ข่าว
เตือนระวังโลกเผชิญขาดแคลนอาหาร

3 เม.ย. 2563 08:11 น./ หน่วยงานใหญ่ของสหประชาชาติ 3 องค์กร ได้แก่ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การการค้าโลก (WTO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ ร่วมเตือนถึงสถานการณ์ขาดแคลนอาหารทั่วโลกอาจเกิดขึ้นท่ามกลางภัยระบาดของโคโรนาไวรัส โควิด-19 ถ้าไม่มีการบริหารจัดการระบบอย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ

แถลงการณ์ร่วมของนายอู๋ ตงหยู ผู้อำนวยการเอฟเอโอ นายเทโดรส อัดฮานอม เกรเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก และนายโรเบอร์โต อาเซวาโด ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก ระบุเนื้อหาท่ามกลางสภาวการณ์ของนานาประเทศต่างใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” หรือปิดประเทศ เพื่อชะลอการระบาดของโควิด-19 จะส่งผลถึงกระบวนการผลิตและส่งออกอาหารจากทั่วโลก เพราะหลายประเทศต่างจำกัดการส่งออกอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงผู้คนในประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศต่างก็กำลังเผชิญปัญหาจากมาตรการกักกันผู้คนและหยุดการเคลื่อนไหวในหลายๆด้าน

ตัวอย่างรูปแบบที่เกิดขึ้นคล้ายกับสถานการณ์ช่วงวิกฤติการเงินโลกเมื่อปี 2540 รัฐบาลอินเดียกับเวียดนามในฐานะชาติผู้ผลิตส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกต่างจำกัดการส่งออกข้าว ทำให้ราคาข้าวตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นมาก นอกจากนั้น หน่วยงานสหประชาชาติทั้ง 3 แห่ง ยังเตือนถึงรัฐบาลรัสเซียเริ่มพิจารณาจำกัดการส่งออกข้าวสาลี เพื่อรักษาปริมาณสำรองเอาไว้ในประเทศ

แถลงการณ์ฉบับเดียวกันนี้ ระบุอีกว่าท่ามกลางมาตรการจำกัดการเคลื่อนไหวของผู้คนให้อยู่แต่ในบ้าน ทำให้เสี่ยงต่อผลกระทบด้านแรงงานเกษตรและแรงงานอุตสาหกรรม ผนวกมาตรการจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดน ยิ่งส่งผลต่อการขนส่งสินค้าอาหารข้ามประเทศให้ต้องชะงักหรือล่าช้า ผลกระทบที่เกิดขึ้น อาทิ การเคลื่อนย้ายแรงงานภาคการเกษตรจากเม็กซิโกเข้าสหรัฐฯ ภาวะการขาดแคลนแรงงานจากภูมิภาคแอฟริกาเข้าภาคพื้นยุโรปทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก

ทางแก้ปัญหาคือรัฐบาลนานาประเทศต้องพยายามให้ระบบการขนส่งสินค้าและอาหารได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์แย่งซื้ออาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคเช่นที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ.

ข่าวจากทีมงาน "เราจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน"

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ทีมงานแพ๊คกิ้งจัดทำรายชื่อและพิมพ์เลเบลที่อยู่ได้ส่งออกหน้ากากอนามัยให้แก่พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุผู้มีสุขภาพไม่สมบูรณ์และพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วไปที่ขาดแคลนทั้งในและนอกรัฐแคลิฟอร์เนียจำนวน 1,500 ท่านรวมทั้งสิ้นประมาณ 6,000 ผืนคาดว่าทุกท่านจะได้รับไม่เกินวันที่ 3-4 เมษายน นี้นะค่ะ

ในส่วนของพระภิกษุสงฆ์ในบางวัดเราได้นำไปถวายให้ถึงวัดแล้วนะคะ ส่วนวัดใดที่ยังมิได้รับขอให้ติดต่อเข้ามาเราจะนำไปถวายให้ค่ะ

และขอเรียนให้ทราบว่าขณะนี้เราหยุดรับรายชื่อผู้ต้องการหน้ากากอนามัยไว้ชั่วคราวสำหรับผู้ที่ให้รายชื่อมาแล้วไม่ต้องส่งรายชื่อเข้ามาอีกนะคะ เราจะพิจารณาส่งหน้ากากฯ ให้เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเราได้ของใหม่เข้ามาแล้วค่ะ และในขั้นต้นนี้เราแจกให้ในแต่ละที่อยู่ไม่เกิน 2 ชุดหรือ 2 ท่านต่อ 1 ที่อยู่ไปก่อนเพื่อเป็นการกระจายของให้ทั่วถึงกันซึ่งคำนึงถึงความจำเป็นอันดับแรกก่อนค่ะ

การแจกหน้ากากอนามัยเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการฯ เท่านั้น เรายังให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในอีกหลายๆ ด้าน เช่นการขอความช่วยเหลือเมื่อตกงาน การขอความช่วยเหลือทางด้านธุรกิจขนาดเล็กและการช่วยติดตามเงินชดเชยที่จะพึงได้จากภาครัฐและอื่นๆ โดยจัดเจ้าหน้าที่ไว้ให้คำแนะนำและปรึกษาซึ่งท่านทั้งหลายสามารถโทรเข้ามาสอบถามได้ในยามวิกฤตเช่นนี้ค่ะ

จึงขอขอบคุณพี่น้อง ประชาชนชาวไทยที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมไทยฯ ขอขอบคุณผู้มีเมตตาเป็นสปอนเซอร์มอบเงินทุนและสิ่งของให้แก่สมาคมไทยฯ เพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบกิจกรรม และขอขอบคุณองค์กรพุทธศาสนา สมาคมชมรมและศูนย์ต่างๆ ทั้งในและนอกรัฐแคลิฟอร์เนียที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการ "เราจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน" ในครั้งนี้ด้วยค่ะ


กนิษฐา เพอร์ไรด้า

นายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้

*****************************************

รายนามผู้ร่วมบริจาค ซื้อหน้ากากอนามัยแจกตามโครงการ "เราจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน"

ของสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ร่วมกับองค์กรพุทธศาสนาและสมาคมชมรมต่างๆ

ทั้งในและนอกรัฐแคลิฟอร์เนีย

*********

🙏สาธุ… รายนามผู้ร่วมบริจาค ซื้อหน้ากากอนามัยแจกตามโครงการ "เราจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน" ของสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ร่วมกับองค์กรพุทธศาสนาและสมาคมชมรมต่างๆ ทั้งในและนอกรัฐแคลิฟอร์เนีย

1.กลุ่มศิลปินชานกรุง 250 เหรียญ

2.คุณนิอร ชื่นชม 100 เหรียญ

3.สมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ (คุณหมู โมนา) 200 เหรียญ

4.กลุ่มอนุรักษ์มรดกไทย 200 เหรียญ

5.คุณเสาวรส เกรกอรี่. 100 เหรียญ

6.คุณวิไลลักษณ์ ฮอด 50 เหรียญ

7.คุณหน่อย ร้านโต้รุ่ง 40 เหรียญ

8.คุณหมอสุวรรณี วิทยภูมิ 200 เหรียญ

9.คุณสมชาย ไทยทัน 200 เหรียญ

10.คุณวิลลี่ วัฒนวงศ์คีรี 100 เหรียญ

11.คุณแซม 100 เหรียญ

12.คุณดีดี้ สิทธิเสรี 100 เหรียญ

13.สมาคมไทยลาสเวกัส (คุณศิวพร&คุณสุนิสา) 200 เหรียญ

14.คุณจอห์น เพอร์ไรดา 500 เหรียญ

15.คุณภัทรา อัศวมหากุล 100 เหรียญ

16.คุณมาลี เหมือนรักษา 100 เหรียญ

17. คุณสมเกียรติ ถึกเจริญ 500 เหรียญ

18.อาจารย์นิด&อาจารย์เจตน์ ลีบูรจิณ Texas 350 เหรียญ

19.คุณชญาดา เลาหโรจน์ 40 เหรียญ

20.คุณ Ben Noppakun 100 เหรียญ

21.คุณสุรศักดิ์&คุณวราภรณ์ วงศ์ข้าหลวง 100 เหรียญ

22.คุณมะลินา ไรมอน 50 เหรียญ

23.หอการค้าแซนดิเอโก้ คุณนิกกี้ 100 เหรียญ

24.ศูนย์พัฒนาสุขภาพชุมชน คุณนงเยาว์ วรานนท์ (หน้ากากอนามัย 1500 ผืน)

25.คุณจูดี้ อุ่งอำรุง 100 เหรียญ

26.คุณน้อง 100 เหรียญ

27.สมาคมพยาบาลไทย (คุณสุณีย์ โพธิ์ด้วง) 100 เหรียญ

28.คุณนันทินี ฮาตะ 100 เหรียญ

(ข้อมูล ณ วันที่ 2 เมษายน 2020)

ผู้มีความประสงค์ร่วมบริจาค กรุณาเขียนเช็คสั่งจ่าย Thai association in Southern California (T.A.S.C.) Mail check to Kamolwat Suravallop 546 N.Oxford ave. Unit 301 Los Angeles, CA 90004

ขอขอบคุณผู้ร่วมบริจาคและผู้ให้การสนับสนุนโครงการ "เราจะฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน" มา ณ โอกาสนี้

ติดต่อสอบถามและ

รวบรวมรายชื่อผู้บริจาค

คุณ Raya 949 228 2310


ศบค.ประเมินผล 7 วันไม่ดีขึ้น อาจต้องขั้นสุด เคอร์ฟิว 24 ชม. บางพื้นที่

3 เม.ย. 2563 - 06:41 น.ศบค.เตรียมประเมินผลลัพธ์ 7 วัน ไม่ดีขึ้นอาจเคอร์ฟิวส์ 24 ชม.บางพื้นที่ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตัดสินใจประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. เพื่อสกัดไวรัสโควิด-19 นั้น

สาเหตุหลักเนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพบว่าที่ผ่านมายังมีบางพื้นที่แอบจัดปาร์ตี้พบปะสังรรค์และมีสถานบันเทิงบางแห่งยังแอบเปิดให้บริการอยู่

รวมถึงกรณีวัยรุ่นที่จ.เชียงใหม่ ที่ไม่สนคำเตือนของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันโควิด-19 และมีการก่อกวนถึงโรงพยาบาลนครพิงค์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวเหล่านี้ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจยกระดับมาตรการเข้มข้น

7 วันไม่ดีขึ้นอาจเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้จะมีการประเมินผลภายในระยะเวลา 7 วัน หากยังไม่เกิดผลลัพธ์ในทางปฏิบัติ ก็อาจมีการยกระดับขั้นสูงสุดเป็นเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง โดยจะเลือกเป็นพื้นที่ต่อไป


โควิด:ทะลุ 1 ล้านคนแล้ว ติดเชื้อทั่วโลก ตายเกินครึ่งแสน สหรัฐสงสัยตัวเลขจีน

ซีเอ็นเอ็น รายงานสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ยอดสะสมผู้ติดเชื้อทั่วโลก ทะลุ 1 ล้านคนแล้ว เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ไม่นานหลังจากองค์การอนามัยโลกคาดการณ์ไว้ว่าจะทะลุหลักล้านภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการระบาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ส่วนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเกิน 50,000 คน

สหรัฐมีตัวเลขผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 240,000 คน รั้งอันดับหนึ่งของโลก และยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,200 ราย นอกจากนี้ประชาชน 6.6 ล้านคนลงทะเบียนเป็นผู้ตกงาน นิวยอร์กเป็นรัฐที่เผชิญวิกฤตนี้มากที่สุด มีผู้ติดเชื้อกว่า 92,000 คน และเสียชีวิตกว่า 1,340 คน

ด้านจำนวนผู้เสียชีวิต อิตาลียังมีสูงสุดในโลก 13,915 ราย ตามด้วยสเปน ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตมาถึงหลักหมื่นแล้ว ด้วยจำนวน 10,096 ราย ส่วนฝรั่งเศส รั้งอันดับ 4 ของโลก ต่อจากสหรัฐ เสียชีวิตแล้ว 4,503 ราย

เยอรมนีมียอดผู้ติดเชื้อขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของโลกแซงจีน ด้วยจำนวน 84,636 คน ส่วนผู้เสียชีวิตยังมีอัตราส่วนน้อยกว่าชาติยุโรปอื่นๆ แต่ถึงหลักพันแล้วที่ 1,100 ราย

ส่วนจีน หล่นมาอันดับ 5 ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มเล็กน้อย อยู่ที่ 81,589 คน และผู้เสียชีวิต อยู่อันดับ 5 เช่นกัน แต่ละวันตัวเลขเพิ่มน้อยมาก ยอดรวมอยู่ที่ 3,318 ราย

ตัวเลขของจีนดังกล่าว ทำให้รัฐบาลสหรัฐคลางแคลงใจมาก โดยเฉพาะเมื่อหน่วยข่าวกรองส่งข้อมูลถึงทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน มีใจความว่า รัฐบาลจีนจงใจให้ข้อมูลเท็จว่าด้วยตัวเลขผู้ป่วยสะสมและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ข้อมูลที่จีนส่งถึงหน่วยงานระหว่างประเทศ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) มีตัวเลขตรึงไว้แทบไม่ขยับ

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า “ตัวเลขมันดูเหมือนจะไปแนวโลกสวย ผมไม่ได้อะไรนะที่พูดอย่างนี้ เมื่อดูตามสิ่งที่เห็นกับสิ่งที่รายงานออกมา"

ส่วนนายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า สหรัฐน่าจะมีสถานการณ์ที่ดีกว่านี้หากจีนมีความพร้อม และว่าจีนเปิดเผยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 มากกว่าโรคระบาดอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้น

"ผมหมายถึงในความเป็นจริง จีนมีความโปร่งใสว่าด้วยกรณีที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนามากกว่าโรคระบาดอื่นๆ ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา แต่หลักฐานที่ปรากฏในตอนนี้บ่งชี้ว่า โลกมารับรู้ว่าจีนต้องเผชิญหน้ากับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ คือเมื่อปลายเดือนธ.ค.2562 แต่บางทีอาจจะนานนับเดือนก่อนหน้านั้นที่การแพร่ระบาดจริงๆ เกิดขึ้นในประเทศจีน" นายเพนซ์กล่าว

พญ.เดบอราห์ เบิร์กซ์ นักภูมิคุ้มกันวิทยา ที่ปรึกษาและผู้ประสานงานการรับมือกับโรคโควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐ กล่าวว่าการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตของจีนมีอิทธิพลต่อการรับมือกับโรคโควิด-19 ในประเทศอื่นๆ

ข้อมูลของจีนส่งสัญญาณออกไปว่าสถานการณ์นี้น่าวิตกกังวล เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับตัวเลขในอิตาลี สเปน รวมทั้งสหรัฐ จะเห็นได้ว่าข้อมูลของจีนมีบางอย่างที่ขาดหายไป

ส่วนหนึ่งมาจากวิธีการนับผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตของทางการจีนซึ่งไม่รวมผู้ที่ไม่มีอาการ แม้ผลตรวจร่างกายชี้ชัดว่าติดเชื้อโควิด-19 และตั้งแต่เริ่มแพร่ระบาดเมื่อปลายปี 2562 จีนเพิ่งเปลี่ยนการนับจำนวนให้ครอบคลุมผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเมื่อวันที่ 31 มี.ค.

ชง "บรรจุ ขรก.-ปรับสวัสดิการ" บุคลากรการแพทย์ สู้ "โควิด" 3 เม.ย.นี้

ครม.วาระพิเศษ 3 เม.ย.นี้ "อนุทิน" จ่อชง ครม.บรรจุเพิ่มข้าราชการ 45,242 ตำแหน่ง พร้อมเสนอปรับสวัสดิการคุ้มครองบุคลากรการแพทย์ สู้ศึก "โควิด-19"

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษในวันที่ 3 เม.ย.63 นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอวาระขอบรรจุข้าราชการเพิ่มเติม ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 45,242 ตำแหน่ง เช่น พยาบาล ที่ยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ และนักวิชาการสาธารณสุข หรือหมออนามัย ที่ทำงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของระบบสาธารณสุขไทย ในการควบคุมโรคตามต่างจังหวัดและพื้นที่ชนบท และเป็นกำลังสำคัญในการทำระบบกักตัวโดยรัฐ หรือ State Quarantine นอกจากนี้จะมีการเสนอให้มีการปรับปรุงสวัสดิการ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก เปรียบเหมือนทหารในสงคราม แต่ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองตัวเองที่ดีพอ