ข่าว
ไทยอัดไต้หวันได้ลุ้นแข่งจูเนียร์เฟดคัพไฟนอลส์

การแข่งขันเทนนิสเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รายการ "จูเนียร์ เฟดคัพ บาย บีเอ็นพี พาริบาส์ 2019" รอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 17 เม.ย. รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย ในกลุ่ม บี ทีมไทย ทีมวางอันดับ 2 ของรายการ พบ ทีมไต้หวัน ทีมวางอันดับ 7 ของรายการ โดยทั้งสองทีมต่างคว้าชัยมาทีมละ 2 แมทช์ ทำให้มีสถิติเท่ากัน ฉะนั้น แมทช์นี้จึงเป็นการชิงตำแหน่งอันดับ 1 ของกลุ่ม บี สาวไทยชนะมาเลเซีย 3 – 0 คู่ในนัดแรกแล้วมาชนะเลบานอน 3 – 0 คู่ในนัดที่ 2 นัดที่ 3 พบไต้หวัน

คู่แรก เดี่ยวมือ 2 "รวงข้าว" ลัลนา ธาราฤดี เก็บชัยได้สำเร็จ หลังหวดเอาชนะ หลี่ หยู หยุน ได้ 2 เซตรวด 6-3, 6-4 ต่อมา เดี่ยวมือ 1 "แพ็ตตี้" พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช พบกับ หยู ซิน ไซ่ ปรากฎว่า เซตแรก พิมพ์รดา ชนะขาดลอย 6-1 ทว่าในเซตสอง พลาดท่าคู่แข่งขัน ทำให้เป็นฝ่ายตามถึง 2-5 แต่ พิมพ์รดา ไม่ถอดใจง่ายๆ ไล่มาจนเสมอ 5-5 ก่อนเบรกได้ในเกมที่ 11 ขึ้นนำ 6-5 และออกมาเสิร์ฟปิดเซต เอาชนะไป 7-5 สรุป พิมพ์รดา ชนะ 2-0 เซต 6-1, 7-5 ทำให้ ทีมไทยขึ้นนำ 2-0 คู่ ซึ่งชนะแน่นอนแล้ว

ขณะที่ประเภทคู่นั้น นายพชรพล คำสมาน กัปตันทีมจูเนียร์เฟดคัพไทย ตัดสินใจพักนักกีฬาไม่ส่งทำการแข่งขัน เนื่องจากเห็นว่าชนะแน่นอนแล้ว แต่ทางไต้หวันต้องการแข่งขัน ทำให้ไต้หวันได้แต้มไป สรุป ไทย ชนะ ไต้หวัน 2-1 คู่ ส่วนอีกคู่ในสายเดียวกัน มาเลเซีย ชนะ เลบานอน 3-0 คู่ ทำให้จบรอบแบ่งกลุ่ม ไทย รั้งอันดับ 1 กลุ่ม บี, อันดับ 2 ไต้หวัน, อันดับ 3 มาเลเซีย และอันดับ 4 เลบานอน โดย ไทยและไต้หวัน ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ

ในรอบก่อนรองชนะเลิศนั้น ทีมไทย อันดับ 1 กลุ่ม บี จะพบกับ ญี่ปุ่น อันดับ 2 กลุ่ม เอ, ออสเตรเลีย อันดับ 1 กลุ่ม เอจะ พบ ไต้หวัน อันดับ 2 กลุ่ม บี เกาหลีใต้ อันดับ 1 กลุ่ม ดี จะพบ ฮ่องกง อันดับ 2 กลุ่ม ซี และ คาซัคสถาน อันดับ 2 กลุ่ม ดี จะพบ จีนอันดับ 1 กลุ่ม ซี โดยทีมที่สามารถคว้าชัยและผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ จะได้สิทธิ์เป็น 1 ใน 4 ทีมสุดท้าย เป็นตัวแทนของโซนไปแข่งขัน จูเนียร์ เฟดคัพ บาย บีเอ็นพี พาริบาส์ ไฟนอลส์ 2019 หรือรอบสุดท้ายของโลก ระหว่างวันที่ 25-30 กันยายน ที่สหรัฐอเมริกาต่อไป

'บิ๊กโจ๊ก'ไปยาว! ยื่นใบลาพักร้อนหลบมรสุมชีวิตที่อเมริกาถึงสิ้นเมษาฯ

17 เม.ย.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผบช.สตม.เข้ารายงานตัวกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนนตรี ในการเข้ามาช่วยราชการที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)และมีโปรดเกล้าฯดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในช่วงวันหยุดทำให้ไม่สามารถมารายงานตัวกับตนได้ และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ใช้สิทธิ์ยื่นลาพักร้อนไปประเทศสหรัฐอเมริกา จะเดินทางกลับมาสิ้นเดือนเม.ย.เมื่อตนเห็นใบลาก็อนุญาตให้ลาตามสิทธิ์ของข้าราชการ ทั้งนี้เมื่อพล.ต.ท.สุรเชษฐ์กลับมาแล้วต้องมารายงานที่ตน ส่วนการมอบหมายงานต้องประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารสปน.ก่อนและดูทักษะความสามารถของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์


กกพ.ไฟเขียวตั้งโรงไฟฟ้าขยะ 11 โครงการ

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการรับซื้อไฟฟ้า ภายใต้โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน จากพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเข้าร่วมโครงการจำนวน 9 จังหวัด ทั่วประเทศ รวม 11 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 13,101 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณที่รับซื้อได้ รวม 68.90 เมกะวัตต์ จากกำลังผลิตติดตั้ง รวม 83.04 เมกะวัตต์ และมีกำลังจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้าสู่ระบบ (SCOD) ภายใน 31 ธันวาคม 2562 “จากการที่สำนักงาน กกพ. ได้มีการจัดทำความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย ภายใต้โครงการที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการในระยะแรก หรือโครงการ Quick Win สามารถร่วมกันอนุมัติโครงการที่ดำเนินการโดยองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นแล้วทั้งสิ้น 11 โครงการ จากพื้นที่มีศักยภาพรวม 9 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ กกพ. ได้มีการออกประกาศรับรองอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว” นางสาวนฤภัทร กล่าว

ก่อนหน้านี้ กกพ. ได้ออกประกาศและหลักเกณฑ์การจัดหาไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแข่งขันด้านราคา (Competitive Bidding) ซึ่งมีเป้าหมายการรับซื้อรวม 77.9 เมกะวัตต์ โดยได้เปิดให้ยื่นคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้า มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 - 31 มีนาคม 2562

สำหรับผู้ที่ผ่านการพิจารณาอนุมัติจาก กกพ. หลังปิดรับยื่นคำร้องฯ ประกอบด้วย 1.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด 3.บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด 4.บริษัท เอ็นคอม เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี่ (พระนครศรีอยุธยา) จำกัด 5.บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด 6.บริษัท อัลไลแอนซ์ คลีนเพาเวอร์ จำกัด 7.บริษัท บุญ เอเนอร์ซิส จำกัด 8.บริษัท พาโนว่า จำกัด 9.บริษัท มิทท คอร์ปอเรชั่น จำกัด 10.บริษัท ไทยโซริด รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด 11.บริษัท คลีน แพลนนิ่ง จำกัดเป็นต้น


‘แหลม’ลัดฟ้าป้องกันแชมป์โลก ถึงสหรัฐฯตะบัน‘เอสตราด้า’

ความเคลื่อนไหว ศึกป้องกันแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ สภามวยโลก (WBC) ระหว่าง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของตำแหน่งชาวไทยกับ ฮวน “เอล กัลโล” ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า รองอันดับ 1 ชาวเม็กซิกัน ภาคไฟท์บังคับ ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าที่แชมป์โลกชาวไทยเคยชนะคะแนนกันมาแบบไม่เอกฉันท์ (ชนะสองเสมอหนึ่งเสียง) เมื่อต้นปี 2561 ซึ่งจะมีขึ้นที่ ฟอรัม อิงเกิ้ลวู้ด ประเทศ สหรัฐอเมริกา ในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 27 เม.ย.ตามเวลาไทย ถ่ายทอดสดช่องเวิร์คพอยท์ 23 ในเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แชมป์โลกชาวไทย พร้อมทีมงานได้เดินทางไปอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ เผยถึงการเตรียมพร้อมในครั้งนี้ว่า “ถือว่าซ้อมหนักที่สุดในชีวิต การพบกับเอสตราด้าภาค 2 ครั้งนี้ไม่ประมาทแน่นอน และเตรียมพร้อมมาอย่างดี เอสตราด้าเป็นมวยก้ำกึ่งจะหนีก็ไม่หนีจะถอยก็ไม่ถอยเสียทีเดียว น้ำหนักหมัดของเขาบอกตามตรงว่าไม่หนักเลย แต่ยอมรับว่าแย็บคมมาก และต้องระวังหมัดหนึ่งสองของเขาให้มากด้วย ยังไงก็ฝากแฟนชาวไทยส่งกำลังใจให้ด้วยครับ”

ทั้งนี้ คาดว่าในการชกไฟท์นี้ ศรีสะเกษ จะได้รับค่าเหนื่อยหลังแบ่งให้ทีมงานแล้ว อยู่ที่ราว 8 ล้านบาท


ช็อก! 'อดีตผู้นำเปรู'ยิงตัวตาย หลังตำรวจบุกจับข้อหารับสินบน

18 เม.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายอลัน การ์เซีย อดีตประธานาธิบดีแห่งประเทศเปรู วัย 69 ปี ใช้อาวุธปืนยิงปลิดชีพตัวเองที่บ้านพักในกรุงลิมา ขณะที่ตำรวจเดินทางไปถึงเพื่อจับกุมตัวเขาในข้อหารับสินบน โดย นายการ์เซีย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ก่อนที่ นายมาร์ติน วิซคาร์รา ผู้นำคนปัจจุบัน จะออกมายืนยันการเสียชีวิตของเขา

นายคาร์ลอส โมรัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเปรู เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกส่งไปที่บ้านของนายการ์เซีย เพื่อจับกุมเขาให้ข้อหารับสินบน จากบริษัทก่อสร้างโอเดเบรชต์ (Odebrecht) ของบราซิล ซึ่งอดีตผู้นำรายนี้ปฏิเสธ

เมื่อตำรวจไปถึง นายการ์เซียก็ทำทีเป็นขอโทรศัพท์ และเข้าไปในห้องก่อนปิดประตู ไม่กี่นาทีต่อมาก็มีเสียงปืนดังขึ้น ตำรวจจึงบุกเข้าไปในห้อง และพบนายการ์เซียนั่งอยู่บนเก้าอี้ มีบาดแผลถูกยิงบริเวณศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลกาซิมิโรอูยัว ในกรุงลิมา ซึ่งแพทย์ทำการผ่าตัดฉุกเฉิน แต่ช่วยชีวิตนายการ์เซียไม่ได้

ด้าน นายซูเลมา โทมัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปรู เผยว่า นายการ์เซียหัวใจหยุดเต้นถึง 3 ครั้ง แต่แพทย์ก็ยื้อชีวิตเขากลับมาได้ทุกครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็เสียชีวิตเพราะอาการบาดเจ็บ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่สืบสวนของเปรูกล่าวหานายการ์เซีย ว่ารับสินบนจากบริษัทโอเดเบรชต์ ระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา (พ.ศ.2549 - 2554) ขณะที่บริษัทบราซิลเจ้านี้ยอมรับว่า จ่ายเงินสินบนให้หลายประเทศในลาตินอเมริกา และจ่ายสินบนในเปรูมาตั้งแต่ปี 2547 เป็นเงินเกือบ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นายการ์เซียยืนยันมาตลอดว่า เขาตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งทางการเมือง และทวีตข้อความเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า "ไม่มีเบาะแสหรือหลักฐานที่จะมาเอาผิดเขาได้"

บริจาคซ่อมนอทเทอร์ดาม พุ่ง 3.5 หมื่นล. มาครงให้คำมั่น 5 ปีเสร็จ

ประธานาธิบดี “มาครง” ประกาศเร่งบูรณะมหาวิหาร “นอทเทอร์ดาม” ที่ถูกเพลิงไหม้หนักทำให้ยอดวิหารพังถล่ม ให้เสร็จกลับมาสวยงามดั่งเดิมใน 5 ปี ขณะยอดบริจาคจากนักธุรกิจมหาเศรษฐีรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ช่วยบูรณะวิหารทะลุกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนโบราณวัตถุสิ่งของล้ำค่าภายในวิหารหลายร้อยชิ้นที่ขนออกมาได้ทัน รัฐบาลนำไปเก็บไว้ยังพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้มหาวิหารนอเทรอดาม อาสนวิหารมรดกโลกกลางกรุงปารีสของฝรั่งเศส ซึ่งเกิดขึ้นช่วงเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นว่า กระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศสออกแถลงการณ์เกี่ยวกับผลการประเมินเบื้องต้น เกี่ยวกับความเสียหายของโบราณวัตถุและผลงานศิลปะที่อยู่ในอาสนวิหารนอเทรอดามว่า ผลงานจิตรกรรมประมาณ 5-10% ของทั้งหมดถูกเพลิงเผาทำลาย ขณะที่ชุดภาพเขียนขนาดใหญ่ 4 ภาพ อายุเก่าแก่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 บอกเล่าประวัติศาสตร์ทางศาสนาเสียหายบางส่วน จากฝุ่นควันมากกว่าถูกไฟเผา หลายฝ่ายหวังว่าจะซ่อมแซมได้ ซึ่งรัฐบาลเตรียมขอความช่วยเหลือจากทางการวาติกันด้วย ส่วนหอระฆังทั้งสองแห่ง และหน้าต่างกระจกสีที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของคริสตจักรคาทอลิก ยังอยู่ในสภาพดี

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุด้วยว่าสำหรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของพระเจ้าหลุยส์ที่9และพระเจ้าหลุยส์ที่ 13เจ้าหน้าที่ขนย้ายออกมาได้ทันเวลาเช่นเดียวกับรูปปั้นและผลงานศิลปะจากการแกะสลักตลอดจนเครื่องทองและเครื่องเงินอีกหลายร้อยชิ้นรัฐบาลจึงประสานงานกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์นำไปเก็บรักษาไว้ชั่วคราว

สำหรับการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ สำนักงานอัยการกรุงปารีสสอบปากคำบุคคลไปแล้วมากกว่า 30 คน จากบริษัทก่อสร้าง 5แห่ง ซึ่งได้รับสัมปทานดำเนินโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ส่วนยอดแหลมของอาสนวิหารตั้งแต่ปี 2018 ดยโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นไม้และจุดนี้คือ ต้นเพลิงที่พังถล่มทะลุหลังคาลงมา หลังการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในเบื้องต้นยังไม่พบร่องรอยว่าเป็นการวางเพลิง

วันเดียวกัน องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ( ยูเนสโก )ซึ่งขึ้นทะเบียนอาสนวิหารนอเทรอดามเป็นมรดกโลก เมื่อปี 2534 ออกแถลงการณ์พร้อมมอบความช่วยเหลือให้ฝรั่งเศสในการซ่อมแซมและบูรณะอาสนวิหารแห่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณรอบมหาวิหารนอเทรอดามหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ว่า ชาวปารีสหลายร้อยคนมารวมตัวกัน เพื่อสวดมนต์และร่วมร้องเพลงหน้ารูปปั้นพระแม่มารี และพระเยซู ขณะที่วันเดียวกันนี้ โบสถ์ทั่วฝรั่งเศสจะลั่นระฆังช่วงครบรอบ 48 ชั่วโมงที่ไฟไหม้วิหาร

ขณะที่นายเอมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ชี้แจงการดำเนินการเกี่ยวกับอุบัติเหตุเพลิงไหม้มหาวิหารนอเทรอดามว่า ฝรั่งเศสจะสร้างมหาวิหารนอเทรอดามขึ้นใหม่ โดยหวังจะทำสำเร็จภายใน 5 ปี แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางส่วนจะมองกระบวนการบูรณะอาจใช้เวลานานกว่า 10 ปี โดยจะบูรณะขึ้นใหม่ให้สวยงามกว่าเดิม และเป็นสิทธิของเราที่จะเปลี่ยนโศกนาฏกรรมให้กลายเป็นโอกาสที่จะมาร่วมมือกัน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าเราเป็นอย่างไร และเราทำอะไรได้บ้าง รวมถึงทำให้ดีขึ้นกว่าที่เราเคยเป็น ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของชาวฝรั่งเศสต้องรวมกันทำให้สำเร็จ

สำหรับการระดมทุน เพื่อบูรณะมหาวิหารนอเทรอดามของรัฐบาลฝรั่งเศสนั้น หลังเหตุการณ์เพลิงไหม้ผ่านไป 24 ชั่วโมง รายงานข่าวแจ้งว่า มีมหาเศรษฐี นักธุรกิจและบริษัทขนาดใหญ่ของฝรั่งเศสร่วมบริจาคเงินเพื่อใช้บูรณะนอเทรอดามแล้วกว่า 1,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท

นำโดย นายแบร์นาร์ต อาร์โนลต์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของฝรั่งเศส ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ )ของกลุ่มบริษัท แอลวีเอ็มเอช โมเอ็ต-เฮนเนสซี หลุยส์ วิตตอง เจ้าของกิจการทั้งหลุยส์ วิตตอง และคริสเตียน ดิออร์ บริจาค 200 ล้านยูโรหรือประมาณ 7,182.8 ล้านบาท เท่ากับตระกูลเบต์ตองกูร์ เมแยร์ส เจ้าของอาณาจักรลอรีอัลและมูลนิธิเบต์ตองกูร์ โดย นางฟรองซัวส์ เบต์ตองกูร์ เมแยร์ส สตรีร่ำรวยที่สุดของประเทศ และ นายฟรองซัวส์ อ็องรี-ปิโนต์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่ม บริษัทเคริง เจ้าของห้องเสื้อหรูอย่างกุชชีและอีฟว์ แซ็ง โลร็อง บริจาค 100 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 3,591.4 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม นางแอนน์ ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีหญิงกรุงปารีส เผยว่า ที่ประชุมฉุกเฉินของสภาเทศบาล มีมติเพิ่มงบประมาณเพื่อการบูรณะอาสนวิหาร สถาปัตยกรรมกอทิกเก่าแก่อายุมากถึง850ปีแห่งนี้ เป็น 50 ล้านยูโรหรือประมาณ 1,798.1 ล้านบาท