ข่าว
เฟซบุ๊คจะออกคริปโตชื่อ Libra

ซานฟรานซิสโก (รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - เฟซบุ๊คเปิดตัวแผนเตรียมการออกสกุลเงินดิจิทัลเข้ารหัส หรือคริปโตเคอเรนซี ชื่อลิบรา (Libra) ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่จะขยายธุรกิจจากโซเชียลเนตเวิร์กไปเป็นอี-คอมเมิร์ซและการชำระเงินระดับโลก

สื่อต่างประเทศรายงานอ้างเอกสารการตลาดและบทสัมภาษณ์ผู้บริหารว่าเฟซบุ๊คมีหุ้นส่วนแล้ว 28 ราย ในสมาคมลิบราที่ตั้งขึ้นที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทำหน้าที่ดูแลสกุลเงินดิจิทัลลิบราและยังได้ตั้งบริษัทในเครือชื่อคาลิบรา (Calibra) ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับเก็บ โอน และใช้สกุลเงินนี้ คาลิบราจะเชื่อมกับแพลตฟอร์มสนทนาของเฟซบุ๊คอย่างแมสเซ็นเจอร์และวอทส์แอป ที่มีผู้ใช้รวมกันกว่าพันล้านคน เฟซบุ๊คหวังว่า โครงการนี้นอกจากจะช่วยให้การทำธุรกรรมระหว่างผู้บริโภคและภาคธุรกิจทั่วโลกแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังจะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่ไม่มีบัญชีธนาคารได้ใช้บริการการเงินเป็นครั้งแรกด้วย

นายเดวิด มาร์คัส อดีตผู้บริหารเพย์แพลที่มารับเป็นหัวหน้าโครงการให้เฟซบุ๊คเผยว่า ชื่อลิบรามาจากวิธีการชั่งน้ำหนักในสมัยโรมัน เป็นสัญลักษณ์ราศีตุลย์ที่หมายถึงความยุติธรรม และแปลว่าเสรีภาพในภาษาฝรั่งเศส เพราะเงิน ความยุติธรรม และเสรีภาพคือจุดมุ่งหมายของโครงการนี้

เฟซบุ๊คซึ่งหวังจะหารายได้จากการให้บริการธุรกรรมการเงินและการชำระเงินเหมือนวีแชท แอพยอดนิยมของจีน ตั้งเป้าจะมีหุ้นส่วนให้ได้ 100 ราย เมื่อเปิดตัวลิบราในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า หุ้นส่วนแต่ละรายจะมีสิทธิออกเสียงในการตัดสินใจสำคัญ และต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 313 ล้านบาท) เฟซบุ๊คจะลดบทบาทแกนนำหลังสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดีมีเสียงติงว่า ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและอุปสรรคเรื่องระเบียบต่างๆ อาจทำให้โครงการไม่สำเร็จอย่างที่คิด

‘ชวลิต’ปูดขบวนการกดดัน เขี่ยทิ้งญัตติส.ว.ลากตั้ง เชื่อ‘ชวน’กรุยทางตรวจสอบ

20 มิ.ย.62 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้ความเห็น ส.ส. ไม่อาจยื่นญัตติตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว.ได้ว่า เข้าใจว่า ประธานวุฒิสภา คงยังไม่ได้อ่านสาระในตัวญัตติ เพราะสาระของญัตติไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว. ซึ่งไม่ใช่หน้าทึ่ของ ส.ส. แต่ ส.ส. มีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ ซึ่งรัฐสภามีองค์ประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว. ในกระบวนการสรรหา ส.ว. เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน และ ส.ว. เป็นองค์ประกอบหนึ่งของรัฐสภา ในกระบวนการสรรหา ส.ว. มีการใช้งบประมาณแผ่นดินถึง 1,300 ล้านบาท ปรากฏว่า มีข้อพิรุธหลายประการที่การใช้จ่ายงบประมาณในการสรรหา ส.ว. อาจไม่เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งอาจทำให้ที่มาของ ส.ว ไม่ถูกต้อง ย่อมส่งผลต่อสมาชิกภาพของ ส.ว. และส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในรัฐสภา

“จึงมีความจำเป็นที่สภาฯ ควรมีการตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว.ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯข้อ 42 ขณะนี้ผมแว่วๆมาว่า อาจมีการกดดันไม่ให้มีการรับญัตตินี้ไว้พิจารณาในสภาฯ แต่ผมมั่นใจว่า ท่านชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะยึดกฎหมายและข้อบังคับให้ ส.ส. ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบกระบวนการสรรหาส.ว.ซึ่งใช้งบประมาณแผ่นดินถึง 1,300 ล้านบาท เพื่อความโปร่งใส และพิสูจน์ความถูกต้อง ชอบธรรม ชอบด้วยกฎหมายให้เป็นที่ประจักษ์สืบไป” นายชวลิต กล่าว


หนาวเป็นแถว! ผบ.ตร.สั่งขยายผลศิลปินดาราเอี่ยวขบวนการค้ายาเสพติด'ปุ๊กกี้'

20 มิ.ย.62 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งขยายผลศิลปินดาราที่เข้าไปมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายค้ายาเสพติดของ "ปุ๊กกี้" น.ส.ปริศนา พรายแสง อดีตนักร้องดัง พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมา ตำรวจดำเนินการสกัดกั้น และจับกุมยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มียาเสพติดล็อตใหญ่ ตกค้างอยู่ภายในประเทศประมาณร้อยละ 10 ส่วนที่เหลือก็จับได้ทั้งหมด หรือออกนอกประเทศไปหมดแล้ว

"จากการกดดันเส้นทางขนส่งทางบกอย่างหนัก ทำให้ผู้ค้าบางส่วน ปรับเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงไปทางน้ำ หรือทางทะเล ที่มีข่าวว่า มีการส่งยาเสพติดล็อตใหญ่จากไทยไปออสเตรเลีย ตำรวจไทยได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกประเทศ ตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ยังได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี ให้ปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น"ผบ.ตร.กล่าว


'Fast9เริ่มเซ็ตฉากถ่ายทำก.ค.นี้ นายกฯชี้สบายใจได้ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมกระบี่

20 มิ.ย.62 ขณะที่นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวกระบี่ รู้สึกยินดีแต่ห่วงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแล ยกกรณี 'เดอะบีช' เป็นตัวอย่าง ด้านผู้ประสานงานกองถ่าย ยันไม่ซ้ำรอย 'เดอะบีช' แน่นอน ทีมถ่ายทำให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

จากกรณีที่ทีมงานกองถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ เรื่อง “Fast and Furious 9” ได้เข้ามาพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อแจ้งขออนุญาต ขนย้ายอุปกรณ์ประกอบฉากเข้าพื้นที่ ก่อนจะมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมนี้ เป็นต้นไป สร้างความตื่นเต้นแก่บรรดาแฟนคลับชาวไทยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะชาวจังหวัดกระบี่ ทันทีที่เห็นขบวนรถบรรทุก รถสปอร์ตหรูและรถหุ้มเกราะนับสิบคันเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็มีการแชร์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเชื่อว่าเป็นรถที่นำมาเข้าฉากในภาพยนตร์ฟาสต์ 9 ที่ทุกคนรอคอยอย่างแน่นอน เนื่องจากติดตามชมมา ตั้งแต่ภาคที่ 1-8 และเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา

ความคืบหน้าวันที่ 19 มิ.ย.62 ที่โรงโม่หินเก่าในพื้นที่ ม.2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ในวันนี้ไม่พบว่า มีการขนย้ายอุปกรณ์หรือที่ใช้ประกอบฉาก เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังคงมีรถตู้และรถบรรทุกของคณะกองถ่ายทำวิ่งเข้า-ออกพื้นที่โรงโม่หินตลอดเวลา โดยมีกลุ่มวัยรุ่น ขับรถจยย.ผ่านไปมา ชะลอรถพยายามมองดูจากด้านนอก แต่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้เนื่องจากเป็นเขตหวงห้าม คาดว่า อยู่ระหว่างการเร่งติดตั้งอุปกรณ์ประกอบฉาก ก่อนที่จะเริ่มการถ่ายทำ

นายวัฒนะ เริงสมุทร์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวถึง กรณีที่มีการถ่ายทำภาพยนต์ Fast and Furious 9 ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ว่าเป็นโอกาสดีของจังหวัดกระบี่และแสดงความยินดีที่จังหวัดกระบี่ได้มีโอกาสต้อนรับบริษัทหนังใหญ่ระดับโลกเลือกพื้นที่กระบี่ในการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ภายหลังคัดเลือกมาจากหลายๆประเทศทั่วโลก ขอบคุณชาวกระบี่ที่ช่วยกันดูแลธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี เชื่อว่า หลังจากที่หนังเข้าฉายแล้ว ภาพลักษณ์ของจังหวัดกระบี่จะปรากฏสู่สายตาชาวโลกจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดกระบี่มากขึ้น

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายความห่วงใยในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการถ่ายทำภาพยนตร์ดังกล่าว เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องเดอะบีชที่อ่าวมาหยา เมื่อ 20 กว่าปีก่อนนั้น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า บทเรียนที่ชาวจังหวัดกระบี่ได้รับจากเรื่องเดอะบีชนั้นเชื่อว่าทำให้หลายหน่วยงานมีความตระหนักมากยิ่งขึ้น เพราะในปัจจุบันมีการตั้งคณะทำงานหรือเรียกว่าฟิล์มบอร์ด ซึ่งมีหน่วยงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่คอยกำกับดูแลในเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดและขอฝากให้ทุกคนช่วยกันดูแลและเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือคณะกองถ่ายทำในระหว่างที่อยู่ในพื้นที่

ด้าน นายปิยะ เปสตันยี ผู้ประสานงานกองถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง “Fast and Furious 9” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการถ่ายทำ ในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งอาจจะมีการเลื่อนกำหนดการถ่ายทำไปบ้าง ส่วนสถานที่ถ่ายทำนั้น ตามที่ตนได้ทำสัญญาไว้กับบริษัททำหนังคือที่ จ.กระบี่,พังงา,ภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี โดยที่ จ.กระบี่ จะถ่ายทำในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด

อย่างไรก็ตาม กรณีที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเหมือนอย่างภาพยนต์เรื่องเดอะบีช ที่เข้ามาถ่ายทำที่อย่ามาหยาเมื่อ 20 ปีก่อนนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนเพราะเป็นหนังคนละแนวกัน ขณะเดียวกัน ทางทีมกองถ่ายต่างประเทศมีความตระหนักและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมาก แม้ว่าหนัง Fast9 จะเป็นหนังแนวแอ๊คชั่น แต่จะไม่มีการไปกระทบกับธรรมชาติแน่นอน ขอให้ชาวจังหวัดกระบี่สบายใจได้


สื่อญี่ปุ่นห่วงศก.ล่มสลาย เหตุ'เด็กเกิดน้อย-ไร้แรงงาน-ไม่รับต่างด้าว-คนแก่ล้นเมือง'

20 มิ.ย.62 เว็บไซต์ นสพ. The Japan Times เสนอรายงานพิเศษ "The fate of Japan, and everyone else" เมื่อ 18 มิ.ย. 2562 ระบุว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาประชากรวัยแรงงานที่ลดลงสวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น กระทบต่อรายจ่ายของรัฐบาลด้านบำนาญและสวัสดิการด้านสุขภาพ และเมื่อประกอบกับการไม่ค่อยอยากต้อนรับแรงงานต่างด้าว ในระยะยาวภาคธุรกิจของญี่ปุ่นยากที่จะไปต่อได้

ย้อนไปเมื่อทศวรรษ 1980s (ปี 2523 - 2532) ญี่ปุ่นเคยถูกคาดหมายว่าอาจจะแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ขึ้นไปเป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลก ด้วยศักยภาพที่เต็มเปี่ยมทั้งอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ยานยนต์ ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้า - อิเล็กทรอนิกส์ แต่นั่นคือเรื่องของอดีต ปัจจุบันแม้ญี่ปุ่นจะมีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 3 ของโลก ตามหลังสหรัฐและจีน แต่ทุกอย่างไม่เหมือนเมื่อ 3 ทศวรรษก่อนอีกต่อไป

ข้อมูลในปี 2559 พบว่าหญิงชาวญี่ปุ่นมีบุตรเฉลี่ยเพียง 1.4 คน น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) อันเป็นเครือข่ายของประเทศพัฒนาแล้วซึ่งอยู่ที่ 1.7 คน และน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานคือแม่ 1 คน ควรมีลูก 2.1 คน จึงจะมีประชากรรุ่นใหม่เพียงพอมาทดแทนรุ่นก่อนหน้าได้ นอกจากนี้ยังพบว่าจำนวนคนตายมีมากกว่าคนเกิดตั้งแต่ปี 2550 และคาดว่าในทศวรรษ 2030s (ปี 2573 - 2582) ประชากรชาวญี่ปุ่นจะหายไปถึง 8.2 ล้านคน หรือเท่ากับการสูญเสียประชากรทั้งหมดในกรุงโตเกียว

ไม่เพียงเท่านั้น หากเทียบสัดส่วนประชากรวัยแรงงาน (อายุ 20 - 64 ปี) กับวัยเกษียณ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) ปัจจุบันคนวัยทำงาน 2 คน เลี้ยงคนชรา 1 คน แต่ในปี 2593 จะเหลือคนวัยทำงาน 1.3 คน เลี้ยงคนชรา 1 คน และในปีดังกล่าวกำลังแรงงานในญี่ปุ่นจะหายไปถึงร้อยละ 25 สิ่งเหล่านี้คงไม่เกินจริงหากจะเรียกมันว่า "วันโลกาวินาศ (Doomsday)" ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น เพราะตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา รายจ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการผู้สูงอายุในญี่ปุ่นมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมร้อยละ 11 ของผลิตภัณฑ์มวลรามประเทศ (GDP) พุ่งขึ้นเท่าตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 22 ในปี 2561

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันหนี้ภาครัฐของญี่ปุ่นพุ่งสูงไปถึงร้อยละ 226 ของ GDP สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศกลุ่ม OECD และมากกว่าหนี้ภาครัฐของสหรัฐเท่าตัว แต่มาตรการของรัฐบาล เช่น การตัดลดรายจ่ายหรือการเพิ่มภาษี กลับกลายเป็นการทำให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากมีบุตรยิ่งขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันแม้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวจะช่วยปรับสมดุลโครงสร้างเศรษฐกิจได้ แต่ประเทศญี่ปุ่นที่ผู้คนยึดมั่นในอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนก็ไม่ค่อยชอบแนวทางนี้

เห็นได้จากจำนวนแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในญี่ปุ่น ในปี 2556 อยู่ที่ 7 แสนคน เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี ในปี 2561 พบว่าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.46 ล้านคน ถึงกระนั้นก็คิดเป็นเพียงร้อยละ 2 ของประชากรญี่ปุ่นทั้งประเทศเท่านั้น หรือจำนวนคนต่างด้าวที่พำนักในญี่ปุ่นก็มีเพียงร้อยละ 1.9 ในปี 2560 ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศ OECD ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 13

รายงานข่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยคำถามที่ว่า แล้วญี่ปุ่นจะหาทางแก้ไขวิกฤตินี้ได้หรือไม่ อนึ่ง ไม่ใช่เฉพาะประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น บรรดาประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายแม้กระทั่งสหรัฐก็ประสบปัญหาเดียวกัน เพียงแต่ระดับความรุนแรงยังน้อยกว่า

'เมิ่ง หงเว่ย'อดีตประธานอินเตอร์โพล สารภาพรับสินบน 65 ล้านบาท

20 มิ.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายเมิ่ง หงเว่ย อดีตประธานองค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ชาวจีน ได้ยอมรับในการไต่สวนที่ศาลในเมืองเทียนจิน ว่าตนได้รับสินบน 14.5 ล้านหยวน หรือราว 65.1 ล้านบาท พร้อมแสดงความเสียใจ ส่วนกำหนดการตัดสินโทษนั้นจะมีประกาศอีกทีภายหลัง

ทั้งนี้ นายเมิ่งซึ่งเป็นชาวจีนคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานของตำรวจสากล ได้ขอลาออกจากตำแหน่งประธานเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ต่อมาภรรยาของเขาแจ้งว่าเขาหายตัวไประหว่างเดินทางจากฝรั่งเศสกลับไปยังจีน จนกลายเป็นข่าวครึกโครมทั่วโลก ก่อนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะประกาศเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ว่า ผลการสอบสวนพบว่านายเมิ่งนำเงินของรัฐไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ใช้อำนาจโดยมิชอบ และไม่ยอมทำตามการตัดสินใจของพรรค