ข่าว
สงครามเย็น2018!‘ธีระชัย’ชี้คดี‘หัวเหว่ย-แอปเปิ้ล’สมรภูมิประลองกำลัง‘จีน-สหรัฐ’

12 ธ.ค. 61 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขียนบทความ “หัวเหว่ยแลกกับแอ๊บเปิ้ล” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” กรณีทางการแคนาดาจับกุมนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) หัวเหว่ยเทคโนโลยี ตามหมายจับของสหรัฐอเมริกา โดยกล่าวว่าเรื่องนี้กลายเป็นการประลองกำลังกันระหว่างสหรัฐและจีน เพราะในทางกลับกัน ศาลจีนก็ตัดสินให้ “แอปเปิ้ล” บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ไม่สามารถขายโทรศัพท์มือถือไอโฟนในจีนบ้าง ดังนี้

“รัฐบาลสหรัฐกล่าวหาว่า หัวเหว่ยค้าขายกับอิหร่าน เป็นการเลี่ยงคำสั่งแซงชั่น (คว่ำบาตร) ของอเมริกา และเนื่องจากมีการชำระเงินเป็นดอลลาร์ผ่านบัญชีในสหรัฐจึงอ้างว่าผิดกฎหมายสหรัฐสหรัฐออกหมายจับ ซีเอฟโอ ลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัท มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีนี้ ทำให้นางเมิ่ง เลี่ยงไม่เดินทางผ่านอาณาเขตสหรัฐ แต่ล่าสุดถูกจับที่แคนาดา เพราะชะล่าใจ คาดไม่ถึงว่ารัฐบาลแคนาดาจะร่วมวงด้วย”

“นางเมิ่ง มีความผูกพันกับแคนาดามากเป็นพิเศษ มีบ้านหรูหราที่นั่นถึง 2 หลัง สามีคนใหม่ก็พำนักในแคนาดา ผมจึงคาดว่าจะได้รับการประกันตัวในที่สุด การจับกุมตัวนางเมิ่ง เล่นเอาบริษัทอเมริกันที่มีออฟฟิศอยู่ในจีน ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นอย่างมาก บริษัทซิสโก้ ถึงกับประกาศเตือนไม่ให้ผู้บริหารระดับสูงเดินทางไปจีน คงจะรู้ตัวดีว่า จีนสามารถจับกุมผู้บริหารของบริษัทอเมริกัน เป็นการตอบโต้”

“เมื่อข่าวสะพัดออกไป จีนก็แถลงข่าวว่า จะไม่มีการตอบโต้แบบกลั่นแกล้งจับกุมผู้บริหารบริษัทอย่างเด็ดขาด แต่ยังไม่ทันจะขาดคำ ศาลจีนก็ฟันบริษัทแอปเปิ้ลข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทควาลคอมพ์ ห้ามการขายไอโฟนแทบทุกรุ่น ล่าสุด แอปปิ้ลยื่นขออุทธรณ์ ข่าวเรื่องแอปเปิ้ล เขย่าตลาดหุ้นสหรัฐอย่างหนัก และในเมื่อทรัมป์ใช้สถานะตลาดหุ้นเป็นเครื่องมือหาเสียง จึงเป็นการบีบไปที่กล่องดวงใจของทรัมป์โดยตรง สงครามการค้าทำท่าจะขยายวงออกไป เดิมเป็นการต่อสู้เฉพาะด้านอัตราภาษีอากร แต่ต่อไปจะลามปามไปอีกกี่เรื่องก็ไม่รู้”

“ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่า ถึงแม้หัวเหว่ยขายหุ้นในบริษัทลูกออกไปแล้ว ยังจะหาว่าบริษัทนั้นมีสถานะเป็นบริษัทลูกอยู่เช่นเดิม ก็ไม่รู้ว่าสหรัฐจะมีหลักฐานอย่างไรได้ ยิ่งถ้าหัวเหว่ยได้รับชำระค่าหุ้นเต็มไปแล้ว และนางเมื่งก็ลาออกจากเป็นกรรมการบริษัทนั้นไปแล้ว นอกจากนี้ ธนาคาร HSBC ที่อ้างว่าตนเองถูกนางเมื่ง หลอกให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหัวเหว่ยกับบริษัทที่ขายสินค้าที่อิหร่าน ในฐานะที่เป็นแบงค์อันดับหนึ่งของโลก ก็จำเป็นจะต้องมีระบบของตัวเองแบบชั้นหนึ่งอยู่แล้ว การจะอ้างว่าหลงผิดด้วยอาศัยเพียงแต่คำพูดของนางเมิ่ง ดูจะแปลกชอบกล”

“แต่ที่แน่ๆ ในอนาคต จีนจะต้องเร่งขยายบทบาทของการโอนชำระเงินระหว่างประเทศที่จีน ในสกุลหยวน ให้สะดวกขึ้น ค่าใช้จ่ายต่ำลง และเป็นทางเลือกแก่ประเทศต่างๆ นอกเหนือจากระบบที่ผ่านนิวยอรค์ เพราะตราบใดที่ยังต้องพึ่งระบบการโอนชำระเงินผ่านบัญชีดอลลาร์ ผ่านธนาคารกลางของสหรัฐ ตราบนั้นก็ยังจะมีความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ”

‘เหวง’งับ‘ธีรยุทธ’สนุกอยู่กับการโจมตี‘ระบอบทักษิณ’

11 ธ.ค.61 นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) โพสต์เฟชบุ๊กตอบโต้การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของนายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการและนักวิพากษ์วิจารณ์ด้านการเมือง โดยระบุว่าธีรยุทธ ยังคงทำหน้าที่เพียงหาศัพท์ใหม่ๆประโยคโก้ๆมาในเวลาเหมาะสมเท่านั้นเอง คราวนี้ก็จะเห็นจะเป็น ศัพท์ใหม่ๆ ประโยคโก้ๆ บางศัพท์บางประโยค เช่น ประมูลสัมปทานคะแนนเสียงเพื่อเป็นรัฐบาล ประชาธิปไตยอิทธิพลภายใต้อำนาจกลุ่มทุนใหญ่ รวยกระจุก จนกระจาย กลางกระจ้อน ไก่ซีพี คนไทยซีพี เป็นต้น

ถามว่าประชาชนไทยได้ประโยชน์อะไรบ้างจากข้อคิดเห็นของธีรยุทธบ้าง? ทางด้านการเมือง ไม่ได้ชี้ทิศทางเลยว่า ประเทศไทยจะก้าวพ้นกับดักยึดอำนาจรัฐประหารที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดของการจมปลักดิ่งเหวของประเทศได้อย่างไร ทางเศรษฐกิจ ไม่ได้ให้แนวทางว่าจะขจัดหรือลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยคนจนได้อย่างไร ยกระดับรายได้คนจนและสร้างหลักประกันให้กับคนยากจนและชนชั้นกลางได้อย่างไร ทางการศึกษา ไม่ได้ชี้ให้เป็นปัญหาและทิศทางในการแก้ไขเพื่อเพิ่มศักยภาพในการศึกษาเรียนรู้ยกระดับของอนุชนเยาวชนหรือประชาชนทั่วไปแม้สักนิด ทางโครงสร้างสังคมของประเทศ ไม่ได้กล่าวถึงเลยว่าจะจัดระบบอย่างไรไม่ให้เกิดรัฐข้าราชการที่ครอบงำโดยทหาร จะกระจายอำนาจให้ประชาชนได้อย่างไร?

ทางสุขภาวะสาธารณสุขไม่ได้กล่าวถึงเลย แต่ธีรยุทธสนุกอยู่กับการ “โจมตีระบอบทักษิณ”(ซึ่งยังคงถกเถียงกันไม่เป็นที่ยุติว่า “ระบอบทักษิณ”คืออะไร)แล้วก็กระโดดไปลากเอาสองเรื่องที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิง มายำเป็นเรื่องเดียวกัน คือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และรัฐฎาธิปัตย์ ที่ใช้กองทัพยึดอำนาจมาตั้งรัฐบาลและกำลังใช้อำนาจเผด็จการดังกล่าวสืบทอดอำนาจของพวกเขา ที่จริงสังคมต้อนรับการแสดงความคิดเห็นของปัญญาชนเสมอ แต่ปัญญาชนควรเสนอการแก้ปัญหาสังคมอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้และอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่คิดแค่ปั้นแต่ง ถ้อยคำสวยหรู หรือประโยคโก้ๆในโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้นน่าเสียดายจริงๆ


โวยแผนสกัดตั้งรบ.!ทษช.ถล่มซ้ำ‘บิ๊กตู่’บัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้ เอื้อสืบทอดอำนาจ

8 ธ.ค.61 นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า เอาอีกแล้ว พลเอกประยุทธ์ ชิงความได้เปรียบทุกขั้นตอนอย่างไม่ละอายเลย ตอนร่างรัฐธรรมนูญก็ให้เหลือบัตรใบเดียว ไม่ให้แยกคนกับพรรคเหมือนเมื่อก่อน เพราะต้องการสกัดพรรคใหญ่และต้องการให้เลือกตัวบุคคลมากกว่าพรรค ต่อมาก็ให้ผู้สมัครพรรคเดียวกันต่างเขตต่างเบอร์เพื่อคนจะได้สับสนว่าใครอยู่พรรคไหน ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่พรรคเดียวกันก็เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ

มาตอนนี้ประกาศตัวเป็นกรรมการ แต่กลับเอาประโยชน์เข้าตัวคือเสนอว่าบัตรเลือกตั้ง ให้เหลือแต่ชื่อกับเบอร์ ไม่ต้องมีโลโก้พรรคและชื่อพรรค ทั้งหมดนี้เพราะรู้ว่าพรรคที่จะสนับสนุนตนเองนั้นไม่เป็นที่รู้จัก ไม่เป็นที่นิยม สู้พรรคคู่แข่งไม่ได้

ถ้าพรรคการเมืองไม่สำคัญ ทำไมถึงกำหนดว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ทำไมเขาจึงส่งเสริมให้พรรคการเมืองแข่งขันทางนโยบาย ที่พลเอกประยุทธ์เสนอคราวนี้เป็นเรื่องเดียวกับที่ให้เนติบริกรออกแบบมาตลอดคือพยายามให้ประชาชนไม่ต้องสนใจรับรู้อะไรเกี่ยวกับพรรคการเมือง ทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ ทำประโยชน์ให้ประชาชนได้น้อยลง

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็เพื่อวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้พรรคการเมืองตั้งรัฐบาลและเพื่อตนเองจะได้สืบทอดอำนาจต่อไป


‘โอ๊ค’ประชดบัตรเลือกตั้งไร้โลโก้ ชวนสมาชิกพรรคเปลี่ยนนามสกุล

9 ธ.ค.61 นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย(พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Oak Panthongtae Shinawatra ในหัวข้อ “แบร่... แบร่... แบร่...กะอีแค่ โลโก้พรรคเพื่อไทย ลุง..จะกลัวอะไรปานนั้นครับ??” โดยระบุว่า

คนไทยเขาจะไปเลือกผู้แทนราษฎรตามระบอบประชาธิปไตยกันนะครับ คุณลุง... ไม่ได้จะไปซื้อหวยเถื่อนหน้าปากซอย จะได้ท่องเบอร์กันตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน..!!

เกิดใครจำเบอร์ไม่แม่น สะดุดฟุตบาทตกใจลืมเบอร์ เล่นไม่ใส่โลโก้ แล้วจะกาบัตร คนที่รัก-พรรคที่ชอบ กันได้อย่างไร..??

ผมเตือนลุงแล้วนะครับ คนไทยขี้สงสารและมีจิตใจรักความเป็นธรรม พร้อมที่จะยืนอยู่ข้างผู้ที่โดนกลั่นแกล้ง โดนรังแกเสมอ

เขียนรัฐธรรมนูญจนพรรคใหญ่แตกกระจาย ไม่มีที่นั่งเหลือให้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จนผู้สมัครตบเท้าออกจากพรรคฯ ไปหาพรรคใหม่ลงกันวุ่นวาย แถมด้วยให้แต่ละเขตจับสลากเบอร์กันเอง เอาให้มันสับสนอลหม่านกันทั้ง 350 เขต

กวนน้ำให้ขุ่นเสร็จเรียบร้อย ก็ทั้งดูด ทั้งซื้อ ทั้งขู่คดี ขู่ใบแดงใบส้ม แบ่งเขตเลือกตั้งตามคะแนนนิยมฝ่ายตน เอาเงินภาษีชาวบ้านมาถลุงแจกกันเป็นแสนๆ ล้าน แถมด้วยตั้งพรรคชื่อเดียวกับชื่อโครงการของรัฐฯ มาแข่งกับพรรคการเมืองอื่นอีก

เท่านั้นยังไม่พอ ยังทำไขสือด่านักการเมืองเลว บอกผมไม่ใช่นักการเมือง แต่พยายามเอาเปรียบคนอื่นทุกรูปแบบ เอาเปรียบกันแบบที่นักการเมืองเขาไม่เคยทำกันมาก่อน แล้วในที่สุดก็จะหาเหตุให้ตัวเองลงแข่งขันเสียเอง คนไทยทั้งประเทศไม่มีใครรู้ทันท่านเลยมั๊งครับนั่น!!

ถ้าทำบ้านเมืองหยุดนิ่งมา 4-5 ปี แล้วยังไม่สะใจ อยากจะแช่แข็งต่อไปอีกให้ครบ 20 ปีตามยุทธศาสตร์ฯ ประกาศออกมาแมนๆ ดีกว่าไหมครับ ลุงจะขอเป็นอีกสักรอบสองรอบ ใครเห็นด้วยช่วยเลือกลุงหน่อย..!!

เรื่องโลโก้พรรคฯ บอกไว้เลย หากวันใดที่ กกต.ตกเป็นทาสในเรือนเบี้ย ต้องคอยรับคำสั่งของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ยอมใส่โลโก้ ไม่ยอมใส่ชื่อพรรคการเมืองเข้าไปในบัตรเลือกตั้ง

ผมจะชวนผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดของพรรคฯ ไปอำเภอแจ้งเปลี่ยนนามสกุลกันให้หมด เตรียมตัวพบกันได้เลย

นาย “พานทองแท้”

นามสกุล “พรรคเพื่อไทย”

พร้อมผู้สมัครนามสกุล”พรรคเพื่อไทย” อีกหลายร้อยคน พร้อมลงแข่งขันครับ!!

ถ้ายังจะมีคนเสนอให้ตัดชื่อ และนามสกุล ของผู้สมัครออกอีก ให้เหลือแต่เบอร์โดดๆ อย่างเดียว ทำได้แบบไม่อายชาวโลก ก็ให้มันรู้ไปครับ.!.!


'ทักษิณ'โผล่หลอนคสช.ได้เวลาแก้รธน.ฉบับถ่วงความเจริญ

11 ธ.ค.61 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหนีคดี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Thaksin Shinawatra" ระบุว่า "วันนี้การที่ คสช.จำต้องปลดล็อกไม่ใช่เขามีความกรุณาต่อเรา แต่เป็นการเอาสิทธิขั้นพื้นฐานของเราที่เขาช่วงชิงจากเราไปเป็นระยะเวลาเกือบ 5 ปี คืนกลับมาให้บางส่วนต่างหาก

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวไทยด้วยนะครับ ที่วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความหวังที่เราจะได้รับสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคกลับคืนมา ถึงแม้ว่าอาจไม่เหมือนเดิมเหมือนเมื่อครั้งได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540

เพราะรัฐธรรมนูญนี้ตั้งใจควบคุมและจำกัดสิทธิของประชาชนตามมาตรฐานสากล ดังนั้นเราต้องร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับถ่วงความเจริญของประเทศฉบับนี้ โดยเริ่มต้นก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ด้วยความรัก ความสามัคคีของคนไทยที่หัวใจเป็นไทอย่างแท้จริง และจุดมุ่งหมายที่วางไว้ คงไม่ไกลเกินมือของพวกเรา

ขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนและผมจะขอทำหน้าที่ในฐานะที่เคยรับใช้ประเทศไทยมาและใจก็ยังไม่ได้จากไปไหนครับ"


สิทธิแรก!‘ธนาธร’เมินคสช.ปลดล็อก ปลุกฝ่ายปชต.กาบัตรลงโทษ‘เผด็จการ’

“ธนาธร” เมิน คสช.ปลดล็อก บอกเป็นสิทธิตั้งแรกอยู่แล้ว หวั่นผู้มีอำนาจเขียนกฎยังไง พร้อมเล่นในเกม ลั่นเลือกตั้งมีโอกาสโดนโกงสูง ปลุกประชาชน แห่กาบัตรลงโทษเผด็จการ

13 ธ.ค. 61 ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการปลดล็อกตามคำสั่งคสช.ที่ 22/2561 ว่า สิทธิเสรีภาพที่ได้มาหลังปลดล็อก ถือเป็นสิทธิและเป็นความชอบธรรมของประชาชนตั้งแต่แรกเริ่มอยู่ ดังนั้นแผนการรณรงค์ รวมถึงนโยบายของพรรคเดินหน้าได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการปลดล็อกของ คสช. โดยในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ พรรคจะมีการแถลงนโยบายที่ต้องการเปลี่ยนประเทศให้สาธารณะรับรู้ว่า พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง และเข้ามาเปลี่ยนประเทศแล้ว ส่วนภายหลังจากปลดล็อกแล้วจะเป็นลงสนามเลือกตั้งที่แฟร์หรือไม่นั้น ตนคิดว่า ยังไงก็มีได้ความเปรียบ เสียเปรียบแน่นอน ทั้งกฎ กติกาการเลือกตั้ง อำนาจรัฐ กรรมการการเลือกตั้ง โน้มเอียงไปกับฝ่ายที่ถือครองอำนาจในปัจจุบันอยู่

“แม้ว่า กติกาและสถานการณ์จะไม่เป็นธรรม แต่เราพร้อมต่อสู้กับ คสช. ที่เป็นทั้งกรรมการ ผู้เขียนกฎ และเป็นผู้เล่น เราอยากจะชนะฝ่ายที่เป็นปกปักษ์กับประชาธิปไตยในเกมของพวกเขา ต่อให้ กกต. ยืนยันเรื่องบัตรเลือกตั้งที่ไม่มีชื่อ และโลโก้ เราก็พร้อมเล่นเกมนี้” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

นายธนาธร กล่าวว่า อยากให้ประชาชนรับทราบว่า การเลือกตั้งคราวนี้มีโอกาสที่โกงกันมากที่สุดในประวัติกาล เพราะมีการโกงตั้งแต่สิทธิเสรีภาพประชาชน มีการใช้อำนาจรัฐ ใช้งบประมาณของรัฐไปสนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่ง มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน มาปลดล็อกก่อนการเลือกตั้งเพียงแต่ 70 วันเท่านั้น แค่บัตรเลือกตั้งยังไม่มีชื่อไม่มีโลโก้พรรคเลย ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์ เราปล่อยให้ประชาชนแพ้ไม่ได้ ถ้าฝ่ายคสช.ชนะประเทศจะต้องอยู่กับการปกครองในระบบคสช.ไปอย่างน้อยอีก 4 -20ปี ซึ่งเท่ากับอายุคนหนึ่งรุ่นที่จะสูญหายไป สิ่งเหล่านี้เรายอมไม่ได้ จึงอยากให้ประชาชนลุกขึ้นมาใช้สิทธิให้มาก ออกมาเป็นผู้ตัดสินและลงโทษ คสช.ว่า พอกันที่กับเผด็จการ คสช. หยุดหยั่งการสืบถอดอำนาจให้ได้ ไม่เช่นนั้นขุมนรกไปอีกอย่างน้อย 4 ปี

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ยกผลโพลบอกว่า ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้เกิน 300 เสียง นายธราธร กล่าวว่า อนาคตใหม่ก็ทำโพลของตัวเองอยู่ตลอดเวลา และตรงกับที่สำนักอื่นๆสำรวจ โดยพรรคมีความนิยมอยู่ที่ 10-15 % ซึ่งคิดเป็น 50-75 ที่นั่ง ถ้ามีการเลือกตั้งวันนี้ เราคิดถึงตัวเลขเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังเหลืออีก 70 วันอะไรยังเกิดขึ้นได้ โดยพวกเราจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด

บุกยิงกลางตลาดฝรั่งเศส คนไทยตาย1 เสี่ยโรงก๋วยเตี๋ยวแปดริ้ว

คนร้ายบุกเดี่ยวกราดยิงประชาชนกลางตลาดคริสต์มาสในเมืองสตราสบูร์ก ฝรั่งเศส มีผู้บาดเจ็บ 12 คน เสียชีวิต 3 ศพ 1 ในนั้นเป็นคนไทย เจ้าของโรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยวแปดริ้ว ไปเที่ยวกับภรรยา สลดเพิ่งเดินทางถึงแค่วันเดียว บัวแก้วส่งเร่งประสาน ตร.น้ำหอม ดูแลเต็มที่พร้อมเตือนคนไทยให้ระวังตัว ด้านครอบครัว“สืบสมาน”สุดเศร้าวอน จนท.ประสานนำศพกลับไทย ทางการฝรั่งเศสยกระดับเตือนภัยสูงสุดเร่งล่ามือปืน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมว่า เกิดเหตุมือปืนบุกกราดยิงประชาชนกลางตลาดคริสต์มาส แห่งหนึ่งใกล้จตุรัสกลางเมืองสตราสบูร์ก ทางภาคตะวันออกของฝรั่งเศส เวลาประมาณ 20.00 น.วันอังคารที่ 11 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 02.00 น. วันพุธที่ 12 ธันวาคมตามเวลาในประเทศไทย มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สร้างความตื่นตระหนกให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่จับจ่ายซื้อของในตลาดแห่งนี้ วิ่งหนีตายจ้าละหวั่น

มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ทหารที่ลาดตระเวนต่อต้านก่อการร้ายในพื้นที่ขณะเกิดเหตุได้ยิงปะทะกับผู้ต้องสงสัยลงมือยิงประชาชน จนคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังหนีไปได้

ต่อมานายคริสตอฟ กัสตาเนร์ รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศสแถลงหลังเกิดเหตุว่า เหตุดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 3คน เป็นคนไทย 1 คน บาดเจ็บ 12 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 6 คน รัฐบาลยกระดับการเฝ้าระวังภัยด้านความมั่นคงเป็นระดับสูงสุด และสั่งเสริมการควบคุมบริเวณชายแดน รวมถึงเสริมการลาดตระเวนในตลาดคริสต์มาสทุกแห่งทั่วประเทศป้องกันการโจมตีเลียนแบบ ขณะเดียวกัน ได้ส่งกำลังหน่วยความมั่นคง 350 นาย ไล่ล่าตัวมือปืนที่ยังหลบหนี

เบื้องต้นทราบเบาะแสคนร้ายรายนี้ เชื่อว่าคือ นายเชริฟ เชกัตต์ ชายวัย 29 ปี ชาวเมืองสตราสบูร์ก และมีชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าจับตาผู้มีความเสี่ยงต่อการก่อการร้าย เดิมตำรวจเตรียมจับกุมตัวชายคนดังกล่าวช่วงเช้าวันอังคารก่อนเกิดเหตุคดีพยายามฆ่า แต่คนร้ายไหวตัวหลบหนีไปได้ จากนั้นไปก่อเหตุช่วงค่ำวันเดียวกัน

ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจฝรั่งเศสแถลงว่า เจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านของมือปืนในเมืองสตราสบูร์กเพื่อจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ แต่ไม่พบ ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งค้นหามือปืนที่หลบหนีไปได้ คาดว่าผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ และอัยการฝรั่งเศสได้เริ่มการสอบสวนในคดีก่อการร้ายแล้ว

ทั้งนี้ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า 1 ใน 3 ผู้เสียชีวิต มีนักท่องเที่ยวชายชาวไทยรวมอยู่ด้วย ขณะเกิดเหตุ เดินเที่ยวในตลาดดังกล่าวกับผู้หญิงชาวไทย 1 คน ซึ่งอาจเป็นภรรยาของเขา

วันเดียวกัน สมาชิกรัฐสภายุโรปยืนสงบนิ่ง 1 นาทีเพื่อไว้อาลัยให้ผู้เคราะห์ร้ายในเหตุกราดยิงที่เมืองสตราสบูร์กของฝรั่งเศส ขณะที่ยังต้องปิดพื้นที่เข้า-ออกการประชุมสภาในเมืองดังกล่าวหลังเกิดเหตุโจมตี

ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศของไทย เปิดเผยถึงเหตุคนร้ายใช้ปืนกราดยิงประชาชนที่ตลาดคริสต์มาส เมืองสตาร์สบูร์กของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีคนไทยด้วย 1 คน ซึ่งรายงานที่ได้รับจากสถานทูตไทย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอนุพงษ์ สืบสมาน อายุ 47 ปี เป็นนักท่องเที่ยวที่เพิ่งจะเดินทางไปถึงฝรั่งเศสเมื่อวันอังคารที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา

น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส เกี่ยวกับเหตุกราดยิงที่เมืองสตราสบูร์กของฝรั่งเศส แล้วได้รับการยืนยันชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอนุพงษ์ สืบสมาน อายุ 45 ปี ถูกยิงอาการสาหัสก่อนเสียชีวิตต่อมาที่โรงพยาบาล สถานทูตได้ติดต่อกับภรรยานายอนุพงษ์ที่มาท่องเที่ยวด้วยกัน เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว ขณะนี้ภรรยานายอนุพงษ์ปลอดภัยดี

“สถานทูตติดต่อกับเครือข่ายชุมชนไทยในเมืองสตราสบูร์ก เพื่อประสานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และจัดหาที่พักให้ภรรยานายอนุพงษ์ และประสานตำรวจเมืองสตราสบูร์กใกล้ชิด และวันนี้เจ้าหน้าที่กงสุลรีบเดินทางไปเมืองสตราสบูร์ก เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดเต็มที่ต่อไป” น.ส.บุษฎี กล่าว

ขณะที่ เพจสมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศสโพสต์ข้อความผ่านเพจ AETF - Association des étudiants thaïlandais en France - ส.น.ท.ฝ. เตือนนักเรียนไทยให้ระวังภัยก่อการร้ายในฝรั่งเศส จากเหตุกราดยิงผู้คนกลางตลาดคริสต์มาส บริเวณจัตุรัสเคลเบอร์ กลางเมืองสตราสบูร์กทางตะวันออกของฝรั่งเศส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ในจำนวนนี้มีนายอนุพงษ์ สืบสมาน เสียชีวิต

โดยสมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศสระบุว่า ในนามสมาคมนักเรียนไทยในฝรั่งเศสฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายชาวไทย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทางสมาคมขอขอบคุณหน่วยงานทุกฝ่ายที่เข้ามาประสานงานให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ สมาคมขอความร่วมมือจากนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ที่เมืองสตราสบูร์ก แจ้งข่าวว่าว่าอยู่ในสถานที่ปลอดภัย แก่สมาคม สนร. หรือบุคคลใกล้ชิด ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวของ นายอนุพงษ์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในฝรั่งเศส ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบญาติของนายอนุพงษ์ ต่างอยู่ภาวะโศกเศร้าเสียใจมาก สอบถามนายธีรพล ฉัตรชยาวราฉัตร อายุ 58 ปี ญาตินายอนุพงษ์เผยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก รู้เพียงว่านายอนุพงษ์ ไปเที่ยวกับภรรยาที่ฝรั่งเศส และถูกลูกหลงเสียชีวิต ส่วนภรรยาไม่ได้รับอันตราย ทั้งสองยังไม่มีทายาทด้วยกัน โดยนายอนุพงษ์ เป็นบุตรคนที่ 2 ของครอบครัว พี่ชายคนโตทำธุรกิจอยู่ใน กทม. เบื้องต้นทราบว่าทางบริษัทประกันกำลังดำเนินการเรื่องการเสียชีวิตของนายอนุพงษ์ ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือนายอนุพงษ์ และภรรยาที่ประสบเหตุครั้งนี้ด้วย