ข่าว
แอลลี่เปิดใจเรื่องฝ้าย ฟิตหุ่นชิง"มิสยูนิเวิร์ส"

ปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ภายหลังการประกาศสละตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557 ของ น้องฝ้าย น.ส.เวฬุรีย์ ดิษยบุตร หลังถูกกระแสโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กตรวจสอบพบการโพสต์ถ้อยคำไม่สุภาพและภาพหลุดในอดีต

น้องแอลลี่ น.ส.พิมบงกช จันทร์แก้ว รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557 ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่แทนตามกฎของกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรกถึงกรณีดังกล่าว ภายหลังเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปี นิตยสาร Wow MagaZine Society นิตยสาร 2 ภาษาไทย-ลาว ที่ชั้น 1 ลานสีสัน ห้างซีคอน บางแค ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนจำนวนมาก

"รับงานครั้งแรกค่ะหลังจากได้รับตำแหน่งในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มีโอกาสมาเดินแบบ สนุกดีค่ะ ชื่นชอบการเดินแบบอยู่แล้ว แต่ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะไม่เคยทำมาก่อน" น้องแอลลี่ลุกส์ใหม่ในชุดขาวสวยหรูฟูฟ่องเกริ่นนำ

ก่อนเล่าต่อว่า ตอนนี้เตรียมตัวเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์สช่วง ปลายปี โดยต้องออกกำลังกายให้หุ่นดีและเฟิร์ม รวมทั้งเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการซิตอัพเพื่อให้มีซิกซ์แพ็ก แต่ละวันไม่ได้จำกัดเวลา เป็นการออกกำลังกายเรื่อยๆ รวมทั้งฝึกเดินและโพสท่าต่างๆ ต้องพัฒนายิ่งกว่าเดิม เพราะได้เห็นสาวงามจากประเทศอื่นหุ่นดีกันมาก จึงอยากให้ทุกอย่างดีพร้อม มีเคล็ดลับการดูแลตัวเองคือการกินมังสวิรัติซึ่งทำมาตั้งแต่เด็ก หากอยากกินเนื้อก็จะเลี่ยงไปเป็นเต้าหู้หรือถั่วแทน

"ดีใจค่ะที่ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ตอนนี้ไม่รู้สึกกดดันอะไร เตรียมโชว์ความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติได้เห็น อยากแสดงมารยาทไทยโดยเฉพาะการไหว้บนเวทีให้คนต่างชาติได้รู้ว่าเป็นคนไทย จะทำเต็มที่ให้ออกมาดีที่สุดในการเป็นตัวแทนประเทศไทยค่ะ"

สำหรับกรณี น้องฝ้าย เวฬุรีย์ ดิษยบุตร มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2557 สละตำแหน่ง แอลลี่บอกว่า "ยังไม่มีโอกาสคุยกัน ตอนแรกไม่ได้ดีใจที่พี่ฝ้ายสละตำแหน่ง ตอนนั้นรู้สึกช็อกมากและเสียใจ ที่เพื่อนร้องไห้และกดดัน อยากให้พี่ฝ้ายไม่กดดัน อยากให้ตามความฝันของตัวเองและไม่อยากให้คนอื่นกดดันและว่าเขา เพราะพี่เขาเป็นคนดี น่ารัก การมาปฏิบัติหน้าที่แทนก็รู้สึกกดดันนิดหน่อยค่ะ"

ส่วนภาพหลุดที่เป็นรูปคู่กับชายหนุ่ม แอลลี่กล่าวว่าได้เห็นแล้วและเป็นตัวเองจริง แต่เป็นภาพหลุดจากเพื่อน คนในภาพก็เป็นเพื่อนกัน ตอนแรกที่เห็นรู้สึกตกใจ ทางผู้ใหญ่บอกว่าอย่าให้มีภาพแบบนี้อีก ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง

เมื่อถามว่าถ้ามีการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวมากกว่านี้กลัวหรือไม่ "หนูไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ค่ะ" แอลลี่ยืนยันพร้อมขอบคุณกำลังใจจากทุกคนที่ช่วยเชียร์และเป็นกำลังใจให้มาตลอด

"และขอให้เป็นกำลังใจในการประกวดมิสยูนิเวิร์สด้วยค่ะ อยากบอกถึงสาวงามทุกคนด้วยว่าทุกคนมีชีวิต ทุกคนมีความฝัน ไม่ว่าเราจะมีเวลาแค่ไหน เราต้องพยายามตามความฝันให้ได้"

"น้องตั๊น จิตภัสร์”งานเข้า 2 อ.ไม่ร่วมพิธีรับปริญญา

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. โซเชียลมีเดียหรือสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์ข้อความพร้อมภาพของ ดร.จักกริช สังขมณี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผศ.ดร.ณัฐนันท์ คุณมาศ อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำนองว่า จะไม่ขอร่วมพิธีดูแลศิษย์ รับพระราชทานปริญญาบัตร ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความเห็นแย้งไม่ต้องการให้ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น หนึ่งในแนวร่วมคนสำคัญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เป็นตัวแทน บัณฑิตเพื่อกล่าวคำถวายปฏิญาณในพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค. นี้ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

โดย ดร.จักกริช โพสต์ข้อความว่า ในฐานะที่ตนได้รับคำสั่งจากมหาวิทยาลัยให้เป็นผู้ดูแลการฝึกซ้อมบัณฑิตรับพระราชทานปริญญาบัตรมาหลายปี แต่ปีนี้ตัดสินใจไม่ขอเข้าร่วมพิธี หากแต่จะช่วยจัดแถวและส่งบัณฑิตเข้าที่ประชุม เนื่องจากไม่เห็นด้วยต่อกระบวนการคัดเลือกผู้แทนบัณฑิตเพื่อกล่าวคำถวายปฏิญาณในพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค.

ทั้งนี้ผู้ได้รับคัดเลือกเป็นบุคคลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งและมีบทบาทในการก่อความขัดแย้งทางการเมือง เป็นผู้ต้องคดีทางการเมืองซึ่งยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดี ที่สำคัญคือเป็นผู้ที่เคยแสดงออกถึงการไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผู้แทนบัณฑิตดังกล่าวน่าจะหมายถึง น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น หนึ่งในแนวร่วมคนสำคัญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)

ตนเป็นนักมานุษยวิทยา วิชามานุษยวิทยาได้สอนให้เคารพเพื่อนมนุษย์ ไม่ยกตนข่มท่าน และเอาฐานะทางสังคมที่สูงกว่าดูถูกลิดรอนสิทธิของคนอื่น ตนจะทรยศต่อวิชาและไปชื่นชมกับผู้แทนบัณฑิตซึ่งเคยแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่าดูถูกคนต่างจังหวัดและผู้ที่มีการศึกษาต่ำกว่าตนได้อย่างไร

ส่วน ผศ.ดร.ณัฐนันท์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยเหตุผลไม่เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งนี้ในทำนองเดียวกัน พร้อมระบุว่าการคัดเลือกบุคคลดังกล่าวไม่สะท้อนความพยายามของมหาวิทยาลัยในการดำรงตนในฐานะของเสาหลักของแผ่นดินในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองในขณะนี้

ด้าน นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ชี้แจงกรณีที่ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ได้รับหน้าที่กล่าวคำปฏิญาณว่า กระบวนการคัดเลือกเป็นการดำเนินการของกรรมการบัณฑิตปีการศึกษา 2556 ที่จะไปพิจารณาคัดเลือกกันไม่ได้เป็นการตัดสินใจหรือการเลือกของอธิการบดีเอง ส่วนหลักเกณฑ์การคัดเลือกตนไม่ทราบ สำหรับกระแสคัดค้านนั้นส่วนตัวเห็นว่า เป็นสิ่งที่มีความเห็นได้.


หนุ่มเดือดจับได้แฟนสาว คบชู้สู่ไลน์กับนักข่าวชื่อดัง

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. บนเว็บไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดัง "พันทิป ดอทคอม" ได้มีหนุ่มปริศนาตั้งกระทู้ชื่อว่า “เมื่อแฟนผมนัดเล่นชู้กับนักข่าวใน Line” โดยข้อความในกระทู้ได้ระบายความอัดอั้นตันใจว่า ตนเพิ่งจับได้ว่าแฟนสาวของตัวเองแอบเป็นชู้กับนักข่าวชื่อดังคนหนึ่งที่ตนเคยชื่นชม โดยสาเหตุที่ทราบเนื่องจากโทรศัพท์ของแฟนมีปัญหาเปิดไม่ติด จึงอาสาจะเอาโทรศัพท์ไปซ่อมที่ศูนย์ให้ แต่ปรากฎว่าเมื่อไปถึงศูนย์โทรศัพท์กลับเปิดติดขึ้นมา และพบว่ามีการแอปพลิเคชั่นไลน์ค้างอยู่ จึงพบข้อความที่แฟนสาวแชทไลน์คุยกับชายคนหนึ่งซึ่งเป็นนักข่าวชื่อดัง และมีข้อความเชิงเพศและมีการนัดเล่นชู้กัน อีกทั้งมีการส่งภาพลามกให้ดูด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยว่า นักข่าวฉาวที่แชทกับหญิงสาวคนดังกล่าวคือใคร ขณะที่ชาวสังคมออนไลน์พยายามขุดคุ้ยหาหลักฐานเพื่อออกมาแฉพฤติกรรมของนักข่าวหื่นรายนี้

วันเดียวกัน นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Kanok Ratwongsakul" ว่า เป็นอีกครั้งที่มีเรื่องฉาวคาวโลกีย์ เกี่ยวพันมาถึงตัวผม แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกเฉยๆนะ เมื่อมีเพื่อนๆส่งมาให้อ่านจากพันทิพ ว่าผมไปเป็น "ชู้กับแฟนเขาทางไลน์" ผมตามเข้าไปอ่าน เขาทำเบลอที่รูป profile ซึ่งรู้ว่าเป็นผม เพราะมีคนเอาไปลงเต็มๆในคอมเมนท์ต่อมา เนื้อหาเป็นการคุยลามก ด้วยถ้อยคำที่หยาบตรงมาก และฝ่ายหญิงก็เหมือนจะนัดเจอกับ นักข่าว แต่ดูเหมือนยังไม่ได้เจอครับ ตอนแรกผมเข้าไปอ่าน เพราะอยากรู้ว่า ตกลงตัวเราได้ไปนัดเจอกับแฟนชาวบ้านจริงหรือวะ!?! ก็มีเท่านี้เองครับ ไม่มีภาพ (ผมกับผู้หญิง) ไม่มีคลิป ไม่มีอะไรนอกจากฝ่ายชายแสดงความคับแค้นว่า "แฟนมีชู้ทางไลน์กับนักข่าว" แล้วมันก็เป็นผม!!! ความจริงหน้าตาผมก็ไม่หล่อเลยนะ แต่ทำไมต้องเอาเรื่องพรรค์อย่างนี้มาใส่ให้ตลอด ทำไมไม่ลือกันเรื่องอื่นบ้าง...เช่น กนกกำลังสืบว่าบ้านจันทร์ส่องโลกมีเส้นทางใต้ดินจริงมั๊ย? นายดูไบร่วมกับสื่อ ฟอกเงินผ่านบริษัทยักษ์ใหญ่หรือเปล่า...ใส่ความกัน ด้วยเรื่องเหนือสะดือบ้างสิครับ ^^

แล้วถ้าฝ่ายชายบอกว่าเหตุเกิดคืนวันที่ 24 มิ.ย. ผมว่าตอนนั้น..ผมกำลังดูซัวเรซ แทะไหล่กองหลังอิตาลีอยู่นะ หรือไม่ช่วงนั้น ก็เป็นช่วงปั้นเรื่องขำขันให้คึกคักยามดึก อย่างที่ผมทำทุกคืน ไม่น่าใช่ช่วงคบชู้สู่ไลน์ ทีมงานผมได้แคปหน้ากระทู้ในพันทิพไว้แล้ว ก่อนจะลบ แต่ฝ่ายชายก็มาเปิดอีกกระทู้ ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เคยชื่นชมผม แถมยังเคยเจอผมอีกด้วย ถ้างั้นผมขอสื่อสารไปถึงตัวเขาเลยว่า ให้ติดต่อผมมาโดยตรงสิครับ ส่งมาทางข้อความในเฟซบุ๊ค แสดงตัวตนออกมาที่ผมเลย อย่าไปโหมประโคมทางพันทิพ เหมือนเจตนาจะดิสเครดิต สิ่งที่คุณทำ..ผมดำเนินคดีคุณได้ แม้พันทิพจะลบกระทู้ไปแล้วก็ตาม ปล. ผมไม่ได้ใช้รูปใส่สูทตามที่ปรากฏในกระทู้คุณแล้วนะครับ รูปใหม่วัยรุ่นกว่าเก่า.


เตือนกลุ่มต้าน"ปู" ห้ามเลี้ยงระดมทุน

เมื่อเวลา 20.40 น. วันที่ 27 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยตอนหนึ่งว่าเรามีแผนดำเนินการแบ่งเป็นระยะ โดยระยะแรก แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าดำเนินการในห้วง 3 เดือน รวมถึงการเตรียมการปฏิรูปเพื่อเข้าสู่การปรองดอง สมานฉันท์ และการปฏิรูปในระยะที่สอง ในขั้นนี้เราจะดำเนินการเมื่อมีรัฐบาล สภานิติบัญญัติ และสภาปฏิรูป และระยะ 3 ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว หลังจากการเลือกตั้งจะนำปัญหาจากระยะที่ 1 และ 2 ไปสู่ระยะที่ 3 ปัญหาใดที่ยังไม่เสร็จ ต้องไปดำเนินการให้ต่อเนื่อง และแก้ไขโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้การปฏิรูปที่เราทำมาทั้ง 2 ระยะนั้น มีความสมบูรณ์เพื่อประโยชน์สุขของคนทุกกลุ่ม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับท่าทีของที่ประชุมคณะมนตรีต่างประเทศของอียูหรือสหรัฐ ตนได้เรียนให้ทราบถึงปัญหาของเราคืออะไร การเป็นประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์นักจะเป็นอันตรายต่อทั้งเราและเขาด้วย เราพยายามเต็มที่ที่จะทำตามที่สังคมโลกจับตามองอยู่ให้ดีที่สุด วันนี้เราจะปฏิรูปให้ได้โดยเร็ว ทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ หวังว่าอียูหรือสหรัฐ จะเข้าใจเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่เข้าใจสถานการณ์ดี และพอใจการแก้ปัญหาของพวกเรา

หัวหน้าคสช. กล่าวว่า สื่อต่างๆ ต้องระมัดระวังการลงข่าวสาร ต้องถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อนว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไร ถ้าเขียนไปเอง จินตนาการไปเองจะเสียหายในอนาคต เพราะการพูดจาของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในอดีต ซึ่งอ้างถึงหัวหน้าคสช. ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

ในระหว่างนั้น 6 เดือนที่ผ่านมา ตนมีบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อย บังคับใช้กฎหมายและปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลขณะนั้น ไม่ได้ไปร่วมคิดร่วมปฏิบัติกับฝ่ายใดทั้งสิ้น ตนจะไม่ทำให้กองทัพเสียหาย ขอห้ามไว้ตรงนี้ว่าห้ามการจัดงาน เช่น จัดพูดคุยทางการเมือง รับประทานอาหารระดมทุนไม่ว่าจะช่วยเหลือใคร สิ่งนี้ยังไม่ถึงเวลา ถ้ามีการระดมได้เมื่อไร พูดคุยได้เมื่อไหร่ อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องมา กลับไปสู่วงจรเก่าๆ อีก ขอความร่วมมืออย่าทำอีก

"ถ้าอยากพูดคุยต้องไปคุยที่บ้านเงียบๆ สองคน จัดชุมนุมหรือจัดงานเลี้ยงข้างนอกไม่ได้ เพราะผิดกฎอัยการศึก ถ้าทำอีกจะถูกเรียกตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี ฐานะผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. สื่อต้องพิจารณาตรวจสอบให้ดีก่อนลงข่าว ต้องตรวจสอบกับคสช. ก่อน"Ž พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า การปฏิบัติต่อผู้เห็นต่างหรือการชุมนุมอื่น คสช.จะใช้มาตรการที่ละมุนละม่อม วันนี้เชิญนิสิต นักศึกษาที่ยังขัดแย้ง ยังมีความเห็นไม่ตรงมาพบเพื่อทำความเข้าใจ วันนี้ดีขึ้นแล้ว เราไม่ต้องการให้บังคับการใช้กฎหมายอย่างรุนแรง ช่วงนี้ขอให้อดทนไปก่อน

หัวหน้าคสช. กล่าวว่า ระยะที่ 1 มองกลับไปวันที่ 22 พ.ค.ถึงวันนี้นับได้ 37 วัน ได้ดำเนินการคู่ขนานการแก้ปัญหา นั่นคือสิ่งที่เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ได้จัดทำรัฐธรรมนูญเพื่อใช้บริหารประเทศตามหลักนิติรัฐ เพื่อให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศในทุกด้าน และนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ยึดถือข้อเสนอแนะของสภาปฏิรูปแห่งชาติเป็นหลักการสำคัญ ซึ่งการยกร่างธรรมนูญฉบับชั่วคราวนั้น ได้จัดทำเสร็จสิ้นแล้วและผ่านการพิจารณาตรวจแก้โดยผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายอยู่ และสัปดาห์หน้า คสช.จะพิจารณาว่าต้องแก้ไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ จะดำเนินการให้รวดเร็ว นำร่างธรรมนูญฉบับชั่วคราวขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ให้มีผลบังคับใช้ภายในเดือน ก.ค.นี้ นี่คือขั้นตอนการจัดทำธรรมนูญฉบับชั่วคราว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ระยะต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาอีก 1 เดือนหรือเกินกว่านั้นเล็กน้อยในการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในเดือนก.ย.นี้ ส่วนสภาปฏิรูปแห่งชาติ ต้องใช้กระบวนการสรรหาเพื่อให้ได้ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีประสบการณ์จากทุกภาคส่วน ทุกจังหวัด มาเป็นสมาชิก จึงต้องใช้เวลา 2 เดือน นับแต่วันประกาศใช้ธรรมนูญฉบับชั่วคราว คาดว่าสภาปฏิรูปแห่งชาติจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ในต้นเดือนต.ค.นี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การปฏิรูปโดยสภาปฏิรูปฯนั้น ธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดให้ปฏิรูปในทุกด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม พลังงาน กระบวนการยุติธรรม และอื่นๆ โดยสภาปฏิรูปฯจะจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรให้เสร็จ ใช้เวลาปฏิรูประยะที่ 2 ประมาณ 10 เดือน ใช้เวลาจัดตั้ง 2 เดือน หลังจากวันที่สภาปฏิรูปฯปฏิบัติหน้าที่ ทั้งหมดคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 12 เดือน นับจากวันประกาศใช้ธรรมนูญฉบับชั่วคราว คือเดือนก.ค. 2558

ระยะที่ 3 เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับถาวรมีผลบังคับใช้ ถือได้ว่าประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยสมบูรณ์ ถึงแม้คณะรัฐบาลของ คสช. จะต้องใช้เวลาอีก 3 เดือนจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา แต่ถือเป็นการบริหารประเทศในกรอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิรูปประเทศไทยในทุกด้าน และคสช.ต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญฉบับถาวร เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นระบบการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่การเมืองที่มีแต่ความขัดแย้ง ทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2558 จะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยสมบูรณ์

ให้ 3 องค์กรระดมสมองชงปฏิรูป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การปรับปรุงระบบข้าราชการ ศาล กระบวนการยุติธรรม เรื่องอยู่ในสภาปฏิรูป จะเร่งดำเนินการในระยะที่ 1 เรื่องอะไรที่ต้องแถลง ต้องทำความเข้าใจ อยู่ในระยะเวลา 1 ปี ในช่วงปฏิรูป 10 เดือน และ 12 เดือนในระยะที่ 2 ทั้งนี้ เรื่องปฏิรูปได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องหลัก ซึ่งได้สั่งการเพิ่มเติมในส่วนของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป(ศปป.)ว่า นอกจากนำคน นำคู่ขัดแย้ง หรือใครที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกันแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ ให้นำ 3 เรื่องหลัก คือด้านวิชาการ สถาบันพระปกเกล้ารับดูแลในภาคประชาชน ส่วนเศรษฐกิจ สังคมต่างๆ จะให้กลุ่มสมาคมทั้ง 7 สมาคมที่ทำไว้แล้วเดิมเข้ามาชี้แจงและรับผิดชอบในกลุ่มดังกล่าว เรื่องที่ 3 เป็นด้านวิชาการ ซึ่งเป็นกลุ่มของอธิการบดี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อ 3 กลุ่มหลักเริ่มเข้ามาดำเนินการให้ทุกภาคส่วนในสภาปฏิรูปได้ทำความเข้าใจกัน มาถกแถลงกันให้ได้ข้อยุติในช่วงที่ 2 วันนี้ได้สั่งการอย่างชัดเจนและจะเร่งดำเนินการ ทุกอย่างยังเดินไปข้างหน้า ปัญหาข้างหลังยังมีปัญหาทั้งในและนอก แต่พวกเราพร้อมแบกรับปัญหาเหล่านั้น ขอให้ทุกคนช่วยกัน ขอความร่วมมือ บางคนอาจหงุดหงิดไปบ้าง ทำให้ดูละครช้าไปเล็กน้อย ต้องขออภัยด้วย

กกต.ยกคำร้อง “ปู”แก้ที่มา ส.ว.

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติเห็นตามที่คณะกรรมการไต่สวน เสนอให้ยุติการพิจารณากรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ยื่นเรื่องขอให้ กกต.ตรวจสอบ และยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว จากกรณีภรรยาถือครองหุ้นเกิน 5 % โดย กกต.เห็นว่าเมื่อรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 180 ให้ความเป็นรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีการยุบสภา เมื่อมีการยุบสภาในวันที่ 9 ธ.ค.56 จึงมีผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายวิเชษฐ์สิ้นสุดลง จึงไม่มีเหตุให้ กกต.ต้องพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวอีก เพราะความผิดดังกล่าวไม่ได้มีเรื่องของการต้องเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพียงแค่ตำแหน่งรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเท่านั้น

นายภุชงค์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม กกต.ยังมีมติยกคำร้องกรณีนายเศวต ทินกูล อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 50 และ พ.ต.ท.สุภวัฒน์ สุปิยะพานิช ขอให้ กกต.ตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ร่วมกันเข้าชื่อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ถือเป็นการกระทำเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ เข้าข่ายเป็นบุคคลต้องห้ามในการลงสมัคร ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 102 (6)เป็นเหตุให้สมาชิกสภาพการเป็น ส.ส. ส.ว.สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ โดยที่ประชุมเห็นว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดในเรื่องดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด จนต้องนำไปสู่การถอดถอน

นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า กกต.ยังได้มีมติไม่รับเรื่องร้องคัดค้านกรณีนายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ กกต.ตรวจสอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้ออกคำสั่งจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ(ศรส.) และมีการออกประกาศของ ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะผู้อำนวย ศรส. เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายในขณะนั้น ไม่ถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง

เลขาธิการ กกต. กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นางลีน่า จังจรรจา อดีตผู้สมัคร ส.ว. กรุงเทพฯ ยื่นร้องคัดค้านคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีต ส.ว.ว่าเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัคร เนื่องจากขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่ง กกต.มีมติให้ยกคำร้อง เพราะในชั้นของการสมัคร กกต.ประจำกรุงเทพฯ ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติกรณีดังกล่าวไปยัง ป.ป.ช.แล้ว ซึ่งได้รับการแจ้งว่า ยังไม่ปรากฏคำพิพากษาให้ทรัพย์สินของคุณหญิงจารุวรรณตกเป็นของแผ่นดินเพราะเหตุร่ำรวยผิดปกติ หรือห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย ป.ป.ช.มีข้อสังเกตว่า คุณหญิงจารุวรรณเคยถูกป.ป.ช.ชี้มูลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แต่คดียังไม่สิ้นสุด จึงไม่ถือว่าคุณหญิงจารุวรรณมีคุณสมบัติต้องห้ามในการสมัคร.


′วัดโพธิ์′ที่8สุดยอดที่ท่องเที่ยว สวนลุมฯอันดับ4สวนยอดนิยม

ทริปแอดไวเซอร์ เว็บไซต์ท่องเที่ยว ได้ประกาศรางวัลสุดยอดที่ท่องเที่ยว โดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะยอดนิยมทั่วโลก การประกาศรางวัลสุดยอดที่ท่องเที่ยวนี้ได้จัดขึ้นเป็นปีที่สองแล้ว และมีสถานที่ท่องเที่ยวกับสวนสาธารณะสุดฮิตจากทั่วโลกที่ได้รับรางวัล 929 ราย ทั้งจากแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย แคนาดา แคริบเบียน อเมริกากลาง จีน ยุโรป อินเดีย เม็กซิโก ตะวันออกกลาง นิวซีแลนด์ อเมริกาใต้ แปซิฟิคใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

บาร์บารา เมสซิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด ทริปแอดไวเซอร์ กล่าวว่า นักเดินทางของทริปแอดไวเซอร์ได้ช่วยระบุจุดท่องเที่ยวดีๆ หลายแห่งทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะต่างๆ ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวเพื่อชมสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก

รางวัลสุดยอดที่เที่ยวนี้มอบให้แก่จุดท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก โดยอิงจากบทวิจารณ์และความเห็นของนักเดินทางของทริปแอดไวเซอร์นับล้านคน และได้มีการใช้กระบวนการอัลกอริธึมมาคำนวณประกอบกับปริมาณและคุณภาพของบทวิจารณ์เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะทั่วโลกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนำมาพิจารณามอบรางวัล โดยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วโลก อันดับหนึ่งคือ มาชูปิกชู มาชูปิกชู ประเทศเปรู ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชีย ทัชมาฮาล อักกรา ประเทศอินเดีย นำหน้าที่อื่นๆ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะของไทยติดอันดับยอดนิยมในเอเชีย วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ของไทยติดอันดับที่ 8 ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชียและเป็นอันดับ 1 ในไทย

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ ของไทยที่ติด 25 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชีย ได้แก่ วัดอรุณราชวราราม ติดอันดับที่ 12 และพระบรมมหาราชวัง ติดอันดับที่ 20 สำหรับหมวดหมู่ สวนสาธารณะยอดนิยมในเอเชีย สวนลุมพินีเป็นสวนสาธารณะเพียงแห่งเดียวของไทยที่ติดอันดับ โดยอยู่อันดับที่ 4 จาก 25 อันดับแรกในเอเชีย