ข่าว
'ใบหม่อน' บัณฑิต มรภ.อยุธยา คว้ามงกุฎมิสทิฟฟานี่ ปี 2015

สวยจริง!! "ใบหม่อน" บัณฑิต มรภ.อยุธยา ชนะใจกรรมการ คว้ามงกุฎมิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2015 รับสายสะพาย พร้อมเงินสดกว่า 2 ล้านบาท ทั้งเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าสู่เวทีการประกวดระดับโลก...

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 8 พ.ค. ณ โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา ได้มีการจัดประกวดรอบตัดสิน "Miss Tiffany’s Universe 2015" หรือสาวประเภทสอง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ปีที่ 18 โดยมี ดร.เสรี วงษ์มณฑา เป็นประธานคณะกรรมการตัดสิน และมีกองเชียร์ของผู้เข้าร่วมประกวดอย่างคึกคัก มีผู้เข้าประกวด 100 คน คัดเลือกจนเหลือ 30 คน

สวยระดับนางงาม สาวแท้มีอาย

นางสาวอลิสา พันธุศักดิ์ ประธานคณะกรรมการ จัดการประกวดมิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส กล่าวถึงการประกวด "Miss Tiffany’s Universe 2015" ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อแพร่และสนับสนุนการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งตำแหน่ง Miss Tiffany’s Universe ประจำปี 2015 ตกเป็นของผู้เข้าประกวดหมายเลข 20 โสภิดา ศิริวัฒนานุกูล หรือ "ใบหม่อน" อายุ 22 ปี บัณฑิตระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฎอยุธยา รับมงกุฎเพชร พร้อมสายสะพาย เงินสด รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส และของรางวัลอีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดบนเวทีระดับโลก "Miss International Queen 2015" ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้

ส่วนรองชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่ หมายเลข 11 กานต์ชญา กัญจ์ชนะกุล อายุ 21 ปี และรองชนะเลิศอันดับสองได้แก่ หมายเลข 16 พิมพ์นารา อธิพัฒน์เดชากร อายุ 23 ปี.

บุญทรง - ภูมิ - มนัส ไม่รอด สนช.ถอด ทุจริตระบายข้าว

มติสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 190 เสียง ถอดถอน "บุญทรง" 180 ไม่ถอด 6 งดออดเสียง 4 ถอด "ภูมิ " 182 ไม่ถอด 5 งดออกเสียง 2 บัตรเสีย 1 และ ถอด "มนัส" 158 ต่อ 25 งดออกเสียง 6 บัตร 1 กรณีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐให้ประเทศจีน

วันนี้ (8 พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.35 น. การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานการประชุม โดยในวันนี้ที่ประชุมลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอน นายภูมิ สาระผล รมช.ว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง ตามข้อกล่าวหาทุจริตในการระบายข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว แบบรัฐต่อรัฐ ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้ชี้มูลความผิด ทั้งนี้ก่อนเริ่มกระบวนการนายพรเพชร ได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกถึงวิธีการลงมติถอดถอนด้วยวิธีลับ โดยจะมีการแจกบัตรลงคะแนนให้กับสมาชิกคนละ 3 ใบ เพื่อทำการกาบัตร และทำการกาบัตรในคูหาก่อนที่จะหย่อนใส่หีบบัตร

จากนั้นสมาชิกต่างทยอยลงคะแนนเรียงลำดับรายชื่อจนครบแล้ว คณะกรรมการตรวจนับคะแนนได้ทำการนับคะแนนทั้งหมด โดย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นายพรเพชรแจ้งผลให้ทราบว่า นายภูมิ มีผู้ลงคะแนนถอดถอน 182 ไม่ถอดถอน 5 คะแนน และงดออกเสียง 2 คะแนน มีบัตรเสีย 1 ใบ นายบุญทรง มีผู้ลงคะแนนถอดถอน 180 ไม่ถอดถอน 6 คะแนน และงดออกเสียง 4 เสียง และนายมนัส มีผู้ลงมติถอดถอน 158 คะแนน ไม่ถอดถอน 25 คะแนน งดออกเสียง 6 เสียง บัตรเสีย 1 ใบ สรุปได้ว่าบุคคลทั้งสามถูกสมาชิก สนช.มีมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง โดยนายพรเพชรจะดำเนินการแจ้งผลการลงมติดังกล่าวไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป


"ชูวิทย์"ซัด"พระสุเทพ"ทันควัน! ประชามติ เกี่ยวอะไรกับ"พระ"

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 พ.ค. พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเรื่องการทำประชามติรธน. โดยพระสุเทพนั้นให้ความเห็นว่า "ถ้ารัฐธรรมนูญดีจริง รัฐธรรมนูญเหมาะสมสำหรับประเทศไทยออกแบบมาได้พอดีตัว ตัดเสื้อเข้ากับตัวคนไทยได้พอดี ใส่หล่อแล้ว ก็ไม่ต้องไปทำประชามติให้สิ้นเปลือง แต่ข้อสำคัญอาจจะดูใส่หล่อสำหรับประเทศไทย แต่ไม่พอดีตัวนักการเมืองและพรรคการเมือง อย่างนี้แม้จะทำประชามติไปก็เป็นปัญหา เพราะบรรดานักการเมือง และพรรคการเมือง เขาไม่เอาอยู่แล้ว"

โดยจากประเด็นข้างต้นนั้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I′m No.5 ระบุว่า

ประชามติไม่จำเป็น! “พระสุเทพ” ชี้หากรธน.ออกแบบมาดี

นึกแล้ว...ไม่มีผิดหลังจากปลุกม็อบออกมาสร้างความวุ่นวาย บ้านเมืองพังราบเป็นหน้ากลอง หาทางลงไม่ได้ สุดท้ายทหารต้องออกมายึดอำนาจ

ผู้นำม็อบอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็สลัดคราบ “ลุงกำนัน” ที่แสนดี หันมาห่มจีวรเดินหน้าเข้าหาธรรมะ ทำเป็นสงบเสงี่ยมเจียมตัว ปากก็บอก “ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมือง”

แต่ของแบบนี้มัน “กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง” นานวันเข้าชักทนไม่ไหว ที่เคยพูดไว้กับบรรดาญาติโยม ถึงคราวต้องมุสา

นี่ขนาดโกนหัวห่มเหลืองยังผิดคำพูด แล้วนับประสาอะไรกับตอนเป็นฆราวาส ขึ้นเวทีปลุกม็อบ?

บอกจะนำปฏิรูป สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน แต่ทำได้แค่ป่วนบ้านเมือง ฉุดประเทศถอยหลัง สุดท้ายทิ้งประชาชนไปบวช แถมยังหลอกเขาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก

คราวนี้ประชาชนคงได้เห็นสัจธรรม สันดานนักการเมืองมันซ่อนยาก ขนาดผ้าเหลืองยังเอาไม่อยู่

เจ้าอาวาสแถวนครปฐมยังเคยธาตุไฟแตก แหวกสบงออกมาเป็น “อันธพาล” แล้วจะไปเชื่ออะไรกับนักการเมือง ที่แหวกชุดสูทมาหลบหลังจีวร?


อดีต ส.ว.หญิงเมืองเพชร ทนไม่ไหว ออกโรงป้อง 'ผู้กองบี' ผิดตรงไหน?

อดีต ส.ว.หญิงเมืองเพชร ออกมาปกป้องพร้อมให้กำลังใจ รอง สว.จร.หญิงคนดังโลกออนไลน์ ย้ำ ผิดตรงไหน หลังมีข่าวสะพัดถูกตั้งกรรมการสอบวินัย แต่งกายไม่เหมาะสม ทำให้เสียชื่อเสียง สตช. ...

จากกรณีที่ โลกออนไลน์โพสต์ภาพ ร.ต.อ.หญิง กัญญาลักษณ์ เฉียบแหลม หรือ "ผู้กองบี" รอง สว.จร. สภ.เมืองเพชรบุรี ยืนเข้าแถวเรียงหน้ากระดาน รอตรวจแถวก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ ที่แต่งชุดเครื่องแบบสวมกางเกง พร้อมมีการโพสต์ข้อความ "ตั้งแต่ สภ.เมืองเพชรบุรี เปลี่ยนรองสารวัตรจราจรคนใหม่ ตำรวจจราจรก็ไม่เคยมาสาย หรือลาป่วยอีกเลย" ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก ทั้งที่ชื่นชมและตำหนิเรื่องการแต่งกาย ในลักษณะที่ดูแล้วไม่เหมาะสม ต่อมา "ผู้กองบี" จึงหนีกระแสลาพักร้อน 10 วัน นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 8 พ.ค.58 นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ อดีต สว.จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ตนขอปกป้อง ผู้กองบี เนื่องจากตนได้ติดตามข่าวนี้มาตั้งแต่ต้น รู้สึกชื่นชมที่ผู้กองบี เป็นตำรวจหญิงที่สวย น่ารัก และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง แต่ต่อมากลับมีข่าวในทางไม่ดี ในทำนองที่ว่ามีการออกหนังสือให้รายงานว่า เป็นตำรวจหญิงจริงหรือไม่ แต่งตัวไม่สุภาพทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหายหรือไม่ ถ้าจริงให้สอบวินัย ทำให้รู้สึกว่า มันไม่ถูกต้อง หากเป็นเช่นนี้จริง มันจะเป็นการทำให้ข้าราชการตำรวจซึ่งเป็นผู้หญิง เสียกำลังใจ เขาปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง

"แต่มาโดนกระทำอย่างนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็ต้องการตำรวจหญิง แต่เมื่อมามีข่าวในทำนองนี้ โดยที่เจ้าตัวเขาไม่รู้เรื่อง เขาโดนกระทำอยู่แล้ว หากมาถูกสอบแบบนี้ มันจะหมดกำลังใจ ถือว่าเขาถูกกระทำ ตนในฐานะที่เป็นผู้หญิงซึ่งก็ชื่นชมการทำงานของตำรวจหญิงรายนี้อยู่แล้ว ขอเรียกร้องว่า หยุดการกระทำแบบนี้ เขาเป็นข้าราชการหญิงที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดี อย่าไปทำอย่างนั้นเลย สำหรับตนได้ข่าวว่าได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ลางาน 10 วัน รู้สึกเห็นใจ และขอให้กำลังใจกับผู้กองบี อย่าท้อแท้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ดี และขอเป็นกำลังใจ" อดีต สว.จ.เพชรบุรี ระบุ.


ฮุนเซนฉุนมวยคู่หยุดโลก 'ชักดาบ'เงินพนัน1.6แสน

กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ควันหลังศึกมวยสากลคู่หยุดโลกชิงแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวท ระหว่าง "ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์" ยอดนักชกไร้พ่ายชาวอเมริกัน กับ แมนนี "เดอะ แพ็คแมน" ปาเกียว นักชกชาวฟิลิปปินส์ ที่เวที เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเตล แอนด์ กาสิโน เมืองลาสเวกัส สหรัฐ อเมริกา เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตัดสินฟลอยด์เป็นฝ่ายชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ จากกรรมการให้คะแนนชาวอเมริกันทั้ง 3 คน โดยคนแรกให้ฟลอยด์ชนะ 118 - 110 ส่วนอีก 2 คนให้ชนะ 116 - 112 เท่ากัน นั้น

ล่าสุด สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นอีกผู้หนึ่งที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดการชกทางทีวี และเชียร์ "ปาเกียว" ยอดมวยขวัญใจชาวเอเชีย กล่าวที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ว่า รู้สึกผิดหวังต่อการตัดสินของคณะกรรมการให้คะแนนในไฟต์นี้มาก และเห็นได้ชัดว่ากรรมการชาวอเมริกันลำเอียงเข้าข้างฟลอยด์

สมเด็จฮุน เซน กล่าวอีกว่า เขาเล่นเดิมพันถือหางปาเกียวแบบสนุกๆไว้ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 167,000 บาท) กับเจ้าหน้าที่คนใกล้ชิดรายหนึ่ง แต่เมื่อการตัดสินไม่เป็นธรรมอย่างนี้ เขาจะไม่จ่ายเงินเดิมพัน

การเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เกี่ยวกับการเล่นพนันมวยในครั้งนี้ ค่อนข้างสร้างความแปลกใจ การเล่นการพนันนอกบ่อนกาสิโนที่ได้รับอนุญาต โดยหลักการถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในกัมพูชา แม้ว่าในตลาดมืดจะมีการเล่นการพนันขันต่อกันอย่างแพร่หลาย ไล่ตั้งแต่การเล่นพนันไก่ชนตามชนบท ไปจนถึงการเล่นพนันฟุตบอลลีกของต่างประเทศ การเล่นเดิมพันของนายกฯ ฮุน เซน ได้รับความสนใจจากชาวกัมพูชาผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก ผู้ใช้นามว่า โส นาโร เขียนลงในเฟซ บุ๊ก ว่า "ฮุน เซน ทำผิดกฎหมายการพนัน ด้วยการเล่นเดิมพันมวย"

ซัลแมน ข่าน ติดคุก คดีขับรถชนคนตาย

ศาลอินเดียได้ตัดสินลงโทษจำคุก "ซัลแมน ข่าน" นักแสดงที่ถือว่าดังที่สุดคนหนึ่งของอินเดียในยุคปัจจุบัน จากคดีที่เขาขับรถก่ออุบัติเหตุในมุมไบ และเป็นเหตุให้ชายไร้บ้านคนหนึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2002

ในเหตุการณ์เมื่อปี 2002 ซัลแมน ข่าน ได้ขับรถพุ่งทะลุเข้าไปกลางร้านขนมปังแห่งหนึ่ง ในใจกลางนครมุมไบ จนเป็นเหตุให้คนจรจัดที่นอนหลับอยู่บนทางเท้าข้างหน้าร้านเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน นอกจากนั้นก็ยังก่อเหตุชนแล้วหนีด้วย หลังเขาเพิ่งไปดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งมา

แม้เหตุการณ์จะผ่านมาได้หลายปีแล้ว และ ข่าน ก็ถูกตั้งข้อหาในฐานความผิดสถานเบากว่านี้ไปแล้ว แต่เพราะประเด็นดังกล่าวยังคงอยู่ในความสนใจของประชาชนชาวอินเดีย และปรากฏเป็นข่าวในสื่อ จึงทำให้คดีได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

โดย ซัลแมน ข่าน อ้างว่าเขาไม่ได้เป็นคนขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ เพราะคนขับรถส่วนตัวคือคนที่อยู่หลังพวงมาลัย แต่สุดท้ายศาลก็ตัดสินว่า ข่าน คือคนที่ขับรถด้วยตัวเอง และยังขับรถระหว่างที่มีอาการมึนเมาด้วย จนศาลได้ตัดสินลงโทษพระเอกคนดังเป็นการจำคุกถึง 5 ปีทีเดียว

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายก็เชื่อว่า ข่าน น่าจะยื่นขออุทธรณ์แน่ โดยศาลได้อนุญาตให้ประกันตัว ข่าน ออกมาเป็นเวลา 2 วัน หลังการพิจารณาคดีเมื่อวันพุธที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา

ประเด็นการตัดสินลงโทษจำคุก ข่าน คือข่าวใหญ่ที่สุดของ อินเดีย ในเวลานี้ และถือว่าเป็นโทษที่ร้ายแรงมาก แม้ตามกฎหมายจะกำหนดโทษสูงสุดของความผิดลักษณะแบบนี้เอาไว้ถึง 10 ปีก็ตาม

ซัลแมน ข่าน คือนักแสดงที่ดังที่สุดคนหนึ่งของบอลลีวูด หรือวงการหนังภาษาฮินดีของอินเดียในยุคปัจจุบัน โดยเขาได้ชื่อว่าเป็นพระเอกยอดนักบู๊ที่มีผลงานสุดฮิตทำเงินถล่มทลายมากมาย อาทิ Dabangg, Ready, Bodyguard, Ek Tha Tiger, Maine Pyar Kiya และ Hum Aap Ke Hain Kaun เป็นต้น

แต่นอกจากผลงานที่โด่งดังแล้ว ซัลแมน ข่าน วัย 49 ปี ก็มักจะมีชื่อปรากฏในข่าวด้านลบอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะที่เกิดจากพฤติกรรมห่ามๆ ของเขา รวมถึงกรณีที่เขาถูกดำเนินคดีในข้อหาล่ากวางพันธุ์หายาก และเป็นสัตว์สงวนของอินเดีย จนอาจโดนโทษจำคุกถึง 5 ปี