ข่าว
'ชูวิทย์' รับโทษครบ วันนี้กลับสู่อิสรภาพ

'1เดือน ผ่านไปไวเหมือนโกหก' เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาพิพากษา จำคุก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ในคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินและแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่สอง ตามที่ ป.ป.ช. เป็นผู้ร้อง นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้ นายชูวิทย์ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดๆ ในพรรคการเมือง เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่นายชูวิทย์ พ้นจากตำแหน่งในวันที่ 9 ธ.ค. 56

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ มีโทษจำคุก 2 เดือน แต่ให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 1 เดือน แต่นายชูวิทย์ เคยถูกจำคุกนานเกิน 6 เดือน และไม่ใช่คดีลหุโทษ อีกทั้งพ้นโทษ ไม่เกินห้าปี ทำให้ศาลไม่รอการลงโทษ

ล่าสุด ข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ ใกล้ได้รับอิสรภาพ จะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 21 ก.ค. ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากคุมขังมาจนครบกำหนดโทษตามคำพิพากษา

หวังว่า ออกจากเรือนจำคราวนี้ ชีวิตของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ คงได้หมดเคราะห์หมดโศกกันจริงๆเสียที หลังต้องระหกระเหินเข้าออกสถานที่ซึ่งบุคคลทั้งหลาย หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ก็คงไม่มีใครออกเข้าไปเป็นแน่! โดยก่อนหน้า ก็เคยถูกศาลตัดสินจำคุกคดีพังบาร์เบียร์ สุขุมวิท มาก่อนแล้ว

แต่อย่างน้อยที่ผ่านมา ก็พิสูจน์ได้บางอย่างว่า 'เสี่ยชูวิทย์' คือ 'คนจริง 2018' ที่ไม่เคยคิดหลบหนีคดีเหมือนกับนักการเมืองหลายๆ คนก่อนหน้า กล้ายืนหยัดที่จะต่อสู้ ถึงแม้สุดท้ายอาจต้องติดคุกติดตะราง ก็แสดงความเป็นลูกผู้ชาย "ทำผิดก็ต้องกล้ารับผิด" และยิ้มรับกับมันโดยดุษฎี

“ร้อยโทหญิง” เผยมุมน่ารัก “หมอภาคย์” ห้องทำงานไม่ติดแอร์ ทำกองพันปลอดบุหรี่

เผย “หมอภาคย์” เป็นผู้บังคับบัญชาที่น่ารักมาก ห้องทำงานไม่ติดแอร์ เพื่อเอาเงินไปใช้ส่วนรวม ถ้าปิดห้องแสดงว่ากำลังออกกำลังกาย ปกติวิดพื้น 2,000 ครั้งชิลๆ แถมมีวิธีช่วยลูกน้องเลิกบุหรี่ด้วยการให้ปฏิญาณตนหน้าแถวจนกองพันไม่มีใครสูบบุหรี่เลย พอมีเงินเหลือก็ให้ไปซื้อสลากออมสิน ทุกวันนี้กำลังพลมีเงินเก็บ หนี้ลด ห่างไกลโรค

ร.ท.ภญ.จิตต์โสภิณ ดำเนิน หัวหน้าแผนกเภสัชกร โรงพยาบาลค่ายสุรสิงหนาท ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Kam Jitzo” ถึง พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ว่า....

“เห็นข่าวผู้พันภาคย์เยอะ นี่มีความประทับใจตั้งแต่ไปดูงานที่กองพัน สร.3 อยากจะแชร์ในมุมที่เป็น ผู้บังคับบัญชาที่น่ารักมากกกกก

- ผู้พันภาคย์ ผู้พันที่ห้องทำงานไม่มีแอร์ ไม่ติดแอร์เพราะห้องเหตุที่ว่า เอาเงินส่วนนี้ไปให้กำลังพลไว้ใช้ส่วนรวมดีกว่า ห้องมีลมผ่านสบายๆ

- ถ้าลูกน้องเจอหน้าผู้พัน ต้องยิ้มให้ก่อนทำความเคารพ ยิ้มต้องเห็นฟัน เท่านั้น!

- ถ้าเห็นห้องทำงานปิดเมื่อไหร่ คือ พี่ภาคย์ออกกำลังกาย (วิดพื้น 2000 ครั้ง ชิลๆ นี่เรื่องจริง 5555) กำลังพลในกองพันต้องออกกำลังกาย 3 เวลา เวลาละ 10-15 นาที เป็น รปจ. (คือปกติ ห้องทำงานเปิดไว้ตลอด คล้ายๆ เป็นการลด barrier ระหว่างนายกับผู้ใต้บังคับบัญชาประมาณนึง)

- ที่เห็นในทีวี ผู้พันขอมาม่ากินหลังจากออกจากถ้ำนี่ไม่แปลกนะคะ เพราะทุกวันทำงาน ผู้พันก็กินเหมือนกับกำลังพลทุกคน โครงการอาหารกลางวันของกองพัน วันนั้นก็ได้นั่งกินไข่เจียวด้วยกันกับทีมงาน (ไข่นี่มาจากไก่ที่เลี้ยงหลังกองพัน 5555)”

- กองพันผู้พันภาคย์ ไม่มีกำลังพลที่สูบบุหรี่สักคน ยาไม่ต้องใช้ หมากฝรั่งไม่ต้องเคี้ยว ใช้อะไรนะหรอ ? ใช้ใจ ใจล้วนๆ ใครอยากเลิกบุหรี่ ผู้พันจะให้ขึ้นมาปฏิญาณตนหน้าแถวตอนเช้า จะเอาลูกเมียหรือเพื่อนที่ทำงานหรือใครมาเป็นสักขีพยานก็เอามา และลั่นวาจาออกไปว่า จะเลิกบุหรี่ No Tobacco! อะไรประมาณนี้ พี่ภาคย์เชื่อว่ามันเป็นกฎอะไรสักอย่าง แต่นี่ลืม 5555 คือ มันจะเกิดความละอายใจ ถ้าพูดออกไปแล้วทำไม่ได้ ซึ่งพี่ภาคย์บอกว่าทุกคำที่พูดออกไปจากปากเมื่อไหร่ ต้องทำให้ได้เสมอ เพราะฉะนั้นเลยทำให้ กำลังพลในกองพัน ไม่มีคนไหนเลยที่สูบบุหรี่ บริเวณรอบๆ กองไม่มีก้นบุหรี่ สาระ พอคนไม่สูบบุหรี่ใช่ไหม ก็จะมีเงินเหลือ ผู้พันก็ให้นำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อสลากออมสินเป็นการออมเงินอีกทาง ทุกวันนี้กำลังพลมีเงินเก็บ หนี้ลดลง อีกทั้งห่างไกลจากโรคภัยอีกด้วย


ทนายเดชาซัด'ลีน่า จัง' เสี่ยงคุกแจ้งจับ'โค้ชเอก'

19 ก.ค. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายชื่อดัง เจ้าของเพจ “ทนายคลายทุกข์” กล่าวว่าถึง นางลีน่า จังจรรจา หรือ“ลีน่า จัง” เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศราวุธ โชติสุวรรณ รองผกก.4บก.ป. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก ผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมี และเป็น 1 ใน 13 คน ทีมหมูป่าที่ติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในข้อหาบุกรุกอุทยานแห่งชาติ พร้อมนำหลักฐานเป็นแผ่นซีดี มามอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อประกอบการพิจารณานั้น

นายเดชา ให้ความเห็นทางกฎหมายว่า โค้ชเอกและเด็กทีมหมูป่าอะคาเดมีที่เข้าไปติดในถ้ำหลวง ดูจากพฤติกรรมแล้วน่าเชื่อว่าเป็นการกระทำความผิดด้วยความจำเป็น เพราะเห็นว่ามีภยันตรายจากน้ำที่ท่วมเข้าไปในถ้ำจวนจะถึงตัว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงจำเป็นต้องพาเด็กๆหนีน้ำเข้าไปหลบในถ้ำหลวง ดังนั้น การกระทำของโค้ชเอกครั้งนี้มีความผิด แต่ได้รับการยกเว้นโทษตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 67 ซึ่งทางลีน่าจังซึ่งเป็นทนายความน่าจะรู้ดี ถ้ามีข้อความอันใดอันเป็นเท็จเพื่อจะกลั่นแกล้งให้โค้ชเอกได้รับโทษทางอาญา ก็อาจจะรับโทษเสียเอง ฐานแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่น ตามกฎหมายอาญามาตรา 174 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและโทษปรับด้วย.


สื่อนอกชี้ภารกิจที่ถ้ำหลวงฯ ช่วยกอบกู้คะแนนนิยม'ลุงตู่'

บิสเนสอินไซเดอร์ - สื่อต่างประเทศอ้างนักวิเคราะห์ระบุในวันศุกร์(20ก.ค.) ภารกิจกู้ภัยที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ไม่ได้แค่ช่วยช่วยชีวิต 12 นักเตะเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีเท่านั้น แต่มันยังเป็นปฏิบัติการที่ช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของคณะรัฐประหารในไทยด้วย

รายงานของบิสเนสอินไซเดอร์ระบุว่าไทยได้รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2011 แต่ถูกโค่นอำนาจโดยคณะรัฐประหารที่ประกอบด้วยทหารและตำรวจในปี 2014 และนับตั้งแตั้นการชุมนุมในที่สาธารณะถูกสั่งห้าม ด้วยตำรวจหลายพันนายถูกส่งเข้าดำเนินการสลายการชุมนุมของพวกผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตย ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งมีประชาชนมากกว่า 100 คนถูกจับกุมในข้อหาหมิ่นสถาบัน และสื่อมวลชนฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ถูกสั่งปิด จนกว่าจะยอมเซ็นเซอร์ตัวเอง

บิสเนสอินไซเดอร์ระบุผลสำรวจความคิดเห็นพบว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลทหารตกต่ำลง และจนถึงขั้นแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่เมื่อช่วงต้นปี เนื่องจากล้มเหลวในการคืนสู่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยดังที่เคยให้สัญญาไว้ แต่ด้วยมีกำหนดจัดการเลือกตั้งในปีหน้าและความสำเร็จของปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า ภายใต้ความร่วมมือระหว่างอาสาสมัครจากทั่วโลกและทหารหลายร้อยนายของไทย กลายเป็นตัวช่วยส่งเสริมคะแนนนิยมของรัฐบาลในทันทีทันใด

"มันช่วยมอบคะแนนนิยมแก่เขา" กานต์ ยืนยง ผู้อำนวยการสยามอินเทลลิเจนท์ยูนิต (SIU) ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ โดยพูดถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยและหัวหน้าคสช. "เมื่อมีทหารจำนวนมากออกมาช่วยเหลือ ประชาชนมองทหารในฐานะหน่วยงานที่ไว้วางใจได้ เราไม่มีพวกผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่เป็นพลเรือนยามที่ประเทศต้องเจอกับวิกฤต ดังนั้นเราจึงต้องหันไปพึ่งทหาร"

`บิสเนสอินไซเดอร์ระบุว่าความสามารถด้านการเป็นผู้นำและสามารถเร่งภารกิจกู้ภัยฉุกเฉินให้เสร็จสิ้นโดยเร็วของกองทัพ ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีของประชาชน เมื่อเปรีบบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่คืบคลานไปอย่างช้าๆ

"ทหารมีหน้าที่สาธารณะที่สำคัญในฐานะผู้มอบความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญภัยธรรมชาติแบบนี้ ดังนั้นประชาชนจึงมองกองทัพในแง่บวกยามทำหน้าที่รับใช้พลเมือง" Aim Sinpeng ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองเปรียบเทียบแห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์บอกกับบิสเนสอินไซเดอร์

นอกจากนี้แล้ว Aim Sinpeng บอกด้วยว่าความสำเร็จของภารกิจดังกล่าวยังมีแนวโน้มช่วยให้คนภายนอกมองข้ามไทยในฐานะประเทศทหาร "นายกรัฐมนตรีเว้นระยะห่างจากภารกิจได้ดี ปล่อยให้คณะปฏิบัติการพิเศษมุ่งมั่นกับภารกิจในมือ ไม่พยายามแทรกแซงโดยส่วนตัวหรือในฐานะรัฐบาล นั่นคือบางอย่างที่เราสามารถมอบเครดิตกับเขา" เธอกล่าว

เอเลียน เบรนนอน นักวิจัยจากสถาบันนโยบายความปลอดภัยและการพัฒนาในสวีเดน บอกว่าพลเอกประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากเพื่อได้ประโยชน์จากปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กชาย 12 คนกับโค้ช เนื่องจากสถานการณ์ลักษณะนี้กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกประชาชนอยู่แล้ว

"เรื่องราวข่าวดีแบบนี้ช่วยหนุนทุกองคาพยพ ไม่แปลกใจเลยที่ประชากรผู้มีความสุขกว่าเดิมจะอยากให้คงสถานภาพปัจจุบันนี้ต่อไป และมันอาจถูกตีความหมายในฐานะข่าวดีสำหรับผู้สมัครฝักใฝ่คณะรัฐประหารหากการเลือกตั้งเดินหน้าตามแผน" เบรนนอนกล่าว

ขณะเดียวกัน เบรนนอน ยังมองว่าผลประโยชน์ที่รัฐบาลทหารไทยได้รับจากเหตุการณ์นี้ยังอาจขยายสู่ขอบเขตอื่นๆ ในนั้นรวมถึงการทำคะแนนทางการทูต ด้วยมีหลากหลายประเทศส่งอาสาสมัครเข้าร่วมภารกิจกู้ภัย "หลายชาติใช้โอกาสนี้หนุนหลังภารกิจ ทั้งสหรัฐฯ,ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, พม่าและลาว และไม่สงสัยเลยว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกมองว่าเป็นชัยชนะของอำนาจอ่อน"

"แม้ว่าแนวโน้มของโลกจะเป็นไปในทางตรงข้าม แต่ภารกิจที่ถ้ำหลวงฯแสดงให้เห็นว่าอำนาจอ่อนยังไม่ดับสูญ" เขากล่าว ทั้งนี้อำนาจอ่อนคือการครอบงำทำให้ประเทศอื่นๆร่วมมือ ปฏิบัติตามความประสงค์โดยไม่รู้สึกว่าถูกบีบบังคับ และอาจนิยมชมชอบด้วยซ้ำเพราะได้ประโยชน์ร่วมกัน


ฮือฮา!แต่งตั้ง“แพนเค้ก” โฆษกพิเศษกองทัพเรือ

20 ก.ค.61 พล.ร.ต.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ลงนามในคำสั่งกองทัพเรือ (เฉพาะ) ที่561/2561 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกพิเศษกองทัพเรือ เพื่อให้การปฏิบัติการข่าวสารกองทัพเรือเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพจึงมีคำสั่งให้น.ส.เขมนิจ จามิกรณ์หรือ“แพนเค้ก” นางเอกชื่อดังเป็นโฆษกพิเศษกองทัพเรือ

สำหรับหน้าที่ความรับผิดชอบของ น.ส.เขมนิจ ประกอบด้วย 1.ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารกองทัพเรือตามที่คณะโฆษกกองทัพเรือมอบหมาย 2.ร่วมเป็นพิธีกรและร่วมกิจกรรมต่างๆ ของกองทัพเรือตามที่คณะโฆษกกองทัพเรือมอบหมาย 3.ให้ข้อมูลและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการปฎิบัติการข่าวสารกองทัพเรือ และ 4.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่โฆษกกองทัพเรือมอบหมาย โดยโฆษกพิเศษกองทัพเรือจะพ้นหน้าที่เมื่อกองทัพเรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า น.ส.เขมนิจ ได้อาสามาช่วยงานการประชาสัมพันธ์งานของกองทัพเรือ โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น

กระซวก'แรมโบ้'ร่วม”สามมิตร” ซัดละครน้ำเน่าถอนคำสาบาน

20 ก.ค.61 นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำ นปช.ประกาศจะถอนคำสาบานต่อหน้าย่าโม เพื่อกลับมาเล่นการเมืองกับกลุ่มสามมิตรอีกครั้ง ว่า หากนายสุภรณ์จะทำการเมืองก็ไม่อยากให้รบกวนคุณย่าโม อย่าอาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางการเมือง

นายสมคิด กล่าวว่า ไม่อยากให้นายสุภรณ์ตัดพ้อว่าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นหัว เพราะสถานการณ์เช่นนี้ทางพรรคไม่ได้ทำกิจกรรมทางการเมืองหรือติดต่อใคร อีกทั้งนายสุภรณ์ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่มีการยึดอำนาจในปี 2557 และหันไปให้ความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงตั้งแต่ต้น

"ฉะนั้นอย่ามาบ่นว่าพรรคไม่ให้การดูแลหรือไม่ได้รับเกียรติอะไร หากจะไปก็เป็นสิทธิที่จะไป สุดท้ายผู้ตัดสินก็คือพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งของนายสุภรณ์ หากไปแล้วก็ไม่ว่ากัน ขอให้โชคดี แต่ถึงขนาดถอนคำสาบานได้ มองว่าเป็นละครชีวิตไปเสียหน่อย อย่าทำตัวน้ำเน่ามากเกินไป" นายสมคิด กล่าว