ข่าว
เด็กหญิงป่วย ต้องกินอาหารทุก ๆ 15 นาที เพื่อ"ไม่ให้ตาย"

วันที่ 16 ก.ย. เด็กหญิงลิซเซ่ เวลาสเควซ ต้องป่วยด้วยอาการประหลาด ด้วยการกินอาหารในทุก ๆ 15 นาที เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่รอด โดยเธอมีน้ำหนักเพียง 4 กก.แต่ไม่ได้ป่วยเป็นอาการอดอาหารเพื่ออยากผอม และเฉลี่ยแล้ว เธอต้องกินอาหารชุดย่อย ๆ 60 ครั้งต่อวัน แต่แม้ว่าอาหารที่เหลือกินจะมีแคลลอรี่สูงถึง 5,000-8,000 แคลลอรี่่อวัน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยทำให้เธอมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้ว

โดยลิซเซ่กล่าวว่า ถ้าเธอชั่งน้ำหนักแล้วพบว่า น้ำหนักขึ้นสักปอนด์ เธอก็ดีใจมากแล้ว และเธอต้องกินของหลายประเภท เช่น ลูกอม ช็อกโกแลต พิซซ่า ไก่ โดนัท ไอศครีม และนั่นทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินคนนินทาว่าเธอเป็นโรคอดอาหารเพราะอยากผอม

รายงานระบุว่า ลิซเซ่เป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนด 4 อาทิตย์ โดยมีน้ำหนักเพียง 2 ปอนด์ ด้านแพทย์สันนิษฐานว่า ลิซซี่ อาจมีอาการ"De Barsy syndrome" ขณะที่แม่ของเธอบอกว่า ตั้งแต่เด็ก ลิซซี่ถูกส่งไปโรงพยาบาล แต่แพทย์ไม่สามารถระบุอาการของเธอได้ ขณะที่เคสของเธอกลายเป็นที่สนใจของแพทย์ทั่วโลก และเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาด้านพันธุกรรมการเติบโตของร่างกายที่ผิดปกติ โดยแพทย์บางรายบอกว่า ลิซเซ่ อาจมีอาการ Neonatal Progeroid Syndrome ที่ทำให้เกิดอาการร่างกายแก่ตัวไว สูญเสียไขมันจากใบหน้าและร่างกาย และเนื้อเยื่อเสื่อมสภาพ โดยมีผู้คนจำนวนไม่มากนักที่ป่วยมีอาการเช่นนี้ ซึ่งแต่ละรายก็จะมีอาการแตกต่างกันเล็กน้อย

สหรัฐสั่งเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตตูนิเซีย,ซูดาน

วันที่ 16 ก.ย. ทางการสหรัฐได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ระดับล่างที่ไม่จำเป็นอพยพออกจากสถานทูตตูนิเซีย และซูดาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุโจมตีสถานทูตสหรัฐในลิเบียและอียิปต์ ซึ่งปฎิเสธคำร้องขอของสหรัฐที่ต้องการส่งทหารนาวิกโยธินเพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐในสองประเทศ ก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุโจมตีสถานทูตในกรุงตูนิส และคาร์ทูม เมื่อวันศุกร์ จากกลุ่มผู้ประท้วงที่เดือดดาลแค้นคลั่งภาพยนตร์ต่อต้านอิสลามจากนักสร้างหนังลูกครึ่งยิว-สหรัฐ ซึ่งดูถูกพระศาสดามูฮัมหมัด และทำให้เกิดกระแสประท้วงไปทั่วโลกอิสลาม ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า เมื่อวันศุกร์ ทางการวอชิงตันได้ส่งทหารนาวิกโยธินไปยังซูดานแล้วเพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อสถานทูต แม้ว่าทางการซูดานประกาศเตือนว่า ซูดานมีความสามารถที่จะคุ้มครองเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐได้ นอกจานี้ ทางการซูดานได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ ด้านประธานาธิบดีบารัก โอบามา กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน กลุ่มอัล เคด้า ในเยเมน ได้ออกมาชื่นชมเหตุการณ์สังหารทูตสหรัฐในลิเบีย และเรียกร้องให้กลุ่มสมาชิก อัล เคด้า สังหารเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐคนอื่นๆ ทั่วโลกมุสลิมอีกด้วย ทั้งนี้ กระแสประท้วงได้ลุกลามไปยังหลายเมืองหลวงของประเทศต่างๆ กว่า 20 ประเทศตั้งแต่อเมริกาเหนือจนถึงอาเซียน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย


รุมด่าเมืองเซี่ยงไฮ้ ประจานขอทานบนรถไฟใต้ดิน

วันที่ 18 ก.ย.ทางการเซี่ยงไฮ้กำลังต้องเผชิญการวิจารณ์โจมตีอย่างหนักต่อมาตรการรณรงค์และปราบปรามการขอทานบนรถไฟใต้ดิน หลังจากที่ทางการได้ใช้มาตรการอย่างสุดเข้ม ด้วยการขอให้ผู้คนบันทึกภาพขอทานบนรถไฟใต้ดินเพื่อประจานคนเหล่านี้ทางเครือข่ายชุมชนออนไลน์ และรายงานแจ้งทางโทรศัพท์สายด่วน ขณะที่ตำรวจเมืองเซี่ยงไฮ้ ยังได้ตีพิมพ์ภาพของขอทานที่มีพฤติกรรมขอเงินผู้คนซ้ำซากในบล๊อกของตำรวจด้วย ในจำนวนนี้ รวมทั้งขอทานรายหนึ่งที่ขอเงินผู้คน เพื่อไปรักษาเมียที่ป่วยเป็นมะเร็ง โดยเขาถูกควบคุมตัวถึง 241 ครั้ง ขณะที่หนังสือพิมพ์จีนถึงกับประนามว่าแผนของตำรวจที่ต้องการจะประจานขอทานกลับกลายเป็นดาบคืนสนองพวกเขาอย่างทันตา ขณะที่สื่อบางรายบอกว่า ทางการเมืองเซี่ยงไฮ้จำเป็นต้องแยกแยะระหว่างขอทานที่ยากจนจริง ๆ กับขอทานมืออาชีพ ที่ออกมาหากินกับผู้คน อย่างไรก็ตาม ตำรวจบางรายปกป้องว่า ขอทานส่วนใหญ่ในเมืองนี้เป็นพวกมืออาชีพ เพราะเมื่อตำรวจให้อาหาร พวกเขาก็ไม่กิน แต่ให้สั่งไก่ทอดเคเอฟซีแทน


ศาลฝรั่งเศสสั่งห้ามตีพิมพ์ภาพเปลือยอกเจ้าหญิงแคทเธอรีน

ศาลมีคำสั่งในวันนี้ (18 ก.ย.) ห้ามนิตยสารแนวซุบซิบโคลสเซอร์นำภาพไปพิมพ์ซ้ำหรือเผยแพร่ในเว็บไซต์ รวมทั้งห้ามจำหน่ายต่อให้แก่สื่ออื่น ขณะเดียวกัน นิตยสารต้องส่งมอบภาพทั้งหมดที่มีอยู่ให้แก่ตัวแทนของดัชเชสและดยุคแห่งเคมบริดจ์ภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับวันละ 10,000 ยูโร (ราว 400,000 บาท) ด้านอัยการได้เริ่มการไต่สวนเบื้องต้นต่อคำฟ้องที่ตัวแทนของทั้งสองพระองค์ยื่นฟ้องศาลฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ให้ดำเนินคดีกับบริษัท มอนดาโดรี ผู้ตีพิมพ์นิตยสารดังกล่าว และช่างภาพที่ลอบบันทึกภาพแล้ว นิตยสารโคลสเซอร์ฉบับวันศุกร์ได้ลงพิมพ์ภาพถ่ายระยะไกลของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ขณะพักผ่อนส่วนพระองค์ที่บ้านพักของลอร์ด ลินลีย์ พระนัดดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในเขตโพรวองซ์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส จำนวน 14 ภาพ และมีการนำไปเผยแพร่ต่อในอินเทอร์เน็ต รวมทั้งมีการลงพิมพ์ซ้ำในหนังสือพิมพ์เดลีสตาร์ของไอร์แลนด์และนิตยสารชีของอิตาลีรายงานคำฟ้องของทนายอังกฤษว่า ภาพที่นิตยสารโคลสเซอร์ตีพิมพ์นั้นถูกแอบถ่ายเพราะสถานที่ซึ่งดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงอาบแดดอยู่นั้นห่างจากถนนถึง 1 กิโลเมตร และอยู่ในสถานที่อันเป็นส่วนตัว จึงเข้าข่ายการละเมิดกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลอย่างชัดเจน มีรายงานว่า นิตยสารโคลสเซอร์ที่ตีพิมพ์ภาพแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เปลือยอกขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หลายร้านจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ทำให้มีการสั่งเพิ่มยอดกันเป็นแถว เป็นที่น่าสังเกตว่าส่วนใหญ่ของลูกค้าที่ซื้อนิตยสารดังกล่าวเป็นชาวอังกฤษ เพราะนิตยสารดังกล่าวห้ามจำหน่ายในประเทศอังกฤษ ขณะที่นิตยสาร คี ของอิตาลี ก็เกาะกระแสด้วยการขึ้นปกภาพเปลือยอกของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ขณะที่ชาวอิตาเลียนที่เห็นภาพกล่าวว่า ปฏิกิริยาที่มีขึ้นนั้นเว่อร์เกินไป ภาพเปลือยอกที่ปรากฏบนหน้าปกนิตยสารคี แม้จะเป็นภาพดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร เพราะสมัยนี้คนเราเท่าเทียมกันแล้ว