วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างว่า ก็ต้องน้อมรับว่าเป็นหน้าที่ของเขา เราไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายอะไร หน้าที่ของตนคือ ให้ข้อคิดเห็นในฝ่ายรัฐบาลว่า ควรจะทำอย่างไรบ้าง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอยู่ตรงไหน แต่ผลโหวตออกมาอย่างนั้น รัฐบาลไปก้าวก่ายไม่ได้ ถามว่าเห็นด้วยไหม คงไม่เห็นด้วย ทาง กนง. มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายด้านการเงิน แต่เราเองก็อยากเห็น อย่างที่ตนเคยเรียน และที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์เคยบอกว่า เราอยากเห็นนโยบายการเงินการคลังเดินไปด้วยกัน เพราะตอนนี้เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 4 เดือนแล้ว

เมื่อถามว่า การประชุม กนง. ครั้งนี้ ดอกเบี้ยไม่ลด การประชุมครั้งหน้า คาดหวังว่าดอกเบี้ยจะลดใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องดูตัวเลขไปเรื่อย ๆ ตนไม่ได้มีธงว่า ต้องลดหรืออะไร เพราะตัวเลขมันออกมาตลอดเวลา ถ้าเกิดตัวเลขบ่งชี้ไปว่า ไม่จำเป็นต้องลด ตนก็จะออกมาบอกในความคิดเห็นของตนเป็นการเห็นต่าง เห็นด้วย หรือเห็นสมควร หรือต้องการโน้มน้าวก็ต้องมีการพูดคุยก็จะทำต่อไป

เมื่อถามว่า ความเห็นต่างระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติที่ออกมาแบบนี้ การเดินหน้าบริหารนโยบายจะทำให้มีอุปสรรคอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันไปทุกๆ เรื่อง ทั้งยาเสพติด ความปลอดภัยภาพรวมประเทศ ปัญหา PM 2.5 เรามาอยู่ตรงนี้แล้ว เราถูกเลือกมาแล้วเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน เราถูกเลือกให้มาดูแลปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ทุกปัญหามีความยากง่ายแตกต่างกันไป ก็พยายามต่อไป ไม่ได้เสียกำลังใจ ไม่ได้ท้อถอย เพราะเรามายืนตรงนี้แล้ว ความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องดูแล ถึงแม้จะมีความเห็นต่างก็ต้องพูดคุยกัน

7 ก.พ. 2567 สถานการณ์การระบาดอย่างน่าเป็นห่วงของโรคไข้เลือดออก ซึ่งล่าสุด นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า เดือน ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 8,197 ราย มากกว่าปี 2566 ถึง 1.9 เท่า (4,286 ราย) และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นอกจากไทยแล้ว บราซิลก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังประสบกับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกระบาดเช่นกันในขณะนี้

โดยรายงานข่าว Rio de Janeiro: Dengue spike prompts health emergency ahead of Carnival จากสำนักข่าว BBC ของอังกฤษ ระบุว่า ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร เมืองใหญ่อันดับ 2 ของบราซิล ทางการต้องประกาศภารวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เพื่อควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยสถิติของบราซิล ในเดือน ม.ค. 2567 พบผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียกวันของปี 2566 ขณะที่ยอดผู้ป่วยในเมืองริโอ เดอ จาเนโร ล่าสุดพบถึง 1 หมื่นรายแล้ว ในขณะที่ยอดผู้ป่วยไข้เลือดออกทั้งปี 2566 อยู่ที่ 23,000 ราย

สำหรับอาการของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก อาจมีไข้ ปวดศีรษะรุนแรง ปวดหลังดวงตา ปวดกล้ามเนื้อและข้อ และมีผื่นเป็นรอย ทั้งนี้ วัคซีนไข้เลือดออกที่พัฒนาโดยบริษัททาเคดะของญี่ปุ่นได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของบราซิลเมื่อปี 2566 แต่ยังไม่ถูกกระจายในวงกว้าง โดย เอเดอร์ กัตติ (Eder Gatti) ผู้อำนวยการโครงการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุขของบราซิล กล่าวว่า จำนวนโดสของวัคซีนที่บริการสาธารณสุขได้รับจากห้องปฏิบัติการของญี่ปุ่นนั้นมีจำกัด รัฐบาลจึงวางแผนที่จะให้ความสำคัญกับเทศบาลขนาดใหญ่ที่มีอัตราการแพร่เชื้อไข้เลือดออกสูง

ทางการของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ได้ประกาศเปิดศูนย์รักษาผู้ป่วยไข้เลือดออก 10 แห่ง แดเนียล โซรานซ์ (Daniel Soranz) หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายสาธารณสุขของเมือง กล่าวว่า จุดมุ่งหมายคือเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยร้ายแรงและการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อ เพราะการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้เกิดความแตกต่าง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังได้เรียกร้องให้ประชาชนป้องกันการถูกยุงกัดด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ไล่ยุง

นิเซีย ทรินดาด (Nisia Trindade) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของบราซิล เรียกร้องให้ประชาชนตรวจดูบ้านเรือนและกำจัดแหล่งน้ำนิ่งซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ขณะที่เจ้าหน้าที่รมควันกำลังฉีดพ่นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด และจะมีการประกาศด้านสาธารณสุขที่สนามซัมบาโดรม ซึ่งเป็นสถานที่ที่โรงเรียนสอนเต้นแซมบ้าชื่อดังของริโอฯ เพื่อเดินขบวนต่อหน้าคณะกรรมการตัดสิน เพื่อคว้าตำแหน่งผู้ชนะขบวนพาเหรด ของเทศกาลคาร์นิวัลในปีนี้

รายงานของสื่ออังกฤษยังกล่าวด้วยว่า นอกจากริโอ เดอ จาเนโรแล้ว ยังมีอีกหลายพื้นที่ในบราซิลที่ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกระบาดอย่างรุนแรง อาทิ รัฐมินัส เจไรส์ (Minas Gerais) รัฐอาเกร (Acre) และรัฐโกยาส (goias) ได้ประกาศไปตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว ด้าน ฟาบิโอ บัคเคเรตติ (Fabio Baccheretti) หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายสาธารณสุขของรัฐมินัส เจไรส์ ตั้งข้อสังเกตว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากปรากฏการณ์เอลนิโญ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้โรคไข้เลือดออกระบาดรุนแรงขึ้น และนอกจากบราซิลแล้ว ยังพบสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกรุนแรงขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาร์เจนตินาด้วย

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า นายเริงชัย ประภาษานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช 2562ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี สิริอายุ 64 ปี โดยทางครอบครัวแจ้งว่าจะมีกำหนดรดน้ำศพ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.00 น. และกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 7 , 8 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 19.00 น. ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ศาลา 2 ซอย วัชรพล ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และกำหนดการพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น.

อธิบดีสวธ. เปิดเผยอีกว่า นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม มอบหมายให้กองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม โดยกลุ่มสวัสดิการศิลปินแห่งชาติฯ ดำเนินการจัดสวัสดิการช่วยเหลือ ดังนี้ มอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพศพ 3,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 150,000 บาท ด้วย

สำหรับประวัติของ นายเริงชัย ประภาษานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช 2562 เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 ที่อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร ขณะศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนนันทนศึกษา เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2487 โรงเรียนปิดลง เริงชัยออกมาทำงานที่โรงไฟฟ้าสามเสน เมื่อโรงไฟฟ้าถูกระเบิดทำลาย ได้งานทำใหม่เป็น ช่างเรียงพิมพ์ และเริ่มเขียนเรื่องสั้นเรื่องแรกชื่อ "พรหมบันดาล” ตีพิมพ์ในนิตยสาร "รัตนโกสินทร์” ใช้นามปากกา "สุริยา” ต่อมาเขียนนวนิยายแนวบู๊ใช้นามปากกา "เศก ดุสิต” เรื่อง "สี่คิงส์” และ "ครุฑดำ” จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์อักษรสมิต ตามมาด้วยเรื่องในชุด "อินทรีแดง” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น มีชื่อเสียงเป็นที่นิยม จนต้องนำตัวละครจากทั้ง 2 เรื่อง คือ "คมน์ พยัคฆราช” และ "โรม ฤทธิไกร” มามีบทบาทร่วมกันในเรื่อง "จ้าวนักเลง” ต่อมาเรื่อง "พยัคฆ์ร้ายไทยถีบ” ตีพิมพ์ในนิตยสารอาทิตย์รายสัปดาห์ของสำนักพิมพ์อักษรโสภณ เริงชัยใช้นามปากกา เศก ดุสิต, เกศ โกญจนาศ, ศิรษา, ดุสิตา, สุริยา และลุงเฉื่อย

ในสมัยสื่อสิ่งพิมพ์ เฟื่องฟู ผลงานของเริงชัยเป็นที่ต้องการของหนังสือต่าง ๆ ในสัปดาห์หนึ่งจึงต้องเขียนนวนิยายส่งนิตยสารถึง 5 เล่ม ผลงานมีทั้งหมดกว่า 50 เล่ม ส่วนใหญ่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เริงชัยได้รับรางวัลนราธิป จากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2552 ผลงานชุด "อินทรีแดง” เป็นหมุดหมายของอาชญนิยายไทย เริงชัยสามารถสร้างตัวละคร "อินทรีแดง” ให้เป็นบุคคลในอุดมคติเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเยียวยาจิตใจของผู้คนในสังคมให้มีพลังและแกร่งกล้า เพื่อต่อสู้กับอำนาจ ความชั่วร้าย อินทรีแดงเป็นวีรบุรุษในหัวใจนักอ่าน เป็นคนดี คนเก่งที่ช่วยแก้ปัญหา ไม่เพียงแต่ในสังคมเล็ก ๆ หรือ ชุมชน หากหมายรวมถึงปัญหาของบ้านเมืองด้วย เป็นตัวแทนของคนไทยในการปราบปรามความชั่วร้ายในสังคม ผลงานของเริงชัยมีพลังทางวรรณศิลป์ ผ่านโครงสร้างนวนิยายอันซับซ้อน และด้วยภาษาอันทรงประสิทธิภาพ ผลงานจึงได้รับความนิยม และยืนยงข้ามกาลเวลา อยู่ในความทรงจำของนักอ่านมาทุกยุคทุกสมัย นายเริงชัย ประภาษานนท์ จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช 2562

7 กุมภาพันธ์ 2567 ทำเอาแฟนคลับทั่วโลกแตกตื่นกันไปตามๆ กันเมื่อ ลิซ่า 'ลลิษา มโนบาล' หรือ 'ลิซ่า แบล็กพิงก์' โพสต์สตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว 'lalalalisa_m' ที่มีผู้ติดตาม 100 ล้านฟอลโลเวอร์ เป็นภาพภาพขาว-ดำ พร้อมข้อความว่า “coming soon” เพียงเท่านี้แฟนคลับก็พากันแตกตื่นว่าศิลปินสุดฮอตกำลังบอกใบ้ผลงานอะไร โดยลิซ่าเธอจะประกาศรายละเอียดในวันพรุ่งนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2024)

ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผลงานที่เธอเตรียมจะปล่อยเร็วๆ นี้เป็นในด้านของแฟชั่นหรือผลงานเพลงพราะผลงานเพลงเดี่ยวของเธอก็คือ ซิงเกิลอัลบัม Lalisa นั้นถูกปล่อยออกมาสักพักใหญ่แล้วตั้งแต่ปี 2021

การออกมาเคลื่อนไหวของ ลิซ่า ครั้งนี้จึงเป็นที่จับตามองอย่างมากทั้งจากแฟนคลับทั่วโลกและสื่อ ซึ่งจะลุ้นว่าเธอกำลังจะเปิดค่ายของตัวเอง หรือได้เซ็นสัญญากับค่ายไหนเพื่อออกผลงานเดี่ยวของเธอกันแน่ และลุ้นว่าผลงานของเธอจะเป็นผลงานอะไร