ข่าว
‘โบว์-มะลิ’ เตรียมรับรางวัลแทน ‘พ่อปอจ๋า’ ในสาขาผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม

แม้ตัวจะจากไปแต่คุณความดียังคงอยู่ตลอดกาล สำหรับนักแสดงหนุ่ม ปอ – ทฤษฎี สหวงษ์ ที่ล่าสุดเพิ่งได้รับรางวัลเนตรนาคราช สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม ซึ่งปอเคยได้รับรางวัลเดียวกันนี้ไปเมื่อปีที่แล้ว โดยงานมอบรางวัลที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ( 28 ม.ค. 2559) โบว์ – แวนดา และน้องมะลิ – พาขวัญ จะเป็นผู้ไปรับรางวัลแทนที่หอประชุมกองทัพอากาศ ห้องชัยพฤกษ์ เวลา 14.00 น.

ทั้งนี้รางวัลเนตรนาคราช ยังมีศิลปิน และนักแสดงอีกหลายคนที่ได้รับรางวัล อาทิ พลอยพรรณ ทวีรัตน์ ไดเรนดัล , ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์ , อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์ , ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน-สุดารัตน์ บุตรพรม , อี้-วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทย2557 , แก้ม-กวินตรา โพธิจักร , ก้อง ห้วยไร่ , ชัช แทนกาย , สมบัติ เมทะนี ฯลฯ

เพื่อไทยชี้’ตุ๊กตาลูกเทพ’ ตอกย้ำสภาพคนป่วยในอาเซียนของไทย

เมื่อวันที่ 27 มกราคม นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีต รมช.แรงงาน กล่าวถึงกระแสนิยม “ตุ๊กตาลูกเทพ” ว่า เศรษฐกิจที่ตกต่ำล้มเหลว ขยายวงกว้างไปสู่ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพในสังคมที่ต้องดิ้นรนหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เนื่องจากรัฐบาลไม่มีผลงานการพัฒนาเศรษฐกิจให้เข้มแข็งได้เลย วันนี้ประเทศไทยถูกกล่าวถึงในเชิงลบว่าเป็น “คนป่วยในอาเซียน” อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจาก “การเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย-เศรษฐกิจถดถอย-สังคมอ่อนแอ”

นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า คสช.และรัฐบาลต้องรีบแก้ไขปัญหาสังคมในปัจจุบันโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควรของคนไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องรีบยกระดับจิตใจและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเร็ว ด้วยการแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา นั่นคือ คืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ปวงชนชาวไทย คืนสิทธิในการเลือกตั้งผู้นำประเทศด้วยมือของประชาชนโดยตรง เพื่อให้ได้รัฐบาลของประชาชนที่มีความพร้อม มีวิสัยทัศน์ เข้ามาบริหารบ้านเมือง

“ดิฉันอยากได้รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน มาพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองให้ก้าวหน้าไปพร้อมๆ กันทุกด้าน เด็ก เยาวชนและประชาชนใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยในการค้นคว้าหาความรู้ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ด้วยสติปัญญา กระตือรือร้นในการพัฒนาตนเองด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ควบคู่กับการยึดมั่นในศีลธรรมจรรยา นั่นคือต้องส่งเสริมให้เด็ก เยาวชนและประชาชนหอบแท็บเล็ต ถือสมาร์ทโฟน ใช้เป็นกุญแจไขประตูสู่อนาคตที่รุ่งเรือง” นางลดาวัลลิ์กล่าว


เยือนบ้านอาจารย์โอม มหามนตรากับปรากฏการณ์ “ลูกเทพ”

ท่ามกลางกระแส “ลูกเทพ” ที่กำลังฮิตอยู่ในปัจจุบัน

จากตุ๊กตาน่ากลัว กลายเป็นที่พึ่งทางใจ ทำให้ผู้มีให้ความสำคัญกับ “ลูกเทพ” ประหนึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต

บ้างก็จับจองที่นั่งบนเครื่องบินให้ บ้างก็จัดเลี้ยงอาหาร

ขณะเดียวกันก็มีผู้นำเอาตุ๊กตาลูกเทพไปปลุกเสก

ผู้สื่อข่าวถือโอกาสนี้เดินทางไปเยือนบ้านอาจารย์โอม มหามนตรา เจ้าพิธีกรรม “นะหน้าทอง” และเจ้าตำรับ “กุมาร และกุมารี” แห่งประเทศไทย

ณ บ้านเรือนไม้ทรงไทยโบราณสองชั้น เลขที่ 130/1 หมู่ 3 ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม

“โอม มหามนตรา” (ตรีวิมล) อายุ 42 ปี ผู้ผันตัวเองมาเป็นอาจารย์ด้านไสยศาสตร์ และมีสานุศิษย์ศรัทธา ในวิชา “นะหน้าทอง” และเจ้าตำหรับ “กุมาร และ กุมารี” แห่งประเทศไทย เข้ามาประกอบพิธีลงนะหน้าทอง และเช่าบูชา “กุมาร และ กุมารี” ไปบูชา

ว่ากันว่ากุมารทอง กุมารี ที่นำไปบูชา มีราคาตั้งแต่ 799 ถึง 100,000 บาท และผู้ที่จะมาเข้าพิธีจะต้องรับบัตรคิว

ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปเยือนบ้านหลังดังกล่าวที่ถูกเรียกว่า “ตำหนัก” เข้าไปสอบถามถึงกระแสการนำตุ๊กตา “ลูกเทพ” มาเลี้ยงว่ามีความคิดเห็นเช่นไร

อาจารย์โอม บอกว่า จริงๆ แล้วลูกเทพก็คือตุ๊กตาทั่วๆ ไปที่ได้มีการไปซื้อมาจากตลาด แล้วนำมาให้ฆราวาส หรือบุคคลที่ตัวเองนับถือ หรือพระภิกษุ ที่รู้สึกเคารพเลื่อมใสเจิมให้

จะเป็นการลงยันต์ เจิมแป้ง เพื่อเป็นสิริมงคล แล้วก็นำมาเลี้ยงบูชา จนเกิดความรักความผูกพัน จนสมมุตว่าเป็นลูก เป็นน้องของตนเองแล้วเรียกว่า “ลูกเทพ”

ขอย้ำว่าลักษณะเช่นนี้ไม่ได้ทำการปลุกเสกเรียกอาการ 32 เช่น ตั้งธาตุ หนุนธาตุ หรือเบิกเนตรแต่อย่างไร ลูกเทพก็คือมีเอาไว้แค่สบายใจ การเลี้ยงลูกเทพต้องนึกเสมอว่า เรามีไว้เพื่อเป็นกำลังใจที่จะตั้งใจ สิ่งที่เราจะทำต้องสำเร็จ ดังนั้นจึงต้องลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ลงมือทำอย่างถูกวิธี ตั้งเป้าหมายอย่างถูกวิธีและทำ นั่นแหละคือเป้าหมายและความสำเร็จที่แท้จริง ที่เราบูชา หรืออุ้มลูกเทพ

ส่วนที่มีการนำมาเลี้ยงดู เพื่อหวังมีโชคลาภ และจะทำให้ร่ำรวยขึ้น อาจารย์โอมบอกว่า หากทำถูกวิธี กล่าวคือ ผู้ที่จะบูชาและรวยนั้น จะต้องรักษาทิศทั้ง 6 ของตนเอง คือ พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ลูกหลาน สามี ภรรยา หรือคนที่เป็นบริวารของตนเองให้ครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน และต้องไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น และต้องตั้งเป้าหมายให้เหมาะสม แล้วลงมือทำจึงจะสำเร็จ

ส่วนกุมาร และกุมารี ของอาจารย์ เป็นการปลุกเสก และมีการเชิญอันดวงจิต ดวงวิญญาณมาจากเทพ ที่จัดสร้างขึ้นเป็นลักษณะเฉพาะตน กล่าวคือ ได้ใช้บทคาถาเป็นบทลับสุดยอด ในการเรียกทรัพย์ และเรียกเมตตามหานิยมมาสู่ผู้เลี้ยงบูชา เป็นกุมารที่อาจารย์ได้ใช้จิตของตนเองกำกับลงไป จึงทำให้กุมารนี้เหนือกว่ากุมารทั่วๆไป

อาจารย์โอมบอกว่า ในวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2559 จะมีพิธีกรรม “นะหน้าเงิน” ที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยจะมีพิธีเสี่ยงทายบารมี ลงพิธีกรรมนะหน้าเงิน คาดว่าจะมีผู้ที่ศรัทธามาร่วมจำนวนมาก


บัวแก้วผิดหวังฮิวเมนไรท์วอชต์ ยืนยันไทยมีเสรีภาพ-เคารพสิทธิมนุษยชน

นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงกรณีที่รายงานของฮิวเมนไรท์วอชต์เกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทยว่า รายงานดังกล่าวเป็นการสรุปสถานการณ์ภาพรวมด้านสิทธิมนุษยชนของทุกประเทศทั่วโลกซึ่งจัดทำโดยองค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาล โดยสถานการณ์ในประเทศไทยเป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายงาน ทั้งนี้เห็นว่าภาพรวมของปี 2558 ไม่สะท้อนถึงพัฒนาการเชิงบวกอันเป็นผลจากการดำเนินการอย่างจริงจังของรัฐบาลในหลายประการ แต่เป็นการวิจารณ์ประเด็นที่มีความคืบหน้า เช่น การแก้ไขปัญหาด้านการค้ามนุษย์ ทั้งในเรื่องบทบาทของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย การจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย การยกฟ้องคดีภูเก็ตหวาน การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข

“รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่รายงานดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนและมิได้สะท้อนถึงความคืบหน้าของการปฎิรูปซึ่งมีพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรม โดยรัฐบาลไทยยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามโรดแมป เพื่อนำมาซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง สังคมที่ปรองดองและบ้านเมืองที่มีเสถียรภาพ ตามกรอบระยะเวลาที่ระบุไว้ชัดเจน โดยจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมิถุนายน 2560 และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ในเดือนกรกฎาคม 2560″นายเสขกล่าว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ขณะนี้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่เปิดในภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมมีความคืบหน้าตามแผนที่กำหนดไว้ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเตรียมเปิดเผยรายละเอียดร่างแรกต่อสาธารณชนในวันที่ 29 มกราคมนี้ หลังจากนั้นจะลงพื้นที่เพื่อสอบถามความเห็นจากประชาชนเพื่อนำมาปรับแก้ให้เป็นร่างสุดท้ายภายในเดือนเมษายน ก่อนนำไปทำประชามติ

ทั้งนี้ ร่างรัฐธรรมนูญจะมีความเป็นสากลและเป็นที่ยอมรับได้จากทุกฝ่าย โดยมองปัญหาของประเทศในห้วงที่ผ่านมาเพื่อมิให้เกิดขึ้นอีก และช่วยแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่สั่งสมมานาน นอกจากนั้น ในช่วง 1 ปีที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ได้เสนอกฎหมายเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว จำนวน 164 ฉบับ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมายและสอดคล้องตามพันธกรณีระหว่างประเทศ

นายเสขกล่าวว่า ในประเด็นเรื่องเสรีภาพของประชาชนนั้นขอยืนยันว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักปฏิบัติสากล เห็นได้ว่าสื่อหลายสำนักสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้อย่างเสรี อย่างไรก็ดีมีความจำเป็นต้องคำนึงถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยและการป้องกันความแตกแยกในสังคมด้วย เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการปฏิรูปเพื่อนำสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคงและความสามัคคีภายในชาติ

นายเสขกล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินคดีในศาลทหารตามที่มีการระบุในรายงาน ขอยืนยันว่ารัฐบาลไทยยึดมั่นในกระบวนการตามกฎหมาย ปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกควบคุมอย่างถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยกระบวนการภายในศาลทหารไม่แตกต่างจากวิธีพิจารณาความอาญาภายใต้ศาลอาญาปกติ จำเลยได้รับสิทธิเช่นเดียวกัน ปัจจุบันพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารคือกลุ่มตามฐานความผิดที่จำกัดเพียง 4 ประเภทเท่านั้น ได้แก่ ความมั่นคงแห่งชาติ ความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความผิดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม และการขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


แท็กซี่หลอน! ผู้โดยสารอุ้มลูกเทพ คุยมุ้งมิ้ง แถมว่า’พี่คะขับรถดีๆหน่อย ลูกหนูเมารถ

กระแสลูกเทพฟีเวอร์จริงอะไรจริง ซึ่งก็มีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟัง ไม่เว้นแต่ละวัน

อย่าง “โชเฟอร์แท็กซี่” คนนี้ ที่ไม่ได้เลี้ยงลูกเทพแต่อย่างไร แต่มีประสบการณ์ “หลอน” จนต้องอัดคลิประบายความในใจ เมื่อต้องรับผู้โดยสารยามค่ำคืน ที่อุ้มลูกเทพขึ้นมาบนรถแล้วมาคุยกันน่ารัก มุ้งมิ้ง แถมสะกิดให้โชเฟอร์ท่านนี้ขับรถดีๆ ไม่ให้ลูกเทพเวียนหัวเสียด้วย

งานนี้ โชเฟอร์จึงได้แต่คร่ำครวญว่า

“เรามาถึงจุดจุดนี้ได้ยังไง จุดที่ต้องขับรถไม่ให้ตุ๊กตาเมารถ”!!!


‘เดนมาร์ก’ครองตำแหน่ง ‘โปร่งใส’สุด ไทยได้อันดับที่ 76 จาก 168 ประเทศ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม องค์กรเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ (ทีไอ) เผยแพร่รายงานดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น ประจำปี 2558 ปรากฏว่า ผลคะแนนภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นโลก ประจำปี 2558 ของประเทศไทย ได้ 38 คะแนน จากคะแนนเต็มความโปร่งใส 100 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 76 จากการสำรวจทั้งหมด 168 ประเทศ โดยเมื่อปี 2557 ไทยได้ 38 คะแนนเช่นกัน แต่อยู่อันดับที่ 85 จากการจัดอันดับทั้งหมด 175 ประเทศ

ทั้งนี้ ในปีนี้ประเทศไทยอยู่อันดับเดียวกับประเทศอินเดีย บูร์กินาฟาโซ และบราซิล โดยบราซิลถูกจัดว่าเป็นประเทศที่อันดับการคอร์รัปชั่นย่ำแย่ลงมากที่สุดในปีนี้ คือถูกลดอันดับลงมาถึง 7 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2557 อันเป็นผลมาจากการคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นมากมายในบริษัทของรัฐบาล รวมทั้งปัญหาการคอร์รัปชั่นของบริษัท ปิโตรลีโอ บราซิลีโร เอสเอ บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ

ส่วนประเทศที่ถือว่ามีความโปร่งใสมากที่สุดคือประเทศเดนมาร์ก ได้ 91 คะแนน ตามด้วย ฟินแลนด์ สวีเดน นิวซีแลนด์ และนอร์เวย์ ขณะที่ประเทศที่ปัญหาคอร์รัปชั่นหนักที่สุดคือเกาหลีเหนือและโซมาเลีย ที่ได้คะแนนเพียง 8 คะแนนเท่านั้น

‘ทรัมป์’ประกาศถอนตัวดีเบตนัดสุดท้าย เหตุยังเคืองผู้ดำเนินรายการฟ็อกซ์นิวส์

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 มกราคมว่า นายทรัมป์ขอถอนตัวจากการดีเบต หรือโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ของบรรดาผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันที่จะจัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ในวันที่ 28 มกราคมนี้

ข่าวระบุว่า คำประกาศดังกล่าวเหมือนเป็นเรื่องน่าประหลาดใจในช่วงที่การหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้นก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งขั้นต้นสนามแรกขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยเรียกเสียงตำหนิและเยาะเย้ยทั้งจากคู่แข่งและจากฟ็อกซ์นิวส์

การตัดสินใจไม่เข้าร่วมดีเบตซึ่งจัดขึ้นในช่วงไพรม์ไทม์ที่มีผู้ชมทางโทรทัศน์มากที่สุด และเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหน้าการเลือกตั้งขั้นต้นแบบคอคัสในรัฐไอโอวา มีขึ้นเนื่องจากความขัดแย้ง บาดหมางยาวนานระหว่างนายทรัมป์กับนางเมกิน เคลลี ผู้ประกาศข่าวของฟ็อกซ์นิวส์ ยกระดับขึ้นอีกครั้งเมื่อนายทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อนางเคลลีไว้ในคลิปวิดีโอที่โพสต์ลงในบัญชีอินสตาแกรมของตนเองระบุว่า นางเคลลี “มีอคติ” กับเขา

“คุณคิดว่าเธอจะดำเนินการดีเบตได้อย่างยุติธรรมรึเปล่า?” นายทรัมป์กล่าวไว้ในวิดีโอ

หลังจากนั้นทีมประชาสัมพันธ์ของฟ็อกซ์นิวส์ออกแถลงการณ์ที่เป็นไปในเชิงหยอกล้อนายทรัมป์ระบุว่า “เราทราบจากช่องทางลับว่า อยาโตเลาะห์ (คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน) และ (นายวลาดิมีร์) ปูติน (ประธานาธิบดีรัสเซีย) ตั้งใจที่จะปฏิบัติต่อนายทรัมป์อย่างไม่เป็นธรรมในการพบกันตอนที่นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีแล้ว และแหล่งข่าวที่แย่มากยังบอกด้วยว่า นายทรัมป์มีแผนการที่จะแทนที่คณะรัฐมนตรีด้วยผู้ติดตามในทวิตเตอร์ของเขาเพื่อให้เข้าร่วมประชุมด้วย”

ด้านทีมหาเสียงของนายทรัมป์ตอบโต้โดยการแถลงข่าวว่า “การตัดสินใจถอนตัวของนายทรัมป์เป็นที่แน่นอนแล้ว และเชื่อว่าผู้ชมการดีเบตของฟ็อกซ์จะลดลงจาก 24 ล้าน เหลือราว 2 ล้านคนเท่านั้น”