ข่าว
หนุ่ม16สุดดีใจชนะรางวัล ได้อยู่กับ"ดาวโป๊"1เดือน!!

เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดอะ มิรเรอร์”รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ว่า นายรัสแลน สเคดรินา วัย 16 ปี บรรยายความรู้สึกภายในอันแสนจะพลุ่งพล่านหลังดีใจมากที่เล่นเกมทางโลกออนไลน์ซึ่งไม่ได้รับการเผยชื่อ จนชนะเลิศได้รางวัลใหญ่เป็นการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ “เอคาเตรินา มาคาโรวา” หรือที่รู้จักกันในนาม “มาซี เซนส์” วัย20กว่าปีนางเอกภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้อยู่กับเธอ และวิจารณ์ว่า เธอมีรูปร่างที่ดีมาก

อย่างไรก็ตาม “วีรา สเคดรินา” ผู้เป็นมารดาและ “ไดอานา สเคดรินา”พี่สาวของนายรัสแลนเผยตรงกันว่า รางวัลดังกล่าวไม่เหมาะสมและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเขาเพิ่งอายุแค่ 16 ปี ควรจะขยันเรียนหนังสือมากกว่า หากลูกชายเธอชนะรางวัลจริงก็ควรจะเปลี่ยนเป็นเงินสัก 100,000 รูเบิล (ราว 47,000 บาท) มากกว่าให้อยู่กับดาราหนังโป๊

ด้านนายรัสแลนเผย เขาไม่คิดว่าจะได้รางวัล ตอนแรกคิดว่าเว็บไซต์นี้หลอกลวง แต่พอตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าเป็นความจริง เขาจึงตั้งหน้าตั้งตารอคอยโอกาสที่จะได้รับรางวัล แม้ทางครอบครัวจะไม่เห็นด้วย อันที่จริงเขาสามารถส่งผ่านรางวัลไปให้ผู้แทนอันชอบธรรมซึ่งก็คือ พ่อของเขาได้ แต่ผู้เป็นแม่ก็ยิ่งต่อต้านหนัก

เขาตั้งใจจะบอกมาซี เซนส์เมื่อพบกันครั้งแรกว่า เขาเป็นเด็กหนุ่มคนนั้น คนที่ชนะรางวัลและได้เธอมาครอบครอง ทั้งนี้ เพื่อนๆในห้องต่างก็แสดงความยินดี บางคนถึงกับอิจฉาเขาด้วย

ส่วนมาซี เซนส์ กำลังคิดว่า หากทั้งสองพบกันครั้งแรกแล้ว ก็คาดว่าจะคุยกันเรื่องที่อยู่ของทั้งสองซึ่งอาจจะเป็นโรงแรมหรือต่างประเทศสักแห่ง ทั้งนี้ เธอมีแผนการจะเดินทางมาที่กรุงมอสโก เพื่อมาหาเขาก่อน โดยจะต้องคุยกับทางครอบครัวของนายรัสแลนด้วย เพราะเขาเองกำลังจะสอบและต้องเรียนหนังสือ เธอไม่ได้มีเจตนาที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเขา แต่หากอยู่ร่วมกันไปเรื่อยๆก็ไม่ทราบว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง เธอคิดว่า อายุ 16 ปี ก็เติบโตเพียงพอที่จะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตนเองแล้ว

แพทย์ไทยเปิดตัวเห็ด" ซางฮวง" ไทยแลนด์พลาซ่า 5 มี.ค.

ดร.แฟรงค์ ชาญบุญญสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน “เห็ดซางฮวง” ประธานผู้บริหารบริษัทอเมซิ่ง เกรซ เฮลท์ โปรดักส์ ประเทศไทย ได้เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่สกัดจากเห็ดซางฮวง อย่างเป็นทางการ ในวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 ที่ไทยแลนด์ พลาซ่า ทางบริษัทอเมซิ่ง เกรซ เฮลท์ โปรดักส์ ประเทศไทย อยากให้ผู้ที่สนใจต้องการไปเข้าร่วมรับฟังในวันดังกล่าว ได้รับทราบประวัติความเป็นมาของเห็ดชนิดนี้ในเบื้องต้น จะได้ง่ายต่อการทำความเข้าใจในการรับฟังได้มากยิ่งขึ้น อันว่าเห็ดซางฮวง หรือ ฟิลินัส ลินเทียส(Phellinus linteus) นั้นได้ฉายาว่า “King of Anti-Cancer” เพราะคุณสมบัติอันโดดเด่นในการใช้เพื่อต้านมะเร็ง และเป็นเห็ดที่นำมาใช้เป็นยารักษาโรคอันดับต้นๆของโลก จากบันทึกในคัมภีร์จีนโบราณ “เสิน หนง เปิ๋น เฉ่า จิง” ได้บันทึกว่ามีการนำเห็ดซางฮวงมาใช้รักษาโรคต่างๆตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงจนถึงปัจจุบัน

หลังจากสงครามระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมาและเมืองนางาซากิในประเทศญี่ปุ่น ผู้คนจำนวนมากล้มตายจากแรงระเบิด ส่วนที่เหลือก็ล้วนบาดเจ็บ มีแผลไฟไหม้ร่างกาย โดนกัมมันตภาพรังสีและเป็นมะเร็ง รัฐบาลญี่ปุ่นได้อพยพประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวไปยังหมู่เกาะมิชิมา ได้แก่เกาะคุโรชิมะ เกาะอิโยชิมะ และเกาะทาเกะชิมะ เพื่อแยกออกมาเฝ้าดูอาการและทำการรักษา ผู้ป่วยที่มาพักฟื้นเยียวยาบนหมู่เกาะดังกล่าวต่างมีอาการดีขึ้นทุกวันอย่างเห็นได้ชัด เช่นบางคนบาดแผลพุพองก็ทุเลาเบาบางและจางหายไป ผู้คนที่ป่วยกลับฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่ง จนในที่สุดพบว่าผู้ป่วยได้รับประทานเห็ดชนิดหนึ่งที่อยู่บนต้นมัลเบอร์รี่ตามธรรมชาติ และนั่นคือเห็ดซางฮวง หรือ เห็ดฟิลินัส ลินเทียส ธรรมชาติ นั่นเอง

เหตุการณ์ดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นเกี่ยวกับโรคมะเร็งด้วยการใช้เห็ดฟิลินัส ลินเทียส ธรรมชาติ และต่อมาในปีค.ศ. 1964 นักวิทยาศาสตร์จากประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มงานวิจัยชิ้นแรกเกี่ยวกับเห็ดฟิลินัส ลินเทียส ธรรมชาติ ซึ่งเห็ดก้อนแรกได้ถูกค้นพบในเกาะมิชิม่าและเกาะคาโกชิม่า ในปีค.ศ. 1968 ศูนย์มะเร็งแห่งชาติประเทศญี่ปุ่นได้รายงานผลการออกฤทธิ์อันยอดเยี่ยมของเห็ด ฟิลินัส ลินเทียส ธรรมชาติว่าสามารถยับยั้งมะเร็งได้ถึง 96.7%

ในปีค.ศ. 1980 นักวิทยาศาสตร์ชาวเกาหลีได้เริ่มศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติทางยาของเห็ดฟิลินัสลินเทียส ธรรมชาติ และเส้นใยเห็ดที่ได้จากการเพาะเลี้ยง

ในปีค.ศ. 1992 เห็ดฟิลินัส ลินเทียส ได้กลายมาเป็นโครงการงานวิจัยระดับชาติของประเทศเกาหลีเพื่อการรักษาโรคมะเร็ง

ในปีค.ศ. 1993 เห็ดฟิลินัส ลินเทียสได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลีและเริ่มวางจำหน่ายในท้องตลาด

สำหรับในประเทศไทยนั้น บริษัทอเมซิ่ง เกรซ เฮลท์ โปรดักส์ ได้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 2002 โดยได้มุ่งเน้นด้านการวิจัยเห็ดฟิลินัส ลินเทียสจากธรรมชาติเรื่องฤทธิ์ทางยา ผลการวิจัยพบว่าเห็ดชนิดนี้มีสรรพคุณในการรักษาที่น่าอัศจรรย์ แต่ต้องใช้ส่วนดีที่สุด และเห็ดต้องมีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป

เห็ดฟิลินัสทั้งหมดในโลกพบว่ามีมากกว่า 105 สปีชี่ แต่มีเพียง 2 สปีชี่คือฟิลินัส ลินเทียสและฟิลินัส อิกเนียเรียส ที่มีการศึกษาวิจัยรองรับว่ามีฤทธิ์ทางยา และได้มีการตีพิมพ์ผลงานวิจัยจากหลายประเทศออกมามากกว่า 2000 ฉบับ

บริษัทอเมซิ่ง เกรซ เฮลท์ โปรดักส์ ได้ก่อตั้งศูนย์ค้นคว้าวิจัยเห็ดฟิลินัสธรรมชาติไทย-เกาหลี โดยร่วมมือกับ ศ. ดร. แจโมซุง แห่งคังวอนเนชั่นแนลยูนิเวอร์ซิตี้ ประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติผู้บุกเบิกงานวิจัยเรื่องถั่งเฉ้าในปี ค.ศ. 2004

โดยขณะนี้อเมซิ่ง เกรซ เฮลท์ โปรดักส์ ได้ทำงานวิจัยร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกกว่า 20 ท่านจากสถาบันชั้นนำนานาชาติจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และไทย

โดยผลิตภัณฑ์ยาของ อเมซิ่ง เกรซ เฮลท์ โปรดักส์ ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา เมื่อปี 2004

ทั้งนี้ในวันเปิดตัวแถลงข่าวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่สกัดจาก “เห็ดซางฮวง” ในวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 ที่ไทยแลนด์ พลาซ่า ระหว่าง 11 am-3 pm ทางบริษัทอเมซิ่ง เกรซ เฮลท์ โปรดักส์ จะจัดเลี้ยงอาหารกลางวันและมีตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากเห็ดซางฮวงมอบให้กับสื่อมวลชนและผู้ที่สนใจไปร่วมในงานอีกด้วย ต้องการทราบรายละอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เห็ดซางฮวง โทรติดต่อได้ที่เบอร์ 818-503-1979, 202-656-6969 และ 818-987-6275


'ปู' มา ฟังไต่สวนพยานคดีข้าว เชื่อ 'บิ๊กตู่' เลือกตั้งตามโรดแม็ป

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.พ. 59 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ครั้งที่ 3 อีก 3 ปาก ในคดีจำนำข้าว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปรับฟังการไต่สวนพยาน โดยคนแห่ให้กำลังใจจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ทั้งในและนอกพื้นที่อาคารศาลฎีกาฯ

ก่อนเข้ารับฟังการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ไม่อยากให้มีกลไกพิเศษช่วงเปลี่ยนผ่านบ้านเมืองหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ อยากเห็นรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนและเป็นสากล มิฉะนั้นสิ่งที่ยากคือจะตอบนักลงทุนและต่างประเทศได้อย่างไร แต่เข้าใจในข้อจำกัดของรัฐบาลที่ต้องการดูแลความสงบเรียบร้อย อยากฝากว่ามีวิธีใดที่จะทำให้เกิดความมั่นใจด้วย ได้ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ และเศรษฐกิจกลับคืนมา ตนเชื่อว่าหากเป็นไปในทิศทางที่ดี ทุกคนคงให้ความร่วม เพราะเราอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าเหมือนกัน

นอกจากนี้ เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะจัดเลือกตั้งตามโรดแม็ปภายในปี 2560 ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ศาลฎีกาฯ ได้ไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. อดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว น.ส.แน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งเป็นนักวิชาชีพการตรวจสอบบัญชี น.ส.ศิรสา กันต์พิทยา รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สังกัดกระทรวงการคลัง เบิกความเรื่องหนี้สาธารณะ และนายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เบิกความการเบิกจ่ายเงินให้กับชาวนา

สำหรับวันนี้ ศาลมีกำหนดไต่สวนทั้งหมด 3 ปาก ประกอบด้วย นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย นายระวี รุ่งเรือง เครือข่ายชาวนาไทย และ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบการระบายข้าว ในคณะกรรมการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา โดยคำถาม ที่เตรียมซักค้านพยานทั้ง 3 คน มีคนละ 30 กว่าคำถาม

ในส่วนของนายวิชัยจะเป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการส่งออกข้าวในช่วงการทำโครงการรับจำนำข้าวที่นายวิชัยอ้างว่าประเทศไทยเสียแชมป์การส่งออกข้าว เพราะเหตุจากโครงการนี้ ซึ่งทีมทนายความเตรียมซักค้านเพื่อยืนยันว่า การส่งออกข้าวมีปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงผลกระทบทางการเมืองเข้าเกี่ยวข้อง ทำให้ไทยไม่สามารถส่งออกสินค้าเกษตรหลายชนิด ไม่ใช่เฉพาะข้าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาฯ ได้อนุญาตให้โจทก์นำพยานเข้าไต่สวน 14 ปาก จากที่ยื่นขอทั้งหมด 17 ปาก กำหนดไต่สวน 5 นัด ประกอบด้วย วันที่ 15 ม.ค. 2559, วันที่ 17 ก.พ. 2559, วันที่ 26 ก.พ. 2559, วันที่ 4 มี.ค. 2559 และวันที่ 23 มี.ค. 2559


หลวงพี่น้ำฝนโวย ดีเอสไอคุกคาม

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โวยดีเอสไอคุกคามไม่เลิกพยายามดึงพระไปในทางที่เสียหาย ทั้งที่การตรวจรถจบไป 2 ปีก่อนโดยไม่มีความผิด เตรียมส่งหนังสือยื่นท้วงให้แจ้งความผิดมาถ้าจะตรวจรถซ้ำซาก

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า อาตมารู้สึกสับสนมากกับหน่วยงานของรัฐว่าจะเอาอย่างไรกันหนักหนา รถโบราณที่อาตมาได้มา ทางดีเอสไอ ก็ได้มานำรถไปตรวจสอบแล้วเมื่อสองปีก่อน และปรากฏว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย รถคันนี้อาตมาได้มาโดยชอบธรรม และดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายทุกรกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการจดประกอบ การเสียภาษี ซึ่งอาตมาบอกได้เลยว่า ภาษีที่อาตมาเสียไปเต็มๆทุกบาททุกสตางค์ไม่มีส่วนลดแม้แต่สลึงเดียว เมื่อผ่านพ้นกระบวนการตรวจสอบมาจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ทราบดีว่าเรื่องรถคันนี้โปร่งใสทุกขั้นตอน แต่พอสองปีผ่านมา เอาอีกแล้วอยู่ๆมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมาหาอาตมาที่วัดไผ่ล้อม และมาสอบถามเรื่องรถแพนเธอร์ รถโบราณคันเดิม อาตมาก็ชี้แจงให้ทราบ พอเขากลับไป ก็มีหนังสือมาถึงอาตมาให้ส่งรถไปทำการตรวจสอบอีก อาตมาไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ พยายามหาเรื่องที่จะทำให้อาตมาผิดให้ได้หรืออย่างไร และจะมาขอตรวจรถครั้งหนึ่งทุก 2 ปี อาตมาก็ยังไม่เห็นว่าจะถูกต้องตรงไหน

อาตมาจะส่งหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า การที่มาขอตรวจสอบรถซ้ำซ้อนอีกนั้น ขอให้แจ้งข้อกล่าวหามาด้วยว่า มีความผิดอะไรอีก และจะมาตรวจสอบด้วยเหตุใด การกระทำของเจ้าหน้าที่หน่วยงานนี้ อาตมาว่าไม่มีความชัดเจน เหมือนจะเป็นการกลั่นแกล้งกันและจะทำให้สังคมเกิดความสับสนและเข้ใจผิดได้ เพราะหน่วยงานของรัฐพยายามที่จะดึงอาตมาเข้าไปในทางที่เสียหาย เรื่องนี้ทางหน่วยงานนี้จะต้องมีคำตอบให้กับอาตมาว่าในการขอตรวจรถซ้ำซากเพื่ออะไรกันแน่


“ปวิน” เผย ครอบครัวถูก จนท.ข่มขู่ ต่อรอง ให้หยุดพูดเรื่องการเมืองไทย

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์ อาจารย์ด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ thediplomat ว่า ตนเองได้รับแจ้งจากครอบครัวที่กรุงเทพฯ ว่า มีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าไปข่มขู่ และคุกคามที่บ้านพัก รวมถึงมีการโทรศัพท์เข้าไปเพื่อขอให้บังคับให้ รศ.ดร.ปวินยุติกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการบรรยายประเด็นทางการเมืองไทย ขณะที่อยู่นอกประเทศ มิฉะนั้นจะต้องรับผิดชอบ แม้ว่าทางบ้านจะไม่รู้และไม่เกี่ยวข้องก็ตาม รวมถึงยังจะมีการเชิญคนในครอบครัวไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยนายปวินระบุว่า การ ทั้งนี้ รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เคยรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ กระทั่งผันตัวเองไปเป็นอาจารย์และนักวิจัยสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ก่อนจะย้ายไปเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ไม่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามคำสั่งเรียก หลังจาก คสช.เข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และยังเป็นผู้นำเสนอความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ดำเนินการถอนหนังสือเดินทาง ด้วยอ้างเหตุที่ รศ.ปวินไม่มารายงานตัวต่อ คสช.

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตอบกรณีนี้ว่า การที่มีข่าวดังกล่าวนั้น ไม่ได้แปลว่าข่าวนี้จริง และยังไม่ทราบว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น

หมอสวมชุดไทย ขึ้นรับปริญญา

กำลังเป็นกระแสฮือฮาในโลกโซเชียล เมื่อมีภาพหญิงใส่ชุดไทยบรมพิมานสีเขียวขึ้นรับปริญญาที่ต่างประเทศ หลายคนที่ได้พบเห็นต่างชื่นชมว่าแม้ไปเรียนต่างประเทศก็ไม่ลืมความเป็นไทย

สำหรับหญิงสาวในรูปคือ “หมอฝน” พญ.ชนกานต์ ชัชวาลา อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สวมชุดไทยเข้ารับปริญญาที่ University of Edinburgh สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2558

โดยคุณหมอคนสวยได้อธิบายเกี่ยวกับการแต่งกายชุดไทยขึ้นรับปริญญาไว้ว่า ชุดที่ส่วมใส่คุณป้าแท้ๆ เป็นคนตัดเย็บให้เอง ซึ่งซุปเปอร์ไวเซอร์บอกกับเธอว่าเหล่าคณาจารย์บนเวทีต่างตะลึงกับชุดประจำชาติที่สวมใส่

ทั้งนี้ การใส่ชุดไทยขึ้นรับปริญญาไม่ได้คิดแต่งเองตามใจชอบ ทางมหาวิทยาลัยค่อนข้างเคร่งครัด กำหนดให้แต่งกายทางการและ "ชุดประจำชาติ" เพราะความที่สก็อตเป็นชาตินิยม จึงมีบัณฑิตจำนวนมากใส่กระโปรงสก็อตถุงเท้ายาวรับปริญญา หากแต่งกายไม่สุภาพจะถูกเชิญออกจากฮอลล์ การแต่งกายของเธอนั้น ไม่ใช่การแต่งกายตามใจชอบแน่นอน แต่คือ “ระเบียบ" ของมหาวิทยาลัย