ข่าว
'กัมพูชา'ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ใหญ่ครบ 8 ล้านคนแล้ว

11 ส.ค.64 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่ากัมพูชาฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปครบ 8 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่เริ่มแผนฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 10 ก.พ.

ฮุนเซนกล่าวว่าถิง ถา หญิงวัย 56 ปี จากจังหวัดสตึงแตรงทางตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นผู้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คนที่ 8 ล้าน โดยเขามอบเงิน 10 ล้านเรียล (ราว 8.1 หมื่นบาท) และสิ่งของบรรเทาทุกข์บางส่วนเป็นของขวัญแก่เธอด้วย

“หากนับถึงวันที่ 10 ส.ค. กัมพูชาฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดสให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ 8 ล้านคนแล้ว หรือร้อยละ 80 ของประชากรวัยผู้ใหญ่กลุ่มเป้าหมายสิบล้านคน” ฮุนเซนโพสต์เฟซบุ๊ก

12-17 ปี จำนวน 359,094 คน หรือร้อยละ 18.26 ของเยาวชนทั้งหมด 2 ล้านคน นับตั้งแต่เริ่มแผนฉีดวัคซีนให้ประชากรกลุ่มนี้เมื่อวันที่ 1 ส.ค.

กระทรวงฯ รายงานว่ากัมพูชาตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 499 ราย เมื่อวันอังคาร (10 ส.ค.) ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 82,898 ราย และตรวจพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 1,602 ราย

นาทีหวาดเสียว ม็อบพลาดทำประทัดยักษ์บึ้มคามือแหลก นิ้วขาดกระจุย

11 สิงหาคม 2564 จากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มม็อบทะลุฟ้าที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และถูกเจ้าหน้าที่ คฝ.เข้าจับกุมจนต้องประกาศยุติการชุมนุม โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วน มาชุมนุมกันต่อที่บริเวณแยกดินแดง และเกิดปะทะกันดุเดือดระหว่างเจ้าหน้าที่ มีการยิงแก๊สน้ำตาเพื่อผลักดันมวลชนอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้

โดยเวลา 18.15 น.ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ล่าสุดฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้มาหลบฝนรวมตัวกันที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง และบางส่วนได้บุกไปประชิดตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้เกิดกการปะทะกันเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปทำลายรถยกของ สน.ดินแดง โดยการใช้ก้อนหินทุบกระจกได้รับความเสียหาย 2 คัน อีกส่วนพยายามเผารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามจะเข้าไปดับ กระทั่งล่าสุดได้เกิดเหตุไฟไหม้รถยกคันดังกล่าว ขณะที่มีรายงานว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

ขณะที่ในโลกโซเซียลมีการแชร์ภาพเหตุการณ์หน้า ปปส.ดินแดง เป็นวินาทีคลิปประทัดยักษ์ระเบิดคามือจนทำให้ผู้ชุมนุมชาย ใส่เสื้อคล้ายเสื้อช็อปจนได้รับบาดเจ็บ สภาพมือแหลกเละนิ้วขาด จนต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลรามาฯ โดยมีกลุ่มเพื่อนให้กำลังใจ


'ศิริราช'ยันฉีดวัคซีนฟรี เตือนระวังใบนัดปลอมเรียกเก็บค่าใช้จ่าย

11 สิงหาคม 2564 โรงพยาบาลศิริราชประกาศเตือนประชาชนระวังผู้ไม่ประสงค์ดี แอบอ้างเรียกเก็บเงินค่าวัคซีน ดังนี้เรื่อง การฉีดวัคซีนโควิด 19 ณ รพ.ศิริราช ไม่มีค่าใช้จ่าย

ตามที่ รพ.ศิริราชให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนทั่วไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ของรพ.ศิริราช โดยสามารถจองวัน และเวลาการฉีดวัคซีนโควิด 19 ผ่านแอปพลิเคชัน Siriraj Connect รวมทั้งมีการออกใบนัดฉีดวัคซีนสำหรับบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและ ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด 19 รพ.ศิริราชไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น จากผู้รับบริการ

การนี้ มีผู้ไม่ประสงค์ดีฉวยโอกาสจัดทำใบนัดสำหรับฉีดวัคซีนปลอม พร้อมเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใน การฉีดวัคซีน ณ รพ.ศิริราช กรณีดังกล่าว รพ.ศิริราช มีความห่วงใยประชาชน หากมีการเรียกเก็บ ค่าใช้จ่ายสำหรับใบนัดฉีดวัคซีน กรุณาอย่าหลงเชื่อ เพราะเมื่อท่านมาที่โรงพยาบาลศิริราชด้วยใบนัด ฉีดวัคซีนปลอม ท่านก็จะไม่ได้รับการฉีดวัคซีนใด ๆ ทั้งสิ้น

หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อสอบถามได้จาก สำนักงานผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช โทร. 0 2419 9111, 0 2419 9222, 0 2419 9333, 0 2419 444 และ 0 2419 7672-4


'อนุทิน'เผยไทยสั่งซื้อไฟเซอร์อีก 10 ล้านโดส ถึงช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

วันที่ 11 สิงหาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการวางแผนการฉีดวัคซีนโควิด19 ก็มีการปรับให้เป็นไปตามสถานการณ์ตลอดเวลา การปรับสูตร การไขว้วัคซีน ทำงานโดยมีคณะทำงานวิชาการ 3-4 คณะ เข้าที่ประชุม ไม่ใช่ปลัดสธ.มาบอกว่าลองใช้แบบนั้น ลองใช้แบบนี้ ขอย้ำว่าการฉีดวัคซีนไขว้เพราะมีการกลายพันธุ์ ไม่ใช่ว่าเพราะวัคซีนไม่พอ และมีการศึกษาวิจัยทั้งหมด

ส่วนการจัดหาวัคซีนมีก็มีการพยายามจัดหาให้ได้มากตามเป้าหมาย เช่น โนวาแวกซ์มีการเจรจราแต่เป็นของปีหน้า ขณะที่ไฟเซอร์มีการสั่งซื้อแล้ว 20 ล้านโดส และจะซื้อเพิ่มอีก 10 ล้านโดส เป็นจัดซื้อทั้งหมด 30 ล้านโดสเข้ามาในไตรมาส 4 ของปี 2564 เมื่อบวกกับที่ได้รับบริจาค เท่ากับประเทศไทยจะมีไฟเซอร์ประมาณ 32.5 ล้านโดส

"เดิมไฟเซอร์จัดโควตาให้เรา 20 ล้านโดสในปีนี้ แต่จากการเจรจาเพื่อขอให้จัดส่งประเทศไทยเพิ่มขึ้น ไฟเซอร์ ก็จัดให้ประเทศไทยได้อีก 10 ล้านโดส เมื่อรวมกับที่บริจาค 1.5 ล้านโดส และจะบริจาคเพิ่มอีก 1 ล้านโดส ก็จะรวมเป็น 32.5 ล้านโดส"นายอนุทินกล่าว


สลด! ลุงชาวกรุงเก่าวัย 61 ปีเครียดป่วยโควิด หนีออกจากรพ.กระโดดน้ำตาย

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 11 ส.ค. 64 พ.ต.ท.มาโนช ฤทธิภูมิ สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบสภาพชายจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณท่าน้ำ ฝั่งตรงข้ามกับ รพ.พระนครศรีอยุธยา ริมถนนอู่ทอง ทราบชื่อต่อมานายฉลวย รื่นภาคกิจ อายุ 61 ปีบ้านอยู่ หมู่ 1 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายฉลวย ได้เข้ามาตรวจหาเชื้อโควิดแล้วเข้ารักษาตัวที่รพ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากภรรยาเป็นแม่ค้าในตลาดเจ้าพรหมและติดโควิดมาก่อนหน้าแล้ว

โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ทางโรงพยาบาลได้โทรศัพท์แจ้งญาติให้ หาญาติที่ติดเชื้อโควิดอยู่แล้วมารับตัวนายฉลวย เนื่องจากนายฉลวยมีอาการเบลอ และพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ซึ่งเบื้องต้นสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ โดยระหว่างรอญาติมารับ นายฉลวยได้หนีออกมาจากรพ.พระนครศรีอยุธยา แล้วกระโดดน้ำลงไป เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจได้ใช้ชุดประดาน้ำดำน้ำลงไปงมศพจนพบใช้เวลากว่า 2 ช.ม.จากนั้นให้ชุดเก็บศพในชุดป้องกัน ได้นำศพไปทำการฌาปนกิจที่วัดเทพกุญชร ต.อุทัย ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านผู้เสียชีวิต


อพยพชาวบ้านกว่า1.5 แสนคน เปิดทาง‘โขลงช้างป่า’กลับบ้าน

11 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงาน ทางการมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เปิดเผยว่ามีการอพยพประชาชนมากกว่า 150,000 คนแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างคนกับโขลงช้างป่าเอเชีย 14 ตัวชื่อดัง ซึ่งกำลังเดินทางกลับสู่ถิ่นอาศัยเดิมของพวกมัน

ว่านหย่ง หัวหน้าสำนักงานใหญ่ผู้รับผิดชอบการเฝ้าติดตามการอพยพของช้างป่าโขลงนี้ แถลงข่าวเมื่อคืนวันจันทร์ (9 ส.ค.) ว่าโขลงช้างเดินข้ามแม่น้ำหยวนเจียง เมื่อราว 20.00 น. ของวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) โดยได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และขณะนี้กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่ทิศใต้

ทางการจัดส่งตำรวจและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กว่า 25,000 คน ใช้ยานพาหนะและโดรนจำนวนมากติดตามและนำทางช้าง อีกทั้งจัดเตรียมอาหารให้พวกมันระหว่างการอพยพปริมาณ 180 ตัน โดยช้างทุกตัวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี

ช้างป่าโขลงนี้ออกเดินทางไกลจากถิ่นอาศัยเดิมของพวกมันในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของแคว้นปกครองตนเองสิบสองปันนา กลุ่มชาติพันธุ์ไท ในอวิ๋นหนาน เป็นเวลาราว 17 เดือนแล้ว

อนึ่ง ช้างป่าเอเชีย ซึ่งเป็นช้างสายพันธุ์หลักในเขตป่าฝน จัดเป็นสัตว์คุ้มครองระดับเอ (A-level) ของจีน ปัจจุบันจำนวนประชากรช้างป่าเอเชียในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 300 ตัว ส่วนใหญ่อาศัยกระจัดกระจายอยู่ในอวิ๋นหนาน ซึ่งเป็นผลจากความพยายามปกป้องสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่าที่จริงจังยิ่งขึ้น


นักร้องดังมาเลเซียติดโควิด-19 ดับ หลังคลอดลูกได้เพียง 3 วัน

11 ส.ค.64 "สิติ ซาราห์ ไรซุดดิน" นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดังชาวมาเลเซียที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาได้ซักระยะนึงแล้ว ล่าสุดได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเธอเสียชีวิตหลังจากที่แพทย์ได้ตัดสินใจผ่าตัดนำลูกคนที่ 4 ออกมาได้ 3 วัน เนื่องจากเธอตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว และถ้าหากไม่ผ่าตัดนำลูกออกมาก็มีความเป็นไปได้สูงว่าทั้ง สิติ ซาราห์ ไรซุดดิน และลูกในท้องจะเสียชีวิตทั้งคู่ สิ่งที่น่าเศร้าก็คือในขณะที่ลูกคนที่ 4 ที่เพิ่งคลอดแข็งแรงดีแต่ เธอกลับไม่ได้มีโอกาสอุ้มลูกและทำหน้าที่แม่อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

สิติ ซาราห์ ไรซุดดิน ได้วิดีโอคอลกับสามีนักแสดงตลก "ชูอิป สปาห์ตู" จากห้องไอซียูก่อนที่เธอจะเสียชีวิต โดยบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างโศกเศร้า เนื่องจากเธอรู้ดีว่าโอกาสที่จะรอดชีวิตเพื่อที่จะได้พบหน้าลูกคนที่ 4 มีน้อยมาก ส่วนลูกของเธออีก 3 คนที่มีอายุระหว่า 6 ถึง 10 ปี ต่างก็ติดโควิด-19 กันหมดทุกคน เพราะติดเชื้อมาจากคนดูแลบ้าน

ส่วนข่าวการเสียชีวิตของ สิติ ซาราห์ ไรซุดดิน ถือเป็นข่าวเศร้าสำหรับวงการเพลงและวงการบันเทิงของประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเธอเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในประเทศบ้านเกิดอย่างสูง ซึ่งแฟนเพลงชาวมาเลเซียต่างก็เสียใจจากการจากไปของเธอ

โดย สิติ ซาราห์ ไรซุดดิน คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมานานไม่ต่ำกว่า 20 ปี ส่วนการเสียชีวิตของเธอเกิดขึ้นในขณะที่ทางรัฐบาลมาเลเซียได้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ให้กับประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วสามารถเดินทางหรือทำกิจกรรมนอกบ้านได้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในมาเลเซียยังคงน่าเป็นห่วงอย่างมากในช่วงเวลานี้ จนทำให้ชาวมาเลเซียจำนวนไม่น้อยที่ออกมาประท้วงภาครัฐเพราะไม่เห็นด้วยที่จะมีมาตรการผ่อนปรนที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนักอีกครั้งในช่วงเวลานี้

ผลสำรวจชี้‘ชาวลอนดอน’ลังเลฉีดวัคซีนโควิด-19 สูงสุดของประเทศ

11 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สำนักงานสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักร (ONS) ระบุว่าแม้จำนวนประชาชนในสหราชอาณาจักรที่ลังเลในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะลดต่ำ แต่กรุงลอนดอนยังคงเป็นพื้นที่ที่มีระดับความลังเลในการฉีดวัคซีนสูงสุดของประเทศ

แบบสำรวจล่าสุดของสำนักงานฯ ระบุว่า ระหว่างช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 ประชากรวัยผู้ใหญ่ในทุกภูมิภาคของอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์ มีความลังเลในการฉีดวัคซีนน้อยลง ขณะที่ตัวเลขในกรุงลอนดอนต่ำลงจากร้อยละ 11 เป็นร้อยละ 7

“แม้ตัวเลขจะลดลงแต่ชาวลอนดอนยังมีความลังเลในการฉีดวัคซีนสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคและประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร”

นอกจากนี้ อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกรุงลอนดอนยังล้าหลังกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยเมื่อปลายเดือนมิถุนายน สัดส่วนประชากรวัย 50 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ฉีดวัคซีน อยู่ที่ 1 ใน 9 หรือร้อยละ 11 ซึ่งสูงเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของอังกฤษ

ระดับความลังเลในการฉีดวัคซีนลดต่ำที่สุดในเวลส์ จากร้อยละ 9 ในเดือนมีนาคม เหลือร้อยละ 4 ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ตัวเลขในภูมิภาคยอร์กเชอร์และฮัมเบอร์ของอังกฤษลดลงครึ่งหนึ่ง เหลือร้อยละ 4 ส่วนภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษลดลงจากร้อยละ 7 เหลือร้อยละ 3

สำนักงานฯ ระบุว่าในบางภูมิภาคของสหราชอาณาจักร ผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงมีความลังเลในการฉีดวัคซีนน้อยกว่าผู้ที่มีสุขภาพดี

(สถิติข้างต้น) สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วสหราชอาณาจักร โดยส่วนใหญ่แล้วคนหนุ่มสาว คนผิวดำ และคนว่างงานเป็นกลุ่มที่มีความลังเลในการฉีดวัคซีนสูงสุดในทั่วทุกภูมิภาคของอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์ แม้ว่าตัวเลขจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ตาม โฆษกของสำนักงานฯ กล่าว

อนึ่ง สถิติล่าสุดของสหราชอาณาจักรระบุว่าเกือบร้อยละ 90 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว และกว่าร้อยละ 74 ฉีดโดสที่สองแล้ว