ข่าว
'หมวดเจี๊ยบ' อัด 'สมชัย'ยับ พูดอะไรต้องให้เกียรตินายกฯ

"หมวดเจี๊ยบ" อัด "สมชัย" พูดส่อเสียด "ยิ่งลักษณ์" โฟร์ซีซั่น ถามต้องการสื่อในทางบัดสีใช่หรือไม่ เย้ยให้เห็นว่าอาจไม่เป็นกลาง และมีอคติ สอนมวยอยากได้รับเกียรติจากผู้อื่น ก็ต้องหัดให้เกียรติคนอื่นด้วย ไม่ใช่ตามจิก...

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 57 ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง ใช้คำพูดส่อเสียด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯ และรมว.กลาโหม เรื่องโรงแรมโฟร์ซีซั่นว่า ที่นายสมชัยพูดว่าพร้อมจะนัดเจอ นายกฯ ได้ทุกโรงแรม และอาจจบที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นนั้น ขอถามว่านายสมชัยต้องการจะสื่ออะไร คุณต้องการพูดให้คนเข้าใจไปในทางบัดสีใช่หรือไม่ เพราะใครๆ ก็ทราบดีว่า ก่อนหน้านี้คนพรรคประชาธิปัตย์ได้แต่งเรื่องโรงแรมโฟร์ซีซั่นขึ้นเพื่อใส่ร้าย นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไปในทางเสียหาย ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง และคนพูดก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว

ดังนั้น นายสมชัยก็น่าจะรู้ดีว่า เมื่อพูดแบบนั้นแล้วคนจะเข้าใจความหมายว่าอย่างไร ทั้งนี้ คำพูดของนายสมชัย สะท้อนวิธีคิดและความเป็นตัวตนว่าในจิตใต้สำนึกแล้วคุณเป็นคนเช่นไร และมีความเป็นกลางหรือไม่ ทั้งๆ ที่ตามหลักแล้ว กกต. ต้องวางตัวเป็นกลาง แต่นับวันสังคมก็ยิ่งสงสัยในความเป็นกลางของนายสมชัย และเกิดคำถามว่า นายสมชัยมีอคติกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยใช่ไหม เพราะเมื่อตอนเลือกตั้ง ผูุ้ว่าฯ กทม. และนายสมชัย ได้จัดเวทีดีเบตที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม แต่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ติดภารกิจไม่สามารถไปร่วมดีเบตได้ นายสมชัยจึงนำตุ๊กตาเฟอร์บี้สีแดงมาวางเพื่อสร้างประเด็น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยอย่างไม่เป็นธรรมมาแล้ว แล้วสังคมจะมั่นใจในความเป็นกลางของนายสมชัย ได้อย่างไร นอกจากนี้ ก่อนที่นายสมชัยจะมาเรียกร้องให้ นายกฯ ให้เกียรติ กกต. นายสมชัยควรถามตัวเองก่อนว่า คุณเคยให้เกียรตินายกฯ ในฐานะผู้นำประเทศ และผู้นำฝ่ายบริหารบ้างหรือไม่

"ทุกวันนี้ นายสมชัยใช้คำพูดกดดัน และคุกคามนายกฯ ในลักษณะตามจิก อย่างกับจะออกหมายเรียกให้ไปคุกเข่ารับฟังคำบัญชาของคุณ ดังนั้นหากนายสมชัย อยากได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติก็ต้องรู้จักให้เกียรติคนอื่นด้วย ที่สำคัญควรทำหน้าที่ของตนเองให้ดี และจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้เรื่องการจัดการเลือกตั้ง คุณได้รับเงินเดือนจากภาษีของพี่น้องประชาชน เพราะมันจะกระทบกับความสง่างามของตัวคุณเอง" ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าว.

'สุเทพ'ถึงร่ำไห้ เสียใจคนเจ็บ แม้ตายต้องล้มระบอบทักษิณ

"สุเทพ" ถึงร่ำไห้ เสียใจ ระเบิดที่บรรทัดทอง ทำคนไทยบาดเจ็บ กร้าว! แม้ตายก็ต้องล้มระบอบทักษิณให้ได้ ปลุก "ข้าราชการ-ประชาชน" ออกมาร่วมต่อสู้

วันที่ 17 ม.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวบนเวทีปราศรัย ว่า วันนี้ น่าเสียใจที่ขบวนผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงบริเวณถนน บรรทัดทอง เกิดเหตุถูกคนร้ายปาระเบิดจนมีผู้บาดเจ็บจำนวน 31 คน เป็นหญิง 10 คน คุณประคอง ชูจันทร์ อายุ 46 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าอก ตัดเส้นเลือดใหญ่ แต่คุณหมอรามาฯผ่าตัดต่อเส้นเลือดให้แต่ไม่รู้สึกตัว นอกจากนั้น นายสมพล แก้วยศ ชาวราชบุรี อายุ 56 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าอก คุณหมอเห็นว่าไม่หนักมาก รอผ่าตัด นายเดชา สิงห์ศักดิ์ตระกูล อายุ 46 ปี นายนพดล สายสุวรรณ จากยะลา ถูกที่แขน คุณสุริยา สีทองตัน ถูกสะเก็ด นายนัฐพงษ์ ชุมเขียว อายุ 29 ปี รอผ่าตัด อยู่ที่รามาฯ 6 คน เข้าไป 12 คน

ระหว่างพูดบนเวทีถึงประโยค ว่าคืนนี้ให้ช่วยสวดมนต์ นายสุเทพ ถึงกับร่ำไห้ โดยยังได้บอกว่า ขอให้พี่น้องมวลมหาประชาชนช่วยสวดมนต์ให้คุณประคอง ชูจันทร์ ด้วย พี่น้องมีผู้บาดเจ็บที่ รพ.หัวเฉียว 4 คน เข้าไป 12 คน แต่ปลอดภัยทุกคน ที่รพ.กลางผู้หญิง 3 คน กลับบ้านเล้ว 1 คน เหลืออยู่ 2 คน เป็นชาวนครศรีธรรมราช ที่รพ.จุฬาฯ 9 คน เป็นหญิง 1 ชาย 8 คน

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า จุดที่เกิดเหตุ นั้น เดิมทีจะเป็นจุดที่ตนเองและมวลมหาประชาชน จะพักนั่งกินข้าวกันพอดี แต่โชคดีที่บังเอิญว่าในวันนี้ มีคนหิวข้าวกันมาก ประกอบกับมีเจ้าของอู่รถท่านหนึ่งยินดีเปิดบ้านให้ผู้ชุมนุมใช้ห้องน้ำ ตนเองจึงได้นั่งพักกินข้าวเร็วกว่ากำหนดเวลา ตามแผนที่ตั้งใจไว้เดิม ซึ่งหากมีการนั่งพักกินข้าวกันในจุดดังกล่าว ก็คงจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้แน่นอน ซึ่งหลังจาก มีทหารเข้าไปตรวจสอบตามอาคารร้างในจุดที่เกิดเหตุ ก็ได้ค้นเจออาวุธจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าน่าจะเตรียมไว้รอทำร้ายมวลมหาประชาชน โดยหลักฐานทั้งหมดนี้ ได้อยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งหมดแล้ว ซึ่งตนเองจะรอดูว่า ทางตำรวจจะมีการแถลงความคืบหน้าคดีนี้อย่างไร เพราะเท่าที่ตนเองทราบวิทยุสื่อสาร เหล่านั้น สามารถตรวจสอบย้อนหลังไปได้ว่าติดต่อกับผู้ใดอยู่

นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังอ้างว่า หมวกสีแดงของคนร้าย ซึ่งพบในที่เกิดเหตุ นั้น เป็นหมวกที่แจกในงานอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่ในสังกัด 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ขณะเดียวกัน ยังเป็นเรื่องที่น่าแปลกอีกว่า ในจุดที่เกิดเหตุ ยังพบว่ามี รถตู้ตราโล่ของตำรวจ จอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ล่าสุด มวลมหาประชาชนถูกคนร้าย ลอบโจมตีรวมแล้ว 27 ครั้ง

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ ในไลน์โฆษกตำรวจ มีการแถลงออกมาทันทีว่าเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากผู้ชุมนุมสร้างสถานการณ์ ซึ่งตนเอง ขอยืนยันไว้ตรงนี้เลยว่า ตนเองไม่ฆ่าพวกเดียวกัน เพื่อสร้างสถานการณ์แน่นอน นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังได้ตอบโต้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช. ที่ออกมาให้ข่าวว่า เหตุปะทะที่เวทีแจ้งวัฒนะ นั้น เกิดจากมีคนไม่พอใจ และได้รับความเดือดร้อนที่ กปปส.ปิดถนน นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และเป็นการโกหกพกลม เพื่อปกปิดข้อเท็จจริง

พร้อมกันนี้ เลขาฯ กปปส. ยังได้กล่าวว่า หากตนเองพลาดท่าเสียที ถูกตำรวจจับกุมไป ก็ขออย่าให้มวลมหาประชาชนยอมแพ้ ให้ต่อสู้โค่นล้มระบบทักษิณให้จงได้ โดยตนเองจะขอเทหมดหน้าตัก แม้ว่าในอนาคตตนเองถูกตำรวจจับกุมไป ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินสนับสนุน เพราะตนเองได้มีการนำเงินไปเก็บซ่อนไว้สถานที่สำคัญแล้วหลายจุดแล้ว เพื่อสนับสนุนการชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และในวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.57) เวลา 10.00 น. ตนเองจะนำประชาชน ออกเดินเชิญแขกให้มาร่วมการชุมนุมอีก โดยไม่หวั่นว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยอีก ทั้งนี้ ตนเองจึงอยากเชิญชวนให้ ข้าราชการออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชน เพราะหากพี่น้องข้าราชการออกมาร่วมต่อสู้ ประชาชนก็จะสามารถโค่นล้มระบบทักษิณ ได้แน่นอน แต่หากข้าราชการ ยังนิ่งเฉยอยู่ได้ ก็ขอให้ไปตอบคำถามกับลูกหลานในอนาคตก็แล้วกันว่า พวกท่านกำลังทำอะไรกันอยู่ในยามที่ประชาชนออกมาร่วมกันต่อสู้

นายกฯ ขอลุยเลือกตั้ง จนกว่าจะได้ ส.ส.ครบ

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ประกาศจะขอเลือกตั้งจนกว่าจะได้ ส.ส.ครบ เปิดสภา ย้ำ ข้อเรียกร้อง กปปส. ไม่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ยันไม่เคยปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ม.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดโอกาสให้ 15 สำนักข่าวต่างประเทศสัมภาษณ์พิเศษ โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 45 นาที โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหมร่วมด้วย

โดยนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งถึงการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ว่า ถ้าการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. สามารถผ่านไปได้ก็เชื่อว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองจะจบลงเร็วขึ้น โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการเลือกตั้ง ยืนยันว่าเรื่องการเลือกตั้งจะยังต้องเดินต่อไป และถ้าวันที่ 2 ก.พ.ได้ ส.ส.ไม่ครบตามกฎหมาย ก็ให้เลือกตั้งใหม่ภายใน 30 วัน ก็ต้องรอจนกว่าจะครบจำนวนก็จะมีการเปิดประชุมสภา

"วันนี้ดิฉันก็ไม่ได้ปิดโอกาสในการที่จะพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะ กปปส. แต่ข้อเรียกร้องของ กปปส. ในวันนี้ไม่สามารถทำได้ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงส่วนใหญ่จะพูดถึงครอบครัวของนายกรัฐมนตรี และมองว่าเป็นตัว ปัญหา ทำไมนายกรัฐมนตรีจึงไม่ลาออกเพื่อให้ปัญหาจบ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนต้องทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีจนกว่าจะได้คนใหม่เข้ามา อยู่ดีๆ จะลาออกไม่ได้ การเลือกตั้งคือวิธีที่ดีที่สุดในระบอบประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนยังต้องรักษาการในตำแหน่งนายกฯ ถ้าไม่ชอบคณะรัฐมนตรี ไม่ชอบนายกฯ ก็ต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ จบลงได้

เมื่อถามว่าคิดว่าการเลือกตั้งในวันนี้จะมีประโยชน์อะไรต่อประเทศไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าไม่ไปเลือกตั้งก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ฝั่งผู้ชุมนุมเองก็ไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีการชูใครขึ้นมา ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดในเวลานี้ตนจึงพยายามที่จะเปิดเวทีการปฏิรูปประเทศควบคู่ไปด้วยเพื่อที่จะให้ประเทศเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่าครอบครัวของนายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญ และอยู่เป็นศูนย์กลางความโกรธในกรุงเทพฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ที่พูดถึงนั้นคือแค่กลุ่มคนกลุ่มเดียวเท่านั้น คุณยังไม่ได้ถามกลุ่มคนกลุ่มอื่นที่เลือกดิฉันเองเข้ามา ครอบครัวดิฉันเป็นเหยื่อ ไม่มีใครอยากจะมายืนตรงนี้แล้วให้คนมาเกลียดทุกวัน แต่เราต้องรักษาประชาธิปไตย และอยากเห็นการจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด"

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายกรัฐมนตรี กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หลังมีการท้วงติงโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและไต่สวน แต่ยืนยันว่านโยบายการรับจำนำข้าวนั้น รัฐบาลมีเจตนาช่วยชาวนาผู้มีรายได้น้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการไต่สวน ก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนก่อน

เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะเกิดสงครามกลางเมือง และนำไปสู่การปฏิวัติ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อยากให้คนไทยคำนึงถึงเรื่องดังกล่าว และช่วยกันรักษาบรรยากาศ ถ้ามีการปฏิวัติก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร รัฐบาลทำได้ดีที่สุดคือการรักษาความสงบ โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ห้ามใช้กำลังกับผู้ชุมนุม และไม่ให้มีการใช้อาวุธ เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย

เมื่อถามว่าขณะนี้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะปรึกษาใคร และมีการปรึกษากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นพี่ชายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ แต่มีการปรึกษากับทีมรองนายกรัฐมนตรีที่ทำงานอยู่ร่วมกันในขณะนี้ และฝ่ายความมั่นคง "ไม่ได้ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณเลย"