ข่าว
หมอใจบุญ”นพ.วิชัย ภู่พัฒน์ จัดงานวันเกิดสร้างโบสถ์น้อย

นพ.วิชัย ภู่พัฒน์ เตรียมจัดงานฉลองวันเกิดที่ห้องอาหาร“ไทยวิลล่า” เมืองเลควูด วันเสาร์ที่ 12 ก.ค. พร้อมเชิญชวนผู้ร่วมงาน บริจาคเงินสร้างโบสถ์หลังน้อยให้วัดบ้านป่านาบุญ

ทั้งนี้โดยได้รับการเปิดเผยจาก จิราวรรณ เสวกวัชรี อาสาสมัครในคณะทำงานของ นายแพทย์วิชัย ภู่พัฒน์ ซึ่งแจ้งว่า งานครบรอบวันเกิดของ นายแพทย์วิชัย ภู่พัฒน์ แพทย์ไทยผู้ใจบุญ แห่ง Lestonnac Free Clinic ประจำปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 ก.ค. ที่ห้องอาหาร “ไทยวิลล่า” เมืองเลควูด โดยเชิญแขกเหรื่อผู้ใกล้ชิดทั้งหมดประมาณ 50 คน ร่วมรับประทานอาหาร และ ร้องเพลง

นอกจากนั้นยังจะเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้บริจาคเงินเพื่อสมทบทุนการก่อสร้างพระอุโบสถ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” พระประธานของวัดบ้านป่านาบุญ โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

จิราวรรณ เสวกวัชรี กล่าวด้วยว่า วัดบ้านป่านาบุญ ตั้งอยู่ที่เมืองไวท์วอเตอร์ เขตติดต่อกับ เมืองปาล์ม สปริงค์ ขณะนี้ทางวัดกำลังรณรงค์หาทุนทรัพย์เพื่อก่อสร้างพระอุโบสถหลังน้อยขนาด 60 ฟุต คูณ 40 ฟุต โดยคณะสงฆ์ และ กรรมการวัด มีกิจกรรมด้วยการนำผักสดจากไร่ของชาวลาวในเมือง Hemet ไปจำหน่ายในแอล.เอ.เป็นประจำ เช่น แตงไทย มะละกอ ผักบุ้ง มะเขือเปาะ ผักคะน้า พริกขี้หนู ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อรวบรวมปัจจัยทั้งหมดเข้ากองทุนในการจัดสร้างพระอุโบสถดังกล่าว

โดยที่ นายแพทย์วิชัย ภู่พัฒน์ เป็นผู้ใจบุญท่านหนึ่ง ที่ให้การสนับสนุนวัดบ้านป่านาบุญตลอดมา หลังจากที่ได้ไปเห็นวัดมาแล้ว นายแพทย์วิชัย ภู่พัฒน์ เป็นชาวจังหวัดสระบุรี เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ถือกำเนิดในครอบครัวของคหบดีซึ่งประกอบอาชีพค้าไม้ซุง ไม้หมอนรถไฟ ค้าข้าว วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ในบรรดาพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้ง 7 คนของนายแพทย์วิชัย มีผู้สำเร็จการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ทั้งหมด 4 คน ปัจจุบันนายแพทย์วิชัย ภู่พัฒน์ ใช้ชีวิตหลังจากเกษียณจากตำแหน่งหน้าที่ ด้วยการรักษาคนไข้ฟรี โดยมีทีมพยาบาลไทย และ คณะจิตอาสา เป็นอาสาสมัครอย่างแข็งขัน จนได้รับการยกย่องจากชุมชนไทยอย่างกว้างขวาง

ผู้สนใจสามารถเข้าไปชมสารคดีชีวประวัติของ นายแพทย์วิชัย ภู่พัฒน์ ได้ในยูทูป โดยพิมพ์คำว่า พระชลินทร์เล่าเรื่อง หรือ watbaanpanaboon

สถานกงสุลใหญ่แอล.เอ. แถลงผลงานปี 2557

เมื่อวันพุธที่ 18 มิถุนายน 2557 สถานกงสุลใหญ่ ประจำนครลอสแอนเจลิส ได้จัดงานพบปะสื่อมวลชนไทยในแอล.เอ. ณ ห้องประชุมสถานกงสุลใหญ่ เพื่อเป็นโอกาสในการพูดคุยเกี่ยวกับแผนงานการดำเนินกิจกรรมต่างๆ สำหรับชุมชนไทยของสถานกงสุลไทย ในปีงบประมาณ 2557 และแผนงานที่กำลังดำเนินการต่อเนื่อง โดยเมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมาแบ่งออกเป็นเรื่องต่างๆ ดังนี้

ประเด็น ความร่วมมือทางเมืองไทยในต่างประเทศ กงสุญใหญ่เจษฎา กตเวทิน กล่าวว่า การทำงานของสถานกงสุลใหญ่ในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ภารกิจหลัก คือ การรับเสด็จพระบรมวงศานุวงษ์ ในวาระเสด็จเยือนสหรัฐฯ ในพื้นที่เขตภายใต้การดูแลของสถานกงสุลไทยแอล.เอ. โดยในเดือนกันยายน รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เดือนตุลาคม รับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เดือนพฤศจิกายน รับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชาทินัดดามาตุ เดือนกุมภาพันธ์ 2557 รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในเดือนมีนาคม 2557 รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

สำหรับภารกิจประจำคือ กฐินพระราชทานต่างๆ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทางสถานกงสุลใหญ่ได้ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 11 วัด ในจำนวนนี้ไม่นับรวมกฐินปกติ งานกงสุลสัญจรในรัฐต่างๆ กำหนดให้ดำเนินการตลอดปีเป็นจำนวน 16 ครั้ง ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 10 ครั้ง และในส่วนงานนี้ทางสถานกงสุลใหญ่ได้รับงบประมาณเพิ่มเติมจากกระทรวงต่างประเทศ ให้ขยายผลงานให้บริการต่อบัตรประชาชนไทยลงพื้นที่เป็นครั้งแรก และที่แรกในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามยังมีกำหนดการที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จอีก 6 ครั้งก่อนเปิดงบประมาณใหม่ ซึ่งจะสิ้นสุดงบประมาณปี 2557 ในวันที่ 30 กันยายนนี้

ในส่วนแผนการให้การสนับสนุนการจัดงานต่างๆ ของชุมชนไทย เช่น การจัดงานสงกรานต์ไทยนิวเยียร์ในแอล.เอ. ซานฟรานซิสโก และงานประเพณีสำคัญๆ ต่างๆ เป็นต้น สำหรับกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม ปีนี้มีการจัดอบรมมวยไทย และอาหารไทย โดยส่วนของการอบรมมวยไทย ได้จัดโครงการขึ้นร่วมกับสถาบันการศึกษาเป็นครั้งแรกที่ LACC เพื่อประชาสัมพันธ์มวยไทยให้เป็นศิลปะป้องกันตัวและเป็นกีฬาเพื่อการออกกำลังกาย ตลอดจนเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยพร้อมกัน

ส่วนของการส่งเสริมอาหารไทย ทางสถานกงสุลใหญ่ได้ร่วมกับเชฟดัง จัดกิจกรรมสอนอาหารไทยและทัวร์ชิมอาหารรอบไทยทาวน์ เป็นกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเป็นการโปรโมทไทยทาวน์ไปพร้อมๆ กัน

ส่วนการส่งเสริมศิลปะไทย ทางสถานกงสุลใหญ่ได้ร่วมกับอาจารย์วิบูลย์ วันประสาท ผู้อำนวยการ Thai Community Arts and Cultural Center จัดสอนศิลปะไทยในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังในสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในแผนงานดำเนินการ โดยกิจกรรมนี้นับเป็นครั้งแรกที่ศิลปะไทยได้ถูกบรรจุไว้ในโปรแกรมสำหรับสอนในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังของสหรัฐฯ

ด้านสุขภาพ ได้ร่วมมือกับศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน จัดเครือข่ายสุขภาพ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์สุขภาพในรัฐต่างๆ เพื่อขยายเครือข่ายและช่องทางในการสร้างสุขภาพที่ดีแก่ชาวไทยในชุมชนสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ด้านความร่วมมือในอนาคต ตัวอย่างเช่น อาจจัดให้มีการเพิ่มบริการตรวจสุขภาพฟรีในวาระกงสุลสัญจร เป็นต้น

สำหรับการส่งเสริมอาชีพ ทางสถานกงุสลใหญ่ร่วมมือกับหอการค้าไทย ในการส่งเสริมธุรกิจนวด/สปาไทยในสหรัฐฯ โดยผลักดันความเป็นไปได้ในการโอนหน่วยกิต ยกระดับหลักสูตรโรงเรียนสอนนวดในประเทศไทยมายังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขไทยจะเดินทางมายังสหรัฐฯ เพื่อหารือร่วมกับหน่วยงาน CAMTC ซึ่งเป็นหน่วยงานสำหรับขอใบอนุญาตทำงานนวด/สปา อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งหากโครงการถ่ายโอนหน่วยกิตสำเร็จ การเรียนนวดจากประเทศไทยจะสามารถทำงานในสหรัฐอเมริกาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ในส่วนของงานการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ การส่งเสริม Second Generation ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนไทยเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาสถานกงสุลใหญ่ได้สนับสนุนลูกหลานไทยให้รวมกลุ่มทนายความคนรุ่นใหม่ ในชื่อ TABA เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ในสายอาชีพอื่นๆ ได้ร่วมกลุ่มกันต่อไป

กงสุญใหญ่ เจษฎา ยังกล่าวอีกว่า ในปลายปีนี้ทางสถานกงสุลใหญ่จะจัดให้มีโครงการนำลูกหลานไทยที่อยู่ในสายอาชีพของอุตสหกรรมเอนเตอร์เทนเมนท์ในสหรัฐฯ เดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อแชร์ประสบการณ์และบอกเล่าตลาดอุตสหกรรมฮอลลีวูด เพื่อให้คนไทยได้เห็นช่องทาง รูปแบบการทำงาน และเป็นการขยายเครือข่ายบุคลากรไทยสู่ตลาดสหรัฐฯ ต่อไป โดยคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือน พ.ย. นี้

นอกจากนี้ ในส่วนของงานส่งเสริมคนรุ่นใหม่ ยังได้จัดให้มีโครงการแคมป์วัดป่า เพื่อสร้างจิตอาสาให้กับลูกหลานเยาวชนไทย และสร้างความเป็นผู้นำ ทั้งหมดยังไม่นับรวมอีก 2 โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ การส่งเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าฝึกงานในหน่วยงานการเมืองสหรัฐฯ และโครงการฝึกงานในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคม และ สิงหาคม ปีนี้


กสญ.เปิดคอร์ส คลายเครียด พร้อมอบรมกฎหมายชุมชน

กระทรวงการต่างประเทศมีดำริที่จะดำเนินโครงการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านสุขภาพจิตและกฎหมายสำหรับชุมชนไทย ณ นครลอสแอนเจลิส และนครซานฟรานซิสโก ระหว่างวันที่ 9-18 กรกฎาคม 2014 โดยอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต สำนักงานอัยการสูงสุด กรมการกงสุล และสื่อมวลชนร่วมในคณะ โดยการอบรมครั้งนี้ จะจัดขึ้นสองที่ คือ

นครลอสแอนเจิลส ณ ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ฯ (611 North Larchmont Blvd., 2nd Floor, Los Angeles, CA 90004) ระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2557 เวลา 9.00-17.00 น. และนครซานฟรานซิสโก ที่วัดพุทธานุสรณ์ เมืองฟรีมอนท์ (36054 Niles Blvd., Fremont, CA 94536) ระหว่างวันที่14-15 กรกฎาคม 2557 เวลา 9.00-17.00 น.

ทั้งนี้ในส่วนของกรมสุขภาพจิตจะให้การฝึกอบรมการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตขั้นพื้นฐาน อาทิ วิธีลดความเครียด และวิธีคลายเครียด ตลอดจนวิธีการจัดตั้งกลุ่มให้ความรู้ และทักษะในการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตแก่กลุ่มอาสาสมัครคนไทยในนครลอสแอนเจลิส เพื่อบุคคลเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการนำความรู้ที่ได้รับไปให้การช่วยเหลือคนไทยที่ประสบปัญหาความเครียดต่อไปในอนาคต

สำหรับผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดจะเน้นให้ความรู้ด้านกฎหมายพื้นฐานที่คนไทยในอเมริกาควรรู้เกี่ยวกับกฎหมายไทย อาทิ กฎหมายทะเบียนราษฎร์ กฎหมายครบครัวและมรดก การผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร กฎหมายสัญชาติ และการทำนิติกรรมต่างๆ ในประเทศไทย

ผู้สนใจโปรดสำรองที่นั่งในการอบรมได้ที่กงสุลบรรณา วังวิวัฒน์ โทร. 323-962-9574 ต่อ 215


กรุงเทพฯ ส่งเด็กไทยสร้างชื่อ โชว์ออร์เคสตร้า ที่นิวยอร์ก

สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวไทย นำคณะออร์เคสตร้าเยาวชนไทย ร่วมแสดงคอนเสิร์ตของวงออร์เคสตร้าระดับเยาวชนในเทศกาลดนตรี New York Sounds of Summer International Music Festival

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม. โดยสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว นำคณะออร์เคสตร้าเยาวชนกรุงเทพมหานคร ร่วมแสดงคอนเสิร์ตของวงออร์เคสตร้าระดับเยาวชนในเทศกาลดนตรี New York Sounds of Summer International Music Festival ณ Carnegie Hall นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 13-18 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามคำเชิญของ Ms. Deborah Lee Gibbs Chief Executive Officer ของ World Projects Corparation

โดยการร่วมแสดงคอนเสิร์ตในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ กทม. ใน เวทีระดับนานาชาติในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมศิลปะการดนตรีออร์เคสตร้าที่เป็นประโยชน์ต่อเยาชนให้มีโอกาสแสดงออกและแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติที่เป็นมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ กทม. ยังตั้งจุดประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ วิวัฒนาการดนตรีคลาสสิกในประเทศไทย และเผยแพร่ความสามารถของวงดนตรีออร์เคสตร้าระดับเยาวชนที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ให้ต่างประเทศได้ประจักษ์ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ และประเทศไทย ณ สวนเซ็นทรัลปาร์ค มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

เทคนิคใหม่ของการรักษาฟัน

แทนที่จะต้องมาเจาะฟันหรืออุดฟัน ทันตแพทย์มุ่งทำการพัฒนาเทคนิคใหม่ซึ่งจะช่วยทำให้การรักษาโดยธรรมชาติของฟันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เทคนิคนี้เรียกว่าใช้แรงไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นการสะสมแร่ธาตุคืนกลับเข้าไปในรากฟันที่เริ่มผุ เทคนิคนี้ได้ถูกนำมาพัฒนาโดย Reminova Ltd., จาก King College London มันคือวิวัฒนาการใหม่ที่ไม่เจ็บปวด และ จะนำสู่ตลาดภายใน 3 ปี ทางมหาวิทยาลัยกล่าว

“วิธีที่เราใช้เพื่อการรักษาฟันอยู่ในขณะนี้เป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมการที่ฟันจะโดนเจาะและอุดทำให้ฟันเข้าสู่วงจรเดิมๆ ทำให้การซ่อมแซมทุกครั้งล้มเหลว” อาจารย์ทันตแพทย์กล่าว แต่เทคนิคใหม่นี้ ทางแพทย์จะใช้กระแสฟ้าช่วยดันแร่ธาตุลงไปในฟันเพื่อที่จะซ่อมแซมได้ตรงจุดที่ผุและสลายตัวไป

ธรรมชาติสามารถซ่อมแซมฟันในจุดเล็กๆได้เสมอ เมื่อเรากินหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือสิ่งที่เป็นกรดเช่น น้ำผลไม้รสเปรี้ยวหรือเครื่องดื่มกีฬา แร่ธาตุเล็กๆจะไปเกาะตัวรอบๆฟัน แต่น้ำลายจะทำให้แร่ธาตุที่สูญเสียกลับมาเหมือนเดิมและคงความสมดุลนี้ไว้ในช่องปากของเราทุกวันเนื่องจากน้ำลายมีแคลเซียมและฟอสเฟต อาจารย์คณะทันตกรรมแห่ง UCLA กล่าว

แต่เมื่อใดที่ขาดความสมดุลการสูญเสียแร่ธาตุที่เคลือบฟันมากกว่าการคืนกลับแร่ธาตุ เกิดแผลที่ฟันทำให้เกิดโพรงลึกและสามารถลุกลามจนเกิดการสูญเสียฟันทั้งซี่เพื่อจะต่อสู้กับฟันผุ ผู้คนใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบฟันด้วยแร่ธาตุเพื่อสร้างความแข็งแรงกลับสู่เนื้อฟัน

ฟลูออไรด์เป็นสารที่ได้พิสูจน์แล้วว่า มีคุณสมบัติในการควบคุมโรคฟันผุ เนื่องจากฟลูออไรด์เป็นตัวช่วยคืนแร่ธาตุกลับสู่ฟันที่ถูกใช้มาแต่นานแล้ว การชะลอกระบวนการย่อยสลายแร่ธาตุ และเสริมการเกิดกระบวนการคืนกลับแร่ธาตุบนตัวฟัน เมื่อเคลือบที่ฟันแล้วก็ยากที่จะสลาย เป็นสาเหตุที่น้ำฟลูออไรด์ ยาสีฟัน และ น้ำยาบ้วนปาก มีประสิทธิภาพอย่างมากต่อการปกป้องฟันผุ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่นครีมและยาสีฟันมีแคลเซียมและฟอสเฟตที่เป็นฟลูออไรด์ก็มีเช่นกัน แต่การใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ก็ไม่เคยพอ ฟันยังสามารถผุได้ ดังนั้นนวัตกรรมใหม่โดยการกระตุ้นด้วยแรงไฟฟ้าเพื่อคืนแร่ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสกลับสู่เนื้อฟันจะเป็นการพัฒนาการใหม่อีกหนึ่งระดับ “นอกจากอุปกรณ์ของเราจะไม่ทำให้เจ็บแล้วยังถนอมฟันของผู้ป่วย และคาดว่ายังมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลงอีกด้วย” อาจารย์คณะทันตกรรมกล่าว


ชมรมคนรักมอเตอร์ไซค์ หาทุนช่วยบ้านโฮมฮัก

ชมรมคนรักมอเตอร์ไซค์ ฮาเล่ย์ แอล.เอ. (Immortals Thailand, Los Angeles) โดย วิลลี่ วัฒนวงษ์คีรี พรรคนาวิน เข็มทิพย์ ทอมมี่ ททท. และเพื่อนๆ จัดงานหาทุนให้มูลนิธิสุทธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน หรือบ้านโฮมฮัก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557 ที่ห้องอาหารเครื่องเทศ ฮอลลีวูด โดยได้รับบริจาค จากผู้ที่ต้องการถ่ายรูปกับมอเตอร์ไซค์ที่จอดเรียงรายอยู่หน้าร้าน และส่วนหนึ่งได้จากการร่วมร้องเพลง รวมเงินบริจาค 3,600 เหรียญ และมีการบริจาคเพิ่มเติมอีกจนได้ยอดสุทธิ 4,300 เหรียญ

โดยสมาชิก IM Mortals Los Angeles 2 คน จะนำเงินไปบริจาคร่วมกับกลุ่ม IM Mortals Thailand และมีขบวนรถฮาเลย์ ไปบ้านโฮมฮัก ยโสธร เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เงินที่ได้รับการบริจาคทั้งหมดแลกเป็นเงินไทย 237,222 บาท และได้เดินทางถึงบ้านโฮมฮักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บ้านโฮมฮัก มี "ครูติ๋ว" เป็นผู้ก่อตั้ง "มูลนิธิ สุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน" ขึ้นเมื่อกว่า 20 ปี โดยการสร้างบ้านโฮมฮักขึ้นที่จังหวัดยโสธร เพื่อดูแลเด็กๆ ที่มีปัญหาต่างๆ เช่น ติดเชื้อเอดส์ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เป็นร้อยชีวิตในทุกๆ ปี สามารถช่วยเหลือบ้านโฮมฮักได้ ด้วยสิ่งของต่างๆ ที่เราสามารถส่งไปสมทบที่ มูลนิธิ สุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน เลขที่ 3 หมู่ที่ 12 บ้านประชาสรรค์ ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร 35000 โทรศัพท์/โทรสาร 045-722-241, 045-580-200