ข่าว
น่ากลัวเหลือเกิน พนง.ต้องใส่หมวกกันน็อคตลอดเวลาทำงาน

เป็นเหตุการณ์ที่ดูน่าสงสารเสียเหลือเกิน เมื่อบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย พนักงานต้องสวมหมวกกันน็อคกันตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน เพราะด้วยสภาพอาคารนั้นเก่า ทรุดโทรมพร้อมที่จะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ

โดย เจ้าหน้าที่ได้ประกาศว่าอาคารนี้ เป็นอาคารที่อันตรายและไม่เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นเวลาสองปี แต่ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ในการย้ายคนงานไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า พนักงานรายหนึ่งเปิดเผยว่า สถานการณ์เลวร้ายลง เนื่องจากฝนตกทำให้รั่วซึม ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์สำนักงาน แต่บริษัทยังหาสำนักงานใหม่ไม่ได้ จึงต้องจำใจทำงานในอาคารแห่งนี้ไปก่อนด้วยความระมัดระวัง

กรมบังคับคดีรอข้อมูล ยันยังไม่ยึดอายัดทรัพย์ปู-บุญทรงเพิ่ม

31 ส.ค.60 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวถึงการยึดทรัพย์จากการเรียกค่าเสียหายในการทุจริตการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ว่า ตอนนี้ทางโจทก์ ซึ่งหมายถึงกระทรวงพาณิชย์ ยังไม่ได้แจ้งให้ทางกรมบังคับคดี ยึดหรืออายัดทรัพย์ของนายบุญทรงเพิ่มเติม กรมบังคับคดีจึงยังไม่ได้ดำเนินการใดๆเพิ่มเติม เพราะกรมบังคับคดีปฏิบัติหน้าที่ไปตามที่โจทก์ขอให้อายัดทรัพย์

“ส่วนการยึดอายัดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่มียึด หรืออายัดอะไรเพิ่มเติม หลังจากกระทรวงการคลังได้ส่งให้ยึดอายัดบัญชีเงินฝาก 12 บัญชี ไปแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีอายุความถึง 10 ปี” น.ส.รื่นวดี กล่าว


บุญทรงวืดประกันรอบ2 ทนายเผยเร่งทำเรื่องยืนอุทธรณ์ให้เร็วที่สุด

31 ส.ค.60 นายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องขังในคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ได้ยื่นคำร่้องขอปล่อยตัวชั่วคราวครั้งที่ 2 ให้ศาลฎีกาพิจารณานั้น ล่าสุดวันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราวนายบุญทรงครั้งที่ 2 แล้ว โดยระบุว่า ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะอนุญาตใหัปล่อยตัวชั่วคราว

ทั้งนี้ นายนรินทร์ กล่าวว่า หลังจากที่นายบุญทรงทราบว่าศาลยกคำร้องก็มีอาการเครียด แต่ก็ยังทำใจได้ ส่วนอาการป่วยของนายบุญทรงก็มีอาการดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากนี้ทีมทนายความจะเร่งทำเรื่องยื่นอุทธรณ์คดีให้เร็วที่สุด และจะยื่นขอให้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง เนื่องจากการยื่นขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวสามารถทำได้เรื่อยๆ ซึ่งทีมทนายความก็ไม่ย่อท้อ จะสู้คดีให้ถึงที่สุด


‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ เขียนจม.ถึงลูกสาวคนที่2ที่เพิ่งลืมตาดูโลก

30 ส.ค.60 มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก 1 ในผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงลูกสาวคนที่ 2 ที่เพิ่งลืมตาดูโลก บอกให้ลูกสาวตัวน้อยออกไปเล่นข้างนอก และสนุกเพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตตามประสาเด็ก

ซัคเคอร์เบิร์ก โพสต์จดหมายฉบับนี้ บนหน้าเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อประกาศข่าวดีการถือกำเนิดของหนูน้อยออกัสต์ สมาชิกใหม่ของครอบครัว พร้อมเผยภาพถ่ายน่ารักของเขากับพริซซิลล่า ชาน ภรรยา แม็กซ์ ลูกสาวคนโต และออกัสต์ ลูกสาวคนเล็ก

เนื้อหาในจดหมายฉบับนี้ ซัคเคอร์เบิร์กและภรรยา ขอให้หนูน้อยออกัสต์อย่าเพิ่งรีบโต และให้ออกไปเล่นข้างนอก ใช้ช่วงเวลาวัยเด็กอันแสนวิเศษให้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่ เพราะลูกเป็นเด็กได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จึงอย่าใช้ช่วงเวลานี้ไปกับการคิดมากเรื่องอนาคต

สำหรับเนื้อหาในจดหมายถึงลูกสาวคนที่สองนี้ดูจะมีเนื้อหาเบากว่าจดหมายฉบับแรก ที่ซัคเคอร์เบิร์กและภรรยาเคยเขียนให้ลูกสาวคนแรกที่เกิดเมื่อปี 58 ซึ่งตอนนั้นเนื้อหาในจดหมายพูดถึงปัญหาต่างๆ ที่คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

อย่างไรก็ดี หลายคนมองว่า การที่ซัคเคอร์เบิร์กกับภรรยา บอกให้ลูกสาวคนใหม่ออกไปเล่นนอกบ้านตามประสาเด็กนั้น ดูจะขัดกับธุรกิจสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเขาอยู่สักหน่อย


‘ยูเอ็นเอสซี’ ประณาม ‘โสมแดง’ ยิงขีปนาวุธข้าม ‘ญี่ปุ่น’ ยังไม่คว่ำบาตรเพิ่ม

30 ส.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ลงมติเอกฉันท์ประณามการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือวานนี้ (29 ส.ค.) และเรียกร้องให้ยุติโครงการขีปนาวุธอย่างสมบูรณ์แบบ

โดยคำแถลงระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงขอย้ำว่าการกระทำของเกาหลีเหนือ ไม่เพียงเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค แต่เป็นอันตรายต่อรัฐสมาชิกยูเอ็นทุกประเทศ เกาหลีเหนือกำลังจงใจทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค จากการยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามหมู่เกาะญี่ปุ่น รวมถึงพฤติกรรมและคำพูดยั่วยุที่ออกมาในระยะนี้

อย่างไรก็ดี แม้ในคำแถลงจะชี้ชัดว่าเกาหลีเหนือได้ฝ่าฝืนมติของยูเอ็นเอสซีมากมาย แต่กลับไม่ได้ระบุมาตรการคว่ำบาตรลงโทษเพิ่มเติมหรือเข้มงวดมาตรการที่มีอยู่เดิม โดยมติคว่ำบาตรที่มีอยู่ในขณะนี้ คือละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ และยุติโครงการนิวเคลียร์ที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ ตรวจสอบได้ และไม่อาจพลิกผันไปอีกได้ รวมถึงยุติกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทันที


พายุโซนร้อนฮาร์วีย์ยังไม่สิ้นฤทธิ์ เตรียมถล่มเท็กซัสซ้ำสอง-หลุยเซียนาด้วย

ฮุสตัน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์)-พายุโซนร้อนฮาร์วีย์จะพัดถล่มบริเวณเขตแดนระหว่างรัฐเท็กซัสและหลุยเซียนาในวันนี้ หลังทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 คน ขณะที่ผู้ขับขี่ยวดยานในสหรัฐเริ่มเผชิญกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดทำการจากน้ำท่วมหนัก

พายุโซนร้อนฮาร์วีย์จะพัดถล่มบริเวณเขตแดนระหว่างรัฐเท็กซัสและหลุยเซียนาในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐคาดว่า จะวัดปริมาณน้ำฝนได้เพิ่มขึ้น 6-12 นิ้ว ในพื้นที่ทางเหนือและทางตะวันออกของเมืองฮุสตัน ขณะที่พายุลูกนี้เคลื่อนผ่านไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐหลุยเซียนา และคาดว่าน่าจะอ่อนกำลังลงอีกขณะเคลื่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และผ่านรัฐมิสซิสซิปปี ในวันพฤหัสบดี

ด้านเจ้าหน้าที่เมืองฮุสตันกำลังเตรียมบ้านพักชั่วคราวไว้รองรับประชาชน 19,000 คน รวมถึงอีกหลายพันคนที่คาดว่าจะต้องอพยพหนีภัยน้ำท่วมเพิ่มขึ้น โดยจนถึงเช้าเมื่อวานนี้มีบ้านเรือนเกือบ 50,000 หลัง ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีก ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองฮุสตันประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 00.00-05.00 น. อย่างไม่มีกำหนด ท่ามกลางรายงานข่าวการปล้นสะดมและประชาชนปลอมตัวเป็นตำรวจด้วย

พายุฮาร์วีย์กลายเป็นพายุเฮอริเคนที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่พัดถล่มรัฐเท็กซัสในรอบกว่า 50 ปี และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 17 คน รวมทั้งทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพหนีภัยออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม และสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ของมูดี้ส์อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจจากพายุลูกนี้สำหรับพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเท็กซัสว่าอยู่ที่ประมาณ 51,000-75,000ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้พายุฮาร์วีย์เป็นหนึ่งในหายนะภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดให้กับสหรัฐ

ขณะเดียวกันบรรดาผู้ใช้รถในสหรัฐเริ่มได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดทำการและทำให้น้ำมันลดน้อยลง โดยความสามารถในการกลั่นน้ำมันอย่างน้อย 3.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต้องหยุดชะงัก และโรงกลั่นน้ำมันอีกหลายแห่งก็เสี่ยงที่จะต้องหยุดทำการจากอิทธิพลของพายุลูกนี้ ซึ่งการที่โรงกลั่นน้ำมันปิดทำการนานมากเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น โดยราคาน้ำมันเฉลี่ยของสหรัฐเมื่อวานนี้อยู่ที่ 2.378 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

ขณะเดียวกันผลพวงจากพายุมรสุมเข้าทำให้ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันในนครมุมไบของอินเดีย ส่งผลให้บริการรถไฟท้องถิ่นสายหลักต้องหยุดชะงัก ผู้โดยสารต้องเดินฝ่าระดับน้ำท่วมสูงเท่าเอว ตำรวจท้องถิ่นรายงานว่า บ้านสองหลังพังทลายชานนครมุมไบ เมื่อค่ำวันอังคาร ทำให้ชาวอินเดียวัย 40 ปี และเด็ก 2 คนเสียชีวิต เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือรอประจำการพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยและนักประดาน้ำตามที่ได้รับมอบหมายให้เข้าช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย บางคนต้องทิ้งรถยนต์ไว้และเดินฝ่าน้ำท่วมกลับบ้าน นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคนที่ตกค้างอยู่ตามสถานีรถไฟเพื่อรอความช่วยเหลือให้พากลับบ้าน ท่ามกลางประกาศเตือนว่าจะมีฝนตกหนักลงมาอีกในวันนี้


นัยวิจัยใช้เกมVRวินิจฉัยโรคสมองเสื่อม

30 ส.ค.60 นักวิจัยและนักพัฒนาเกมในยุโรป กำลังใช้เกมคอมพิวเตอร์ แบบเวอร์ชวล เรียลลิตี้ (VR) เก็บข้อมูลสำหรับวิจัยหาวิธีวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมครั้งใหญ่ที่สุดในโลก

เกมนี้มีชื่อว่า Sea Hero Quest เดิมเป็นแอปพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน มีคนโหลดไปเล่นแล้ว 3 ล้านคน นักพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ในอังกฤษ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน และสถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสในซูริก พัฒนาให้เป็นเกม VR เพราะช่วยให้เก็บข้อมูลได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิมถึง 15 เท่า เพื่อนำไปให้นักประสาทวิทยาประเมิน หาวิธีการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมได้แต่เนิ่นๆ

สำหรับเกมนี้ เป็นการทดสอบความสามารถด้านทิศทางด้วยการให้คนเล่นสวมบทกัปตัน ควบคุมเรือไปตามเส้นทางน้ำซับซ้อน เส้นทางน้ำรอบเกาะแก่งร้าง มหาสมุทรที่น้ำเป็นน้ำแข็ง และป้อนฮอตด็อกให้สัตว์ประหลาดในทะเล ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า ความสามารถด้านทิศทางของคนจะลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้ว ผู้ชายมีความสามารถด้านนี้ดีกว่าผู้หญิงเล็กน้อย ขณะที่คนในประเทศยุโรปเหนือทำคะแนนได้ดีที่สุดในโลก

เฉพาะใน สหราชอาณาจักร มีผู้ป่วยสมองเสื่อมราว 850,000 คน และน่าจะเพิ่มเป็น 2 ล้านคน ภายในปี 2594 ส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลังจากป่วยมาแล้วกว่า 10 ปี แม้โรคนี้ยังไม่มียาป้องกันหรือชะลออาการได้ แต่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่า หากแพทย์ให้ยาผู้ป่วยแต่เนิ่นๆ ก่อนอาการปรากฏ และสมองเสียหายจนเกินเยียวยา ก็น่าจะช่วยผู้ป่วยได้

เจ้าชายวิลเลี่ยม-แฮร์รี่ รำลึก20ปีการสิ้นพระชนม์เจ้าหญิงไดอาน่า

31 ส.ค.60 เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทลำดับ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษพร้อมเจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายา และเจ้าชายแฮร์รี พระอนุชา ทรงร่วมรำลึกวาระครบรอบการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดา ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อ 20 ปีก่อน ก่อนถึงวันครบรอบจริงในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น เจ้าชายทั้งสองพระองค์และเจ้าหญิงเคท ทรงดำเนินกางร่มท่ามกลางสายฝนเยี่ยมชมสวน "ไวท์ การ์เดน" ภายในพระตำหนักเคนซิงตันในกรุงลอนดอน ที่ปลูกดอกกุหลาบและดอกไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเจ้าหญิงไดอานา ผู้ล่วงลับ โดย"ไวท์ การ์เดน"ถูกสร้างขึ้นเพื่อไว้อาลัยให้กับพระองค์ จากนั้นทั้ง 3 พระองค์ทรงออกมาตรวจสอบสิ่งของไว้อาลัยที่มีคนนำมาวางที่ด้านนอกประตูพระตำหนักเคนซิงตันที่มีทั้งดอกไม้ รูปภาพและเทียนเพื่อร่วมไว้อาลัยให้เจ้าหญิงไดอาน่า

พระตำหนักเคนซิงตันแถลงด้วยว่าการเดินชมสวน ทำให้เจ้าชายทั้งสองพระองค์ได้ถวายอาลัยและรำลึกถึงพระมารดาและพระกรณียกิจเพื่อสังคมของพระองค์ก่อนถึงวันครบรอบ 20 ปีการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา จากนั้น ทั้งสามพระองค์ได้ให้ตัวแทนองค์กรการกุศลต่างๆที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงอุปถัมภ์ได้เข้าพบด้วย

ทั้งนี้ นอกเหนือจากสื่อทั้งสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ที่พร้อมใจลงสกู๊ปข่าวและสารคดีเกี่ยวกับชีวิตและพระกรณียกิจเพื่อสังคมทั่วโลกของเจ้าหญิงไดอาน่าตลอดหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ปรากฏมีการจัดงานพิธีรำลึกครบรอบการสิ้นพระชนม์ปีนี้ของเจ้าหญิงไดอานาอย่างเป็นทางการ ที่เคยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ และสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่นๆเข้าร่วมเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน

โดยเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี ทรงเลือกจัดพิธีรำลึกแบบส่วนพระองค์ แต่เลือกที่จะจัดพิธีครบรอบวันคล้ายวันประสูติ ไม่ใช่วันครบรอบการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ สุสานฝังพระศพเจ้าหญิงไดอาน่า บนเกาะส่วนตัวในทะเลสาปที่อยู่บนที่ดินของบรรพบุรุษตระกูลสเปนเซอร์ ในเมืองนอร์ทแฮมพ์ตันไชร์ โดยมีคนในตระกูลสเปนเซอร์ร่วมพิธีด้วยเช่นเดียวกับเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิง ชาร์ล็อต พระโอรสและธิดาของเจ้าชายวิลเลียมและเป็นพระนัดดาของเจ้าหญิงไดอานา และอยู่ระหว่างการสร้างพระรูปของเจ้าหญิงไดอาน่า เพื่อตั้งรำลึกภายในพระตำหนักเคนซิงตันต่อไป