ข่าว
ชนแหลก 75 คันบนทางหลวงสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาแลกซ์ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ว่า ตำรวจรัฐเวอร์จิเนีย เปิดเผยว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันรวมแล้วประมาณ 75 คัน บนทางหลวงระหว่างรัฐ สายไอ-77 ซึ่งอยู่ใกล้กับพรมแดนเชื่อมต่อระหว่างรัฐเวอร์จิเนีย กับ นอร์ทแคโรไลนา เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.15 น.ของวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ในช่องทางขาล่องบนเขาแฟนซี แก๊ป ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย ขณะนั้นมีหมอกลงหนาจัด หลังอุบัติเหตุแล้ว ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาว 13 กม. เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว 3 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 20 คน

สำหรับทางหลวงระหว่างรัฐ ได้ปิดเส้นทางทั้งขาขึ้นและขาล่อง ส่วนขาขึ้นที่ต้องปิดก็เพื่อให้รถหน่วยบริการฉุกเฉินแล่นเข้าไปในจุดที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ขับขี่ยวดยานก็ได้รับคำแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น

สุขสันต์วันเกิด 40 ปี "โทรศัพท์มือถือ"เครื่องแรกของโลก

การสื่อสารผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 1973

นายมาร์ติน คูเปอร์ วิศวกรอาวุโสของโมโตโรลลา ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรหานายโจเอล เอส เอนเกล เพื่อนที่ทำงานที่บริษัทเบล แล็บส์ บรืษัทด้านการสื่อสารคู่แข่ง ในย่านใจกลางนครนิวยอร์ก และคำพูดแรกคือ"โจเอล นี่ผมมาร์ตี้ ผมโทรหาคุณจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรศัพท์มือถือที่พกพาได้ของจริง"

โดยโทรศัพท์ต้นแบบเครื่องดังกล่าวมีชื่อว่า "DynaTAC" ที่มีน้ำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 10 นิ้ว

รายงานจากสหพันธ์การสื่อสารระหว่างประเทศ ประจำปี 2012 พบว่ามีผู้จดทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกกว่า 6,000 ล้านราย ขณะที่ประชากรโลกเพิ่มเป็น 7,000 ล้านคน

ดร.ไมค์ ชอร์ท อดีตประธานสถาบันวิศวกรรมและเทคโนโลยี และรองประธานบริษัทเทเลโฟนิกา ยุโรป เปิดเผยว่า กว่า 40 ปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มือถือได้เปลี่ยนจากเครื่องมือของกลุ่มนักธุรกิจไปยังผู้คนทั่วไปผ่านวัฒนธรรมการบริโภคและอนเตอร์เน็ตที่เชื่อมทุกอย่างเข้าหากันและในอนาคตจะยังคงมีการอุปกรณ์ใหม่ๆ ต่อไปไม่มีวันหยุด อุปกรณ์หลายประเภทจะสามารถใช้สวมใส่ได้ อาทิ แว่นตา ที่เราสามารถใช้ดวงตาในการควบคุมทุกอย่างได้ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือที่สวมใส่ได้ เช่นเดียวกับนาฬิกา

นายคูเปอร์ ปัจจุบันอายุ 85 ปี เป็นเจ้าของสมยานาม "บิดาแห่งโทรศัพท์มือถือ" เขานำเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1973 โดยได้รับหมายเลขสิทธิบัตร "US Patent 3,906,166"

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1973 หรือ 37 ปีก่อน เขาเป็นวิศวกรอยู่ที่บริษัทโมโตโรล่า และห้องแล็บของเขาก็สร้างนวัตกรรมให้กับมวลมนุษยชาติ นั่นคือ การเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เป็นรายแรกของโลก เพราะในใจของเขารู้ดีว่าคนเราต้องการการสื่อสาร และการสื่อสารไม่เคยหยุดอยู่กับที ฉะนั้นคนไปที่ไหน ก็ต้องสื่อสารได้ตลอด และการสื่อสารนั้นยังต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย

เขาเคยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เขาคิดว่าราคาในเบื้้องต้นของโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์รุ่นแรกในปี 1983 มีราคาสูงถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ)ซึ่งค่อนข้างสูง จะเป็นปัจจัยไม่ให้โทรศัพท์ได้รับความนิยมแพร่หลาย และเคยคิดว่ามันน่าจะมีขนาดเล็กลงกว่านั้นได้ หรือแขวนไว้กับหูได้ และกระทั่งฝังลงไปในผิวหนังมนุษย์ได้

ไอเดียในการสร้างโทรศัพท์มือถือของคูเปอร์เกิดขึ้นในช่วงยุค1960 เมื่อบริษัทเอทีแอนด์ที ได้ผลิต "โทรศัพท์ติดรถยนต์" (Carphone) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเครื่องโทรศัพท์ได้ถูกพัฒนาให้ไปติดที่รถ ใช้กับแพทย์ หรือ บริการส่งสินค้าตามบ้าน

เขาจึงพยายามคิดค้นอุปกรณ์ที่สามารถนำติดตัวไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งประจำสถานที่ต่างๆเช่นที่เคยเป็นมา เขารู้สึกที่ใจที่การคิดค้นของเขาได้ช่วยเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบันได้ ไม่ว่าจะเพื่อการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต


จีนพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดนก "H7N9" เป็นรายที่ 3

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันที่ 3 เม.ย. ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 เพิ่มอีก 2 ราย โดยหนึ่งในนั้น ที่อาศัยในมณฑลเจ้อเจียง เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไดังกล่าว นับเป็นเหยื่อรายที่สาม และทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 9 รายแล้ว

ซินหัวรายงานอ้างสำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นว่า ชายที่เสียชีวิตรายล่าสุดเป็น 1 ใน 2 คนที่มีรายงานติดเชื้อไวรัส H7N9 ในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของประเทศ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 9 คนแล้ว

หนังสือพิมพ์เจ้อเจียงเดลี่รายงานว่า เหยื่อรายล่าสุด ซึ่งมีนามสกุลว่า"หง" เป็นพ่อครัว อายุ 38 ปี ซึ่งมีบ้านเกิดที่เมืองเจียงเต้อ มณฑลเจ้อเจียง และทำงานที่มณฑลเจียงสู เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเริ่มล้มป่วยลงเมื่อวันที่ 7 มี.ค. โดยสำนักงานควบคุมโรคิดต่อกล่าวยืนยันว่าเขาติดเชื้อไวร้สดังกล่าวจริง

ส่วนผู้ที่ติดเชื้ออีกรายเป็นผู้สูงอายุวัย 67 ปี นามสกุง"หยาง" รักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. โดยมีอาการไอและเป็นไข้ ส่วนผู้เสียชีวิตก่อนหน้า 2 รายอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ ส่วนผู้ป่วยรายอื่น ๆ มีทั้งในมณฑลอานฮุยและเจียงซู มณฑลทางตะวันออก

แถลงการณ์ยังระบุว่า ผู้ที่เคยติดต่อกับผู้ป่วยทั้งสอง จำนวน 183 ราย กระทั่งปัจจุบันยังไม่แสดงอาการไข้หรืออาการป่วยเกี่ยวกับระบบการหายใจแต่อย่างใด และอาการป่วยของทั้งสองไม่มีความเกี่ยวข้องกัน


สหรัฐเผยโครงการศึกษาสมองคนเพื่อรักษาอัลไซเมอร์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ว่า ทำเนียบขาวเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนริเริ่มศึกษาสมองคน โดยมีเป้าหมายเพื่อบำบัดรักษาโรคอัลไซเมอร์หรือโรคผิดปกติอื่นๆ ทางสมอง ซึ่งโครงการนี้มีชื่อว่า”เบรน รีเสิร์ช ธรู แอดวานซิ่ง อินโนเวทีฟ นิวโรเทคโนโลจีส์ อินนิชิเอทีฟ “ใช้เงินทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3,000 ล้านบาทจากงบประมาณปี 2557 ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และทำเนียบขาวเตรียมเปิดเผยในงบประมาณสัปดาห์หน้า

ทำเนียบขาวระบุต่อไปว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยเปิดประตูสู่การสำรวจสมอง และการเชื่อมโยงระหว่างการทำงานของสมองกับพฤติกรรม รวมทั้งช่วยนักวิจัยสร้างภาพของสมองที่แสดงให้เห็นถึงเส้นประสาทแต่ละเส้นและความซับซ้อน

ฮือฮาแฟชั่นตกแต่งขนดกโชว์จะจะไม่อายแล้ว

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ "เดอะซัน" นำเสนอแฟชั่นแปลกใหม่ จากการเล่นตลกขำขันของผู้ชายที่มีขนดกบนร่างกาย ด้วยการตัดตกแต่งให้เป็นลวดลาย

จากที่ผู้ชายขนดกมักจะใส่เสื้อเพื่อปกปิดร่างกาย เพราะจะโดนสังคมมองด้วยความรังเกียจ หรือโดนล้อเลียน แต่ตอนนี้มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นการออกแบบลายบนตัวของพวกเขา ทำให้เป็นเรื่องสนุกสนานไป โดยเปิดโชว์กันจะจะไม่ต้องปิดไม่ต้องอายกันอีกแล้ว ใครมีประสบการณ์ตรงแชร์ต่อได้