ข่าว
จัดทัพ “แธทเชอร์” ที่ “เซนต์พอล” ยกเทียบไดอาน่า

สำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศว่า พิธีศพของ มาการ์เรต แธทเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง จะมีขึ้นในวันพุธที่ 17 เมษายนนี้ หลังถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคเส้นเลือดในสมองอุดตันทั้งนี้ พิธีศพจะจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ที่มหาวิหารเซนต์พอล ในกรุงลอนดอน โดยมีกองทหารเกียรติยศเข้าร่วม แต่ไม่ถึงขั้นรัฐพิธี แต่จะจัดในสถานะเดียวกับเจ้าหญิงไดอานา และสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี ซึ่งตามปกติแล้วจะสงวนเฉพาะสมาชิกราชวงศ์เท่านั้น อย่างไรก็ดี ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสียก่อน

ด้านสำนักพระราชวังบัคกิงแฮม แถลงยืนยันว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ พร้อมด้วยเจ้าชายฟิลิป พระสวามี จะเสด็จพระราชดำเนินเข้าร่วมในพิธีนี้ด้วย

รวบตัวมือมีดคลั่งมะกัน ไล่แทงนศ.เจ็บ 14 ราย

ตำรวจเมืองแฮร์ริส ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ แจ้งว่า จับกุมนักศึกษาคนหนึ่งที่ไล่แทงผู้คนในวิทยาลัยโลนสตาร์ วิทยาเขตไซแฟร์ มีผู้บาดเจ็บ 14 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 2 คน ต่อมาสำนักเขตแฮร์ริส เคาน์ตี้ แจ้งว่า ผู้ก่อเหตุคือนายดีแลน ควิก วัย 20 ปี

ผู้ก่อเหตุถูกรวบตัวได้ หลังนักศึกษาชาย 4 ราย ได้แก่นายสตีเวน ไมดา นายเอริก เบอร์ทรองด์ นายไรอัน บัลลาร์ด และนายเจมส์ ใช้กำลังกระทั่งสยบมือมีดให้ล้มลงกับพื้นได้ และรอกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง นายไมดา ได้โพสต์รูปผู้ต้องสงสัยลงในอินสตาแกรม พร้อมอธิบายว่าเขาพยายามเข้าสกัดมือมีด

ภาพข่าวทางโทรทัศน์แพร่ภาพผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นชายผิวขาว ผมแดง ไว้เคราแพะ ถูกสวมกุญแจมือ ตำรวจเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 11.00 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น มีชายคนหนึ่งไล่แทงผู้คนอย่างบ้าคลั่ง โดยวิ่งไปตามอาคารต่างๆภายในวิทยาเขต

นักศึกษารายหนึ่งกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยมักมีพฤติกรรมประหลาด โดยมักสวมถุงมือตลอดเวลา และมักพกสัตว์สตัฟฟ์มาเรียนด้วยเสมอๆ แต่ก็ไม่เคยแสดงอาการว่าเขาเบื่อหน่ายโลกแต่อย่างใด

ทั้งนี้ อัยการเขตแฮร์ริสเตรียมดำเนินคดีต่อควิก 3 กระทง จากความผิดฐานก่อเหตุรุนแรงที่มีจุดประสงค์ประทุษร้ายร่างกายผู้อื่น โดยใช้วัตถุที่มีอันตรายร้ายแรงเป็นอาวุธ ขณะที่การ์เซียเผยข้อมูลที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุด้วยว่า ในช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ ควิกให้การต่อเจ้าหน้าที่อย่างไม่สะทกสะท้านว่า การใช้มีดวิ่งไล่แทงผู้อื่นเป็นความสนุกสนาน และแม้การทำเช่นนี้จะทำให้เขาต้องถูกตำรวจจับในภายหลัง แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริงแล้ว


จีน′ ปิดพรมแดนกับ ′เกาหลีเหนือ′ แล้ว ไม่อนุญาตนักท่องเที่ยวผ่านแดน

จีนปิดพรมแดนประเทศกับเกาหลีเหนือแล้ว ห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านแดน เนื่องจากความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลี แต่นักธุรกิจยังเดินทางได้ตามปกติ โดยหนึ่งในบริษัทท่องเที่ยวระบุว่า จากความตึงเครียดนั้น ตนไม่ได้รับอนุญาตให้พานักท่องเที่ยวเข้าไปในเกาหลีเหนือได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานณกรุงแดงดองว่า จีนปิดพรมแดนกับเกาหลีเหนือและไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางผ่านแดนได้ เนื่องจากเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์เตือนชาวต่างชาติในเกาหลีเหนือให้ออกจากประเทศ ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางโดยวัตถุประสงค์ทางธุรกิจยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตามช่างภาพของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าเขายังเห็นพาหนะต่างๆ เช่นรถยนต์ รถบัสขนาดเล็ก และรถบรรทุกผ่านเขตพรมแดนได้ นอกจากนี้ยังมีรถไฟโดยสารจำนวน 3 คันรถผ่านจากจีนไปเกาหลีเหนือด้วย

ทั้งนี้การค้าระหว่างพรมแดนจีน และเกาหลีเหนือนั้นไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากผิดจากมติการลงโทษเกาหลีเหนือที่ห้ามการขายสินค้ามูลค่าสูงและอาวุธ

ด้านนายนิโคลาสบรอนเนอร์เจ้าของธุรกิจนำเที่ยวในเกาหลีเหนือที่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งระบุว่า เขาไม่ได้รับคำเตือนใดๆ และยังดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ซึ่งการเดินทางครั้งหน้าจะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้

ในวันนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบทางการทหารให้เกาหลีเหนือเป็น "ภัยคุกคามร้ายแรง" เนื่องจากคาดว่าเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธ ด้านบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติได้ออกมาเตือนว่า สถานการณ์เกาหลีเหนืออาจบานปลายจนอยู่เหนือการควบคุมได้


สาวมะกัน′ ลวงโลก! โกหกว่าเป็น ′มะเร็ง′ หลอกเอาเงินบริจาค นับแสน

ที่สหรัฐอเมริกา หญิงชาวนิวยอร์กรายหนึ่งถูกจับ ฐานโกหกว่าเป็นมะเร็ง หลอกขอเงินจากผู้ใจบุญและญาติพี่น้อง เพื่อเอาไปซื้อยาเสพติด

‘บริตตานีย์ โอซาโรสกี’ อายุ 21 ปี โกหกว่าตนเองเป็นมะเร็งที่กระดูก สมอง กระเพาะอาหาร ต่อมไทรอยด์และรังไข่ มากว่า 1 ปี เพื่อขอรับเงินบริจาค ที่เธออ้างว่ามีค่าใช้จ่ายในการรักษา 33,000 บาท หรือราว 990,000 บาท ต่อวัน และมีค่าใช้จ่ายในการฉายรังสีครั้งละ 1,000 ดอลล่าร์ หรือราว 30,000 บาท โดยหลอกให้เจ้าของร้านค้าต่างๆ เชื่อว่าเธอป่วยจริง จนอนุญาตให้วางกล่องเงินบริจาคได้ นอกจากนี้เธอยังสมัครบัญชีของเพย์พาล (PayPal) และสร้างเว็บไซต์พร้อมแถบโฆษณาว่า ‘บริตตานีย์ โอซาโรสกี-กรุณาช่วยชีวิตฉัน) เพื่อขอรับเงินช่วยเหลืออีกทางด้วย

หลังจากแกล้งป่วยมานานกว่า 1 ปี เจ้าของร้านรายหนึ่งเกิดสงสัยว่าทำไมผมของเธอไม่ร่วงเหมือนคนที่รับการฉายรังสีรักษามะเร็งทั่วไป ซึ่งเธอโกหกว่าแพทย์ได้ให้วิตามินแก่เธอผมจึงไม่ร่วง อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

สาวลวงโลก ถูกจับเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ที่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง หลังความจริงเปิดเผยว่าเธอไม่ได้เป็นโรคมะเร็งและไม่มีการรักษาหรือฉายแสงใดๆ อีกทั้งไม่มีแม้ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล นอกจากเฮโรอีนและออกซิโคโดน ( Oxycodone) ซึ่งเป็นยาแก้ปวดในกลุ่มอนุพันธุ์ของฝิ่น ที่เธอซื้อมาเสพเท่านั้น

‘โอซาโรสกี’ ถูกจำคุกที่ซัฟโฟล์ค ด้วยวงเงินประกันเงินสด 75,000 ดอลล่าร์ หรือราว 2,250,000 บาท หรือทรัพย์สินมูลค่า 150,000 ดอลล่าร์ หรือราว 4,500,000 บาท

นักวิทย์คิดเด็กหลอดแก้วถึงแก่กรรม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ว่า มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ออกแถลงการณ์ว่า เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ครอบครัวเอ็ดเวิร์ดส์ ขอแจ้งให้ทราบว่า ศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์เมื่อปี 2553 นักวิทยาศาสตร์และนักสรีรศาสตร์ผู้ร่วมบุกเบิกการคิดค้นผสมเทียมด้วยหลอดแก้ว ได้ถึงแก่กรรมแล้วเมื่อวันพุธที่ 10 เม.ย. ขณะมีอายุได้ 87 ปี โดยเสียชีวิตอย่างสงบขณะนอนหลับ หลังจากป่วยมานาน สมาชิกในครอบครัว ตลอดจนเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานจะต้องรำลึกถึงการจากไปของศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์

ศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์ ได้ร่วมคิดค้นและบุกเบิกการผสมเทียมซึ่งเรียกกันว่า “เด็กหลอดแก้ว” จนทำให้ความฝันที่จะมีลูกของผู้คนนับล้านคนทั่วโลกเป็นความจริงขึ้นมา แม้จะมีความขัดแย้งทางด้านศาสนจักรกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆบ้างก็ตาม

ศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์เมื่อปี 2553 ซึ่งผ่านมาหลายสิบปีหลังจากทำการทดลองผสมเทียมเด็กหลอดแก้วจนสำเร็จคลอดออกมาเป็นคนแรกของโลก ชื่อ หลุยส์ บราวน์ ในปี 2521