ข่าว
'ขุนค้อน' ยอมเปิดซักฟอก 2 วัน 26-27 พ.ย.นี้

"สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร" บรรจุญัตติเปิดซักฟอก"นายกฯ ปู-จารุพงษ์" 2 วัน เร่งประสานขอคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมอภิปราย ยันทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ลั่นไม่มีใครได้ดั่งใจทุกอย่าง...

วันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ลงนามในคำสั่งบรรจุระเบียบวาระเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล (นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย) โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น. วันที่ 26-27 พ.ย.2556

นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า การอภิปรายในวันสุดท้าย จะไม่เกินเวลา 24.00 น. ของวันที่ 27 พ.ย. เพื่อให้ทันลงมติ โดยฝ่ายค้านจะต้องสรุปการอภิปรายเวลาประมาณ 22.00 น. อย่างไรก็ตามจะให้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายอย่างเต็มที่ 2 วัน โดยตนได้ประสานขอความร่วมมือไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เข้าร่วมรับฟังการอภิปราย

ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังประธานวุฒิสภา ขอให้เลื่อนการประชุมวุฒิสภาออกไปในช่วงดังกล่าว ส่วนกรณีที่ทางฝ่ายค้านขอเวลา 3 วันนั้น ตนพยายามประสานทุกฝ่ายและทำดีที่สุดแล้ว ใครจะได้ดั่งใจทุกอย่างไม่ได้ การที่ตนยอมเปิดให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้ฝ่ายค้านจะยื่นเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่คิดว่าไม่ใช่สาระสำคัญ ก็เพื่อลดกระแสการเมืองนอกสภาฯ ให้อยู่ในกรอบ เชื่อว่าฝ่ายค้านน่าจะยื่นเอกสารเพิ่มเติมที่เราขอไปก่อนการอภิปราย.

นายกฯรับกังวล หลังศาล ชี้ แก้รธน.ที่มาส.ว. เป็นโมฆะ

วันที่ 21 พ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีฝ่ายค้าน และ 40 ส.ว. เรียกร้องนายกฯแสดงความรับผิดต่อกรณีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่ มาส.ว. ขึ้นทูลเกล้าฯว่า ต้องกราบเรียนพี่น้องประชาชน เพราะขั้นตอนต่างๆ รัฐบาลทำตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีข้อกฎหมายอยู่ ทุกอย่างทำตามขั้นตอน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่า เป็นเหตุการณ์ใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย คงต้องให้ทางกฤษฎีกาในฐานะฝ่ายกฎหมายได้ศึกษาก่อน ยืนยันว่า เราได้พยายามที่จะทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กังวลมาตลอดอยู่แล้ว เราไม่อยากเห็นการเกิดความขัดแย้ง หรือความเห็นที่ไม่เหมือนกัน เราหวังว่า เรื่องของการศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ จะมีทางออก เพราะ เราอยากให้บรรยากาศเป็นไปในทางที่ดี เนื่องจาก ใกล้เดือนมหามงคล และใกล้เทศกาลปีใหม่ จึงอยากให้ทุกอย่างมีทางออก เมื่อถามว่า คิดว่า สถานการณ์จะวุ่นวายมากขึ้นหรือไม่ เมื่อพรรคเพื่อไทย มีธงที่จะถอดถอนศาลรัฐธรรมนูญ นายกฯ กล่าวว่า ตรงนี้คงตอบไม่ได้ เพราะทุกคนต้องแสดงออก ในการแสดงความคิดเห็น ในจุดยืนของแต่ละท่าน

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายนักวิชาการต่างๆ คงจะมาให้ความเห็น ต้องของเรียนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่จริงๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะฉะนั้น แนวทางต่างๆ คงต้องให้เวลาศึกษาก่อน อยากให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น แต่ต้องศึกษาแนวทางให้ดีอย่างรอบคอบ เมื่อถามว่า ขอบเขตอำนาจศาลที่พรรคเพื่อไทย ประกาศไม่ยอมรับ ในส่วนรัฐบาลมีความเห็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เรียนว่าเป็นเรื่องใหม่ รายละเอียดทั้งหมดเป็นเรื่องของสภาฯ ซึ่งสภาฯ คงต้องมีทีมนักกฎหมายในการศึกษาก่อน

เมื่อถามว่า เมื่อป.ป.ช.รับลูกจากศาลรัฐธรรมนูญ ไปพิจารณาต่อทันที มีความห่วงกังวล หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าหวังว่า ทุกฝ่ายที่เป็นฝ่ายให้ความยุติธรรม จะยึดบนหลักกติกาของบ้านเมือง เพื่อให้มีทางออก ให้แต่ละคนสามารถเดินต่อได้ และหวังว่า จะเห็นอย่างนั้น เพราะ ถ้าเราไม่มีทางออก เราก็เกรงว่า ประเทศจะมีความเห็นที่ต่างกัน หวังว่า การศึกษาต่างๆ ด้วยความรอบคอบ ด้วยเหตุด้วยผล น่าจะเป็นทางออกสำหรับการคิด และการแก้ไขปัญหาต่อไป

เมื่อถามว่า ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท นายกฯจะพิจารณาอย่างไร และนำขึ้นทูลเกล้าฯเลย หรือไม่ เพราะขั้นตอนที่สภาฯจบแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ขั้นตอน ของ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะต่างกันกับขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ และทุกอย่างยืนยัน จะทำตามขั้นตอน และก็จะแจ้งให้ทราบเพราะตอนนี้ เรายังไม่ได้รับเรื่องจากทางสภาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกฯจะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ได้พูดคุยกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมช.เกษตรและสหกรณ์ ถึงปัญหาที่เกิดจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. เป็นโมฆะ หลังจากฝ่ายค้าน ยื่น ป.ป.ช.ถอดถอน กรณีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นเวลา 15 นาที จากนั้นให้สัมภาษณ์สื่อ โดยเรียกนายนิวัฒน์ธำรงและนายวราเทพ มายืนด้านหลังขณะให้สัมภาษณ์

คปท.ประชิดทำเนียบฯ ปักหลักสี่แยกนางเลิ้ง

คปท.แตะมือม็อบ ปชป. ย้ายวิกจากบริเวณมัฆวานฯ ไปปักหลักบริเวณแยกนางเลิ้งไม่ไกลจากทำเนียบฯ มากนัก หลังเดินสายติดโบดำ พท. เปิดทางให้ม็อบ ปชป.ขยับใช้มัฆวานฯ...

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. มีรายงานว่า ม็อบเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณแยกมัฆวานฯ ไปทำกิจกรรมบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แยกอโศก-สุขุมวิท ต่อจากนั้น เดินทางต่อไปยังบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย หรือ พท. ถนนเพชรบุรี

ทั้งนี้ ที่หน้า พท.ม็อบ คปท. ได้นำดาวและโบสีดำ ไปผูกที่หน้า พท.โดยระบุว่าเพื่อแสดงถึงการไม่ยอมรับรัฐบาล ขณะที่แกนนำ กล่าวว่า ให้เวลา พท. 1 สัปดาห์ ปลดป้าย เพราะประชาชนไม่ยอมรับอีกต่อไป

มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมที่ พท. ม็อบ คปท. ได้เคลื่อนไปตาม ถนนเพชรบุรี มุ่งหน้าประตูน้ำ ซึ่งมาถึงบริเวณนี้ มีผู้ไม่หวังดีได้ปาประทัดยักษ์เข้าใส่ เบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับอันตราย โดยขบวนเดินทางต่อ

กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ม็อบ คปท. ได้หยุดปักหลักอยู่บริเวณ ถนนพิษณุโลก ช่วงแยกนางเลิ้งถึงแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งไม่ไกลจากทำเนียบรัฐบาลมากนัก

นายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. กล่าวว่า ตั้งแต่คืนวันที่ 22 พ.ย. เป็นต้นไป จะมีการยกระดับการชุมนุมมาตั้งเวทีกดดันรัฐบาลที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ส่วนพื้นที่ชุมนุมเดิมเวทีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะขยับเข้ามาแทนที่ ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง 3 เวที ที่จะร่วมกันขับไล่ระบบทักษิณครั้งใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย.นี้.