ข่าว
โอโหราคาพุ่งปรี๊ด! วงการพระเครื่องคึกคัก นักสะสมแห่ซื้อ 'เหรียญครูบาบุญชุ่ม'

นอกจากการติดตามข่าวการช่วยเหลือนำตัวนักเตะเยาวชนและโค้ช "หมูป่าอะคาเดมี แม่สาย" 13 คนที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในขณะนี้แล้ว ยังมีอีกเรื่องที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางก็คือเรื่องของพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน เมียนมา และลาว ที่เดินทางมาทำพิธีอธิษฐานจิตและแผ่เมตตาจิตที่หน้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ถึง 2 วันติดกันคือ 29-30 มิ.ย.61

โดยพระครูบาบุญชุ่ม ได้ขอให้ดวงวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ในถ้ำเปิดประตูเปิดทางให้ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ออกมาโดยสวัสดิภาพ และบอกว่าจะเจอเด็กๆ ในอีก 2-3 วันจนกระทั่งพบจริงตามคำทำนาย ทำให้สื่อหลักและโซเซียลค้นหาประวัติพระครูบาบุญชุ่ม พร้อมกับถามหาวัตถุมงคลของพระครูบาบุญชุ่ม จนทำให้คนในวงการพระเครื่องมีการแชร์และโพสต์ข้อความลงโซเซียลค่อนข้างคึกคัก พร้อมกับมีการอัพเดทราคาเหรียญพระครูบาบุญชุ่ม จนราคาบางเหรียญบางรุ่นพุ่งขึ้นไป 2,000-6,000 บาทต่อเหรียญจากราคา 200-300 บาทต่อเหรียญ

นายโกวิทย์ แย้มวงศ์ ประธานชมรมนักข่าวและช่างภาพพระเครื่อง เปิดเผยว่า เหรียญครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร ถือเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการอยู่ในขณะนี้ และเท่าที่เช็คราคาเช่าบูชาล่าสุดพุ่งถึง 2-3 พันบาทแล้ว จากเดิมราคาเช่าบูชาอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาท ส่วนใหญ่พระเครื่อง หรือเหรียญครูบาบุญชุ่ม จะนิยมครอบครองในหมู่ลูกศิษย์ และเป็นที่รู้จักในแวดวงพระเครื่องมานานแล้ว แต่ราคาไม่ได้สูง หรือเป็นที่นิยมมากนัก

"ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะนับถือ เลื่อมใสศรัทธาท่านในฐานะพระ ปฏิปทา ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีวัตรปฏิบัติที่ดีงาม มากกว่า นับถือเหรียญ แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า เหรียญครูบาบุญชุ่ม มาแรงใครมีไว้ในครอบครองแล้วเปิดให้เช่า เท่าที่ทราบเกลี้ยงตลอด"

นายเอก อัคคี นักเขียนเกี่ยวกับแวดวงพระเครื่อง กล่าวว่า สำหรับพระเครื่องและวัตถุมงคลของครูบาบุญชุ่มนั้นตั้งแต่มีการค้นพบเด็กๆ คนต่างพยายามตามหามาครอบครองตามความเชื่อ รวมทั้งมีการสอบถามมาที่ตนเอง เพราะเคยทำหนังสือประวัติเกจิ รวมทั้งพระเครื่องต่างๆ ที่มอบวัตถุมงคลกับหนังสือ แต่ตนไม่มี เพียงแต่เคยเห็นพระที่มีราคา 2 แสนบาท จะเรียกว่า เหรียญระฆังคว่ำ ตอกโค๊ดรุ่นที่ 1 ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พระเครื่องของท่านส่วนใหญ่ จะเป็นการแจกจ่ายให้กับผู้ศรัทธา ส่วนที่มีการเช่าซื้อกันนั้น เป็นเรื่องระหว่างผู้สนใจสะสมพระเครื่องมากกว่า

ด้านนายทีปอุทัย แสนกาศ หรือ "หนึ่ง เซียนพระ" นักโบราณคดีอิสระ เจ้าของพิพิธภัณฑ์ศิลปะหริภุญไชย ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง โดยขณะนี้ได้มีนักสะสมกว้านซื้อเหรียญพระครูบาบุญชุ่ม กันมาก โดยเฉพาะที่ตลาดพระเครื่องทิพย์เนตร ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ และตอนนี้มีคนหาซื้อหรือเช่าเหรียญครูบาชุ่มกันทุกรุ่น ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ หลายรายแย่งกันซื้อขอเช่าเหรียญในราคาที่สูง ทำให้ราคาเพิ่มสูงกว่าเดิม 3-5 เท่า เช่น เหรียญครูบาชุ่ม ปี 2539 จากราคา 1,000-1,500 บาท เป็น 5,000 บาทต่อเหรียญ ส่วนเหรียญครูบาชุ่ม ที่ขยับราคาแพงที่สุด คือรุ่นปี 2518 จากราคา 40,000-50,000 บาท พุ่งสูงขึ้นเป็น 150,000 บาทแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าหากผ่านพ้นไป 2-3 สัปดาห์เชื่อว่าราคาเหรียญพระครูบาบุญชุ่ม คงนิ่ง ไม่ขยับราคาไปมากกว่านี้แล้ว

ทางด้านนายธนัท ชัยวชิระศักดิ์ หรือ "นัท แฟนพันธุ์แท้" แชมป์จตุคามรามเทพปี 2550 ยอมรับเช่นกันว่าช่วงนี้วัตถุมงคลพระครูบาบุญชุ่ม กำลังได้รับความสนใจจากนักสะสมจริง โดยเฉพาะเหรียญเสมาเนื้อทองคำที่ออกที่วัดพระธาตุดอนเรือง ปี 2544 เนื่องจากสร้างจำนวนไม่มาก ส่วนเนื้อทองแดงรมน้ำตาลจำนวนสร้างก็มีไม่กี่พันเหรียญ โดยเหรียญดังกล่าวที่สร้างขึ้นเพราะท่านจะมาจำพรรษาที่วัดนี้บ่อย ญาติโยมที่มีความศรัทธาพระครูบาบุญชุ่ม จึงขอให้ทางวัดสร้างเหรียญนี้มาขึ้นเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนปัจจัยทางวัดนำมาสร้างและบูรณะถาวรวัตถุต่างๆ ในวัดพระธาตุดอนเรือง

"วัตถุมงคลของพระครูบาบุญชุ่ม แต่ละชิ้นของท่านถ้าผู้ที่ได้ไว้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วมักจะเกิดปาฎิหาริย์ในด้านต่างๆ มากมาย โดยของท่านเน้นในทางเมตตา ค้าขาย และแคล้วคลาดจากอันตราย จากร้ายกลายเป็นดี ของดีที่ควรมีไว้ติดกาย" นายธนัท แฟนพันธุ์แท้กล่าว (ขอบคุณภาพพระเครื่องจากคุณนายธนัท ชัยวชิระศักดิ์ หรือ นัท แฟนพันธุ์แท้)

ราวกับภาพยนตร์! สื่ออังกฤษตีข่าวผู้เชี่ยวชาญนานาชาติร่วมมือช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง

4 ก.ค.61 เว็บไซต์ นสพ.The Guardian ของอังกฤษ นำเสนอรายงานพิเศษเรื่อง “It felt like a movie : international team trying to save Thai football team from cave” (ราวกับภาพยนตร์ : ทีมงานนานาชาติร่วมกู้ชีวิตทีมฟุตบอลชาวไทยติดภายในถ้ำ) เนื้อหาว่าด้วยการรวมตัวกันของทหาร แพทย์ และอีกหลายภาคส่วนเพื่อนำผู้ประสบภัยทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่เมื่อ 23 มิ.ย. 2561 ออกมาโดยเร็ว

เรืออากาศเอก (หญิง) Jessica Tait แห่งกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา 1 ในผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่เข้าร่วมภารกิจตามคำร้องขอของรัฐบาลไทย กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เธอสังเกตได้ในปฏิบัติการครั้งนี้คือทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำงานด้วยกัน และไม่มีใครเลยที่ทำให้รู้สึกท้อแท้ ตรงกันข้ามกลับรู้สึกได้ถึงความหวังที่ยิ่งใหญ่ และเมื่อพบข่าวดี เธอก็รู้สึกได้ว่านี่มันไม่ใช่เหตุการณ์ในภาพยนตร์ มันรู้สึกเย็นยะเยือกเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ทำงานกันอย่างหนักและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เพราะคงไม่ใช่ทุกครั้งที่จะรู้สึกเช่นนี้ได้

รายงานของ The Guardian กล่าวต่อไปว่า สัมผัสแห่งความหวังเกิดขึ้นจากอาสาสมัครกู้ภัยจำนวนมากจากทั่วประเทศมุ่งหน้าสู่ จ.เชียงราย เพื่อใช้ทักษะที่มีช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต แต่ก็ไม่ได้มีเฉพาะผู้ชำนาญด้านกู้ภัยเท่านั้น อาทิ Wisalaya หญิงวัย 50 ปี ชาว อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตัดสินใจเดินทางมาเพื่อทำอาหารแจกจ่าย ไม่ว่าทหาร แพทย์ หรือแม้แต่สื่อมวลชน เธอกล่าวว่ามาที่นี่เพราะชอบช่วยเหลือคนพอๆ กับที่เธอชอบทำอาหาร

ขณะที่ ผู้กอง Tait เธอกล่าวเสริมว่า ทุกคนที่นี่ทำงานกัน 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องการรับประทานอาหารอย่างมาก การที่มีคนไทยยังคงนำอาหารมาจ่ายทุกคนถือเป็นภาพที่สวยงาม เพราะแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรของพวกเขา และทุกคนก็รู้สึกขอบคุณกับมิตรภาพนี้ นอกจากนี้ เธอยังบอกด้วยว่าได้แรงบันดาลใจจากความร่วมมือกับทีมงานของหลายประเทศเช่นกัน เป็นเรื่องน่าทึ่ง เพราะที่นี่มีทั้งคนไทย อเมริกัน ออสเตรเลีย จีน รวมถึงนักดำน้ำจากอังกฤษ แสดงให้เห็นว่ากองกำลังทั้งหลายถูกฝึกมาก็เพื่อการนี้ สำหรับเหตุการณ์จริงตรงนี้

ทว่าแม้ความรู้สึกของผู้คนในศูนย์บัญชาการดูจะเป็นบวก แต่พวกเขายังมีเรื่องที่ต้องทำหลังทั้ง 13 ชีวิต ถูกพบบนเนินแห้งในถ้ำที่เรียกกันว่า “หาดพัทยา” (Pattaya Beach) เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค.นั่นคือทีมกู้ภัยต้องสอนเด็กๆ ให้ดำน้ำ รวมถึงโครงการที่อาจต้องส่งอาหารไปให้ทั้งหมดดำรงชีพได้นานถึง 4 เดือน อย่างไรก็ตาม วันที่ 3 ก.ค.มีรายงานว่า อาจต้องหาทางนำตัวทั้ง 13 คน ออกจากถ้ำให้ได้ก่อนที่มรสุมลูกใหม่ จะทำให้เกิดฝนตกหนักช่วงปลายสัปดาห์นี้

พลเอก Anupong Paojinda รัฐมนตรีมหาดไทยของประเทศไทย กล่าวกับ Bangkok Post ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่นว่า พยากรณ์อากาศพบว่าอาจมีฝนตกชุกในอีก 2 - 3 วันข้างหน้า จึงต้องเร่งการอพยพให้เร็วขึ้น เพราะถ้าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจะยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการพาตัวเด็กๆ ออกมาจากถ้ำ ส่วนผู้กอง Tait ระบุว่า มันยากที่จะวางกรอบเวลาในเรื่องนี้ เพราะมีทางเลือกมากมายให้พิจารณา แม้จะเห็นได้ชัดว่าแผนดำน้ำเริ่มดำเนินการ แต่ก็มีแผนอื่นๆ อยู่ด้วยเช่นกัน เช่น การหาปล่องที่สามารถส่งเจ้าหน้าที่โรยตัวลงไปในถ้ำพาทุกคนออกมา

ทีมงานของผู้กอง Tait ยังมีนักจิตวิทยาที่จะช่วยเยียวยาจิตใจเหล่าเด็กๆ ที่ติดอยู่ในถ้ำอันมืดมิดกว่า 10 วัน ซึ่งนายทหารหญิงแห่งกองทัพสหรัฐผู้นี้ ทิ้งท้ายว่า อะไรที่เราตัดสินใจได้เราพร้อมแนะนำและช่วยเหลือ นั่นคือเหตุผลที่เราอยู่ที่นี่ และจะสนับสนุนอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“บางครั้งเมื่อมีปัญหาคุณคิดว่ามีทางออกแค่ทางเดียว แต่นั่นเกิดขึ้นถ้าคุณไม่เปิดใจรับหนทางอื่นๆ ก็เท่านั้น ฉันมั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะเลือกทางออกที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ทุกคน” ผู้กอง Tait กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณข่าวและภาพจาก : https://www.theguardian.com/world/2018/jul/03/it-felt-like-a-movie-international-team-waiting-to-help-rescue-thai-footballers


ตร.คาดคดีแขวนคอหมู่ 11 ศพ เป็นการฆ่าตัวตายเซ่นพิธีกรรม ญาติไม่ปักใจเชื่อ

4 ก.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน จากกรณีพบการตายปริศนา 11 ศพ แยกเป็นผู้ชาย 4 คนผู้หญิง 3 คนและเด็กผู้หญิง 4 คน ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านบุรารี กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน สภาพศพอยู่ในลักษณะถูกปิดตาและแขวนคอลงมาจากหลังคา 10 ศพ ส่วนอีก 1 ศพ พบเสียชีวิตอยู่บนพื้น โดยในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยถูกงัดแงะ ของมีค่าต่างๆ ภายในบ้านยังคงอยู่ครบ นั้น

อินเดียได้จัดพิธีทั้ง 11 ศพ หลังจากการชันสูตรเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย พบว่า 8 ราย เสียชีวิตจากการถูกแขวนคอ ส่วนผู้เสียวัย 75 ปี ที่ถูกพบอยู่บนพื้น เสียชีวิตจากการถูกแขวนคอบางส่วน ไม่ชัดเจนเนื่องจากไม่พบเชือกรอบคอเธอขณะพบศพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นการฆ่ากันเอง หรือฆ่าตัวตายเพื่อประกอบพิธีกรรมบางอย่าง เนื่องจากพบหลักฐานใหม่เป็นจดหมายที่ทำให้เชื่อได้ว่าทั้งหมดอาจมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์

ด้านญาติคนอื่นๆ ของครอบครัวนี้ ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายหมู่ เพราะทุกคนไม่ปัญหาการเงิน ทุกคนมีความสุขดี และถ้าพวกเขาฆ่าตัวตายทำไมถึงต้องปิดตาตัวเอง ขณะที่เพื่อนบ้านก็ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อพิธีกรรมบางอย่างเช่นกัน โดยหลายคนบอกว่าครอบครัวนี้ยึดถือในศาสนาไม่ใช่ความเชื่อทางจิตวิญญาณ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ทิ้งประเด็นเรื่องการถูกฆาตกรรม เนื่องจากยังมีข้อสงสัยหลายจุด ทั้งทำไมญาติคนอื่นๆ ถึงไม่รู้ว่าครอบครัวนี้นับถือและเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ และทำไมถึงจัดงานและเตรียมงานแต่งให้กับลูกสาวซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต ทั้งๆ ที่จะมีทำฆ่าตัวตายเพื่อประกอบพิธีกรรมบางอย่างดังกล่าว


ผมรักชาวไทย! นักข่าวต่างชาติสประทับใจ เด็กทั้ง13ชีวิตแม้ติดถ้ำ10วัน แต่ยังสุภาพอ่อนน้อม

5 ก.ค. 61 จากกรณี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 ทางเฟซบุ๊กเพจ "Thai NavySEAL" ได้โพสต์คลิปแรกที่แสดงให้เห็นว่าทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยซีลและนักดำน้ำชาวอังกฤษเป็นผู้ไปพบเด็กทั้ง 13 ชีวิต พร้อมทั้งสามารถสื่อสารกับทีมนักดำน้ำชาวอังกฤษได้ ทั้งกล่าวขอบคุณ ทำให้คนแห่ประทับใจจนถูกแชร์ออกไปทั่วโลก

รวมไปถึง ไมเคิล ยอน (Michael Yon) นักเขียน ผู้สื่อข่าวและช่างภาพชาวอเมริกัน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Michael Yon" ระบุว่า ผมรักวีดิโอนี้มาก ๆ จะเห็นว่า ทีมเด็กไทย ขอบคุณที่ชาวอังกฤษมาถึง หลังจากติดถ้ำ 10 วัน พวกเขาก็ยังเป็นแบบไทยๆ ผมรักชาวไทย

พวกเขาจะเป็นเพื่อน ผูกพันธ์กับทีมกู้ภัยที่ช่วยเหลือพวกเขาไปตลอดชีวิต เดินทางมาจากอังกฤษที่แสนไกล เดินทางลีกเข้าไปในแผ่นดิน เพื่อช่วยเหลือ ลองดูวีดิโอนี้ "Thank you so much, Thank you so much. Where you come from?" (ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ คุณมาจากไหนครับ?) ไทยแท้ๆ อยู่ข้างในนั่นมา 10 วัน และ หาเพื่อนได้แล้ว น่าจะที่ประเทศไทยนี้เท่านั้น ที่ใครสักคน จะติดอยู่ในถ้ำ 10 วัน แล้วยังคงความสุภาพอ่อนน้อมได้อยู่ หรือบางทีก็จะมีที่ญี่ปุ่น อีกที่นึง

นาจิบได้ประกันตัว หลังขึ้นศาลข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

กัวลาลัมเปอร์ (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ศาลสูงมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์อนุญาตให้ประกันตัวนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากเขาให้การว่าไม่ได้ทำผิดใน 4 กระทงตามที่ถูกตั้งข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริตเงินจากกองทุนพัฒนามาเลเซีย หรือวันเอ็มดีบี

ผู้พิพากษาศาลสูงอนุญาตให้ประกันตัวนายนาจิบด้วยเงินสด 1 ล้านริงกิต (ราว 8 ล้านบาท) และสั่งให้มอบหนังสือเดินทางทางการทูต 2 เล่มแก่เจ้าหน้าที่ หลังจากทนายความของเขายื่นคำร้องขอประกันตัว แม้ว่าอัยการขอให้กำหนดเงินประกันไว้ที่ 4 ล้านริงกิต (ราว 32 ล้านบาท) ก็ตาม ผู้พิพากษากำหนดวันเปิดการพิจารณาคดีเบื้องต้นไว้เป็นวันที่ 18 กุมภาพันธ์ปีหน้า

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นายนาจิบวัย 64 ปี ถูกนำตัวจากที่ถูกคุมขังในสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริต (เอ็มเอซีซี) ในกรุงปุตราจายาไปขึ้นศาลชั้นต้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ในตอนเช้า เพื่อรับทราบข้อหา ประกอบด้วยข้อหาอาญาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต 3 กระทง แต่ละกระทงมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ส่วนโทษโบยจะได้รับการยกเว้นเนื่องจากอายุเกิน 60 ปีแล้ว และข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ 1 กระทง มีโทษปรับอย่างน้อย 5 เท่าของเงินสินบน เขาให้การว่าไม่ได้กระทำผิดในทุกข้อหา และกล่าวหารัฐบาลใหม่ว่าทำการแก้แค้นทางการเมือง

ข้อหาเหล่านี้เกี่ยวโยงกับเงิน 42 ล้านริงกิต (ราว 344 ล้านบาท) ของเอสซีอาร์อินเตอร์เนชันนัลที่ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของนายนาจิบ เขาตั้ง 1MDB ขึ้นในปี 2552 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวด้วยการดำเนินโครงการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ กองทุนนี้ถูกทางการอย่างน้อย 6 ประเทศสอบสวนเรื่องฟอกเงิน ส่วนเอสซีอาร์อินเตอร์เนชันนัล รัฐบาลของเขาตั้งขึ้นในปี 2554 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ 1MDB เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานในต่างประเทศ แต่ปีถัดมาถูกโอนไปสังกัดกระทรวงคลังที่นายนาจิบควบตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ด้วย

นายนาจิบก่อตั้งกองทุน 1MDB ขึ้นเมื่อปี 2552 แต่ผลจากการตั้งกองทุนดังกล่าวทำให้หนี้สินของมาเลเซียเพิ่มสูงขึ้นมากและเวลานี้สหรัฐรวมถึงหลายประเทศกำลังสอบสวนกรณีดังกล่าวอยู่ โดยสหรัฐระบุว่ากลุ่มคนใกล้ชิดของนายนาจิบได้ทำการยักยอกและฟอกเงินจำนวน 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 แสนล้านบาท จากกองทุน 1MDB และพบว่าเงินกว่า 22,000 ล้านบาทถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ตรวจค้นบ้านพักและสำนักงานหลายแห่งของนายนาจิบทั้งในกรุงกัวลาลัมเปอร์และเมืองปุตราจายา แล้วยึดเครื่องเพชรและทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ เป็นมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท ขณะที่ตัวนายนาจิบและภริยาก็ถูกสำนักงานปราบปรามการทุจริตสอบปากคำเมื่อเดือนที่แล้วและถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ