ข่าว
คนแห่ดูพื้นดินลุกเป็นไฟไม่ขาด ชาวบ้านได้รับผลจากก๊าซพิษแล้ว

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. หลังจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรธรณีส่งเจ้าหน้าที่เจาะชั้นดินพิสูจน์หลุมไฟ ที่ ม.9 บ้านโนนตะโพน ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ระบุเป็นก๊าซมีเทน ไม่มีกลิ่น ติดไฟได้เอง เกิดจากการสะสมของเศษขี้เลื่อยและถ่านเก่า และเจอน้ำท่วมประจำทำให้เกิดปฏิกิริยาลุกเป็นไฟเมื่อเจออากาศร้อน แต่หลังจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคติดต่อเขต 9 ได้เข้าไปตรวจสอบหาสารพิษ และปรากฏก๊าซมีเทนในพื้นที่ดังกล่าวมีน้อย

ล่าสุดทาง อบต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้นำป้ายไวนิลไปติดบริเวณริมถนนบ้านแยง-นครไทย ม.9 ต.หนองกะท้าว จุดที่มีปรากฏการณ์ไฟลุกจากผิวดิน ห้ามประชาชนเข้าไปใกล้ในพื้นที่เด็ดขาด ระบุว่า อันตราย ห้ามเข้า ตรวจพบสารปนเปื้อน สารก่อมะเร็ง โรคฉี่หนู และโรคระบบทางเดินหายใจ โดยติดตั้งไว้ 3 จุด ป้ายแรกบริเวณริมถนนทางเข้า ป้ายที่สองก่อนถึงบริเวณพื้นที่ และป้ายที่ 3 ใกล้กับจุดที่พบมีความร้อนเกิดไฟลุกไหม้ แต่ยังไม่สามารถห้ามชาวบ้านที่เดินเข้าไปดูในจุดที่สองได้

หลังจากที่ทาง อบต.หนองกะท้าว นำป้ายมาติดตั้งไว้ ปรากฏว่ามีคำว่า โรคฉี่หนูร่วมอยู่ด้วย สร้างความสับสนให้กับคนทั่วไป ต่อมาจึงมีการนำกระดาษมาปิดทับโรคฉี่เอาไว้ เพื่อไม่ให้ผู้คนเข้าใจผิด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับโรคฉี่หนู และยังมีการเขียนเพิ่มเติมว่า “กรุณาอย่าขว้างปาสิ่งของลงไปเด็ดขาด ฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย”

วันเดียวกัน นายวินัย ทองชุบ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 เผยว่า ขณะนี้มีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากก๊าซพิษแล้ว มีอาการแสบตา ละคายเคือง แสบผิวหนัง เยื่อจมูกอักเสบ

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก ทำการตรวจหาแก๊สพิษรอบบริเวณ พบสารพิษที่เกินค่ามาตรฐาน 2 ตัว คือ คาร์บอนไดซัลไฟล์ หรือ CS2 เกินค่ามาตรฐาน และ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือ SO 2 เกินค่ามาตรฐานมากกว่า 55 เท่า ซึ่งก๊าซดังกล่าว สามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ทั้งทางผิวหนัง และทางเดินหายใจในระยะสั้นจะมีการระคายเคืองที่ดวงตาและผิวหนัง และถ้าได้รับเวลาหลายวัน จะมีอาการทางจิต มีอารมณ์เปลี่ยนแปลง ประสาทตาอักเสบ ถ้าระยะยาว จะเจ็บหน้าอก ปวดกล้ามเนื้อ ความจำเสื่อม รวมทั้งอาจผิดปกติทางสมอง เส้นประสาทอักเสบ หลอดเลือดแดงแข็งตัว และถึงขั้นหมดสติ ถือเป็นอันตรายมากสำหรับคนที่อยู่ใกล้ จึงประสานให้อบต.หนองกะท้าว นำป้ายมาติดเพื่อกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้ในรัศมี 500 เมตร แต่เมื่อคืน แต่ไม่สามารถห้ามความอยากรู้อยากเห็นของชาวนครไทย ยังได้มีการเดินเข้าออกไปดูหลุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

"ยิ่งลักษณ์" นำ รองนายกฯ รดน้ำดำหัวขอพร "ป๋าเปรม"

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เว็บเพจเฟซบุ๊กของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยแพร่ภาพขณะน.ส.ยิ่งลักษณ์ นำคณะประกอบด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อขอพรและรดน้ำดำหัวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์

ก่อนที่นายกฯ และคณะ จะเดินทางมาถึง มีนายสมพงษ์ โพธิ์โน ซี่งอ้างว่าเป็นสมาชิกกลุ่มรักประชาธิปไตย (ขอนแก่น) มายืนชูป้าย ระบุข้อความว่า "พรบ.ปรองดองเราเห็นด้วยแต่ 91 ศพ ใครรับผิดชอบ อำมาตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ ต้องรับผิดชอบ ต้องไม่ตายฟรี รัฐบาลอย่านั่งทับหัวเสื้อแดงเสวยสุข" แต่เจ้าหน้าที่ีตำรวจได้เชิญตัวออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนการรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.สามเสนจำนวน 20 นาย และได้มีการเตรียมพร้อมหนึ่งกองร้อยในที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือบชน. โดยพ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผู้กำกับการสน.สามเสน เข้ามาดูแล

นอกจากนี้ มีคณะทำงานของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาก่อนโดยนำกระเช้าผลไม้ และกระเช้าดอกไม้ไทยโดยเน้นธีมสีชมพู และพวงมาลัย มารอภายในบ้านพัก

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 15.10 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังรัฐสภาเพื่อลงชื่อเข้าร่วมประชุมสภาและนัดแนะรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งประกอบด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ก่อนขึ้นรถตู้โฟล์คสีดำ ป้ายแดง ทะเบียน ช 3438 ของนายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อเข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในเวลา 15.25 น.พร้อมกันทั้งคณะ โดยนายกรัฐมนตรีนั่งแถวหน้าคู่กับนายยงยุทธ และนายกิตติรัตน์นั่งแถวหลังคู่กับพล.อ.ยุทธศักดิ์

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีต่างพร้อมใจสวมผ้าไหมไทย โดยเสื้อสูทนายกรัฐมนตรีเป็นสีชมพูอ่อน เช่นเดียวกับนายยงยุทธ ส่วนพล.อ.ยุทธศักดิ์ สวมเสื้อสีครีม ขณะที่นายกิตติรัตน์เป็นเสื้อลายไทยสีน้ำตาลทอง อย่างไรก็ตาม.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แต่ยิ้มหวาน ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่าทำไมใส่เสื้อสีชมพูเข้าพบพล.อ.เปรม ขณะที่นายยงยุทธ ให้เหตุผลว่า การเข้าพบครั้งนี้จะนำกระเช้าผลไม้และดอกไม้ไทยพร้อมผ้าไทยไปอวยพร สวมเสื้อชมพูเหมือนกันทุกคนเพราะเป็นสีแห่งความรัก แต่อาจยกเว้นรองนายกฯกิตติรัตน์

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ซึ่งมาในเสื้อสีครีม ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่องที่ไม่สวมเสื้อสีชมพูว่าเนื่องจากไม่มีเสื้อสีชมพู ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียวที่ไม่ได้เดินทางเข้าพบพล.อ.เปรม ในครั้งนี้ด้วย ได้ให้เหตุผลว่า เนื่องจากติดงานพระราชทานเพลิงศพน้องสาวของคนที่สนิทกัน ที่วัดพระศรีมหาธาตุ ซึ่งรับปากไว้นานแล้วไม่ได้มีอะไร

จากนั้นเวลา 15.25 น.นายกฯ และคณะ เดินทางมาถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ โดยมี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี ออกมารอต้อนรับ และเชิญเข้าพบ พล.อ.เปรมภายในบ้านพัก อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่คณะของนายกฯเข้าไปประมาณ 15 นาที จากนั้นเวลา 15.45น. รองนายกฯ ทั้ง 3 คนก็ได้ออกมานั่งรอที่โต๊ะรับแขกนอกบ้าน พร้อมพล.ร.อ.พระจุณณ์ เหลือเพียงน.ส.ยิ่งลักษณ์คนเดียวที่อยู่ภายในบ้านเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวตามลำพัง 2 ต่อ 2

การหารือระหว่าง พล.อ. เปรม และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นเวลา 16.15 น. พล.อ.เปรม ได้เดินออกมาส่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดย พล.อ.เปรมใส่เสื้อผ้าไหมไทยแขนสั้นสีส้ม และก่อนเดินทางกลับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรองนายกฯทั้ง 3 คน ได้ยกมือไหว้ลา ซึ่ง พล.อ.เปรม ได้ยกมือรับไหว้ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นรถคันเดียวกันเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตามเวลา 16.45 น. นายกรัฐมนตรี ได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเปิดพิพิธภัณฑ์ผ้า ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง

เมื่อผู้สื่อข่าวตะโกนสอบถามว่าบรรยากาศการพบกับ พล.อ.เปรมเป็นไปด้วยดีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ตอบคำถาม ได้แต่ส่งยิ้มหวาน และโบกมือให้กับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำ นายกรัฐมนตรีก็ได้แต่ยิ้มก่อนยกนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว โดยชี้เข้าไปในรถก่อนขึ้นรถเดินทางออกไปทันที

'น้องเดียร์'ลูกสาว'เสธ.แดง' ไขปริศนาไม่มีที่ซุกหัวนอน

ไขปริศนา!“น้องเดียร์”ลูกสาว“เสธ.แดง” ไร้ที่ซุกนอน แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ปปช.เนื้อตัวมีเงินฝากติดตัวแค่ 9,693 บาท บุกพิสูจน์พบอยู่บ้านคนสนิท นามสกุลดัง เจ้าตัวรับมีแค่นี้ พ่อไม่ทิ้งสมบัติไว้ให้

การที่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล วัย 30 ปี แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย วันที่ 2 สิงหาคม 2554 ระบุว่ามีทรัพย์สินเพียง 1 รายการ ได้แก่ เงินฝาก 9,693.38 บาท (ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 772-2-08546-3) ไม่มีทรัพย์สินอื่นและไม่มีหนี้สิน กำลังถูกตั้งคำถามเป็นอย่างมาก

เนื่องจาก น.ส.ขัตติยาแจ้งว่ามีรายได้ เงินเดือน 564,000 บาทต่อปี และแจ้งที่อยู่ เลขที่ 444 ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ น.ส.ขัตติยาระบุในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินว่าเคยทำงานเป็นทนายความ

ปี 2551 ตำแหน่ง Junior Lawyer สำนักงาน Siam Premier International Law Office ,กรุงเทพฯ

ปี 2552 Associate Lawyer สำนักงาน Siam City Law Office , กรุงเทพฯ

ปี 2554 Senior Associate Lawyer สำนักงาน Willson and Co. Lawyers Ltd, กรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เดินทางไปตรวจสอบที่ตั้งของบ้านเลขที่ 444 ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ระบุว่าเป็นบ้านของ ของ น.พ.เสม พริ้งพวงแก้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีขนาดใหญ่และอยู่หลายหลังในรั้วเดียวกัน ได้แก่ บ้านเลขที่ 438 , 428/1 ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. 10260

ผู้สื่อข่าวสอบถามคนในบ้าน ระบุว่า น.ส.ขัตติยาจะเข้ามาที่บ้านหลังนี้ช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ เพื่อมารับจดหมาย และเอกสาร สอบถามเพื่อนบ้านระบุว่า ระบุว่า เคยเห็น น.ส.ขัตติยา เข้าๆ ออกๆ บ้านหลังนี้อยู่บ้างเมื่อช่วงลงสมัครเป็น ส.ส. และยังมีคนเข้า-ออก บ้านหลังนี้เยอะเป็นพิเศษในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ล่าสุดที่เห็น น.ส.ขัตติยามาบ้านหลังนี้ก็หลายอาทิตย์มาแล้ว

ล่าสุดวันที่ 26 เมษายน 2555 น.ส.ขัตติยาชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ผ่านทางโทรศัพท์ว่า บ้านเลขที่ 444 ซอยสุขุมวิท 93 เป็นบ้านของคนชื่อ “สุภาวดี พริ้งพวงแก้ว” จึงขอนำชื่อมาใส่ไว้ที่บ้านหลังนี้เท่านั้น

“เป็นบ้านของคนรู้จัก เป็นคนรู้จักที่สนิทกัน ชื่อ “สุภาวดี” เลยขอเอาชื่อมาใส่ไว้ที่บ้านหลังนี้ มีเอกสารอะไรก็จะมาเอาที่นี่ จะถามไปทำไม? ” นส.ขัตติยา ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า โดยส่วนตัวได้พักอาศัยที่บ้านหลังนี้หรือไม่?

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า “คือต้องเข้าใจนะ มีชื่อในทะเบียนบ้าน ไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ที่นี่ก็ได้”

และถามต่ออีกว่า ตอนนี้พักอยู่ที่คอนโดใช่หรือไม่? “ จำเป็นต้องบอกด้วยเหรอคะ ”

เมื่อถามว่าบัญชีทรัพย์สินที่แจ้ง ปปช.มีเพียงเงินฝาก 9,693.38 บาท เท่านั้นหรือ?

น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า “ใช่ ก็มีอยู่แค่นั้น จะเอาแค่ไหนล่ะคะ พ่อไม่ได้ทิ้งทรัพย์สมบัติอะไรไว้ให้ เสธ.แดงไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้ มีก็แต่เงินเดือน”

เมื่อถามว่า บัญชีทรัพย์สินที่ยื่นไป ทาง ปปช. ได้ติดต่อมาขอตรวจสอบบ้างหรือยัง?

น.ส.ขัตติยา ตอบว่า “ไม่”