นายพุฒิกรณ์ เตชะพิสุทธิกุล เจ้าของร้านอาหารไทยในเท็กซัส จัดแถลงข่าวของแก๊งค์ 18 มงกุฏในแอล.เอ. หลอกขายพระเครื่องปลอม ทำให้สูญเงินไปกว่า 2 แสนเหรียญ
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 เวลา 14.00 น. นายพุฒิกรณ์ เตชะพิสุทธิกุล ได้เปิดแถลงข่าว ที่ร้านอาหารแก๊งค์หมูกรอบ ถึงการหลอกลวงของ 18 มงกุฎแอล.เอ. หลอกขายพระเครื่องให้กับตน กว่า 300 ร้ององค์ ทำให้ต้องสูญเงินกว่า 2 แสนเหรียญ
เขากล่าวว่า ตัวของเขามีอาชีพทำกิจการร้านอาหารไทย อยู่ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ต่อมาได้รู้จักเซียนพระเครื่องคนหนึ่ง โดยไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว โดยที่ตนได้มาเที่ยวไทยทาวน์แอล.เอ. เมื่อปี 2555 จึงได้รู้จักกับเซียนพระผู้นี้ โดยเซียนพระผู้นี้ประกอบธุรกิจรับจ้างดูดวง ดูลายมือ และโหวงเฮ้ง อยู่ในศูนย์พระแห่งนั้นด้วย ตามความจริง นายพุฒิกรณ์ เคยเห็นเซียนพระผู้นี้มาบ้างแล้วผ่านรายการพระเครื่องทางทีวี
และในวันนั้นเอง เซียนพระผู้นี้ได้พยายามพูดโฆษณาชวนเชื่อให้ นายพุฒิกรณ์ร่วมลงทุนทำธุรกิจซื้อขายพระเครื่อง พระบูชา และวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อนำกลับไปขายที่ประเทศไทย ในลักษณะที่ว่าตนเป็นผู้ซื้อ และเซียนพระเป็นคนหาพระมาปล่อยให้ตนเช่าต่อ นายพุฒิกรณ์หลงเชื่อ และได้ทำการเช่าพระในงวดแรก 6,250 เหรียญ แต่มีเงินสดเพียง 2,500 เหรียญ จึงเจรจา จะโอนเงินส่วนที่เหลือให้หลังจากถึงเท็กซัสแล้ว ส่วนเซียนพระผู้นี้ก็ตอบตกลง และไม่ท่าทีกังวลว่าตนจะไม่จ่ายเงินแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นในสายตาของตน เลยตกลงทำธุรกิจซื้อขายพระเครื่องร่วมกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจากนั้นในระยะเวลา 6-7 เดือน ก็ได้มีการทำการค้าขายระหว่างกันจน นายพุฒิกรณ์ สะสมพระจากเซียนพระผู้นี้ได้ 2-3 ร้อยองค์ โดยได้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารให้ก่อนที่พระจะถูกขนส่งมาให้ โดยได้โอนเงินผ่านหลายบัญชี ที่เป็นพวกพ้องเดียวกันกับเซียนพระผู้นี้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายพุฒิกรณ์ ไม่ได้ทำการตรวจสอบพระเลย จนเมื่อประมาณปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2556 เห็นว่าควรนำพระทั้งหมดกลับเมืองไทย พร้อมกับภรรยา เมื่อนำพระเครื่องทั้งหมดไปตามศูนย์พระเครื่องต่างๆ ในกรุงเทพฯ ปรากฎว่าศูนย์พระดังทุกที่ต่างยืนยันว่าเกือบทั้งหมดเป็นของปลอม
“ผมตกใจแทบช๊อกแต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียวจึงนำพระเหล่านั้นไปขอคำแนะนำจากผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายๆ ท่าน รวมทั้ง พยัพ คำพันธ์ นายกสมาคมและประธานชมรมพระเครื่องแห่งประเทศไทย ก็ยืนยันกลับมาว่าไม่ใช่พระแท้ เป็นพระปลอมทำเลียนแบบผมคิดได้ทันทีว่าถูกหลอกแน่”
จากนั้นเมื่อเดินทางกลับมาจากประเทศไทย นายพุฒิกรณ์จึงได้นำพระเครื่องทั้งหมดไปพบกับเซียนพระผู้นั้น และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง พร้อมทั้งขอคืนเงินทั้งหมด แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงว่าไม่มีเงิน และได้ยื่นข้อเสนอใหม่ให้ตนมอบพระเครื่องทั้งหมดไว้ และเขาจะพยายามช่วยขายให้ โดยจะนำพระเหล่านี้ไปขายผ่านรายการพระเครื่อง ทางช่องลาว-ไทย ยูเอสทีวี ซึ่งทำร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง “ผมต้องจำใจยอม เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ไม่มีทางเลือก” หลังจากนั้นจึงได้ติดตามดูรายการทีวีดังกล่าว และหลายครั้งเห็นว่าพระเครื่องเหล่านั้นได้ถูกขายไปในราคาสูง จึงได้ติดต่อกับเซียนพระผู้นี้เพื่อถวงเงินคืนอีกครั้ง แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนในที่สุดจึงทิ้งงานที่ทำอยู่ที่เท็กซัส มาที่แอล.เอ. เพื่อมาถวงเงินโดยตรงโดยบอกว่า ไม่ต้องการเงินทั้งหมดคืน แต่ขอเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะตอนนี้ตนเองก็เดือดร้อนหนักเกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่ก็ถูกปฏิเสธ พร้อมท้าให้ทำการฟ้องร้องเอาเอง
ส่วนตัวเชื่อว่าพวกนี้ทำงานเป็นแก๊งค์ เพราะได้ติดต่อกับเจ้าของบัญชีที่โอนเงินให้ก็ได้รับการปฏิเสธทั้งหมด และมีอีกหลายๆ รายที่ต้องเสียเงินเรือนหมื่นในการหลอกลวงลักษณะเดียวกัน แต่ไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง เพราะอาย และกลัวคนประนามว่าโง่ให้คนพวกนี้มาหลอก
อย่างไรก็ตามตนได้ดำเนินการติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับแก๊งค์หลอกลวงนี้ แต่ตีแผ่ความจริงให้คนไทยได้ทราบ และไม่ถูกหลอกอีกต่อไป
โดยนายพุฒิกรณ์ ได้ทำการร้องทุกข์ผ่านศูนย์ส่งเสริมชาวไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยศูนย์ฯ จะเป็นตัวกลางประสานงานกับหน่วยงานของสหรัฐฯ และได้บันทึกถ่ายสำเนาหลักฐานทั้งหมด ติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีใหญ่ และยังได้ส่งเรื่องผ่านไปยังหน่วยงานเอฟบีไอด้วย
สำหรับผู้ที่คิดว่าตนเคยตกเป็นเหยื่อแก๊งค์นี้มาก่อน หรืออาจกำลังตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งความประสงค์ร่วมลงชื่อฟ้องร้องดำเนินคดีได้ที่ 713-584-5299 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงาน “ไทยนิวเยียร์ : สงกรานต์เฟสติวัล” และกรรมการประสานงานฝ่ายประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดงาน “ไทยนิวเยียร์ 2014 : สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 11” วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557 ซึ่งปิดถนนฮอลลีวูด ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อโปรโมทชุมชนไทย ประเทศไทย วัฒนธรรมไทย สินค้าไทยและการท่องเที่ยวไทย ยังคงได้รับความสนใจากชาวไทยในสหรัฐอเมริกาและที่ประเทศไทย สำหรับปีนี้คณะกรรมการประสานงานฝ่ายประเทศไทย ได้เชิญดาราศิลปินชายชื่อดัง 2 คน มาร่วมงาน ได้แก่ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ จากค่ายอาร์เอสฯ มีผลงานเป็นนักร้องชื่อดังและพระเอกละครโทรทัศน์ และ บอย-พิษณุ นิ่มสกุล หรือ บอย AF2 เป็นทั้งนักร้องและดาราละครโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมจากแฟนละครทั้งในและต่างประเทศ จะมาสร้างสีสันให้แฟนเพลงในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร ได้นำคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) รวม 20 คน พร้อมสื่อมวลชนไทยหนังสือพิมพ์และโทรัทศน์อีก 4 คน มาร่วมฉลองครบรอบ 1 ปี การลงนามสภามิตรภาพระหว่างสภา กทม. กับสภาเทศบาลนครลอสแอนเจลิส โดยเข้าร่วมขบวนพาเหรด การจัดนิทรรศการความสัมพันธ์ และสนับสนุนกิจกรรมเวทีการแสดงใหญ่ เพื่อให้งานยิ่งใหญ่อลังการ “คุณพิพัฒน์ ฝากบอกมาถึงชาวไทยในสหรัฐฯว่า ทางสภา กทม.ได้ลงนามความสัมพันธ์สภามิตรภาพกับสภาเทศบาลนครลอสแอนเจลิสมาครบ 1 ปีพอดี
จึงได้นำคณะ สก.มาร่วมกระชับความสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมมาร่วมสนับสนุนให้งานไทยนิวเยียร์ ยิ่งใหญ่ จะได้ช่วยกันโปรโมทประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน จะได้ไปเที่ยวเมืองไทยกันมากขึ้น” นายดำฤทธิ์กล่าว
นายดำฤทธิ์ เปิดเผยอีกว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงนามคำสั่งก่อนหน้าที่จะหยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากศาลอุทธรณ์รับคำร้องที่ กกต.แจกใบเหลือง ให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. จัดการแสดงและกิจกรรมมาร่วมโปรโมทกรุงเทพมหานคร เมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก ในงาน“ไทยนิวเยียร์ : สงกรานต์เฟสติวัล”ด้วยโดยนำวง“บอยไทย” วงดนตรีร่วมสมัยระหว่างเครื่องดนตรีไทยและดนตรีสากล ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก นำโดยนางอัมพร จักกะพาก มาบรรเลงในงานให้ฟังกันอย่างเต็มอิ่ม และยังมีคณะคีตศิลป์ของ กทม. มาร่วมโชว์การแสดงอย่างยิ่งใหญ่ที่เวทีวัฒนธรรม มีทั้งวงโปงลาง รำ ฟ้อน เซิ้ง รวม 18 ชุด มาแสดงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง
“เดิมทีท่านผู้ว่าฯสุขุมพันธ์ ตั้งใจสนับสนุนการจัดงานไทยนิวเยียร์อย่างเต็มที่ เพราะได้ทราบรายละเอียดของงานจาก สุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง และ ศรีวงษ์ อาญาสิทธิ์เมื่อคราวนพโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ไปเยี่ยมคารวะ และจะมาร่วมงานด้วยตนเอง แต่เนื่องจากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอคำตัดสินของศาลอุทธรณ์กรณี กกต.ให้ใบเหลืองในการเลือกตั้ง จึงไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่มี นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม. เป็นหัวหน้าคณะมาแทน พร้อมด้วย นายมานิตย์ เตชอภิโชค รองปลัด กทม. และ นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้ช่วยปลัด กทม.โดยทาง กทม. จะมาจัดบูธประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับรางวัลเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 3 ปีซ้อนด้วย”นายดำฤทธิ์ กล่าว
ด้าน ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ พระเอกและศิลปินชื่อดัง กล่าวถึงความรู้สึกในการมาร่วมงานไทยนิวเยียร์ฯว่า
ตั้งใจจะมาร่วมงานตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ช่วงนั้นติดถ่ายละครเรื่องผู้ชนะสิบทิศและอีกหลายเรื่อง ต่อเร่งถ่ายให้ทันออกอากาศ ผู้จัดจึงไม่สามารถเคลียร์คิวให้ได้ พอถ่ายเสร็จก็ล็อกคิวไว้แล้วว่าช่วงปลายเดือนมีนาคมและต้นเดือนเมษายน
จะไม่รับงาน เพื่อจะมาร่วมงานครั้งนี้ และขอขอบคุณคณะกรรมการที่เชิญมาร่วมงาน
ส่วน บอย-พิษณุ นิ่มสกุล เปิดเผยว่า พี่ดำฤทธิ์เชิญมาตั้งแต่ปีที่แล้วอยากมามาก เพราะติดตามข่าวงานไทยนิวเยียร์ฯ มาตลอด ตื่นเต้นที่ปิดถนนฮอลลีวูดจัดงานโปรโมทประเทศไทยได้ แต่ติดถ่ายละครซึ่งกำลังออกอากาศทางช่อง 3 จึงเคลียร์คิวร่วมงานไม่ได้ “บอยอยากมาร่วมงานมาก จึงล็อกคิวไว้เลยล่วงหน้าเป็นปี และบอกพี่ดำฤทธิ์ว่าบอยอยากมา อย่าลืมบอยนะ พี่เขาก็บอกว่าคณะกรรมการโอเคแล้ว ดีใจที่จะได้มาพบกับแฟนเพลงและแฟนละครในสหรัฐอเมริกา” บอย-พิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟิล์ม-รัฐภูมิ ได้เดินทางถึงสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม โดยเดินทางมาก่อนล่วงหน้า เพื่อพาพ่อแม่มาเที่ยวสหรัฐอเมริกาเพราะยังไม่เคยมาเลย และถือโอกาสพบแฟนเพลงต่างรัฐด้วย จากนั้นวันที่ 3 เมษายน จึงเดินทางกลับมาเข้าโปรแกรมของคณะกรรมการ“ไทยนิวเยียร์ฯ” ส่วนคณะของนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภา กทม. และนายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่า กทม.พร้อมคณะ รวมทั้งบอย-พิษณุ กำหนดเดินทางถึงนครลอสแอนเจลิส เย็นวันที่ 3 เมษายน โดยสายการบินไทย
สำหรับโปรแกรมในนครลอสแอนเจลิสของฟิล์ม-รัฐภูมิ และบอย-พิษณุ วันที่ 4 เมษายน ไปเที่ยวยูนิเวอร์แซล
เพื่อถ่ายทำรายการโทรทัศน์ด้วย และค่ำไปออกรายการโทรทัศน์ที่ช่องแนททีวี ประชาสัมพันธ์งานไทยนิวเยียร์ฯ วันที่ 5 เมษายน เวลา 10.30-11.30 น. ไปเยี่ยมวัดไทยนครลอสแอนเจลิส ชมการเรียนการสอนโรงเรียนพุทธศาสนาและพบปะเยาวชนไทย เที่ยงไปสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ประชาสัมพันธ์งานไทยนิวเยียร์ฯ จากนั้นเย็นไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านพัก กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส วันที่ 6 เมษายน ร่วมการแสดงในงานไทยนิวเยียร์ฯ ทั้งวัน วันที่ 7 เมษายน ไปทัศนศึกษา และถ่ายทำรายการโทรทัศน์ วันที่ 8 เมษายน พักผ่อน ก่อนเดินทางกลับช่วงค่ำ
การจัดงาน “ไทยนิวเยียร์ 2014: สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 11” ปีนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส, เทศบาลนครลอสแอนเจลิส, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บมจ. การบินไทย, สภากรุงเทพมหานคร, กรุงเทพมหานคร, หน่วยงานทีมประเทศไทย, สมาคม ชมรม ชุมชนไทย, บริษัท
กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด, บริษัทเฉาก๊วยชากังราวตราเพชร และอีกหลายองค์กร
หลายปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์พยายามผลักดันให้รัฐแคลิฟอร์เนียมีระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับการเกิดแผ่นดินไหว อย่างเช่นในประเทศญี่ปุ่นหรือ เม็กซิโก หลังจากที่ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริกเตอร์ในเมือง La Habra รัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.2 ริกเตอร์ที่ประเทศ Chile ในวันอังคารที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดต่อเนื่องในอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ารัฐแคลิฟอร์เนียควรนำระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าทางออนไลน์มาใช้ในทันที
เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ระบบเตือนภัยที่ได้ทำการประดิษฐ์คิดค้นมานานนับปีที่ Caltech จะทำงานในทันทีและเตือนประชาชน เป็นเวลาถึง1นาที ก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนหลังจากแผ่นดินไหวได้เริ่มขึ้น นักวิทยาศาสตร์สามารถทำการบันทึกได้อย่างรวดเร็วและประเมินออกมาว่าจะมีการเกิดแผ่นดินไหวแรงมากขนาดที่จะส่งคำเตือนออกไปหรือไม่
ระบบสามารถแจ้งให้ทราบก่อนเป็นเวลาจาก 1 วินาที ถึง 1 นาที ขึ้นอยู่กับระยะใกล้หรือไกลจากแรงสั่นสะเทือน ถึงแม้ระบบจะสามารถเตือนก่อนไม่นานนัก แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังเชื่อว่าระบบเตือนภัยมีความสำคัญ และมันจะสามารถช่วยชีวิตและที่อยู่อาศัยได้มากมาย มันจะช่วยให้คนมีเวลาพอที่จะปิดไฟฟ้าในบ้านและหาที่หลบภัย
เราอาจเคยได้ยินหรือได้เห็นประโยชน์ของระบบเตือนภัยล่วงหน้าแล้วในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาสามารถหยุดรถไฟฟ้าความเร็วสูงและได้แจ้งเตือนประชาชนได้ทันเวลา นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ถ้าถามคนในรัฐแคลิฟอร์เนียว่าจะยอมจ่ายเงินไม่กี่ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อรับระบบเตือนภัยนี้ไหม? เราว่าพวกเค้ายินดีที่จะจ่าย
แต่ระบบก็ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากขาดทุนและขาดทรัพยากรในการพัฒนาเพิ่มเติม ในวันพฤหัสบดีตัวแทนสภาคองเกรสจะนำจดหมายไปยื่นให้แก่คณะกรรมการจัดสรรเงินงบประมาณ เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาสนับสนุนกองทุนเพื่อพัฒนาระบบเตือนภัยการเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้า และจะต้องการเงินเป็นจำนวน 16 ล้านดอลล่าร์ต่อปี ในการดำเนินงาน แต่ทั้งนี้นับว่าคุ้มถ้าระบบจะช่วยชีวิตและทรัพยากรอื่นๆอย่างมากมาย
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ร่วมกับ Los Angeles City College (LACC) เปิดหลักสูตรการสอนมวยไทย (Muay Thai Program) ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อส่งเสริม และเผยแพร่ภูมิปัญญาด้านศิลปะการต่อสู้ของไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์มวยไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยหลักสูตรสอนมวยไทยนี้จะมีขึ้นทุกวันเสาร์ เวลา 11.00 – 13.00 น. ระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 28 มิถุนายน 2557 รวมเวลาทั้งหมด 10 สัปดาห์ ที่ LACC 855 N. Vermont Avenue, Los Angeles, CA 90029 ผู้ที่สมัครเรียน 20 รายแรก จะได้รับของสมนาคุณเป็นกางเกงมวยไทยและนวมมวยไทยจากสถานกงสุลใหญ่ฯ
ผู้ที่สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้ทางเว็บไซต์ www.lacitycollege.edu หรือ communityservices.lacitycollege.edu และหมายเลขโทรศัพท์ (323) 953- 4000 ต่อ 2651