ข่าว
ใต้ฝุ่นฮาโตะถล่มฮ่องกง-มาเก๊า-จีน สังเวยกว่า 10 ศพ

24 ส.ค.60 พายุไต้ฝุ่นฮาโตะที่มีความรุนแรง เทียบเท่าพายุเฮอริเคน ถล่มเกาะฮ่องกงและมาเก๊า ส่งผลให้ทั่วทั้งเกาะ ต้องกลายเป็นอัมพาต ทางการต้องประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุดระดับ 10 มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 10 คน ซึ่งผู้เสียชีวิต 5 คนที่มาเก๊า เกิดจากถูก กำแพงล้มทับ ถูกรถชน และตกจากที่สูง นอกจากนี้ ยังมีรายงานไฟฟ้าดับและ โรงไฟฟ้าน้ำท่วมที่มาเก๊าด้วย ส่วนที่ฮ่องกงมีผู้เสียชีวิต 1 คน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 120 คน ก่อนหน้านั้นทางการฮ่องกงต้องยกระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุดถึง ระดับ 10 ก่อนปรับลดการเตือนภัยลงมาที่ระดับ 8 นับเป็นการเตือนภัยระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี และนับเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ฮ่องกง คืนสู่จีน เมื่อ 20 ปีก่อน หลังไต้ฝุ่นฮาโตะเคลื่อนขึ้นฝั่ง กระแสลมที่มีความรุนแรง 168 กม.ต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน รถยนต์จำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำตามท้องถนนและที่จอดรถ ต้นไม้ใหญ่ถึงกับถอนรากถอนโคน สิ่งของและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงปลิวกระจัดกระจายไปตามแรงลม ชาวบ้านต้องปิดหน้าต่างบ้านเรือน และร้านค้าเพื่อป้องกันความเสียหาย มีรายงานกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ท้องถนนที่วุ่นวายของฮ่องกงกลายเป็นความว่างเปล่า โรงเรียนและตลาดหุ้นปิดทำการ

สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ต้องยกเลิกเที่ยวบินเกือบทั้งหมด เช่นเดียวกับ ฮ่องกงแอร์ไลน์ รวมกว่า 400 เที่ยวบิน ส่วนบริการเรือข้ามฟากและรถไฟด่วนของสนามบิน ก็ต้องระงับเช่นกัน ขณะที่บริการรถไฟใต้ดินและรถโดยสารประจำทาง ก็ให้บริการอย่างจำกัด ฮ่องกงเผชิญไต้ฝุ่นเป็นประจำในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม แต่ส่วนใหญ่มักจะถูกถล่มแบบเฉี่ยวๆ และแทบไม่เคยถูกถล่ม แบบเต็มๆ

ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นฮาโตะเคลื่อนตัวออกจากฮ่องกงแล้ว และขึ้นฝั่งที่เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง และมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน คาดว่าพื้นที่ตอนใต้ของจีนจะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของไต้ฝุ้นฮาโตะต่อไปอีกอย่างน้อย 18 ชั่วโมง ก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวออกไปในช่วงค่ำของวันนี้

พอรู้ใครขู่ฆ่า หมอวรงค์เผยเดาไม่ยากคนส่ง จม.เอาชีวิต

24 ส.ค.60 หลังจากที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาระบุว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า ได้รับจดหมายจ่าหน้าซองถึงตนส่งมา ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเปิดอ่านพบว่าเป็นจดหมายขู่ปองร้าย ก่อนหน้านี้เคยได้รับจดหมายขู่ในลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ในช่วงที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบเรื่องการทุจริตจำนำข้าว ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ล่าสุด นพ.วรงค์ ได้เปิดเผยว่า จดหมายส่งมาที่พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.60 ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ ตนได้หารือกับนายอัศวิน วิภูศิริ รองหัวหน้าพรรคแล้ว และนายอัศวินก็ได้รายงานให้ผู้ใหญ่ในพรรค และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคทราบแล้ว ทั้งนี้ ตนรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่เจตนาตนไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะจะเข้าทางคนที่ทำ อย่างไรก็ดี ตนอยู่ระหว่างการเดินทางมาพักผ่อน ที่ประเทศแอฟริกา ซึ่งเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว และจะเดินทางกลับช่วงปลายเดือนนี้

"ไม่ใช่เป็นการหนีเพราะกลัวจดหมายข่มขู่ปองร้าย และเรื่องนี้ผมคงไม่ไปแจ้งความหรือฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะคนที่ทำผมคาดการณ์เดาได้ว่าเป็นใคร เพราะจดหมายไม่ได้เขียนด้วยลายมือตัวเอง แต่ใช้พิมพ์ดีดระบุว่ามาจากภาคอีสาน แต่ติดแสตมป์ กทม.ยืนยันว่า ไม่วิตกกังวล ซึ่งมีคนเตือนเยอะ เราก็ระมัดระวังตัวอยู่แล้วคงไม่ถึงกับต้องให้ตำรวจมาเฝ้าบ้าน หรือติดตาม แต่ผู้ใหญ่ในพรรคก็บอกว่าควรจะมีคนมาดูแล คงต้องดูสถานการณ์อีกครั้งหลังจากกลับจากต่างประเทศ และช่วงที่อยู่ต่างประเทศก็มีเพื่อน ส.ส.ในพรรคหลายคนส่ง เอสเอ็มเอส มาให้กำลังใจ อาทิ นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. รวมถึงชาวบ้านด้วย" นพ.วรงค์ กล่าว

นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินของศาลในการพิจารณาคดีจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.60 นี้ ถ้าฝ่ายใดมีพฤติกรรมไม่พอใจคำตัดสิน พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันแสดงออก ผ่านสื่อโซเชียล เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก ให้เคารพคำตัดสิน และช่วยกันนำเสนอข้อเท็จจริงและคำวินิจฉัยของศาล ให้สังคมได้รับรู้ให้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาบิดเบือนข้อเท็จจริงของศาล


สกัดหนีออกนอก ปท! ผบ.ตร.สั่งจับตา “ปู-บุญทรง”หลังตัดสินจำนำข้าว

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ถึงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 25 สิงหาคมว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ด้านความมั่นคง เป็นผู้ดูแล ซึ่งมีการรายงานความคืบหน้าให้ตนทราบทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ในรักษาความปลอดภัย จะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 24 กองร้อยจาก บช.น. บช.ภ.8 และ บช.ภ.9 กระจายกำลังรอบพื้นที่ศาล รวมทั้งมีการตั้งจุดคัดกรอง 3 จุด การตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่ศาล เพื่อมอนิเตอร์เหตุการณ์ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะเรามีการประเมินทุกมิติทั้งก่อนและหลังพิพากษา โดยจะประเมินจากการข่าวป้องกันมือที่ 3 ไม่อยากให้มาตีกัน แต่ถ้ามาแบบผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ส่วนกลุ่มฮาร์ดคอร์หรือเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็มีการจับตาด้วย ไม่กังวลเจ้าหน้าที่มีความมั่นใจในการปฏิบัติงานอยู่แล้ว หากไม่มั่นใจใครจะมาเชื่อถือ

เมื่อถามว่า มีการจับตาความเคลื่อนไหวในส่วนของ นายทักษิณ ชินวัตร ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตอบว่า มีการจับตาและติดตามประเมินสถานการณ์ในทุกมิติ ไม่ว่าใครจะเคลื่อนไหวอะไรก็ตาม

ส่วนจะมีการติดตามความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และกลุ่มจำเลยในคดีทุจริตซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งนำโดย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ หลังศาลตัดสินด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตอบว่า ไม่ทราบคำตัดสินของศาลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เป็นดุลพินิจของศาล แต่ตำรวจก็เตรียมการทุกมิติอยู่แล้ว รวมถึงการเดินทางออกนอกประเทศด้วย


จ่อเด้ง ผอ.กองเรือสหรัฐเซ่นเรือชน

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลและสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่อเมริกัน 2 นายว่า พล.ร.ท.โจเซฟ โอคอยน์ผู้บังคับการกองเรือที่ 7 ประจำเมืองโยโกสุกะของญี่ปุ่น เตรียมถูกย้ายในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเรือในบังคับบัญชาเกิดเหตุชนแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมกราคม ครั้งแรกเรือยูเอสเอส แอนทีทัม เกยตื้นขณะจะทอดสมอเรือที่อ่าวโตเกียวเมื่อเดือนมกราคม มีน้ำมันจำนวนมากรั่วไหลลงทะเล ครั้งที่สองเรือยูเอสเอส เลค แชมเพลนชนกับเรือประมงเกาหลีใต้นอกชายฝั่งคาบสมุทรเกาหลีเมื่อเดือนพฤษภาคม ไม่มีผู้บาดเจ็บ ครั้งที่สามเรือยูเอสเอส ฟิตซ์เจอรัลด์ชนกับเรือพาณิชย์ฟิลิปปินส์นอกชายฝั่งญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน มีลูกเรืออเมริกันเสียชีวิต 7 นาย และล่าสุดครั้งที่สี่เรือยูเอสเอส จอห์น เอส แมคเคน ชนกับเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งสิงคโปร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลูกเรืออเมริกันยังสูญหายอยู่ 10 นาย

ขณะที่ พลเรือเอก สก็อต สวิฟต์ผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิกสหรัฐระบุว่านักประดาน้ำพบร่างผู้สูญหายภายในเรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์น เอส แมคเคน แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุได้ว่าเป็นร่างของผู้เสียชีวิตกี่ราย ขณะนี้ กองทัพเรือมาเลเซียอยู่ระหว่างพิสูจน์อัตลักษณ์ของเหยื่อรายหนึ่งเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นร่างของหนึ่งในผู้สูญหายหรือไม่

ทั้งนี้ จากข้อมูลระบุว่า เฉพาะปีนี้ได้เกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐที่ประจำการบนฐานทัพเมืองโยโกสุกะ ประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด4 ครั้ง ทำให้กองทัพเรือสหรัฐเตรียมพร้อมสอบสวนกองเรือและวางแผนระงับปฏิบัติการชั่วคราว แต่กองทัพเรือสหรัฐปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับแผนปลดพล.ร.ท.โอคอยน์ ผู้บังคับการกองเรือที่ 7 ของสหรัฐ ซึ่งมีฐานประจำการอยู่ที่เมืองโยโกสุกะ ในประเทศญี่ปุ่น นับเป็นกองเรือวางกำลังในส่วนหน้าที่ใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งมีเรือรบ และเรือดำน้ำประจำการมากถึงประมาณ 50-70 ลำ


พบซากเรือสหรัฐ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

มีการพบซากเรือรบ ยูเอสเอส อินเดียแนโพลิส ของกองทัพเรือสหรัฐ ที่ถูกเรือดำน้ำกองทัพญี่ปุ่นยิงตอร์ปิโดจมลง ช่วงไม่กี่วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยพบจมอยู่ใต้ก้นทะเล ลึกลงไปจากผิวน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกกว่า 18,000 ฟุต (5.5 กิโลเมตร)

นายพอล อัลเลน หัวหน้าคณะนักวิจัยพลเรือน ผู้ทำการสำรวจเปิดเผยว่า ซากเรือยูเอสเอส อินเดียแนโพลิสของสหรัฐ ถูกพบในเขตทะเลฟิลิปปินส์ ลึกลงไปจากผิวน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกกว่า 18,000 ฟุต (5.5 กิโลเมตร) มันอับปางลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 2488 ซึ่งเป็นช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง หลังเพิ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจนำชิ้นส่วนระเบิดนิวเคลียร์ที่ชื่อ ลิตเติ้ลบอย เพื่อใช้ถล่มเมืองฮิโรชิมาไปส่งที่ฐานทัพอากาศของสหรัฐบนเกาะแห่งหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างมุ่งหน้ากลับมาที่ฟิลิปปินส์

เรือยูเอสเอส อินเดียแนโพลิส ถูกเรือดำน้ำของญี่ปุ่นที่ชื่อ ไอ-58 โจมตีด้วยระเบิดตอร์ปิโดจนเรือหักกลางลำ จมลงในเวลาเพียง 12 นาที นั่นหมายถึงผู้คนบนเรือไม่มีเวลาที่จะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือหรือติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตได้ทัน ในช่วงแรก ลูกเรือซึ่งมีทั้งนาวิกโยธินและกลาสีเรือ 800 คนจากทั้งหมด 1196 คนมีชีวิตรอด แต่หลังจากที่ต้องเผชิญชะตากรรมลอยคอในทะเลที่เต็มไปด้วยฉลามอยู่ถึง 4 วันโดยที่ไม่มีน้ำและอาหาร จึงจะได้รับการช่วยเหลือ มีผู้รอดชีวิตได้เพียง 317 คน เพราะที่เหลือเสียชีวิตจากอาการขาดน้ำและจมน้ำ ถึงปัจจุบัน มีผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่เพียง 22 คน ซึ่งนับเป็นการสูญเสียครั้งที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐ และกลายเป็นหนึ่งในตำนานเล่าขานเกี่ยวกับความน่าสะพึงกลัว ของสงครามสู้รบในมหาสมุทรแปซิฟิกจนถึงปัจจุบัน


เดนมาร์กยันผลตรวจ DNA ไร้หัวเป็นของนักข่าวสวีเดน

24 ส.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจเดนมาร์กเผยผลตรวจสอบดีเอ็นเอของศพเพศหญิงไร้ศีรษะและแขนขาที่ถูกพบลอยน้ำอยู่นอกฝั่งกรุงโคเปนเฮเกนโดยบังเอิญ ยืนยันเป็นชิ้นส่วนของคิม วอลล์ ผู้สื่อข่าวชาวสวีเดนที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา

ผู้บัญชาการตำรวจนครบางกรุงโคเปนเฮเกนแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจชิ้นส่วนมนุษย์เพศหญิง ที่ถูกพบโดยนักปั่นจักรยานคนหนึ่งบนหาดทางตอนใต้ของกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เปรียบเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอจากแปรงสีฟันและหวีของคิม วอลล์ แล้ว พบว่ามีดีเอ็นเอตรงกัน ทำให้เชื่อว่าศพดังกล่าวซึ่งไร้ศีรษะและแขนขาเป็นของผู้สื่อข่าวอิสระชาวสวีเดน ซึ่งหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา หลังโดยสารเรือดำน้ำไปพร้อมกับของนายปีเตอร์ แมดเซน นักต่อเรือดำน้ำชาวเดนมาร์กเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม โดยเรือดำน้ำได้จมลงนอกชายฝั่งกรุงโคเปนเฮเกน หลายชั่วโมงก่อนปฏิบัติการค้นหานายแมดเซนจะเริ่มขึ้น

คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญที่บรรดาสื่อในเดนมาร์กและสวีเดนต่างเฝ้าจับตามองและได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก นายแมดเซนถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุลงมือฆาตกรรมวอลล์ขณะอยู่บนเรือดำน้ำที่เขาเป็นผู้ต่อขึ้นเอง แต่นายแมดเซนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยในตอนแรกเขายืนยันว่า ได้ส่งคิม วอลล์ ขึ้นจากเรือดำน้ำของเขาอย่างปลอดภัยใกล้กับกรุงโคเปนเฮเกน ก่อนที่ในเวลาต่อมา นายแมดเซนจะเปลี่ยนคำให้การ อ้างว่าคิม วอลล์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุอันน่าเศร้าซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด และเขาได้ฝังร่างของเธอไว้ใต้ทะเล

อย่างไรก็ดี ตำรวจเดนมาร์กเชื่อว่า นายแมดเซนจงใจจมเรือดำน้ำของตัวเองเพื่อทำลายหลักฐานหลังจากฆาตกรรมคิม วอลล์ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างเลือดที่พบในห้องโดยสารในเรือดำน้ำ พบว่าตรงกับของคิม วอลล์ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพยายามค้นหาชิ้นส่วนร่างกายที่เหลือของผู้สื่อข่าวหญิงรายนี้

ชาวฮ่องกงกว่า2หมื่นชุมนุมต้านจำคุก“โจชัว หว่อง”

สำนักข่าวรอยเตอร์ ว่านายโจชัว หว่อง อายุ 20 ปี นายนาธาน ลอว์ อายุ 24 ปี และนายอเล็กซ์ เฉา อายุ 27 ปี แกนนำกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่ถูกเรียกขานว่าเป็น “กบฏร่ม 2014” ถูกศาลฮ่องกงตัดสินลงโทษจำคุกระหว่าง 6 - 8 เดือนในความผิดฐานร่วมชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วงนานนับเดือน เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประชาธิปไตย

ทั้งนี้ ประชาชนราว 22,000 คน เดินขบวนมุ่งหน้าสู่ศาลอุทธรณ์ ในย่านหว่านไจ๋ ใจกลางเกาะฮ่องกง เพื่อประท้วงคำตัดสินของศาล

นายเลสเตอร์ ชัม อดีตผู้นำนักศึกษา ซึ่งมีส่วนร่วมในการเดินขบวนครั้งนี้ กล่าวว่า การประท้วงครั้งนี้ มีประชาชนเข้าร่วมมากที่สุด นับตั้งแต่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 2557 ที่ทำให้ถนนสานสำคัญหลายสายในย่านธุรกิจการเงินของฮ่องกงกลายเป็นอัมพาตนานถึง 79 วัน

อย่างไรก็ตาม ฮ่องกง อดีตดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ กลับคืนสู่อธิปไตยของจีนเมื่อปี 2540 ภายใต้ข้อตกลง1 ประเทศ 2 ระบบซึ่งรับประกันสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกง รวมถึงระบบยุติธรรมที่แยกจากกัน แต่รัฐบาลจีน กลับควบคุมฮ่องกงอย่างสมบูรณ์ และชาวฮ่องกงบางส่วนวิตกว่า จีนจะแทรกแซงมากขึ้นเพื่อกำจัดกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองต่อรัฐบาลจีน