ข่าว
ทางการนิวซีแลนด์ประกาศเตือนภัยสึนามิ 7 พื้นที่ หลังแผ่นดินไหวขนาด 8.1

วันที่ 5 มีนาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน แจ้งประกาศเตือนภัยสึนามิผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.1 ขอให้คนไทยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเฝ้าระวังและติดตามข่าวสาร/ประกาศของทางการนิวซีแลนด์อย่างใกล้ชิด ข้อความดังนี้…

ด่วน: ทางการนิวซีแลนด์ประกาศเตือนภัยสึนามิ

ทางการนิวซีแลนด์ได้ออกประกาศเตือนภัยสึนามิหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.1 ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ บริเวณภูมิภาค Kermadec Islands จึงขอให้คนไทยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเฝ้าระวังและติดตามข่าวสาร/ประกาศของทางการนิวซีแลนด์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการนิวซีแลนด์อย่างเคร่งครัด

พื้นที่เตือนภัย

1. ชายฝั่งตะวันตกของเกาะเหนือ บริเวณ Cape Reinga – Ahipara – Makara (รวมถึงชายฝั่งตะวันตกของ Auckland / Manukau Harbour / New Plymouth / Whanganui / Kapiti Coast)

2. ชายฝั่งตะวันออกของเกาะเหนือ บริเวณ Cape Reinga – Whangarei – Matamata (รวมถึงชายฝั่งตะวันตกของ Auckland / Waiheke Island / Waitemata Harbour / Tauranga) และบริเวณ Tolaga Bay – Lake Ferry (รวมถึง Gisborne / Napier)

3. ชายฝั่งตะวันตกและใต้ของเกาะใต้ บริเวณ Farewell Spit – Puysegur Point (รวมถึง Westport / Greymouth / Hokitika)

4. พื้นที่ภาคเหนือของเกาะใต้ บริเวณ Farewell Spit – Port Underwood (รวมถึง Nelson / Picton / Marlborough Sounds)

5. ชายฝั่งตะวันออกและใต้ของเกาะใต้ บริเวณ Waipara River – Rakaia River (รวมถึง Christchurch / Banks Peninsula) และบริเวณ Taieri River

6. Puysegur Point (รวมถึง Invercargill)

7. พื้นที่ Stewart Island และ Chatham Islands

คำแนะนำสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ฝั่งทะเล

1. ติดตามข่าวสารและประกาศของ NZ Civil Defence (https://www.civildefence.govt.nz/)

2. ปฏิบัติตามข้อสั่งการของ Civil Defence อย่างเคร่งครัดหากมีการประกาศอพยพจากพื้นที่เสี่ยง โดยรักษาระยะห่างระหว่างผู้อื่น 2 เมตร ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19

3. อยู่ห่างพื้นที่ชายหาด หรือชายฝั่ง (ทะเล แม่น้ำ ปากอ่าว ฯลฯ)

4. ส่งต่อข้อมูลให้กับคนรู้จัก

5. สำหรับผู้ที่อยู่บริเวณชายฝั่งของพื้นที่เตือนภัย หรือพื้นที่บริเวณชายฝั่งอื่นๆ ที่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่แรงหรือนาน ทางการนิวซีแลนด์ขอให้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ทันทีโดยไม่ต้องรอการแจ้งเตือนภัยทางโทรศัพท์มือถือ (Emergency Mobile Alert) และให้ขึ้นไปอยู่ในพื้นที่สูงที่ใกล้ตัวที่สุด หรือให้ออกจากพื้นที่ Tsunami Evacuation Zone หรือให้ออกให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

สำหรับการเตรียมตัวรับมือสึนามิ และการตรวจสอบ/ศึกษาพื้นที่หลบภัย ที่ทางการนิวซีแลนด์ (National Emergency Management Agency) กำหนด สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://getready.govt.nz/emergency/tsunami/

ด้านนางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊กว่า หวังว่าทุกคนจะโอเค – โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนในแถบชายฝั่งตะวันออก ที่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอย่างเต็มที่ (แผนที่แสดงจำนวนคนที่รายงานเรื่องนี้ทั่วประเทศ)

“ตลาดนัดเสาร์ห้า” ทุกเช้าวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้า ถึงบ่ายโมง เริ่มเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2564

เปิด “ตลาดนัดเสาร์ห้า”” ในไทยทาวน์ เริ่ม 13 มีนาคมนี้ อาหารทุกอย่าง $5 จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร พร้อมสัมผัสตลาดนัดอาหารคนไทย ตลาดเสาร์ห้า ($5 Thai Market) ขายอาหารทุกอย่างราคา $5 ที่บริเวณ ลานจอดรถ ร้านนวดโรยัลไทยสปา ในไทยทาวน์ เลขที่ 5300 Hollywood Blvd Los Angeles CA 90027 (ตรงข้ามไทยแลนด์พลาซ่า) ทุกเช้าวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้า ถึงบ่ายโมง เริ่มเสาร์ที่ 13 มีนาคม ที่จะถึงนี้

โดยอาหารราคา $5 ที่จะนำมาเปิดจำหน่ายให้เพื่อนชาวไทยได้ทานกันในราคาประหยัดรับกับช่วงวิกฤตโควิด-19 ประกอบด้วย เจ้าสัวข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง ข้าวคลุกกะปิ ข้าวหมูทอด ข้าวหมกไก่ ทอดมันกุ้ง ทอดมันปลา ข้าวเหนียวมะม่วง กล้วยทอด-เผือกทอด-ข้าวเม่า -ไข่นกกระทาทอด พี่แดงวัดไทยฯ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง-เนื้อปิ้ง-ตับไก่ย่าง จากคุณเก๋วัดไทยแอลเอ ฯลฯ และยังจะมีอีกหลายเมนูเพิ่มมาในทุกๆ เสาร์

“เราจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อดึงดูดเพื่อนชาวไทย และชาวต่างชาติ ให้เข้ามาเยือนไทยทาวน์ ในช่วงวีคเอ็นด์กันมากๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของธุรกิจคนไทยในบริเวณนี้ ในขณะเดียวกันก็เพื่อช่วยส่งเสริมอาชีพคนไทยที่ทำอาหารขายให้มีพื้นที่ในการทำมาหากิน อย่างน้อยก็ที่ตลาดเสาร์ห้า สัปดาห์ละครั้ง รวมทั้งเปิดโอกาสให้เพื่อนชาวไทยที่เคยได้ทำบุญตักบาตรในช่วงเช้าวันเสาร์ที่หน้าไทยแลนด์พลาซ่า และได้หยุดไปตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ได้กลับมาทำบุญในบรรยากาศเหมือนเดิมกันอีกครั้ง โดยทางเราจะนิมนต์พระสงฆ์จากวัดไทยต่างๆ มารับบิณฑบาตจากญาติโยมตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า และเลือกซื้ออาหารคาวหวานได้จนถึงเวลาบ่ายโมง จึงขอฝากเชิญชวนเพื่อนชาวไทยทั้งในแอลเอและเมืองใกล้เคียงมาพบกับเราได้ในทุกวันเสาร์นะครับ” นายตัน พัฒนะ ผู้บริหารร้านนวดโรยัลไทยสปา กล่าว

ลูกค้า 50 คนแรก รับฟรี...❗ต้มยำปลาแซลมอลรสแซป สำหรับผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 818-461-4838


UK ผวา พบโควิดกลายพันธุ์ใหม่อีก เชื่อพยายามหนีระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์

สหราชอาณาจักร (UK) พบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่อีกชนิด กำลังเร่งสอบสวนหลังพบผู้ติดเชื้อแล้ว 16 ราย เชื่อไวรัสมรณะกลายพันธุ์เพื่อช่วยหลบหนีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์

เว็บไซต์เดลี่เมล รายงาน กระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักร (UK) เปิดเผยในวันนี้ (5 มี.ค. 64) พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 อีกสายพันธุ์ในสหราชอาณาจักร (UK) โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังสอบสวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่นี้แล้ว จำนวน 16 ราย เพื่อติดตามถึงความเป็นไปได้ว่าติดเชื้อมาจากที่ใด

กระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักรได้ตั้งชื่อเรียกชั่วคราว เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่นี้ ว่า B1.1.318 หลังจากได้พบผู้ติดเชื้อรายแรกในวันที่ 15 ก.พ. 64 และเจ้าหน้าที่ได้เริ่มติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.

จากการวิจัยศึกษาพบว่า เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่ B1.1.318 มีการกลายพันธุ์ E484K ที่บริเวณ สไปก์โปรตีน (หนามโปรตีน) ซึ่งพบการกลายพันธุ์นี้ในเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์บราซิลและแอฟริกาใต้ และเชื้อโควิดกลายพันธ์ุทั้งสองชนิดนี้มีการระบาดในสหราชอาณาจักร โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 เพื่อช่วยหลบหนีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์


รัสเซียส่ง ‘บินขับไล่’ สกัด ‘บินทิ้งระเบิดสหรัฐฯ’ เหนือทะเลบอลติก

5 มีนาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ในวันพุธ (3 มี.ค.) เครื่องบินขับไล่ซู-27 (Su-27) ของรัสเซียขึ้นบินเหนือทะเลบอลติก เพื่อสกัดเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ 2 ลำของสหรัฐฯ

กระทรวงฯ ระบุว่าระบบควบคุมน่านฟ้าของรัสเซียตรวจพบเป้าหมายทางอากาศ 2 เป้า เหนือน่านน้ำที่เป็นเขตกลางของทะเลบอลติกใกล้ชายแดนรัสเซีย เครื่องบินขับไล่ซู-27 จึงทำปฏิบัติการตอบโต้

ลูกเรือของเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียระบุว่า เป้าหมายที่พบเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์บี-1บี (B-1B) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จำนวน 2 ลำ จึงทำการขึ้นบินสกัดเครื่องบินสองลำนี้ออกจากทะเลบอลติก

หลังจากเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ พ้นจากชายแดนรัสเซียแล้ว เครื่องบินขับไล่ซู-27 จึงกลับสู่สนามบินในรัสเซียอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ระบุว่าเครื่องบินรบของรัสเซียทั้งหมดปฏิบัติตามกฎการใช้น่านฟ้าสากลอย่างเคร่งครัด


18 องค์กร แถลงการณ์ร่วมประณามสลายชุมนุมในเมียนมา จี้นานาชาติร่วมกดดัน

18 องค์กร แถลงการณ์ร่วมประณามสลายชุมนุมในเมียนมา เรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศร่วมกดดันรบ.ทหารพม่า

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กร 18 แห่งในประเทศไทย อาทิ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และการพัฒนาสังคม ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย อาทิ ครป. คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า (กรพ.) มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรเพื่อความเสมอภาคของสตรีและความเสมอภาค ฯลฯ ร่วมลงนามในแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาประณามการรัฐประหารและการสลายชุมนุมที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในเมียนมา

เนื้อหาโดยสรุป ดังนี้

หนึ่งเดือนภายหลังจากการรัฐประหารในพม่า ที่นำโดย มิน ออง หล่าย ผู้ได้ก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติในประเทศที่ครั้งหนึ่งถือได้ว่าเป็นประเทศที่สงบเงียบภายใต้อำนาจทหารยาวนานมากว่าครึ่งศตวรรษ

สภาวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย (ACFOD) และพันธมิตรองค์กรที่รักความเป็นธรรม ขอประณามกองกำลังป่าเถื่อนที่สังหารผู้คนมากกว่า 50 คนทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 นับตั้งแต่การรัฐประหารมีผู้เสียชีวิตกว่า 80 ราย มากกว่า 500 คนบาดเจ็บ และอีกนับพันคนถูกจับกุมและควบคุมตัว โดยกองกำลังทหารที่เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน และสมาชิกรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563

แถลงการณ์ ประณามทหารที่ยึดอำนาจอย่างผิดกฎหมายและปราบปราม เข่นฆ่า สังหารประชาชนที่เรียกร้องให้มีสังคมที่เป็นประชาธิปไตย การปกครองแบบเผด็จการไม่ควรได้รับการยอมให้คงอยู่ในอารยธรรมของมนุษยชาติ วัฒนธรรมแห่งความเงียบ นิ่งเฉย และการยอมจำนน จะไม่แตกต่างไปจากการสมคบคิดที่ปล่อยให้อาชญากรรมเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แถลงการณ์เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมกันกดดันรัฐบาลทหารที่ก่ออาชญากรรมต่อสิทธิมนุษยชนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การคุ้มครองชีวิตมนุษย์ให้อยู่รอดปลอดภัย และนำพาสังคมที่สงบสุขและปรองดองกลับมาสู่ประชาชนทุกคนในพม่า

เรียกร้องให้รัฐภาคีอาเซียนต้องแสดงบทบาทสำคัญในการหยุดยั้งหายนะภัยนี้โดยทันที อีกทั้งเลิกสมคบคิดกับระบอบเผด็จการอำนาจนิยมโดยทันที


กต.แจงจัดเที่ยวบินนำคนไทยในเมียนมากลับบ้านไม่เกี่ยวการเมือง

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีสื่อหลายสำนักรายงานข่าวว่า ทางการไทยเตรียมดำเนินการอพยพชาวไทยออกจากเมียนมาจากสถานการณ์การเมืองในเมียนมา

นายธานีกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงว่าเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้จัดเตรียมกำหนดการเที่ยวบินอพยพคนไทยไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้เป็นเที่ยวบินอพยพเนื่องจากสถานการณ์ในเมียนมาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ข้อมูลของเที่ยวบินอพยพคนไทยในเมียนมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ของสถานเอกอัครราชทูต ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟสบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง: Royal Thai Embassy, Yangon) มีดังนี้

1.สายการบิน Myanmar Airways International (MAI) วันที่ 12 มีนาคม ให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ภายในวันที่ 5 มีนาคม

2.สายการบิน Myanmar National Airlines (MNA) วันที่ 16 มีนาคม ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ภายในวันที่ 11 มีนาคม

ช่องทางการติดต่อสถานทูต

– โทรศัพท์ +951 222 784 และ +951 226 728 ในวันเวลาทำการ ตั้งแต่ 09.00-11.30 น. และ 13.30-17.00น.

– โทรศัพท์มือถือ +959797002801 นอกเวลาทำการ

– อีเมล : thaiembassyygn@gmail.com

– เดินทางไปที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต เลขที่ No. 94, Pyay Road, Dagon Township, Yangon

https://www.facebook.com/133650007223368/posts/818921955362833/?sfnsn=mo

ศึกการทูตวัคซีน

ยังคงระบาดอย่างหนัก แถมกลายพันธุ์ พัฒนาเป็นสายพันธุ์ใหม่ต่างๆ จนสร้างความหวาดผวาไปทั่วโลกได้อีกต่างหาก

สำหรับ “โควิด-19” หรือ “ไวรัสโคโรนา 2019” ที่กำลังอาละวาดทั่วโลก ณ เวลานี้ หลังสถานการณ์แพร่ระบาดเริ่มอุบัติขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2019 (พ.ศ. 2562) เป็นต้นมา ก่อนพ่นพิษส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะลุกว่า 115 ล้านคนไปแล้ว พร้อมกับคร่าชีวิตผู้ป่วยไปถึงเกือบ 2.6 ล้านคน ซึ่งตัวเลขทั้งผู้ป่วยติดเชื้อ และผู้ป่วยที่เสียชีวิต จากพื้นที่การแพร่ระบาดใน 219 ประเทศทั่วโลก ยังเพิ่มเติมมากขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งแต่ประการใด

ด้วยประการฉะนี้ บรรดาประเทศทั้งหลาย จึงต่างขวนขวายตะกายหา “วัคซีน” เวชภัณฑ์ที่ใช้สำหรับฉีดเข้าสู่ร่างกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อโรคกันจ้าละหวั่น นอกเหนือจากการดำเนินมาตรการเข้มงวดต่างๆ ในอันที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดฯ ไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย การให้เว้นระยะห่างทางสังคม หรือโซเชียลดิสแทนซิง และการให้หมั่นล้างมือ เพื่อฆ่าเชื้อโรคกันบ่อยๆ เป็นต้น โดยถึง ณ ชั่วโมงนี้ ก็มีวัคซีนจากบริษัทประเทศต่างๆ ใช้รับมือกับไวรัสมรณะชนิดนี้หลายขนานด้วยกัน อาทิ

“สปุตนิกไฟว์” หรือ “สปุตนิกวี” ที่วิจัยพัฒนาโดยสถาบันกามาเลยา ประเทศรัสเซีย

“ไฟเซอร์” ของ “บริษํท ไฟเซอร์ อิงก์” ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่วิจัยพัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค ประเทศเยอรมนี

“โมเดอร์นา” วิจัยพัฒนาโดยบริษัทโมเดอร์นา ประเทศสหรัฐฯ

“จอห์นสันแอนด์จอนห์สัน” วิจัยพัฒนาโดยบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ประเทศสหรัฐฯ

“แอสตราเซเนกา” ของบริษัทแอสตราเซเนกา ประเทศอังกฤษ ที่วิจัยพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เช่นกัน

“ซิโนแวก” หรือชื่อทางการว่า “โคโรแวก” ซึ่งวิจัยพัฒนาโดยบริษัทซิโนแวกไบโอเทค ประเทศจีน

“ซิโนฟาร์ม” ซึ่งวิจัยพัฒนาโดยบริษัทซิโนฟาร์ม จากประเทศจีน เช่นกัน

“โควาซิน” เป็นวัคซีนที่วิจัยพัฒนาโดยบริษัทภารัตไบโอเทค ประเทศอินเดีย

ทั้งนี้ การที่วัคซีนได้รับการวิจัยพัฒนาจากบรรดาบริษัทประเทศต่างๆ เช่นนี้ ก็ไม่ผิดอะไรกับการแข่งขันระดับชาติ ลากรวมไปถึงการเมือง และการทูต ระหว่างประเทศ

เมื่อปรากฏว่า ทางการประเทศแม่ของบริษัทผู้วิจัยพัฒนาวัคซีนเหล่านี้ นำ “วัคซีน” ไปเป็นเครื่องมือทางการทูต รุกคืบความสัมพันธ์ ขยายอิทธิพลของตนไปยังประเทศต่างๆ ที่วัคซีนไปถึงด้วย

เรียกปฏิบัติการข้างต้นนั้นว่า “การทูตวัคซีน”

เฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อุษาคเนย์ ก็ใช้ชั้นเชิงสัประยุทธ์กันอย่างดุเดือด ระหว่างสองชาติพี่เบิ้มใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย นั่นคือ “อินเดีย” กับ “จีนแผ่นดินใหญ่”

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า สถานการณ์ชิงชัยทางจีนแผ่นดินใหญ่ดูจะเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้พญามังกร สามารถแผลงฤทธิ์สยายกรงเล็บ คือ ขยายอิทธิพลด้านการทูตวัคซีน ได้ล้ำหน้าเหนือใครก็มาจากวัคซีนขนาน

ของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนานของบริษัทเหล่าชาติตะวันตกทั้งสหรัฐฯ และเยอรมนี รวมถึงอังกฤษ มีราคาแพงกว่า การเก็บรักษายากกว่า แถมปริมาณการผลิตก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประเทศทั้งหลาย โดยมีรายงานว่า วัคซีนขนานของชาติตะวันตกเหล่านั้น ส่วนใหญ่ไปตกอยู่กับประเทศร่ำรวย ที่มีกำลังซื้อกัน

จึงเป็นโอกาสสอดแทรกของพญามังกรจีนแผ่นดินใหญ่ ที่สามารถรุกคืบขยายอิทธิพลทางการทูตผ่านวัคซีนนี้เข้าไปแม้ในดินแดนภูมิภาคยุโรปเองหลายชาติก็ยังถูกวัคซีนของจากแดนมังกรเข้าไปปักธง ได้เปรียบเหนือแดนภารตะ ที่หมายมั่นปั้นมือว่า จะเป็นผู้ผลิตวัคซีนหมายเลขสองของโลกรองจากสหรัฐฯ อยู่หลายขุม เพราะมีหลายประเทศได้รับการแจกจ่ายวัคซีนทั้งขนานของซิโนแวกและซิโนฟาร์มจากทางการจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย