ข่าว
“แมท”ส่อแววโดนเท สูญเสียเงิน 10 ล้าน

ชื่อเสียงกว่าจะสร้างมาได้ ต้องสะสมมายาวนานหลายปี แต่ชื่อเสียก็เกิดได้ทุกขณะ ถ้าใช้ชีวิตขาดสติ ถูกใจแมท ภีรนีย์ แต่ไม่น่าจะถูกใจเจ้าของแบรนด์ดังหลายแบรนด์ไปแล้ว น่าเป็นห่วงอยู่ ทั้งแฟนคลับและไม่แฟนคลับยังด่าเละ แมทไม่หยุด! กรณีเปิดตัวเปิดใจคบกับหนุ่มหล่อซิกซ์แพ็กแน่น สงกรานต์ เตชะณรงค์ ทายาทพันล้านจากโบนันซ่า

แว่วว่าสินค้าแบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ ต่างพร้อมใจกันเท! เท! เท! ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า ไม่จ้างแมทให้เป็นพรีเซนเตอร์อีกแล้ว! เพราะจ้างมาแล้วน่าจะได้ไม่คุ้มเสีย ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ต้องอาศัยความไว้ใจ ความเชื่อใจอย่างเต็มที่ อาจจะสร้างความคาใจและเป็นที่ตั้งข้อสังเกต หรืออาจจะเป็นที่รังเกียจของผู้บริโภคได้ แล้วพาลไม่ซื้อสินค้านั้นๆ ไปเลย ก็เป็นไปได้สูง

ที่สำคัญสินค้าดังต่างๆ ยังมีตัวเลือกนางเอกอื่นๆ อีกเยอะแยะ ที่ดัง เด่น ดี ไม่มีประวัติต้องสงสัย ไม่มีความคาว ไม่สุ่มเสี่ยง นับจากนี้คาดการณ์ว่าแมทน่าจะสูญเสียเงิน จากการชวดเป็นพรีเซนเตอร์ดัง ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ น่าเสียดายแทนจริงๆ

ชื่นชม'แฮร์โฮสเตสสาว' ให้นมแก่ทารกผู้โดยสาร

แฮร์โฮสเตผู้มีใจกรุณารายหนึ่งชาวฟิลิปปินส์ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง จากกรณีที่เธอยื่นมือเข้าให้นมทารกที่กำลังร้องไห้งอแง เนื่องจากนมหมด

แพตริชา ออร์กาโน วัย 24 ปี กำลังทำหน้าที่อยู่บนเที่ยวบินหนึ่งในฟิลิปปินส์ตอนเช้าวันอังคาร(6พ.ย.) เวลาประมาณ 5.10 น. ระหว่างนั้นเธอเห็นทารกของผู้โดยสารรายหนึ่งร้องไห้กระจองอแงไม่หยุดหลังจากเครื่องบินเทคออฟ

ออร์กาโน เดินตรงเข้าไปหาคุณแม่รายดังกล่าว และได้ทราบว่านมสูตรสำหรับทารกแรกเกิดที่นำมาด้วยหมด ทำให้เธอตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยไปให้นมบริเวณห้องครัวของเครื่องบิน ด้วยพนักงานต้อนรับหญิงบนเครื่องรายนี้มีลูกของตนเองวัย 9 เดือน เธอจึงทราบความยากลำบากที่คุณแม่คนหนึ่งต้องเผชิญ "ตอนที่ฉันได้ยินเสียงเด็กร้อง ฉันรู้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างที่ฉันสามารถให้ความช่วยเหลือได้"

"พอแม่เด็กบอกกับฉันว่าเธอไม่มีนมสูตรสำหรับทารกแรกเกิดเหลือแล้ว และฉันรู้ว่าไม่มีแม่ลูกอ่อนคนอื่นบนเครื่องอีก ฉันตระหนักทันทีว่าฉันจำเป็นต้องช่วยเหลือ" เธอเล่า

"ฉันเสนอให้นมเด็กแทนเธอ เพราะฉันเองก็มีลูกชายตัวเล็กๆเช่นกัน แม่ของเด็กขอบคุณฉันไม่ขาดปาก เธอต้องอยู่ที่สนามบินรอขึ้นเครื่องมาตั้งแต่ตอน 21.00 ของคืนก่อนหน้า ทันทีที่เห็นลูกน้อยเริ่มดูดนมจากหน้าอกฉัน ฉันเห็นแววตาที่ผ่อนคลายของผู้เป็นแม่ และท้ายที่สุดลูกสาวตัวเล็กๆของเธอก็หลับปุ๋ย"

แพตริชา บอกว่าเธอมีความรู้มากที่ได้ช่วยเหลือคุณแม่รายนี้ เพราะเธอรู้ถึงความยากลำบากของคนเป็นแม่ดี "สิ่งเดียวที่ฉันจินตนาการได้ก็คือความยุ่งเหยิงในความรู้สึก ในฐานะที่ฉันก็เป็นแม่คน ฉันรู้ดีว่าเธอต้องก้าวผ่านความเครียดหนักหนาแค่ไหน"

"คุณจะมีความรู้สึกมืดมนอย่างเลวร้ายยามที่คุณไม่สามารถให้นมลูกที่กำลังหิว ดังนั้นฉันจำเป็นต้องเข้าช่วยเหลือ เธออยู่ที่สนามบินมาตั้งแต่คืนก่อนหน้า ดังนั้นนมจึงหมดตอนที่อยู่บนเครื่องบิน มันทำให้เด็กร้องไห้ ตราบใดที่ฉันสามารถช่วยเหลือทารกและแม่ ฉันก็มีความสุขแล้ว ฉันไม่รู้จะสรรหาคำมาอธิบายความรู้สึกนี้ได้อย่างไร"

ก่อนลงจากเครื่อง คุณแม่เด็กยังคงขอบคุณ แพตริชา ไม่ขาดปากที่เข้าช่วยเหลือในช่วงเวลาที่เธออ่อนแอมากที่สุด "ฉันรู้ว่าเที่ยวบินนี้จะเป็นเที่ยวบินที่พิเศษสำหรับฉัน เพราะฉันเพิ่งได้เลื่อนขั้น แต่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะพิเศษขนาดนี้ เพราะฉันได้มีโอกาสให้นมลูกของคนแปลกหน้า" แพตริชากล่าว


‘พระพุทธะอิสระ’เล่าถึง‘จตุพร’ ในวันที่ตัวเองดังคนล้มละลาย

9 พ.ย.61 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “อดีตพระพุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.สามพราน จ.นครปฐม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” ระบุว่า มิตรภาพ ที่เกิดขึ้นในเวลาที่เรายากลำบาก ย่อมยั่งยืนกว่า มิตรภาพที่เกิดขึ้นในเวลาที่เราสุขสบาย

๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

สืบเนื่องจากเรื่องคำสั่งมหาเถร ห้ามบุคคลผู้อยู่ในระหว่างคุมความประพฤติบวช วันที่สำนักงานพุทธศาสนา มีประกาศคำสั่งออกมาตอนเย็นๆ เจ้ากุ๊ดซี้ ก็ให้เด็กนำเอาโทรศัพท์มายื่นให้พร้อมแจ้งว่า คุณจตุพรแกนนำ นปช. โทรมา ฉันรับโทรศัพท์มาพูดคุย คำแรกที่คุณจตุพรกล่าวคือ กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ท่านเป็นยังไงบ้าง ผมได้ข่าวว่า มหาเถรออกคำสั่งมิให้ผู้ที่ต้องคำพิพากษา แล้วรอลงอาญาคุมความประพฤติบวช เช่นนั้นท่านจะเป็นอย่างไรบ้าง

ฉันตอบแก่คุณจตุพรไปว่า ไม่เห็นเป็นไร การที่มหาเถรออกกฎมาเช่นนั้น ถือว่าเป็นการดีต่อพระธรรมวินัยในอนาคตเสียด้วยซ้ำ จักได้มีการคัดกรองบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ให้เข้ามาทำความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา วันข้างหน้าพระสงฆ์จักได้งามสง่า เป็นที่น่าศรัทธาในสังคม ซึ่งเรื่องนี้ฉันก็ได้ประกาศออกไปก่อนที่จักมีคำสั่งนี้มา ร่วมอาทิตย์แล้วว่า จะยังไม่กลับไปห่มผ้าเหลือง จนกว่าจะหมดเวลาคุมความประพฤติ อยู่มาได้ถึงวันนี้ จะอยู่ต่อไปอีกปีหนึ่งในชุดขาว จักเป็นอะไร ยังไงจิตใจฉันก็ยังเป็นพระอยู่

คุณจตุพร จึงถามย้ำว่า ท่านไม่เป็นไรแน่นะ

ฉันตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะว่า ไม่เป็นไร ประเทศชาติต้องมาก่อน ความสงบสุขของสังคมภายในประเทศ และความงดงามของพระธรรมวินัย ต้องสำคัญกว่าบุคคล เหมือนที่ฉันบอกแก่คุณไงล่ะว่า ประชาชนต้องมั่งคั่ง ประเทศชาติต้องมั่นคง สถาบันต้องปลอดภัย คนไทยต้องเป็นสุข นั่นแหละคือสิ่งที่นักการเมืองอย่างพวกคุณควรจักทำ แล้วเราก็สนทนากันอีกหลายเรื่องจิปาถะ สุดท้ายคุณจตุพร แจ้งว่า สัปดาห์หน้าหากมีเวลาจักขอเข้ามากราบเยี่ยม ฉันตอบเขาไปว่า ยินดี คงต้องแจ้งมาก่อนว่า ฉันอยู่หรือเปล่า

เหตุที่นำเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้เห็นภาพอีกด้านหนึ่งของแกนนำ นปช. ที่เราท่านทั้งหลายคนอาจจะรู้สึกจงเกลียดจงชังไม่ชอบขี้หน้าเขา แต่เขาก็ยังมีอีกด้านหนึ่ง ที่เราท่านทั้งหลาย ยังมองไม่เห็น ไม่เคยได้สัมผัส ซึ่งเป็นด้านที่จริงใจ มีไมตรี และถ้อยทีถ้อยอาศัยต่อเพื่อนผู้ร่วมชะตากรรม ซึ่งก็ถือว่าเป็นการรักษาบรรยากาศของความปรองดอง ให้ได้เห็นในแผ่นดิน และสิ่งที่คุณจตุพรแสดงออกมาต่อพุทธะอิสระ ตลอดเวลาที่รู้จัก สนทนา พบปะพูดคุยกันหลายครั้ง ยิ่งทำให้เห็นถึงความจริงใจ ตั้งใจ ที่จักทำสิ่งดีๆ ให้แก่คนรอบข้างและบ้านเมืองนี้ หากมีคนคอยพูดคุยชี้แนะเขา

ขอบคุณในน้ำใจที่คุณๆ ทั้งหลายและคุณจตุพรมีให้ต่อฉัน ทั้งที่สถานะของพุทธะอิสระในเวลานี้ดุจดังคนล้มละลายในสายตาของผู้อื่นที่เฝ้ามองประมาณว่า ไม่มีอะไร ไม่ได้อะไร ไม่เหลืออะไร อยู่เพื่อเตรียมตัวตายแน่ๆ แต่ก็ยังได้รับน้ำใจจากพวกท่านทั้งหลาย ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ วันข้างหน้าหากมีเวลาจักหยิบเอาปฏิสัมพันธ์ที่คุณจตุพรมีต่อฉัน และฉันมีต่อคุณจตุพรมาเล่าสู่กันฟัง


“ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย” สูง 15 ม. เผาบ้านนับร้อย มีคนเสียชีวิต

ไฟป่าแคลิฟอร์เนียสูง 15.25 ม.เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วในวันพฤหัสบดี(8 พ.ย.) ตลอดทั่วเมืองทางเหนือของรัฐ ที่มีรายงานการเสียชีวิตท่ามกลางบ้านเรือนประชาชนร่วมหลายร้อยหลัง โรงพยาบาลและโรงเรียนประถมตกเป็นเหยื่อพระเพลิง ส่งผลให้ชาวอเมริกันจำนวนนับหมื่นคนต้องถูกสั่งอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย

รอยเตอร์รายงาน(9 พ.ย)ว่า ได้ปัจจัยจากลมแรงและสภาพอากาศแห้ง ไฟป่าแคลิฟอร์เนียที่มีชื่อว่า ไฟป่าแคมป์(the Camp Fire) ซึ่งมีรายงานว่าลูกไฟมีความสูงถึง 15.25 ม.ได้กวาดไปทั่วเมืองพาราไดซ์ (Paradise) ที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียในวันพฤหัสบดี(8) เผาไหม้โรงพยาบาลท้องถิ่น และมีความเป็นไปได้ว่าบ้านเรือนประชาชนและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆอีกกว่าพันอาจตกเป็นเหยื่อ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ระดับเคาน์ตี และระดับเมือง

“เราได้รับรายงานว่ามีการเสียชีวิตเกิดขึ้น แต่ยังเป็นรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน” คอรีย์ โฮเนีย(Kory Honea) นายอำเภอบัตต์เคาน์ตี(Butte County Sheriff) กล่าวในงานแถลงข่าว

ด้านดาร์เรน รีด(Darren Read) หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงบัตต์เคาน์ตีให้ข้อมูลว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งในกลุ่มพลเรือนและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งพบว่าเมืองชิโก(Chico) ที่มีประชากรอาศัยราว 93,000 คน เสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของไฟป่าแคมป์ เนื่องมาจากลมที่พัดด้วยอัตราความเร็ว 56 ก.ม/ช.ม ทำให้ไฟป่ามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก รีดให้ความเห็นเพิ่มเติม

หนึ่งในผู้ประสบภัยชายที่ต้องหนีไฟป่าด้วยมอเตอร์ไซด์ส่วนตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น “แอคชั่น นิวส์ นาว” (Action News Now) บริเวณข้างถนนทางตะวันตกของเมืองพาราไดซ์ว่า

“พวกเราต้องขี่หนีเปลวเพลิงเพื่อมาให้ได้ถึงที่นี่”

เป็นเพราะมีเส้นทางการหนีไฟป่าที่จำกัด ทำให้อุบัติเหตุกลางถนนกลายสภาพทำให้เกิดการปิดกั้นขึ้นมาทันที พร้อมกับบรรดานักขับต่างพากันทิ้งรถราของตัวเอง และหอบลูกจูงหลานรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงและสัมภาระเพื่อหนีไฟป่า เจ้าหน้าที่ให้ความเห็น

และหนึ่งในกลุ่มคนที่ต้องติดการจราจรที่ปิดอยู่บนท้อวถนนได้คลอดบุตรระหว่างทาง หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เอนเตอร์ไพรซ์-รีคอร์ด (Enterprise-Record) รายงาน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงรัฐแคลิฟอร์เนีย ไรอัน แลมเบิร์ต( Ryan Lambert) กล่าวถึงสภาพความโกลาหลของการอพยพว่า “มันเป็นความสับสนอลหม่านมาก เป็นไฟป่าที่ร้ายแรง”

ทั้งนี้พบว่าไฟป่าลูกนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี(8) และหลังจากนั้นได้เผาผลาญพื้นที่จนกลายเป็นตอตะโกอย่างรวดเร็วร่วม 18,000 เอเคอร์ ทำให้ประชาชนจำนวน 27,000 คนจากเมืองพาราไดซ์ที่ห่างจากเมืองซานฟรานซิสโกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 240 ก.ม ต้องถูกอพยพออกนอกบริเวณทันที รายงานจากแถลงการณ์ของสำนักงานป่าไม้และการป้องกันไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนียที่มีชื่อย่อว่า ไฟป่าแคล (Cal Fire)

นอกจากนี้ยังพบว่าบัตต์เคาน์ตีต้องใช้รถบูลโดเซอร์ ทำการเคลื่อนย้ายรถต่างๆที่ถูกทิ้งไว้ เพื่อที่จะสามารถเปิดทางไปให้ถึง โรงพยาบาลแม่น้ำเฟเธอร์(Feather River Hospital) เพื่อที่จะอพยพบรรดาคนไข้ออกมาได้หลังจากที่เพลิงกำลังไหม้ที่ส่วนปีกตึกเก่าของตัวโรงพยาบาลและบริเวณหลังคาของแผนกฉุกเฉิน

ซึ่งสถานีโทรทัศน์ CBS ซาคราเมนโตรายงานว่า ในเวลานี้ไฟป่าลูกนี้ยังควบคุมไม่ได้ และร้านขายสุราและบุหรี่ โรงพยาบาล และโรงเรียนประถมในเมืองพาราไดซ์ตกเป็นเหยื่อพระเพลิง


‘ชูวิทย์’ เตะตัดขา ‘กำนัน’ ถามเจ็บ‘รปช.’ใครหัวหน้า

9 พ.ย.61 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ระบุว่า อดคันปากไม่ไหว ขอทักทายให้หายคิดถึง ...ใครจะรู้ทันเท่าชูวิทย์ เคยพูดเอาไว้ ให้ชาวบ้านเขียนแปะที่ข้างฝา “สุเทพไม่มีทางเลิกเล่นการเมือง”

ตอนนี้เที่ยวอ้าง ไม่มีใครช่วยประเทศชาติ จำเป็นที่ตัวเองต้องออกโรง แหม เหลือเกิน... ประเทศกูนี่มันช่างขาดแคลนคนดีเสียจริง หาใครไม่ได้ ต้องหันมาพึ่งสุเทพ (อีกแล้ว)

คิดถึงตอนเป็น “ลุงกำนันคนดี” ของมวลมหาประชาชน ที่คนเขายกย่องไปทั่ว ป่าวประกาศว่าจะเป็นคนแก่เฝ้าบ้าน ปิดฉากการเมืองสวยหรู แล้วปล่อยให้คนรุ่นหลังเขาเป็น “ขี้ข้าประชาชน” บ้าง แต่กลับอดรนทนไม่ไหวจูงมือคนแก่กว่า เดินอ้าปากตามก้นให้คนเขาสงสัยว่า “ตกลงพรรคมึงใครเป็นหัวหน้ากันแน่วะ?”

...มาเสียคนเอาตอนแก่จริงๆ

มือปืนคลั่งยิง 12 ศพ ในแอลเอ. “หวังว่าคนจะเรียกผมว่าวิกลจริต”

9 พ.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงาน เบื้องหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญจากอาวุธปืนในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง เมื่อมือปืนเข้าไปกราดยิงใน บอร์เดอร์ไลน์บาร์แอนด์กรีลล์ ที่เต็มไปด้วยนักศึกษา ในเมืองเธาแซนด์โอ๊ก รัฐแคลิฟอร์เนีย สังหารเหยื่อ 12 ราย ก่อนปลิดชีพตนเอง เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่าผู้ก่อเหตุรายนี้ชื่อ เอียน เดวิด ลอง อายุ 28 ปี เคยเป็นทหาร สังกัดนาวิกโยธินที่เคยไปสมรภูมิอัฟกานิสถาน

สอบประวัติเบื้องต้น พบว่ามีปัญหาทางจิต เนื่องจากภาวะบอบช้ำทางจิตใจที่เคยไปร่วมรบในสงคราม แต่จิตแพทย์ไม่ได้กักตัวไว้ ภายใต้กฎหมายที่อนุญาตให้ผู้เคยถูก “กักกันชั่วคราว” ในสถานบำบัดผู้ป่วยทางจิตออกไปอยู่ในสังคมได้

กระทั่ง 7 เดือนจากนั้น นายลองออกมาก่อเหตุยิงกราดสังหารหมู่ชาวอเมริกัน โดยโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก ก่อนก่อเหตุว่า “ผมหวังว่าคนจะเรียกผมว่าไอ้คนวิกลจริต (ใส่อิโมจิรูปหัวเราะ) แบบนั้นมันไม่โคตรสะใจเหรอ ใช่แล้วล่ะ ผมน่ะวิกลจริต แต่สิ่งที่ผู้คนจะทำหลังจากการยิงกราดนี้ก็คือ สวดภาวนา แล้วก็จะยังนึกถึงผมต่อไป ทุกครั้ง แล้วก็จะคิดวนเวียนอยู่ร่ำไปว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”

เพื่อนที่รู้จักมือปืนรายนี้คนหนึ่งให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อว่า นี่ไม่เหมือนเอียนที่ผมรู้จัก ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหัวเขา มันคงจะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก”