ข่าว
แคลิฟอร์เนียระทึก! วัยรุ่นมะกันกราดยิงในโรงเรียนมัธยม นักเรียนดับ 2 ศพ

15 พ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุมือปืนกราดยิงภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีก 4 คน

ภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนแสดงให้เห็นด้วยว่า วัยรุ่นรายนี้นำปืนออกจากกระเป๋าเป้ของเขา แล้วยิงใส่นักเรียน 5 คน ก่อนที่จะเห็นปืนเข้ายิงตัวเอง โดยอาวุธที่พบในที่เกิดเหตุคือปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด .45 ที่ไม่มีกระสุนเหลือแล้ว ขณะที่ตำรวจกำลังค้นบ้านของผู้ต้องสงสัยเพื่อหาหลักฐาน และหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ

มีรายงานว่า ตำรวจนำกำลังมาปิดล้อมโรงเรียนทันทีหลังได้รับแจ้งเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเด็กนักเรียนถูกยิงทั้งหมด 6 คน ในจำนวนนี้ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิต 2 คน ส่วนอีก 4 คนที่ได้รับบาดเจ็บมีผู้ก่อเหตุร่วมอยู่ด้วย

'ธรรมนัส'แจงแล้วภาพมอบสปก.4-01ให้อดีตผู้สมัครส.ส.พปชร.

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 จากกรณีโซเซียล มีเดีย มีการแชร์ภาพและข้อความแสดงความยินดีกับผู้รับเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ที่จ.กระบี่ โดยมีนายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ พรรคพลังประชารัฐ ได้รับสิทธิ์ครองครองที่ดิน ส.ป.ก.เนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา บนพื้นที่หมู่ 1 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) พร้อมผู้บริหารหลายคนร่วมด้วย จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การมอบเอกสารสิทธิ์ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2562 เป็นเรื่องที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยช่วงรัฐบาลภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ช่วงที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ และมาส่งมอบในช่วงที่ตนมาเป็น รมช.เกษตรฯที่กำกับดูแลสำนักงาน ส.ป.ก.พอดี ซึ่งเรื่องนี้ทางกรมป่าไม้ส่งมอบมาให้ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้กับผู้ครอบครองเดิมที่ทำการเกษตร แต่ต้องไม่เกิน 50 ไร่ ก็ต้องไปดูว่า กรณีของนายสมัชชา เอ่งฉ้วน ครอบครองมากี่ปี และทำการเกษตรหรือไม่ ถ้าทำการเกษตรและไม่เกิน 50 ไร่ ก็มีสิทธิได้รับ

"โดยหลักการของนโยบาย ส.ป.ก. ที่เกี่ยวเนื่องกับพื้นที่ของกรมป่าไม้ที่ส่งมอบมาให้ ไม่ได้มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นผู้ยากไร้ ขอให้เป็นผู้ครอบครองเดิมและใช้พื้นที่นั้นทำการเกษตรจริงๆ และต้องไม่เกิน 50 ไร่ก็เข้าเงื่อนไขรับได้ ดังนั้น ที่มีการกล่าวหาทางทางโซเซียล มีเดีย จึงไม่เป็นความจริง และไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็น" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ในโซเชี่ยลมีเดียมีการแชร์ภาพและข้อความแสดงความยินดีแก่ผู้รับเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก. 4-01 ที่จังหวัดกระบี่รายหนึ่งคือ นายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ โดยมีข้อความของผู้โพสต์ประกอบภาพว่า "ยินดีด้วยกับสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 กระบี่ พรรค พปชร. ได้รับสิทธิ์ครอบครองที่ดิน สปก. 4-01 เนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน 80 ตรว. ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 1 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่" โดยงานดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562 ที่โรงเรียนพนมเบญจา ตำบลเขาพนม อำเภอเขาพนม 335 ราย


‘แม่มณี’ท้อง!!! เรือนจำตรวจซ้ำตั้งครรภ์ 2 เดือน ยอดเสียหายวงแชร์ทะลุ 1.6 พันล้าน

15 พฤศจิกายน 2562 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผบ.เรือนจำจังหวัดอุดรธานีว่ากรณี น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี ตั้งครรภ์ 2 เดือนก่อนถูกส่งตัวเข้าคุมขังในเรือนจำจริงหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ผลการตรวจปัสสาวะด้วยเครื่องตรวจการตั้งครรภ์ฉุกเฉินไม่พบการตั้งครรภ์ โดยปรากฏผลเพียง 1 ขีด แต่เมื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเครื่องตรวจแสดงผล 2 ขีด ระบุว่าแม่มณีได้ตั้งครรภ์จริง แต่ผู้ต้องขังไม่ประสงค์ให้เรือนจำส่งตัวออกไปตรวจที่โรงพยาบาลภายนอก เพื่อให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำ

อย่างไรก็ตาม เมื่อพบว่าผู้ต้องขังตั้งครรภ์จริงทางเรือนจำก็สามารถดูแลได้ ไม่ใช่ปัญหา การควบคุมตัวยังคงเป็นไปตามมาตรการปกติ ที่ผ่านมามีผู้ต้องขังหลายรายตั้งครรภ์และเข้ามาอยู่ในคุก บางรายคลอดลูกระหว่างเป็นนักโทษก็มี เรือนจำมีแผนและมาตรการรองรับอยู่แล้ว

ขณะที่รายงานล่าสุดยอดผู้เสียหายในคดีแชร์แม่มณี ที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบคิวอาร์โค้ดของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มีจำนวน 4,971 ราย มูลค่าความเสียหายตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างจำนวน 1,608,206,850.40 บาท


'ธนาธร'ติด 1 ใน 100 ดาวรุ่งผู้ทรงอิทธิพล ของนิตยสารไทม์

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 นิตยสารไทม์ ได้จัดอันดับ 100 ดาวรุ่งผู้ทรงมีอิทธิพลในแวดวง บันเทิง นักเคลื่อนไหว ผู้นำ ผู้สร้างปรากฎการณ์ ผู้เปลี่ยนแปลง ของนิตยสารไทม์ ซึ่งในนั้นมีคนไทยติดอันดับในรายชื่อดังกล่าว 3 ราย ได้แก่ กชกร วรอาคม สาขา Innovator ภูมิสถาปัตย์คนไทยผู้คิดค้นที่กักน้ำได้กว่าล้านแกลลอนและออกแบบสวนกลางเมืองเช่นสวนจุฬา 100 ปี , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สาขา Leader และ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล สาขา Phenoms ในฐานะศิลปินวงBLACKPINK

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิตยสารไทม์ นิตยสารข่าวชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ระบุชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นหนึ่งในร้อยดาวรุ่งแห่งปีของนิตยสารไทม์ โดยไทม์อธิบายว่า นายธนาธรทราบดีว่าการคว้าอำนาจคืนมาจากคณะรัฐประหารที่ครองอำนาจในประเทศไทยอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พรรคอนาคตใหม่ที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นได้รับคะแนนเสียงมากถึง 17% ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปีนี้ ไม่แย่เลยสำหรับพรรคการเมืองที่เพิ่งจะมีอายุครบ 1 ปีไปหมาดๆ

นิตยสารดังกล่าว ระบุว่า นายธนาธร ประสบความสำเร็จในการปลุกไฟในใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่แห่กันมาร่วมภารกิจหยุดยั้งวงจรอุบาทว์การรัฐประหารและการการสูญเสียเลือดเนื้อจากการประท้วงบนท้องถนน ซึ่งเป็นชนักติดหลังประเทศไทยมากว่า 80 ปีแล้ว ในความท้าทายอันแสนเข็ญนี้ เหล่านายพลในกองทัพตอบโต้ธนาธรด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวนมากเพื่อหวังผลทางการเมือง

“เขายืนยันว่าตนเองยังตั้งมั่นอยู่กับการก่อร่างสร้างความเข้มแข็งแก่การเคลื่อนไหวของเขาในสภา แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้าคดีความมากมายก็ตาม ตราบใดที่เหล่านายพลยังอยู่ในอำนาจ การต่อสู้ของพวกเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป สุดท้ายนายธนาธรกล่าวว่า “Democratization, demilitarization and decentralization is our call :กระบวนการนำมาซึ่งประชาธิปไตย การแยกกองทัพออกจากการเมืองและการกระจายอำนาจ นี่คือหัวใจของพวกเรา” นิตยสารไทม์ ระบุ

นอกจากนี้ การจัดอันดับของนิตยสาร TIME 100 Next แต่ยังมี “กชกร วรอาคม” ภูมิสถาปัตย์ไทยคนแรกผู้คิดค้นที่กักน้ำได้กว่าล้านแกลลอนและออกแบบสวนกลางเมืองเช่น สวนจุฬา 100 ปี และ “ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า” ศิลปินวง BLACKPINK สมาชิกวงไอดอลวงแรกที่มียอดวิวบน Youtube กว่า 1000 ล้าน และผู้ติดตามอีก 30 กว่าล้านคน


สภาสหรัฐไต่สวน เพื่อถอดถอนทรัมป์จากปธน.

วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - รัฐสภาสหรัฐเริ่มเปิดการไต่สวนสาธารณะ ซึ่งมีการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์ เป็นครั้งแรก เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากข้อกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบบีบผู้นำยูเครนสอบสวนการทุจริตของคู่แข่งทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

คณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เริ่มเปิดการไต่สวนสาธารณะเพื่อพิจารณาถอดถอน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากข้อกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบบีบผู้นำยูเครนให้สอบสวนกรณีการทุจริตของนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในปลายปี 2563 และบุตรชายของไบเดน ซี่งเป็นผู้บริหารบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งของยูเครน โดยเป็นการใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

การไต่สวนในวันแรกเป็นการเข้าให้ปากคำของพยาน 2 คนแรก ได้แก่ นายวิลเลียมเทย์เลอร์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และรักษาการเอกราชทูตสหรัฐประจำยูเครน และนายจอร์จ เคนท์ เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงในกิจการยุโรปและยูเรเชีย โดยทั้งคู่ได้ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นในยูเครนและความสัมพันธ์ระหว่างนายไบเดนกับประเทศยูเครน นายเทย์เลอร์ให้การว่า เขาเชื่อว่าผู้นำสหรัฐได้ร้องขอให้ยูเครน ตรวจสอบบริษัทที่เกี่ยวข้องกับลูกชายของรองประธานาธิบดีไบเดน ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจริงดังที่มีการกล่าวหา และยังย้ำว่า ทรัมป์ได้สั่งระงับงบช่วยความช่วยเหลือด้านความมั่นคงต่อยูเครนมูลค่า 391 ล้านดอลลาร์ ถ้าหากยูเครนไม่ยอมให้ความร่วมมือเปิดการสอบสวนไบเดน ส่วนนายเคนท์ให้การว่ารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการที่ทรัมป์และพรรคพวกของทรัมป์กดดันยูเครนให้เปิดการสอบสวนไบเดน เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวทรัมป์เอง

ด้านทรัมป์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างให้การต้อนรับผู้นำตุรกีที่ทำเนียบขาวว่า เขายุ่งอยู่กับภารกิจจนไม่มีเวลาดูการไต่สวนที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ที่ชาวอเมริกัน หลายล้านคนเฝ้าติดตาม และเป็นการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งครั้งประวัติศาสตร์ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ทั้งยังได้โพสต์วีดีโอในทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาประกาศว่า “พวกเขาพยายามหยุดยั้งผม เพราะผมสู้เพื่อพวกคุณ และผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น” ส่วนสมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกัน ไม่ให้ความสำคัญกับคำให้การของนายเทย์เลอร์ โดยระบุว่า เป็นเพียงคำบอกเล่าเท่านั้น และประธานาธิบดียูเครนเอง ไม่เคยบอกว่า เขาถูกทรัมป์กดดันให้สอบสวนไบเดน ขณะที่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจการไต่สวนดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดซับซ้อนเกินความเข้าใจของคนทั่วไป เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนที่พยายามทำตัวออกห่างจากเรื่องนี้


สะเทือนขวัญ! เด็กชายวัย 14 ปาดคอเด็กหญิง ป.6 สารภาพ'แค่อยากฆ่าคน'

14 พ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุ เด็กชายวัย 14 ปี ใช้มีดปาดคอเด็กหญิงป.6 ขณะเดินกลับบ้าน ก่อนวิ่งหนีไป แต่เด็กหญิงสามารถเดินกลับถึงบ้านได้สำเร็จ ก่อนที่พ่อแม่ของเธอจะโทรแจ้งตำรวจ เหตุเกิดที่เมืองฮาชิโนะเฮ ของจังหวัดอาโอโมริ

โดยเด็กหญิงให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ใครบางคนเข้ามาข้างหลังเธอแล้วใช้มีดปาดคอเธอจากนั้นจึงวิ่งหนีไป หลังจากนั้น เด็กหญิงก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยเธอมีแผลจากของมีคมยาวประมาณ 10 ซม.และลึก 1 ซม.ที่คอ แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

ต่อมา ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวเด็กชายวัย 14 ปีได้ที่บ้านของเขาเอง โดยตำรวจพบมีดจำนวนมากในห้องของเขา เด็กชายรับสารภาพว่าก่อเหตุทำร้ายเด็กหญิง ป.6 ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนจริง และอ้างว่าตั้งใจจะฆ่าเธอให้ตาย เขาระบุด้วยว่า ต้องการสังหารใครสักคนโดยไม่สนว่าเป็นใคร

ฮ่องกงนองเลือด! ชายวัย 70 โดนลูกหลง ถูกผู้ประท้วงปาอิฐดับ

15 พ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชายอายุ 70 ปี คนหนึ่งเสียชีวิตเมื่อเวลา 22.51 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากถูกก้อนอิฐปาใส่ศีรษะ ระหว่างการปะทะกันของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลจีนและกลุ่มผู้ประท้วง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (13 พ.ย.) นับเป็นการเสียชีวิตรายที่ 2 จากการประท้วงในฮ่องกง

แหล่งข่าวตำรวจเปิดเผยว่า เหตุปะทะเกิดขึ้นเมื่อผู้ประท้วงในชุดดำราวๆ 20 คนย้อนกลับมาและเกิดการโต้คารมอย่างเผ็ดร้อนกับพวกชาวบ้าน "ผลการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าระหว่างสถานการณ์วุ่นวาย มีอิฐลอยมากระแทกศีรษะเหยื่อ อิฐถูกขว้างออกมาระหว่างที่เขากำลังใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพแก๊งชุดดำ"

หลังจากการเสียชีวิตของนายชาว กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยกระดับการประท้วงให้เข้มข้นขึ้น และเข้มข้นกว่าทุกช่วงที่ผ่านมาตลอดการชุมนุมที่ยืดเยื้อมาแล้ว 6 เดือน ทำใหมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเมื่อวันพุธ (13 พ.ย.) มีตัวเลขระบุว่า มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการประท้วง 67 คน