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการลงนามด้วย 2 วิธี คือ 1.การลงชื่อทางไปรษณีย์ ด้วยการเขียนชื่อ ที่อยู่ด้วยลายมือ ในไปรษณียบัตร หรือจดหมายส่งไปยังตู้ ปณ.199 ยานนาวา กรุงเทพมหานคร และ 2.ลงชื่อผ่านทาง เว็บไซต์โดยการเขียนชื่อที่อยู่บนเว็บไซต์ www.WeLoveNailuang.com

โครงการนี้ได้เปิดให้มีการลงนาม ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา และจะเปิดให้ ลงนามต่อไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2555 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 99 วัน จากนั้นจะรวบรวมรายชื่อของทุกคน นำขึ้นทูลเกล้าฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


"ปทุมวัน-อุเทน" เปิดศึกยิงกันสนั่นมาบุญครอง

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ร.ต.อ.(หญิง) คนึงนุช ทศไพรินทร์ พงส.(สบ 1) สน.ปทุมวัน รับแจ้งมีนักศึกษาตีกันภายในห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ถ.พญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.เสน่ห์ วันทอง สว.สส.สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน และชุดจู่โจม บก.น.6 รวม 50 นาย เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นที่ 1 ของห้างดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันจำนวน 10 คน กำลังวิ่งไล่กวดนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ประมาณ 5-6 คน ข้ามถนนมุ่งหน้าไปทางที่ตั้งสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย โดยระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ากระสุนดังกล่าวยิงเข้าไปถูกที่ขอบปูนกั้นลานน้ำพุและป้ายทางเข้าโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซสรวม 3 นัด จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบและระงับเหตุในพื้นที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ1 ราย ทราบชื่อคือ นายณัฐพล ม่วงพรวน อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถูกมีดฟันที่แขนซ้ายมีบาดแผลเล็กน้อย จึงนำตัวส่งร.พ.กลาง เพื่อให้แพทย์รักษา ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นปีที่ 4 ได้ 4 คน ตรวจค้นตามร่างกายไม่พบอาวุธ จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่สน.ปทุมวัน


"นายกฯปู"เปิดขายกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติวันแรก

วันที่ 28 มี.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีการลงนามบันทึกความร่วมมือ 3 ฉบับ กับบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ และบริษัท ประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ 54 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ซึ่งจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.นี้เป็นต้นไป

นายประเวศ องอาจสิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า กรมธรรม์ดังกล่าวจะให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ 3 ชนิด คือ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และลมพายุ ซึ่งการขายประกันภัยดังกล่าวผู้ที่สนใจสามารถซื้อกับบริษัทประกันภัยที่ร่วมโครงการได้ทันที โดยมั่นใจว่าการเปิดขายกรมธรรม์ครั้งนี้ จะมีผู้ที่สนใจซื้อตามเป้าหมายที่วางไว้ คือภาคครัวเรือนจำนวน 130,000 ราย ,เอสเอ็มอี 200,000 ราย และภาคอุตสาหกรรม จำนวน 15,000 ราย

ส่วนเรื่องของการรับประกันภัยต่อนั้น ปัจจุบันพบว่าได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 8-10% และปัจจุบันหลังจากที่ได้จัดทำโครงสร้างของกองทุนเสร็จสิ้น พบว่าเบี้ยประกันปรับลดมาอยู่ที่ 3% เท่านั้น และเชื่อว่าในอนาคตจะปรับลดลงอีก แต่จะไม่ไปอยู่ที่อัตราเดิมที่จัดเก็บ 0.02% ในช่วงที่ไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานป้องกันน้ำท่วมไว้รองรับซึ่งจะช่วยให้เกิดความมั่นใจได้

“เรื่องของการรับประกันภัยต่อนั้นยังไม่ได้กำหนดไว้ว่ากองทุนจะไปซื้อประกันภัยต่อจากต่างประเทศเมื่อไร เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความเหมาะสม และเรื่องนี้ก็คงตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุดเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้รู้ว่าช่วงใดมีความเหมาะสม” นายประเวศ กล่าว