ข่าว
“เทือก”ประกาศเดินหน้า ไล่ล่า”ยิ่งลักษณ์”ไม่เลิก

"เทือก"ท้า "ปู"อย่ามุดดินหนี ยัน กปปส.ไม่เกี่ยวคนแห่ถอนเงินออมสิน ชวนมวลมหาประชาชนลุยถล่ม บ. เครือชินฯ อัด “ตือ ”ตั้งตนเป็นศัตรู กปปส.เพราะอยากเป็นรัฐบาล เตรียมช่วยทายาทเหยื่อปะทะดับ 12 ล้าน

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.เวลา 20.00 น.ที่เวที กปปส.ราชประสงค์ นายสุเทพเทือกสุบรรณ เลขาฯ กกปส. ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวชาวนาที่ฆ่าตัวตายจำนวน2.1 แสนบาท จากนั้นนายสุเทพ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า พี่น้องเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรงไหนให้แจ้งมายังบลูสกายทันที เจอตรงไหนไล่ตรงนั้นให้มันเหมือนหมาหอบแดด แล้วอุ้มส่งโรงพยาบาล ไล่ออกไปให้พ้นจากการมีอำนาจในการปกครองประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกช้าเท่าไรยิ่งเดือดร้อนกับประเทศ น.ส. ยิ่งลักษณ์ออกวันนี้ พรุ่งนี้ตั้งรัฐบาลของประชาชน อีก 3 วันชาวนาก็ได้ทันเงินทันที วันที่ 21 ก.พ.นี้ ขอให้นายกฯ ออกมาแถลงข่าวใหม่ เราจะได้รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน ไม่ถึง 20 นาทีเราจะไปถึงอย่ามุดดินนานเกินไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ขอให้มวลชนเตรียมนกหวีดให้พร้อมและไปทันที เพราะตอนนี้เราใช้ถนนได้ทุกสายในประเทศไทยนี้ ใครก็สกัดเราไม่ได้

“สุเทพ”ท้าชก“เฉลิม" อัดไม่เคารพคำสั่งศาล

“สุเทพ”ท้าชก“เฉลิม” อัดไม่เคารพศาลแพ่ง โชว์คลิปตร.โยนบึ้ม-สั่งใช้อาวุธ ย้ำตามล่า “ปู”ไม่เลิก พร้อมเดินหน้าปิดธุรกิจตระกูลชินวัตร

เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่เวทีปทุมวัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า จากการที่ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น มีคน 2 คนออกมาฟาดหัวฟาดหางไม่พอใจและต่อว่าศาล รวมถึงท้าทายศาล ก็คือนายเฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน และผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์และทำเรื่องสอบถามศาลนั้น ขอให้ไปอ่านคำพิพากษาที่เขียนไว้โดยชัดเจนเจนแล้ว

นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนที่จะดำเนินคดีกับตนในข้อหาที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้านั้นขอให้ไปหาทนายเพราะเราพร้อมสู้ดี โดยมีภาพและคลิปชัดเจนว่าคนที่จะติดคุกคือร.ต.อ.เฉลิม ที่ผ่านมาตนไปให้จับถึงหน้าศรส. แต่กลับวิ่งหนี รวมทั้งวันนี้ (21 ก.พ.) นายสกลธี ภัททิยะกุล นายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำกปปส. บุกไปถึงที่หน้าศรส. ทำให้ร.ต.อ.เฉลิมต้องยกเลิกการประชุมนายตำรวจทันที ตนขอท้าชกกับร.ต.อ.เฉลิม โดยประชาชนชาวสีลมทำกางเกงนักมวยสีน้ำเงิน เขียนข้อความบนกางเกงว่า “สู้เพื่อชาติ สุเทพ เทือกสุบรรณ กปปส.” และขอให้ทำให้กับร.ต.อ.เฉลิม 1 ตัว เพื่อมาชกกับตน ขอให้ร.ต.อ.เฉลิมเลือกสถานที่มาได้ว่าจะชกที่ไหน เพราะตนได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ 18 ก.พ.ที่สะพานผ่านฟ้า ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากภูธรภาค 2 โดยพล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ผ่านฟ้าได้ยกกำลังตำรวจหลายพันคนเข้าประชิดกลุ่มกองทัพประชาชนที่ชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้า จากนั้นเวลา10.00 น. เมื่อกำลังพร้อมพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เป็นหัวหน้าคณะเจรจาขอพื้นที่จราจร เพราะต้องการให้การจราจรมีความสะดวก ทางผู้ชุมนุมก็ตกลงเปิดสะพานผ่านฟ้าให้และรถสามารถวิ่งผ่านได้จากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าถึงถ.หลานหลวง

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดต้องการเปิดถนนจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้านั้นหมายความว่าประชาชนต้องเลิกชุมนุม แต่ประชาชนยืนยันว่ามีสิทธิ์ตามที่ศาลรับรอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้กลับไปตั้งแถวรุกทันที โดยมีพล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี สั่งการให้ใช้อาวุธยิงฝ่ายตรงข้ามได้ทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ทำตามคำสั่งได้ขว้างระเบิดใส่เต้นท์ผู้ชุมนุม แต่หลังจากนั้นได้มีกลุ่มชายนิรนามมาช่วยประชาชนยิงต่อสู้กับตำรวจ ซึ่งเราไม่รู้เลยว่ากลุ่มดังกล่าวนั้นเป็นใคร ตนไม่เคยเห็นหน้าและไม่รู้จัก เขาไม่เคยแสดงตัว มีคนๆเดียวที่เห็นหน้าคือนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำกปปส.

ส่วนที่มีการเปรียบเทียบชายชุดดำกับเหตุการณ์ปี 53 นั้น เหตุการณ์ที่สะพานผ่านฟ้าแตกต่างกันชัดเจน ตนในนามมวลมหาประชาชนขอขอบคุณกลุ่มคนเหล่านั้นที่ช่วยชีวิตประชาชน ตนฟ้องคนไทยทั้งประเทศให้รู้ความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ ทั้งนี้ตนเรียกร้องให้ตำรวจมีสติอย่ารับใช้อำนาจทรราช ส่วนการต่อสู้คดีต่อไปนั้นผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนช่วยเหลือทุกครอบครัว โดยครอบครัวละ 1 ล้านบาท พร้อมทั้งจะตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาแก่บุตรผู้เสียชีวิตด้วย

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องธนาคารออมสินที่มีการปั่นกระแสว่ากปปส.กำลังล้มล้างธนาคารออมสินนั้น ที่ผ่านมาทางแกนนำกปปส.ได้ไปตกลงกับธนาคารออมสิน เพื่อขอร้องไม่ให้ปล่อยเงินกู้ แต่ผู้จัดการใหญ่ธนาคารออมสินยืนยันจะให้กู้ สิ่งที่ตามมาคือมีคนไปถอนเงินออกจากธนาคารออมสิน และพวกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ดูถูกประชาชนโดยการแห่ไปฝากเงินที่ธนาคารออมสิน จนทำให้เกิดกระแสหมั่นไส้ทั่วประเทศ จนประชาชนจำนวนมากไปถอนเงินรวมทั้งหมดประมาณแสนล้านบาท แต่รัฐบาลกลับโยนผิดให้ผู้ชุมนุม ทั้งนี้เราต้องช่วยชาวนาต่อไป อย่างไรก็ตามภารกิจของกปปส.ที่จะต้องเร่งรัดคือไล่ล่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ และทนายความของผู้เสียชีวิตที่ผ่านฟ้าจะยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 และกรรมการศรส.ทั้งหมด รวมถึงนายธาริตในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาขอให้เตรียมตัวไว้ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บจะฟ้องด้วยกว่าอีก 60 คดี ที่เป็นกฎแห่งกรรมที่จะต้องได้รับกรรมจากกระทำตามกฎหมาย

“มีคนแจ้งว่าขณะนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปหลบอยู่ที่คอนโดแถวเพลินจิต ดังนั้นพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) เราจะไปไล่ล่า และจะเดินหน้าตัดท่อน้ำเลี้ยงตระกูลชินวัตรต่อไป แม้จะเป็นวันหยุดเราก็ไปปฏิบัติการได้ โดยมุ่งไปที่เคาท์เตอร์ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอสตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ขั้นตอนคือเราไปเปลี่ยนซิมย้ายเครือข่าย นำบัตรประชาชนไปแจ้งความประสงค์ย้ายเครือข่ายและกรอกเอกสาร ส่วนวันที่24 ก.พ. ผมจะพามวลชนไปบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รบกันไปเลย เพื่อปิดอาณาจักรชินวัตร และไม่ต้องขู่ฆ่าผม ไม่เสียดายชีวิต ผมไม่ใส่เสื้อเกราะ แต่พกพระอย่างเดียว ถ้าผมตาย อาณาจักรชินจะราบพนาสูญ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนทุกเวที เพราะขณะที่ผมปราศรัยมีการขว้างระเบิดใส่เวทีราชประสงค์ ขอให้การ์ดและประชาชนช่วยดูแล หากเจอขอให้จับตัวให้ได้หลักฐานและของกลาง” นายสุเทพ กล่าว

เตือนเครื่องบินมุ่งหน้าสหรัฐฯ ระวังระเบิดซ่อนอยู่ในรองเท้า

กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ เตือนเที่ยวบินที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่สหรัฐฯ ให้ระวังคนร้ายลักลอบนำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่อง โดยซุกซ่อนในรองเท้า...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ว่า กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (ดีเอชเอส) แห่งสหรัฐอเมริกา มีประกาศเมื่อวันพุธ แนะนำให้สายการบินต่างๆ ระวังความพยายามในการลักลอบนำวัตถุระเบิดขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ ด้วยการซุกซ่อนในรองเท้า ตามการรายงานข่าวกรองชิ้นใหม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาย้ำว่า ไม่มีการคุกคามแบบเฉพาะเจาะจง หรือรู้แผนการบางอย่างของกลุ่มหัวรุนแรง

ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อ้างแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เผยว่า รายงานข่าวกรอง ซึ่งรวบรวมโดยสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มก่อการร้ายกำลังออกแบบรองเท้าระเบิดรุ่นใหม่อยู่ และเรื่องนี้ทำให้ ดีเอชเอส มีคำเตือนให้สายการบินต่างๆ ระวังวัตถุระเบิดซุกซ่อนในรองเท้า ถูกนำเครื่องมาบนเที่ยวบินที่มุ่งหน้ามายังสหรัฐฯ

ด้าน ดีเอชเอส ปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ได้มีการประกาศเตือนอย่างชี้เฉพาะเจาะจงไปยังสายการบินต่างๆ และมีแถลงการณ์ ซึ่งเผยแพร่โดยสำนักข่าวเอพี ระบุว่า "ระบบความมั่นคงของเราประกอบด้วยมาตรการหลากหลาย ทั้งมองเห็นและไม่เห็น จากรายงานข่าวกรองล่าสุด และเหมือนเช่นที่ผ่านมา ดีเอชเอสมีการปรับมาตรการความปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง"

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ข่าวกรองคนหนึ่ง ย้ำว่า การประกาศเตือนที่ออกมา ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเฝ้าระวังในระดับสูง "การคุกคามนี้ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง หรือน่าเชื่อถือเพียงพอ ที่จะต้องมีการตอบสนองเป็นพิเศษ ดีเอชเอสมักประกาศเตือนเช่นนี้เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน แต่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มระดับการตอบสนอง"

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองอีกคน กล่าวว่า การเตือนที่ออกมามีมากกว่าระเบิดในรองเท้า แต่ยังรวมถึงระเบิดในเครื่องสำอางและของเหลวด้วย

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มก่อการร้าย ระบุว่า เครื่องบินยังคงเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย ซึ่งต้องการสร้างความเสียหายใหญ่หลวง เช่น เหตุจี้เครื่องบินในโศกนาฏกรรม 11 กันยายน 2001 ซึ่งเชื่อว่า กลุ่มก่อการร้ายซุกซ่อนระเบิดไว้ในกระเป๋าเดินทาง หรือในวันคริสต์มาส ปี 2009 ผู้โดยสารคนหนึ่งซุกซ่อนวัดถุระเบิดไว้ในชุดชั้นใน และพยายามจะระเบิดเครื่องบินต่างประเทศที่มุ่งหน้าไปยังเมืองดีทรอยด์ แต่ไม่สำเร็จ เป็นต้น.